เชื่อว่าคนอายุรุ่น 30+ ที่เห็นตัวอย่างหนังเรื่อนี้แล้วต้องอยากดูแน่ๆ ตอนเห็นตัวอย่างครั้งแรกผมรู้สึกได้ถึงวัยเด็กที่กลับมาอีกครั้ง ด้วยตัวละครที่เอามาลงในหนังเป็นตัวละครที่คุ้นเคยมากๆ ทั้ง Pacman DonkeyKong Galaga Tetris และความเป็น 8 bit ที่เด็กรุ่นนั้นต้องคุ้นเคยเป็นอย่างดี ส่วนตัวผมชอบหนังของ Adam Sandler เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เพราะหนังของแกดูง่ายไม่ซับซ้อน และดูแล้วก็ไม่ต้องคิดอะไรมาก ก็ไม่ยากที่จะตัดสินใจดู
เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อเอเลี่ยนเข้าใจผิดว่ามนุษย์ต้องการจะเปิดสงครามด้วย จากหลักฐานสัญญาณการได้รับภาพบันทึกวิดีโอเกมส์ของมนุษย์ที่มีการไล่ล่าเอเลี่ยนอยู่ เหล่าบรรดาเอเลี่ยนจึงใช้วิธีโจมตีโลกมนุษย์กลับ ด้วยวิธีตามวิดีโอเกมส์นั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นเกมส์ตัวต่อเตอร์ติสถล่มตึก หรือ แพคเมนไล่กินรถ ประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา รับบทโดย เควิน เจมส์ จึงต้องขอความช่วยเหลือไปยังกลุ่มเพื่อนสุดเนิร์ดของเขา แซม เบรนเนอร์ รับบทโดย อดัม แซนด์เลอร์ ผู้ที่เคยครองแชมป์การแข่งขันเล่นวิดีโอเกมส์มาแล้วในปี 1980 และเหล่าทีมเพื่อนเก๋าติดเกมส์อีกมากมาย เพื่อมาช่วยต่อสู้ปกป้องโลก
หนังเปิดเรื่องมาเรียกว่าเรียกได้ว่าเป็นเอกลักษณ์ของสไตล์ Adam Sandler เลยจริงๆ การเปิดเรื่องแบบนี้ใครที่ดูหนังของ Adam บ่อยๆ จะรู้เลยว่าผมหมายความว่ายังไง ซึ่งคนที่ชอบก็ยังคงชอบอยู่แน่ๆ แต่ถ้าใครที่ไม่ชอบก็จะยี้ไปเลย หนังปูให้เห็นถึงการมีปมในวัยเด็กของตัวละคร Looser ทั้งหลาย (พักหลัง Adam Sandler จะเล่นกับพวก Looser เกือบทุกเรื่อง) และหนังก็ฝังจินตนาการความเป็นเด็กไว้เยอะมาก เรียกได้ว่าถ้าใครที่ชอบก็จะฟุ้งไปกับหนังได้อย่างเต็มที่เลยทีเดียว
จุดแข็งของหนังเรื่องนี้อยู่ที่ CG ที่จัดมาเต็มที่แบบไม่มีเม้ม โดยมันเป็นความสวยงามบนความเป็น 8 bit โดยเฉพาะฉากที่เหล่าเอเลี่ยนบุกโลกหลายๆ ฉาก มันดูเป็น CG ที่มีความคลาสสิคของเกม 8 bit อยู่ในตัวเอง ศัตรูดูน่ารักทุกตัว ทำให้ดูแล้วลุ้นไปยิ้มไป แต่เสียดายที่ฉากเหล่านี้มีไม่ได้เยอะมากในเรื่อง ถ้าจัดมาเต็มๆ กว่านี้ หนังน่าจะสนุกขึ้นอีกเยอะ ผมชอบฉากที่ไล่ล่า Pacman มากที่สุด เพราะมันสามารถจับเอาเกม Pacman มาวิ่งไล่กันบนถนนได้อย่างลงตัวเลยล่ะ
