หากชีวิตคือการเดินทาง เราก็จะแสวงหาสิ่งที่ต้องการ หรือค้นหาอะไรบางสิ่งที่ตัวเองมีความสนใจ บางครั้งเราก็อาจจะเริ่มจากเส้นทางใกล้ ๆ หลังจากผมได้วางแพลนแล้วว่าประเทศแรกที่จะทำการเดินทางด้วยตัวเองนั้น คือ ไต้หวัน ซึ่งได้จองตั๋วตั้งแต่พฤษภาคม แต่ไปเดือนธันวาคม ระหว่างที่รอคอยการเดินทางนั้น ก็มีเหตุการณ์เกิดขึ้นหลังจากผมเลิกจากการทำงาน มาถึงที่พักตอนประมาณเกือบตีหนึ่ง เปิดเฟสแล้วเจอโปรของ CATHEY PACIFIC ไปกลับฮ่องกงรวม 2480 บาท ตอนนั้นมือเลยลั่นกดจองไปอัตโนมัติ 555 (ซึ่งมันหาไม่ได้นะ) วันต่อมาทางการสายการบินประกาศว่า ตั๋วราคานี้ไม่มีในระบบเนื่องจากผิดพลาดทางเทคนิค ใครที่จ่ายเงินไปแล้วก็เดินทางตามปกติ (โชคดีจังที่รีบจ่ายเงิน) ระหว่างที่รอการเดินทาง ผมก็ได้ลองวางแพลนข้อมูลสถานที่ในฮ่องกง นั่นหมายถึงว่า ไต้หวัน จะไม่ใช่ประเทศแรกที่ผมเดินทางแบบคนเดียว เพราะตอนนี้ฮ่องกง จะเป็นสถานที่แรกที่ให้ผมได้แบ็คแพ็คคนเดียวอย่างเต็มตัว
ถ้าเอ่ยว่า ฮ่องกง หลายคนคงจะนึกถึงการไหว้พระ อาหารการกิน รวมถึงการชอปปิ้งยิ่งในช่วงกรกฏาคม-สิงหาคมแล้วล่ะก็ "_ _" รวมถึงริมอ่าววิคตอเรียอันขึ้นชื่อ ตึกสูง ๆ ที่แวบเอามาในหัวทุกคนถ้าเอ่ยถึง แต่ผมก็รู้สึกว่า ฮ่องกงมันน่าจะมีอะไรนอกเหนือจากนี้บ้าง ที่แห่งนี้จะมีที่ไหนบ้างที่สงบเงียบ ไร้ตึกสูง มีแต่วิถีดั้งเดิมที่อาจเป็นรากเหง้าเลยก็ได้ มาแนวปรัชญาเลย หลังจากต้นปีตะลอนเที่ยวไทย ปลายปีตะลอนออกนอกประเทศบ้างนะ และตอนนี้ได้เวลาเสาะหาความสุขที่ดินแดนแห่งนี้ ว่าความสุขจะซ่อนตัวอยู่ที่ไหนนะ ?????
