สวัสดีคะ เพื่อนๆทุกคน เรามีเรื่องอยากจะแชร์ประสบการณ์ชีวิตตัวเองที่เพิ่งเจอมากับตัวเอง เหตุการณ์นี้เป็นเหตุการณ์ที่ทำให้เราชีวิตเราล้ม ล้มจริงๆ
เรื่องมันมีอยู่ว่า เราตัดสินใจหมั้นหมายกับผู้ชายคนนึง เมื่อ วันที่ 12 เมษา 2013 ที่หมั้นกันก็เพราะว่า ญาติๆเขาเห็นว่ารักกัน คบกันมานานตั้งแต่เราเรียน จนจบทำงานแล้ว แล้วผู้ชายก็บวชแล้ว เหมาะสมกับเวลาแล้ว อยากให้ไปมาหาสู่กันอย่างถูกต้อง แล้วเราก็รักกันมากๆ ณ ตอนนั้น วินาทีแรกที่แม่ถามเราคือ มั่นใจมั้ยกับผู้ชายคนนี้ แม่ไม่ห้าม แล้วแต่ลูก ลูกรักใครแม่ก้รัก เราก็เงียบไปพักนึง คิดๆๆในใจสักพัก เราตอบแม่ไปด้วยความมั่นใจว่ามั่นใจ เลือกคนไม่ผิด คิดว่าเขาจะดูแล เราได้ไปตลอดชีวิต เราทั้งสองคนจึงตัดสินใจหมั้นหมายกันต่อหน้าพ่อแม่เราทั้งคู่ ญาติพี่น้องเราทั้งคู่ที่เชิญมาเป็นสักขีพยาน แล้วเราสองคนก็ถูกเรียกว่า เป็นผัวเมียกันได้อย่างเต็มปาก รับเค้ามาเป็นลูกเขยบ้านเรา รับเราเป็นลูกสะใภ้บ้านเขาอย่างถูกต้อง ไปมาหาสู่กันได้อย่างสบายใจ ส่วนเรื่องแต่งงงานยังมีภาระอยุ่ รอพร้อมค่อยแต่ง นับจากวันนั้นมา ใจเราคิดเสมอว่าเราเลือกผู้ชายคนนี้มาเป็นคู่ชีวิตเราแล้วนะ เราต้องอยุ่กับเขาไปตลอดชีวิต เราจะรักเขา ทุ่มเททั้งชีวิตเพื่อเขา ซื่อสัตย์กับเขา ส่วนผู้ชายแรกๆก็ดีนะ เปิดเผยทุกอย่างว่าหมั้นหมายแล้ว รักเรา ดีกับเราทุกอย่าง พอหมั้นกันเสร็จก็ยังไม่ได้อยู่ด้วยกันนะ เราต้องกลับมาทำงานที่กรุงเทพ ส่วนผู้ชายก็เพิ่งได้ย้ายขึ้นมาจากใต้ เขาเป็นตำรวจอยุ่ใต้มาหลายปี จนได้ย้ายกลับภูมิลำเนาบ้านเกิด เราก็ไปมาหาสู่ตลอด ตั้งใจว่าจะเก็บเงินให้ได้สักก้อน แล้วจะมาอยุ่กับเขา ช่วงปีแรกที่หมั้นกัน เขาดีมากนะ รักเรา บอกเราทุกอย่าง มีอะไรเราช่วยกันตลอด ถ้ารู้ว่าเราจะกลับบ้านไปหา เขาจะดีใจมาก คิดถึงเมียมาก พอเรากลับบ้านไป เขาจะเราไปเที่ยว อยากไปไหนบอกจะพาไป เวลาเลิกงานก็จะรีบกลับบ้านพัก เพราะรู้ว่าเมียรอไปกินข้าว เวลาที่เราอยู่ด้วยกันคือมีความสุขมาก
เป็นชู้กับคู่หมั้นคนอื่น แต่บอกไม่ได้ตั้งใจเลว..
เรื่องมันมีอยู่ว่า เราตัดสินใจหมั้นหมายกับผู้ชายคนนึง เมื่อ วันที่ 12 เมษา 2013 ที่หมั้นกันก็เพราะว่า ญาติๆเขาเห็นว่ารักกัน คบกันมานานตั้งแต่เราเรียน จนจบทำงานแล้ว แล้วผู้ชายก็บวชแล้ว เหมาะสมกับเวลาแล้ว อยากให้ไปมาหาสู่กันอย่างถูกต้อง แล้วเราก็รักกันมากๆ ณ ตอนนั้น วินาทีแรกที่แม่ถามเราคือ มั่นใจมั้ยกับผู้ชายคนนี้ แม่ไม่ห้าม แล้วแต่ลูก ลูกรักใครแม่ก้รัก เราก็เงียบไปพักนึง คิดๆๆในใจสักพัก เราตอบแม่ไปด้วยความมั่นใจว่ามั่นใจ เลือกคนไม่ผิด คิดว่าเขาจะดูแล เราได้ไปตลอดชีวิต เราทั้งสองคนจึงตัดสินใจหมั้นหมายกันต่อหน้าพ่อแม่เราทั้งคู่ ญาติพี่น้องเราทั้งคู่ที่เชิญมาเป็นสักขีพยาน แล้วเราสองคนก็ถูกเรียกว่า เป็นผัวเมียกันได้อย่างเต็มปาก รับเค้ามาเป็นลูกเขยบ้านเรา รับเราเป็นลูกสะใภ้บ้านเขาอย่างถูกต้อง ไปมาหาสู่กันได้อย่างสบายใจ ส่วนเรื่องแต่งงงานยังมีภาระอยุ่ รอพร้อมค่อยแต่ง นับจากวันนั้นมา ใจเราคิดเสมอว่าเราเลือกผู้ชายคนนี้มาเป็นคู่ชีวิตเราแล้วนะ เราต้องอยุ่กับเขาไปตลอดชีวิต เราจะรักเขา ทุ่มเททั้งชีวิตเพื่อเขา ซื่อสัตย์กับเขา ส่วนผู้ชายแรกๆก็ดีนะ เปิดเผยทุกอย่างว่าหมั้นหมายแล้ว รักเรา ดีกับเราทุกอย่าง พอหมั้นกันเสร็จก็ยังไม่ได้อยู่ด้วยกันนะ เราต้องกลับมาทำงานที่กรุงเทพ ส่วนผู้ชายก็เพิ่งได้ย้ายขึ้นมาจากใต้ เขาเป็นตำรวจอยุ่ใต้มาหลายปี จนได้ย้ายกลับภูมิลำเนาบ้านเกิด เราก็ไปมาหาสู่ตลอด ตั้งใจว่าจะเก็บเงินให้ได้สักก้อน แล้วจะมาอยุ่กับเขา ช่วงปีแรกที่หมั้นกัน เขาดีมากนะ รักเรา บอกเราทุกอย่าง มีอะไรเราช่วยกันตลอด ถ้ารู้ว่าเราจะกลับบ้านไปหา เขาจะดีใจมาก คิดถึงเมียมาก พอเรากลับบ้านไป เขาจะเราไปเที่ยว อยากไปไหนบอกจะพาไป เวลาเลิกงานก็จะรีบกลับบ้านพัก เพราะรู้ว่าเมียรอไปกินข้าว เวลาที่เราอยู่ด้วยกันคือมีความสุขมาก