ด้วยการที่หวังว่าความเป็น Adam Sandler เราจะเห็นหนังปล่อยมุขขำๆ น่ารักๆ ออกมาตลอดเวลา กับเรื่องนี้ก็มีอยู่เหมือนเดิม แต่มุขแป้กก็ออกมาเยอะ บางทีไม่ขำแต่ก็ยังทู่ซี้ขยี้ต่อจนกร่อย แต่บางมุขก็ทำได้ดี ซึ่งหลังๆ หนัง Adam จะไม่ได้ขำสุดติ่งเหมือนเมื่อก่อนแล้ว รวมถึงเรื่องของความพีคของหนังที่ทำได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ การสร้างฮีโร่กอบกู้โลกน่าจะบิ๊วอารมณ์ให้ฮึกเหิมได้มากกว่านี้ แต่เหมือนหนังยังไปไม่สุดอย่างที่มันควรจะเป็น
หนังเรื่องนี้แบ่งสัดส่วนความสำคัญของตัวละครได้ดีทีเดียว ไม่ได้เน้นหนักไปที่ตัวเอกอย่าง Sam Brenner เพียงคนเดียว แต่ตัวอื่นก็มีบทบาทไม่แพ้กัน เลยทำให้ Adam ไม่ต้องแบกหนังทั้งเรื่องไว้คนเดียว Kevin James ในบทประธานาธิบดีติงต๊อง, Michelle Monaghan ในบทพันโทหญิงแสนสวย, Peter Dinklage ในบทตัวโกงกลับใจ, และ Josh Gad ในบทเด็กเนิร์ดเพื่อนซี๊พระเอก ทุกคนมีบทบาทหมด และทำได้ดีจนเป็นองค์ประกอบให้หนังดูสนุกขึ้นมาก
โดยรวมแล้วสำหรับคนวัยเดียวกับผม ผมว่าหนังเรื่องนี้ดูเพลิน สนุก และทำให้หวนนึกถึงอดีตได้พอสมควรเลยทีเดียว แต่สำหรับคนที่ไม่ได้อินกับเกม 8 bit ก็อาจจะแค่ดูเพลินๆ ผ่านๆ เท่านั้น
พูดคุยเพิ่มเติมกันได้ที่นี่เลยครับ >>>
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.facebook.com/DooNangGunMai
[CR] Pixels - หนังสไตล์ Adam Sandler ที่ทำให้นึกถึงวัยเด็กสมัยเล่นเกม ดูได้เพลินๆ
เชื่อว่าคนอายุรุ่น 30+ ที่เห็นตัวอย่างหนังเรื่อนี้แล้วต้องอยากดูแน่ๆ ตอนเห็นตัวอย่างครั้งแรกผมรู้สึกได้ถึงวัยเด็กที่กลับมาอีกครั้ง ด้วยตัวละครที่เอามาลงในหนังเป็นตัวละครที่คุ้นเคยมากๆ ทั้ง Pacman DonkeyKong Galaga Tetris และความเป็น 8 bit ที่เด็กรุ่นนั้นต้องคุ้นเคยเป็นอย่างดี ส่วนตัวผมชอบหนังของ Adam Sandler เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เพราะหนังของแกดูง่ายไม่ซับซ้อน และดูแล้วก็ไม่ต้องคิดอะไรมาก ก็ไม่ยากที่จะตัดสินใจดู
เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อเอเลี่ยนเข้าใจผิดว่ามนุษย์ต้องการจะเปิดสงครามด้วย จากหลักฐานสัญญาณการได้รับภาพบันทึกวิดีโอเกมส์ของมนุษย์ที่มีการไล่ล่าเอเลี่ยนอยู่ เหล่าบรรดาเอเลี่ยนจึงใช้วิธีโจมตีโลกมนุษย์กลับ ด้วยวิธีตามวิดีโอเกมส์นั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นเกมส์ตัวต่อเตอร์ติสถล่มตึก หรือ แพคเมนไล่กินรถ ประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา รับบทโดย เควิน เจมส์ จึงต้องขอความช่วยเหลือไปยังกลุ่มเพื่อนสุดเนิร์ดของเขา แซม เบรนเนอร์ รับบทโดย อดัม แซนด์เลอร์ ผู้ที่เคยครองแชมป์การแข่งขันเล่นวิดีโอเกมส์มาแล้วในปี 1980 และเหล่าทีมเพื่อนเก๋าติดเกมส์อีกมากมาย เพื่อมาช่วยต่อสู้ปกป้องโลก