(ติดตามรูปภาพเพิ่มเติมได้ที่เพจ SOLO TRAVELLER นะครับ :
https://www.facebook.com/lifeisatravelbytee2015)
มาต่อกันดีกว่า ผมเดินทางไปฮ่องกงระหว่างวันที่ 19 - 21 สิงหาคม ที่ผ่านมานี้เอง โดยแพลนที่จะไปไปยังที่ที่เป็นชนบท แต่ก็ยังไม่ไกลเมืองมากนัก
เดินทางไปฮ่องกงรอบ 1.20 น. ไปถึงฮ่องกงประมาณตีห้า แต่ว่า แต่ว่า ...... เลทจ้าาาา เลทตั้ง 20 นาที (รึป่าวจำไม่ได้)
ได้เวลาขึ้นเครื่อง เตรียมตัวนอนดีกว่าาาา แต่ปรากฏนอนไม่หลับบบบบบ
หลังจากนั้นกินข้าวมันไก่ นอนยาววววแล้วถึงสนามบินฮ่องกง หนีห่าวววววววว นู๋หาาววววว มาในช่วง HONG KONG SUMMER FUN ช่วงกลางปีพอดี อิอิ
ตอนที่ผ่านตม.ฮ่องกงมาแล้ว อย่างง่ายดาย ผมก็ได้ออกไปซื้อบัตรปลาหมึก (ในรูปข้างล่าง) ซึ่งต่อแถวกันอยู่ ผมเห็นเด็กวัยรุ่นชายหนึ่งคนหญิงหนึ่งคน ถือพาสปอร์ตไทยอยู่ เลยรู้ว่าเป็นคนไทย แต่ไม่ได้ทัก แต่น้องผู้ชายเห็นมาเห็นพาสปอร์ตผมพอดี สักพักน้องผู้ชายก็ทักว่า สวัสดีครับ เราก็ยังงง ใครทัก เงยหน้า อ๋อน้องทัก เราก็เลยทัก น้องถามว่า มาฮ่องกงกับใครครับพี่ เราก็บอก มาคนเดียว ชวนคุยกันไปเรื่อย ๆ จนถึงคิวซื้อบัตรปลาหมึก พอซื้อเสร็จเราก็ถามน้องว่าพักอยู่แถวไหน น้องบอกว่า จิมซาสุ่ย เราบอกเหมือนกันแต่พี่ไปเย็น ๆ พี่ไปแถว City gate ก่อน น้องก็ถามว่าบัตรปลาหมึกเติมเงินแล้วใช่ไหม เราก็บอกไปตามประสาอ่านรีวิวชาวบ้านเค้า เลยบอกว่า อ๋อบัตรนี้มัดจำ 50 HKD มีใช้ 100 HKD เพียงพอนั่งรถเมล์ไปจิมซาสุ่ย หลังจากนั้นก็แยกย้ายกัน (รู้สึกดีที่แบบไปฮ่องกงครั้งแรกเเบบแบคแพค เจอมิตรภาพคนไทยเล็กน้อย)
หลังจากนั้นก็หาทางไปป้ายรถเมล์ตามที่ได้อ่านรีวิวของคนอื่นมา 555
เดินตามทางหาทางไปสถานี TUNG CHUNG MTR โดยขึ้นรถสาย 64
แล้วสุดท้าย งงลูกศร 555 ได้เวลาฟุดฟิตอิงลิชแล้ว แบบงู ๆ ปลา ๆ จนได้มาเจอป้ายรถสาย 64 แล้วเดินทางไปยัง TUNG CHUNG
เก็บภาพระหว่างทางมาฝากครับ อาจไม่สวยเท่าไหร่ ไร้ฝีมือขอภัยครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ไม่อยากจะบอกว่าเกิดปัญหาขึ้นระหว่างทาง คือ ลงผิดป้ายขอรับบ ลงก่อนถึงสถานี TUNG CHUNG หนึ่งสถานี (มั้ง) เลยต้องต่อรถบัสที่เขียนป้าย TUNG CHUNG STATION แต่ดีที่รถบัสมาจอดตรงที่เป็นแหล่งรวมรถบัสไปยังที่ต่าง ๆ อย่าคิดนะว่าการหลงผิดป้ายจะทำให้จิตวิญญาณนักเดินทาง สูญหายไปนะ ไม่ใช่ สนุกตะลอนหาป้ายต่อ 555
จากนั้นมาถึงห้าง CITY GATES ครับ ซึ่งอยากจะบอกว่าถ้าใครมาถึงไฟลท์เช้า ห้าง ฯ เปิดให้เข้าแล้วนะครับ ผมเดินเป็นทางผ่านตอน 7.20 น. ตอนแรกจะไปฝากของที่ลอคเกอร์ชั้นล่าง แต่เจอความจริงอันเจ็บปวด
