สวัสดีค่ะมาพบกับเราอีกเช่นเคย อ๋อมแอ๋ม จาก aomampandaba ค่ะ ก่อนอื่นเราต้องช่วยกันอธิษฐานภาวนาให้ประเทศไทยกลับมาสงบสุขอีกครั้งนึงเพราะเนื่องจากตอนนี้สถานการณ์ในกรุงเทพไม่ค่อยดีถึงตอนนี้จะคลี่คลายไปบ้างแล้วก็ตามแต่บาดแผลที่เจ็บปวดของผู้ที่ได้รับจากเหตุการณ์ครั้งนี้คงจะไม่น้อยเลยทีเดียวก็ขอให้ความเจ็บปวดครั้งนี้รักษาให้หายโดยเร็วที่สุดและขอให้ทางรัฐบาลจับตัวคนร้ายมาให้ได้ค่ะ
เอาละมาเข้าเรื่องมาที่การรีวิวบ้างดีกว่าหลังจากที่เราได้ไปพูดเรื่องเหตุการณ์บ้านเมืองเข้าไปเดี๋ยวคนที่ติดตามเรากลัวว่าจะไม่เอากับเราด้วยนั้นมาเข้าเรื่องที่จะรีวิววันนี้กันบ้างดีกว่า ก่อนอื่นสิ่งที่เราจะมารีวิวในวันนี้นั้น "เป็นการรีวิวเมคอัพเป็นครั้งแรกในการเขียนครั้งนี้" ถ้าผิดพลาดประการใดก็ขออภัยมา ณ โอกาสนี้เพราะขอออกตัวตามตรงเลยว่า
เราไม่เชี่ยวชาญหรือถนัดในเรื่องของเมคอัพ แต่จรรยาบรรณการเป็น blogger เราจำเป็นต้องเชี่ยวชาญทุกแขนงไม่ว่าจะเป็น สกินแคร์ เมคอัพ ทำผม แต่งหน้า คือคุณต้องรู้ไม่นั้นเขาจะไม่ติดตามเราถูกไหม ดังนั้นเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเรามาประเดิมรีวิวเมคอัพตัวแรกกันดีกว่า นั่นก็คือ.......
Estée Lauder pure color envy liquid lip potion (ขนาดทดลอง) ขนาดจริงราคา 1,250 บาท
คุณสมบัติ
เป็นลิปกรอสเนื้อแม็ตต์(อารมณ์เหมือนทาลิปสติกแบบแท่ง)
ช่วยให้ติดทนนาน
มีทั้งหมด 11 สี (แต่สีที่จะให้รีวิววันนี้มี 4 สี)
สีที่รีวิว
เรามาดูสีที่เราทากันดีกว่าค่ะว่าสีไหนเหมาะกับโอกาสอะไร ทาแล้วรู้สึกยังไงไปดูกันเลยค่ะ
Fierce Beauty
ความรู้สึก
มันดูแบบหวานๆใสๆ เหมาะกับในทุกๆโอกาสเป็นสีที่ไม่จ๊าบมากจนเกินไป
Wicked Sweet
ความรู้สึก
สีนี้ออกสีชมพูหวานสมชื่อจริงๆ ออกแนวย้อนยุคสไตล์วินเทจนิดๆ เหมาะกับงานทุกๆโอกาส
Lethal Red
ความรู้สึก
สีนี้ต้องขอแสดงความยินดีกับผิวสีแทนหรือผิวสีน้ำผึ้งด้วยค่ะ เพราะขนาดคนผิวขาวอย่างเรายังดูไม่โอเว่อร์ไปแถมสียังสวยมาก ยิ่งเราชอบลิปสีแดงด้วยมันยิ่งเข้ากันมากๆเลยแต่การทาลิปสีแดงต้องดูกาลเทศะด้วยนะ ไม่ควรทาออกงานที่เป็นทางการมากเกินไป
Fragile Ego
ความรู้สึก
สีนี้ให้ความรู้สึกคล้ายกับสีที่ 2 เลยนะแต่จะออกโทนม่วงหน่อยๆนิดนึงอันนี้ก็ใช้ได้ทุกโอกาสแหละค่ะ
ความประทับใจ
หลังจากที่เราเห็นตัวผลิตภัณฑ์แรกๆก็เป็นแค่ลิปกรอสธรรมดาๆแต่พอมาลองจริงๆกลับรู้สึกว่าเจ้าลิปกรอสตัวนี้มันไม่ธรรมดาเพราะเป็นเนื้อแม็ตต์ที่คล้ายคลึงกับแท่งลิปสติกเลยละ สีที่ได้ก็สวยและทนทานตลอดวันจริงๆ
เอาละค่ะก็หวังว่ารีวิวเมคอัพครั้งแรกในการเป็น blogger ครั้งนี้ผู้อ่านคงจะชื่นชอบนะคะ ถ้าชอบไม่ชอบยังไงก็สามารถติชมกันได้เพื่อจะไปปรับปรุงและพัฒนาการเขียนรีวิวของเราต่อไปค่ะ อย่าลืมไปกด likes fanpage เรานะ www.facebook.com/aomampandaba ไปติดตามความสวยความงามความไร้สาระของเรากันได้ สำหรับครั้งหน้าจะรีวิวอะไรนั้นต้องติดตาม สำหรับวันนี้ สวัสดีค่ะ