หนังเปิดเรื่องมาเรียกว่าเรียกได้ว่าเป็นเอกลักษณ์ของสไตล์ Adam Sandler เลยจริงๆ การเปิดเรื่องแบบนี้ใครที่ดูหนังของ Adam บ่อยๆ จะรู้เลยว่าผมหมายความว่ายังไง ซึ่งคนที่ชอบก็ยังคงชอบอยู่แน่ๆ แต่ถ้าใครที่ไม่ชอบก็จะยี้ไปเลย หนังปูให้เห็นถึงการมีปมในวัยเด็กของตัวละคร Looser ทั้งหลาย (พักหลัง Adam Sandler จะเล่นกับพวก Looser เกือบทุกเรื่อง) และหนังก็ฝังจินตนาการความเป็นเด็กไว้เยอะมาก เรียกได้ว่าถ้าใครที่ชอบก็จะฟุ้งไปกับหนังได้อย่างเต็มที่เลยทีเดียว
จุดแข็งของหนังเรื่องนี้อยู่ที่ CG ที่จัดมาเต็มที่แบบไม่มีเม้ม โดยมันเป็นความสวยงามบนความเป็น 8 bit โดยเฉพาะฉากที่เหล่าเอเลี่ยนบุกโลกหลายๆ ฉาก มันดูเป็น CG ที่มีความคลาสสิคของเกม 8 bit อยู่ในตัวเอง ศัตรูดูน่ารักทุกตัว ทำให้ดูแล้วลุ้นไปยิ้มไป แต่เสียดายที่ฉากเหล่านี้มีไม่ได้เยอะมากในเรื่อง ถ้าจัดมาเต็มๆ กว่านี้ หนังน่าจะสนุกขึ้นอีกเยอะ ผมชอบฉากที่ไล่ล่า Pacman มากที่สุด เพราะมันสามารถจับเอาเกม Pacman มาวิ่งไล่กันบนถนนได้อย่างลงตัวเลยล่ะ
ด้วยการที่หวังว่าความเป็น Adam Sandler เราจะเห็นหนังปล่อยมุขขำๆ น่ารักๆ ออกมาตลอดเวลา กับเรื่องนี้ก็มีอยู่เหมือนเดิม แต่มุขแป้กก็ออกมาเยอะ บางทีไม่ขำแต่ก็ยังทู่ซี้ขยี้ต่อจนกร่อย แต่บางมุขก็ทำได้ดี ซึ่งหลังๆ หนัง Adam จะไม่ได้ขำสุดติ่งเหมือนเมื่อก่อนแล้ว รวมถึงเรื่องของความพีคของหนังที่ทำได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ การสร้างฮีโร่กอบกู้โลกน่าจะบิ๊วอารมณ์ให้ฮึกเหิมได้มากกว่านี้ แต่เหมือนหนังยังไปไม่สุดอย่างที่มันควรจะเป็น
หนังเรื่องนี้แบ่งสัดส่วนความสำคัญของตัวละครได้ดีทีเดียว ไม่ได้เน้นหนักไปที่ตัวเอกอย่าง Sam Brenner เพียงคนเดียว แต่ตัวอื่นก็มีบทบาทไม่แพ้กัน เลยทำให้ Adam ไม่ต้องแบกหนังทั้งเรื่องไว้คนเดียว Kevin James ในบทประธานาธิบดีติงต๊อง, Michelle Monaghan ในบทพันโทหญิงแสนสวย, Peter Dinklage ในบทตัวโกงกลับใจ, และ Josh Gad ในบทเด็กเนิร์ดเพื่อนซี๊พระเอก ทุกคนมีบทบาทหมด และทำได้ดีจนเป็นองค์ประกอบให้หนังดูสนุกขึ้นมาก
โดยรวมแล้วสำหรับคนวัยเดียวกับผม ผมว่าหนังเรื่องนี้ดูเพลิน สนุก และทำให้หวนนึกถึงอดีตได้พอสมควรเลยทีเดียว แต่สำหรับคนที่ไม่ได้อินกับเกม 8 bit ก็อาจจะแค่ดูเพลินๆ ผ่านๆ เท่านั้น
พูดคุยเพิ่มเติมกันได้ที่นี่เลยครับ >>> [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้