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ลอคเกอร์นี้เปิดเวลา 08.00 น.นะครับ เป็นข้อมูลเพื่อคนมาเช้าตรู่ แต่ข้างบนชั้นลอคเกอร์จะมีซุปเปอร์มาร์เก็ตเปิดอยู่แล้วครับ
เกริ่นมานานเข้าเรื่องดีกว่า จุดหมายผมที่จะไปวันนี้ (วันแรกของผม) จะอยู่บนเกาะลันเตา ผมจะไปหมู่บ้านชาวประมงไท่โอ (TAI O) ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันตกของเกาะฮ่องกง (ถ้าพูดง่าย ๆ เหมือนอยู่ฝั่งตรงข้ามมาเก๊า)
จากซิตี้เกท ก็ข้ามฝั่งไปขึ้นรถเมล์ หาสาย 11 ดีกว่า อยู่ไหน อยู่ไหน
ป.ล. สาย 11 คือ สายไปหมู่บ้านชาวประมง ไท่โอ ครับ เป็นป้ายที่อยู่หน้ารถเมล์สาย 23 ที่จะไปนอนปิงครับ ใกล้ ๆ กัน ผมจะบอกเคล็ดลับบางอย่างสำหรับคนไปถึงเช้า อยากนั่งกระเช้าคริสตัลแบบวีไอพีแบบผม ว่าทำยังไง อย่าลืมติดตามนะ อยู่ตอนท้าย ๆ (ไปฮ่องกงครั้งนี้เสมือนวีไอพีเลยทีเดียว 555๗
แถมป้ายค่ารถบัสไปไท่โอครับ คือยืนรอนาน พอมาถึงรถคันก่อนก็ออกไปพอดี เศร้าแปบบบ ทางไปหมู่บ้านไท่โอคือเส้นทางเดียวกับไปหมู่บ้านนอนปิงครับ จะเห็นวิวธรรมชาติบนเกาะลันเตา
มาถึงเเล้วหมู่บ้านชาวประมงไท่โอ (TAI O) ใช้เวลาเดินทางนานกว่าไปนอนปิงนิดนึง ประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที ซึ่งหมู่บ้านแห่งนี้อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากสนามบินฮ่องกง และนอนปิงครับ
หมู่บ้านชาวประมงไท่โอ เป็นหมู่บ้านที่ยังคงรักษาวิถีชีวิตดั้งเดิม รูปแบบบ้านที่ทำให้เราเข้าใจวิถีชีวิตคนจีนดั้งเดิมได้ดีทีเดียวครับ หลายคนอาจถามว่าไท่โอไม่เห็นน่าสนใจเลย ถ้าไปเกาะลันเตาท่านอาจนึกถึงดิสนีย์แลนด์ พระใหญ่ แต่ถ้าท่านสนใจวิถีชีวิต วัฒนธรรมแล้วหล่ะก็หมู่บ้านนี้น่าสนใจ พร้อมกับมีอาหารทะเลขาย รวมถึงมีร้านกาแฟด้วย (แต่ไม่ได้ถ่าย )
ถ้าถามผมว่า ไท่โอเปรียบเหมือนที่ไหนในประเทศไทย ผมนึกถึงมหาชัย เลยครับ บรรยากาศประมาณนั้นเลย กลิ่นไอเค็มแตะจมูกตลอดเวลา
บรรยากาศหมู่บ้านนี้ถ้ากล่าวสั้น ๆ คือ หน้าหันสู่ทะเลจีนใต้ หันหลัง หันข้างเจอภูเขา
หมู่บ้านอันแสนสงบ ที่ไม่อยากเชื่อว่านี่เหรอคือ ฮ่องกง ในสภาพที่ย้อนอดีตก่อนที่ฮ่องกงจะเจริญ
ภาพหมู่บ้านที่ค่อนข้างดูโบราณผสมความเก่า มีฉากหลังเป็นภูเขาดูสวยงามดีครับ 55
เดินเข้าไปนิดได้กลิ่นไอเค็มแตะจมูก นิมัน มหาชัยยย ชัด ๆๆๆๆ
วิถีชีวิตหมู่บ้านไท่โอ เรียบง่าย ไม่น่าเชื่อว่าห่างจากสนามบินฮ่องกงเพียงแค่ชั่วโมงกว่า ๆ เท่านั้นเอง
หนีฮ่าว เจ้าเหมียวสัญชาติฮ่องกง แต่ไมแกเหมือนแมวบ้านย่าเราเลยเนี่ยยย ????