ติดตาม
Facebook fanpage
www.facebook.com/aomampandaba
Instagram
@aomampandaba
[SR] Review Estée Lauder pure color envy liquid lip potion
เอาละมาเข้าเรื่องมาที่การรีวิวบ้างดีกว่าหลังจากที่เราได้ไปพูดเรื่องเหตุการณ์บ้านเมืองเข้าไปเดี๋ยวคนที่ติดตามเรากลัวว่าจะไม่เอากับเราด้วยนั้นมาเข้าเรื่องที่จะรีวิววันนี้กันบ้างดีกว่า ก่อนอื่นสิ่งที่เราจะมารีวิวในวันนี้นั้น "เป็นการรีวิวเมคอัพเป็นครั้งแรกในการเขียนครั้งนี้" ถ้าผิดพลาดประการใดก็ขออภัยมา ณ โอกาสนี้เพราะขอออกตัวตามตรงเลยว่า เราไม่เชี่ยวชาญหรือถนัดในเรื่องของเมคอัพ แต่จรรยาบรรณการเป็น blogger เราจำเป็นต้องเชี่ยวชาญทุกแขนงไม่ว่าจะเป็น สกินแคร์ เมคอัพ ทำผม แต่งหน้า คือคุณต้องรู้ไม่นั้นเขาจะไม่ติดตามเราถูกไหม ดังนั้นเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเรามาประเดิมรีวิวเมคอัพตัวแรกกันดีกว่า นั่นก็คือ.......
คุณสมบัติ
เป็นลิปกรอสเนื้อแม็ตต์(อารมณ์เหมือนทาลิปสติกแบบแท่ง)
ช่วยให้ติดทนนาน
มีทั้งหมด 11 สี (แต่สีที่จะให้รีวิววันนี้มี 4 สี)
เรามาดูสีที่เราทากันดีกว่าค่ะว่าสีไหนเหมาะกับโอกาสอะไร ทาแล้วรู้สึกยังไงไปดูกันเลยค่ะ
ความรู้สึก
มันดูแบบหวานๆใสๆ เหมาะกับในทุกๆโอกาสเป็นสีที่ไม่จ๊าบมากจนเกินไป
ความรู้สึก
สีนี้ออกสีชมพูหวานสมชื่อจริงๆ ออกแนวย้อนยุคสไตล์วินเทจนิดๆ เหมาะกับงานทุกๆโอกาส
ความรู้สึก
สีนี้ต้องขอแสดงความยินดีกับผิวสีแทนหรือผิวสีน้ำผึ้งด้วยค่ะ เพราะขนาดคนผิวขาวอย่างเรายังดูไม่โอเว่อร์ไปแถมสียังสวยมาก ยิ่งเราชอบลิปสีแดงด้วยมันยิ่งเข้ากันมากๆเลยแต่การทาลิปสีแดงต้องดูกาลเทศะด้วยนะ ไม่ควรทาออกงานที่เป็นทางการมากเกินไป
ความรู้สึก
สีนี้ให้ความรู้สึกคล้ายกับสีที่ 2 เลยนะแต่จะออกโทนม่วงหน่อยๆนิดนึงอันนี้ก็ใช้ได้ทุกโอกาสแหละค่ะ
ความประทับใจ
หลังจากที่เราเห็นตัวผลิตภัณฑ์แรกๆก็เป็นแค่ลิปกรอสธรรมดาๆแต่พอมาลองจริงๆกลับรู้สึกว่าเจ้าลิปกรอสตัวนี้มันไม่ธรรมดาเพราะเป็นเนื้อแม็ตต์ที่คล้ายคลึงกับแท่งลิปสติกเลยละ สีที่ได้ก็สวยและทนทานตลอดวันจริงๆ
เอาละค่ะก็หวังว่ารีวิวเมคอัพครั้งแรกในการเป็น blogger ครั้งนี้ผู้อ่านคงจะชื่นชอบนะคะ ถ้าชอบไม่ชอบยังไงก็สามารถติชมกันได้เพื่อจะไปปรับปรุงและพัฒนาการเขียนรีวิวของเราต่อไปค่ะ อย่าลืมไปกด likes fanpage เรานะ www.facebook.com/aomampandaba ไปติดตามความสวยความงามความไร้สาระของเรากันได้ สำหรับครั้งหน้าจะรีวิวอะไรนั้นต้องติดตาม สำหรับวันนี้ สวัสดีค่ะ
ติดตาม
Facebook fanpage
www.facebook.com/aomampandaba
Instagram
@aomampandaba