เดินมาเรื่อย ๆ ก็จะเจอกับสะพานข้ามครับ ซึ่งสะพานสีฟ้านี้เป็นสะพานเชื่อมระหว่างหมู่บ้านไท่โอที่แยกออกเป็น 2 ฝั่ง ถ้าเทียบก็คงคล้ายกับเขตพระนครกับฝั่งธน ประมาณนั้นแต่ในสไตล์มินิ มินิ
เรือบริการนั่งท่องเที่ยว สำหรับชื่นชมรอบหมู่บ้านไท่โอครับ แต่ครั้งนี้ผมไม่ได้ขึ้นเพราะผมขอเดินลาดตระเวนก่อน 555
ระหว่างข้ามสะพานขอถ่ายรูปหมู่บ้านที่โดนแม่น้ำแบ่งกั้นเป็นสองฝั่งหน่อย หันไปทางเจอภูเขา หันไปทางเจอปากแม่น้ำ 555
พอข้ามไปอีกฝั่งหนึ่ง ก็จะพบว่าส่วนใหญ่หมู่บ้านแห่งนี้มีแต่ สว. (ผู้สูงอายุ) ไม่ค่อยเจอหนุ่มสาวเลยแฮะ ????
เอาหล่ะ ตั้งแต่เดินทางมาถึงฮ่องกง ยังไม่ได้ใช้เงินกับดื่มน้ำเลย แดดฮ่องกงนิร้อนแรงไม่แพ้ไทยแลนด์แดนสยามเลย
ทุกท่านเชิญดื่มน้ำก่อนครับ เดี๋ยวเราจะเดินทางกันต่อ อิอิ พักแปบบบ
หลังพักแปบนึงแล้วมาต่อกันครับ หลังจากเดินทั่วแล้วก็ข้ามสะพานมาครับ ภาพด้านล่างนี้หันไปทางด้านทะเลครับ
หลังจากนั้นก็เดินไปท่ารถเมล์ครับ แล้วเจอความจริงอันเจ็บปวดว่าระหว่าง 8.30 - 9.30 ไม่มีรถไปนอนปิง ต้องรออีกที 10.00 น. 555 เดินเล่นต่อก็ได้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ป้ายเวลาจากหมู่บ้านไท่โอไปยังนอนปิงครับ
[CR] HONG KONG #ALONE# ค้นหาธรรมชาติ วิถีดั้งเดิม ลมหายใจที่มีอยู่
หากชีวิตคือการเดินทาง เราก็จะแสวงหาสิ่งที่ต้องการ หรือค้นหาอะไรบางสิ่งที่ตัวเองมีความสนใจ บางครั้งเราก็อาจจะเริ่มจากเส้นทางใกล้ ๆ หลังจากผมได้วางแพลนแล้วว่าประเทศแรกที่จะทำการเดินทางด้วยตัวเองนั้น คือ ไต้หวัน ซึ่งได้จองตั๋วตั้งแต่พฤษภาคม แต่ไปเดือนธันวาคม ระหว่างที่รอคอยการเดินทางนั้น ก็มีเหตุการณ์เกิดขึ้นหลังจากผมเลิกจากการทำงาน มาถึงที่พักตอนประมาณเกือบตีหนึ่ง เปิดเฟสแล้วเจอโปรของ CATHEY PACIFIC ไปกลับฮ่องกงรวม 2480 บาท ตอนนั้นมือเลยลั่นกดจองไปอัตโนมัติ 555 (ซึ่งมันหาไม่ได้นะ) วันต่อมาทางการสายการบินประกาศว่า ตั๋วราคานี้ไม่มีในระบบเนื่องจากผิดพลาดทางเทคนิค ใครที่จ่ายเงินไปแล้วก็เดินทางตามปกติ (โชคดีจังที่รีบจ่ายเงิน) ระหว่างที่รอการเดินทาง ผมก็ได้ลองวางแพลนข้อมูลสถานที่ในฮ่องกง นั่นหมายถึงว่า ไต้หวัน จะไม่ใช่ประเทศแรกที่ผมเดินทางแบบคนเดียว เพราะตอนนี้ฮ่องกง จะเป็นสถานที่แรกที่ให้ผมได้แบ็คแพ็คคนเดียวอย่างเต็มตัว
ถ้าเอ่ยว่า ฮ่องกง หลายคนคงจะนึกถึงการไหว้พระ อาหารการกิน รวมถึงการชอปปิ้งยิ่งในช่วงกรกฏาคม-สิงหาคมแล้วล่ะก็ "_ _" รวมถึงริมอ่าววิคตอเรียอันขึ้นชื่อ ตึกสูง ๆ ที่แวบเอามาในหัวทุกคนถ้าเอ่ยถึง แต่ผมก็รู้สึกว่า ฮ่องกงมันน่าจะมีอะไรนอกเหนือจากนี้บ้าง ที่แห่งนี้จะมีที่ไหนบ้างที่สงบเงียบ ไร้ตึกสูง มีแต่วิถีดั้งเดิมที่อาจเป็นรากเหง้าเลยก็ได้ มาแนวปรัชญาเลย หลังจากต้นปีตะลอนเที่ยวไทย ปลายปีตะลอนออกนอกประเทศบ้างนะ และตอนนี้ได้เวลาเสาะหาความสุขที่ดินแดนแห่งนี้ ว่าความสุขจะซ่อนตัวอยู่ที่ไหนนะ ?????
(ติดตามรูปภาพเพิ่มเติมได้ที่เพจ SOLO TRAVELLER นะครับ : https://www.facebook.com/lifeisatravelbytee2015)
มาต่อกันดีกว่า ผมเดินทางไปฮ่องกงระหว่างวันที่ 19 - 21 สิงหาคม ที่ผ่านมานี้เอง โดยแพลนที่จะไปไปยังที่ที่เป็นชนบท แต่ก็ยังไม่ไกลเมืองมากนัก
เดินทางไปฮ่องกงรอบ 1.20 น. ไปถึงฮ่องกงประมาณตีห้า แต่ว่า แต่ว่า ...... เลทจ้าาาา เลทตั้ง 20 นาที (รึป่าวจำไม่ได้)
ได้เวลาขึ้นเครื่อง เตรียมตัวนอนดีกว่าาาา แต่ปรากฏนอนไม่หลับบบบบบ
หลังจากนั้นกินข้าวมันไก่ นอนยาววววแล้วถึงสนามบินฮ่องกง หนีห่าวววววววว นู๋หาาววววว มาในช่วง HONG KONG SUMMER FUN ช่วงกลางปีพอดี อิอิ
ตอนที่ผ่านตม.ฮ่องกงมาแล้ว อย่างง่ายดาย ผมก็ได้ออกไปซื้อบัตรปลาหมึก (ในรูปข้างล่าง) ซึ่งต่อแถวกันอยู่ ผมเห็นเด็กวัยรุ่นชายหนึ่งคนหญิงหนึ่งคน ถือพาสปอร์ตไทยอยู่ เลยรู้ว่าเป็นคนไทย แต่ไม่ได้ทัก แต่น้องผู้ชายเห็นมาเห็นพาสปอร์ตผมพอดี สักพักน้องผู้ชายก็ทักว่า สวัสดีครับ เราก็ยังงง ใครทัก เงยหน้า อ๋อน้องทัก เราก็เลยทัก น้องถามว่า มาฮ่องกงกับใครครับพี่ เราก็บอก มาคนเดียว ชวนคุยกันไปเรื่อย ๆ จนถึงคิวซื้อบัตรปลาหมึก พอซื้อเสร็จเราก็ถามน้องว่าพักอยู่แถวไหน น้องบอกว่า จิมซาสุ่ย เราบอกเหมือนกันแต่พี่ไปเย็น ๆ พี่ไปแถว City gate ก่อน น้องก็ถามว่าบัตรปลาหมึกเติมเงินแล้วใช่ไหม เราก็บอกไปตามประสาอ่านรีวิวชาวบ้านเค้า เลยบอกว่า อ๋อบัตรนี้มัดจำ 50 HKD มีใช้ 100 HKD เพียงพอนั่งรถเมล์ไปจิมซาสุ่ย หลังจากนั้นก็แยกย้ายกัน (รู้สึกดีที่แบบไปฮ่องกงครั้งแรกเเบบแบคแพค เจอมิตรภาพคนไทยเล็กน้อย)
หลังจากนั้นก็หาทางไปป้ายรถเมล์ตามที่ได้อ่านรีวิวของคนอื่นมา 555
เดินตามทางหาทางไปสถานี TUNG CHUNG MTR โดยขึ้นรถสาย 64
แล้วสุดท้าย งงลูกศร 555 ได้เวลาฟุดฟิตอิงลิชแล้ว แบบงู ๆ ปลา ๆ จนได้มาเจอป้ายรถสาย 64 แล้วเดินทางไปยัง TUNG CHUNG
เก็บภาพระหว่างทางมาฝากครับ อาจไม่สวยเท่าไหร่ ไร้ฝีมือขอภัยครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
จากนั้นมาถึงห้าง CITY GATES ครับ ซึ่งอยากจะบอกว่าถ้าใครมาถึงไฟลท์เช้า ห้าง ฯ เปิดให้เข้าแล้วนะครับ ผมเดินเป็นทางผ่านตอน 7.20 น. ตอนแรกจะไปฝากของที่ลอคเกอร์ชั้นล่าง แต่เจอความจริงอันเจ็บปวด
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เกริ่นมานานเข้าเรื่องดีกว่า จุดหมายผมที่จะไปวันนี้ (วันแรกของผม) จะอยู่บนเกาะลันเตา ผมจะไปหมู่บ้านชาวประมงไท่โอ (TAI O) ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันตกของเกาะฮ่องกง (ถ้าพูดง่าย ๆ เหมือนอยู่ฝั่งตรงข้ามมาเก๊า)
จากซิตี้เกท ก็ข้ามฝั่งไปขึ้นรถเมล์ หาสาย 11 ดีกว่า อยู่ไหน อยู่ไหน
ป.ล. สาย 11 คือ สายไปหมู่บ้านชาวประมง ไท่โอ ครับ เป็นป้ายที่อยู่หน้ารถเมล์สาย 23 ที่จะไปนอนปิงครับ ใกล้ ๆ กัน ผมจะบอกเคล็ดลับบางอย่างสำหรับคนไปถึงเช้า อยากนั่งกระเช้าคริสตัลแบบวีไอพีแบบผม ว่าทำยังไง อย่าลืมติดตามนะ อยู่ตอนท้าย ๆ (ไปฮ่องกงครั้งนี้เสมือนวีไอพีเลยทีเดียว 555๗
แถมป้ายค่ารถบัสไปไท่โอครับ คือยืนรอนาน พอมาถึงรถคันก่อนก็ออกไปพอดี เศร้าแปบบบ ทางไปหมู่บ้านไท่โอคือเส้นทางเดียวกับไปหมู่บ้านนอนปิงครับ จะเห็นวิวธรรมชาติบนเกาะลันเตา
มาถึงเเล้วหมู่บ้านชาวประมงไท่โอ (TAI O) ใช้เวลาเดินทางนานกว่าไปนอนปิงนิดนึง ประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที ซึ่งหมู่บ้านแห่งนี้อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากสนามบินฮ่องกง และนอนปิงครับ
หมู่บ้านชาวประมงไท่โอ เป็นหมู่บ้านที่ยังคงรักษาวิถีชีวิตดั้งเดิม รูปแบบบ้านที่ทำให้เราเข้าใจวิถีชีวิตคนจีนดั้งเดิมได้ดีทีเดียวครับ หลายคนอาจถามว่าไท่โอไม่เห็นน่าสนใจเลย ถ้าไปเกาะลันเตาท่านอาจนึกถึงดิสนีย์แลนด์ พระใหญ่ แต่ถ้าท่านสนใจวิถีชีวิต วัฒนธรรมแล้วหล่ะก็หมู่บ้านนี้น่าสนใจ พร้อมกับมีอาหารทะเลขาย รวมถึงมีร้านกาแฟด้วย (แต่ไม่ได้ถ่าย )
ถ้าถามผมว่า ไท่โอเปรียบเหมือนที่ไหนในประเทศไทย ผมนึกถึงมหาชัย เลยครับ บรรยากาศประมาณนั้นเลย กลิ่นไอเค็มแตะจมูกตลอดเวลา
บรรยากาศหมู่บ้านนี้ถ้ากล่าวสั้น ๆ คือ หน้าหันสู่ทะเลจีนใต้ หันหลัง หันข้างเจอภูเขา
หมู่บ้านอันแสนสงบ ที่ไม่อยากเชื่อว่านี่เหรอคือ ฮ่องกง ในสภาพที่ย้อนอดีตก่อนที่ฮ่องกงจะเจริญ
ภาพหมู่บ้านที่ค่อนข้างดูโบราณผสมความเก่า มีฉากหลังเป็นภูเขาดูสวยงามดีครับ 55
เดินเข้าไปนิดได้กลิ่นไอเค็มแตะจมูก นิมัน มหาชัยยย ชัด ๆๆๆๆ
วิถีชีวิตหมู่บ้านไท่โอ เรียบง่าย ไม่น่าเชื่อว่าห่างจากสนามบินฮ่องกงเพียงแค่ชั่วโมงกว่า ๆ เท่านั้นเอง
หนีฮ่าว เจ้าเหมียวสัญชาติฮ่องกง แต่ไมแกเหมือนแมวบ้านย่าเราเลยเนี่ยยย ????
เดินมาเรื่อย ๆ ก็จะเจอกับสะพานข้ามครับ ซึ่งสะพานสีฟ้านี้เป็นสะพานเชื่อมระหว่างหมู่บ้านไท่โอที่แยกออกเป็น 2 ฝั่ง ถ้าเทียบก็คงคล้ายกับเขตพระนครกับฝั่งธน ประมาณนั้นแต่ในสไตล์มินิ มินิ
เรือบริการนั่งท่องเที่ยว สำหรับชื่นชมรอบหมู่บ้านไท่โอครับ แต่ครั้งนี้ผมไม่ได้ขึ้นเพราะผมขอเดินลาดตระเวนก่อน 555
ระหว่างข้ามสะพานขอถ่ายรูปหมู่บ้านที่โดนแม่น้ำแบ่งกั้นเป็นสองฝั่งหน่อย หันไปทางเจอภูเขา หันไปทางเจอปากแม่น้ำ 555
พอข้ามไปอีกฝั่งหนึ่ง ก็จะพบว่าส่วนใหญ่หมู่บ้านแห่งนี้มีแต่ สว. (ผู้สูงอายุ) ไม่ค่อยเจอหนุ่มสาวเลยแฮะ ????
เอาหล่ะ ตั้งแต่เดินทางมาถึงฮ่องกง ยังไม่ได้ใช้เงินกับดื่มน้ำเลย แดดฮ่องกงนิร้อนแรงไม่แพ้ไทยแลนด์แดนสยามเลย
ทุกท่านเชิญดื่มน้ำก่อนครับ เดี๋ยวเราจะเดินทางกันต่อ อิอิ พักแปบบบ
หลังพักแปบนึงแล้วมาต่อกันครับ หลังจากเดินทั่วแล้วก็ข้ามสะพานมาครับ ภาพด้านล่างนี้หันไปทางด้านทะเลครับ
หลังจากนั้นก็เดินไปท่ารถเมล์ครับ แล้วเจอความจริงอันเจ็บปวดว่าระหว่าง 8.30 - 9.30 ไม่มีรถไปนอนปิง ต้องรออีกที 10.00 น. 555 เดินเล่นต่อก็ได้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้