สวัสดีครับ
นี่เป็นกระทู้รีวิวการเดินทางท่องเที่ยวคนเดียวอย่างเป็นทางการของผม มือใหม่หัดรีวิวยังไงก็ให้คำแนะนำกันบ้างนะครับ ^^
เนื่องจากช่วงปิดเทอมปี 3 ผมฝึกงานนเลยเหลือช่วงเวลาว่างน้อยหลังฝึกงาน ทางมหาลัยพาไปลงพื้นที่ทำงานอีก เลยทำให้เหลือเวลาในการปิดเทอมไม่มาก
แต่พอคิดๆดูเวลาที่ว่างอยู่นิดๆหน่อยๆอยู่บ้านมันก็น่าเบื่อ เลยวางแผนเล่นๆว่าจะไปเที่ยวแค่ประจวบ แต่ไปๆมาๆไหงไปโผล่เชียงใหม่ได้หล่ะ 555 มาติดตามชมกันครับ
ทริปนี้ใช้เวลาเดินทางไปทั้งหมด 8 วัน จากวันที่ 13 - 20 สิงหาคม 2558
เดินทางจาก หาดใหญ่ - กรุงเทพ - เชียงใหม่ - กรุงเทพ - หาดใหญ่
ระยะทางกว่า 3400 กิโลเมตร ระยะเวลา 71 ชั่วโมง
อย่ามัวพูดพร่ำทำเพลงงั้นมาชมกันเลยดีกว่า
เริ่มจากวันที่ 12 / 08 / 58 เก็บกระเป๋าจากบ้านไปใว้ที่หอพัก นอนคิดไปคิดมาเห้ยมันไกลนะจะไปจริงๆหรอ โรงแรมก็ไม่ได้จองข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวก็ไม่มี แถมเป็นการนั่งรถไฟเป็นครั้งที่ 2 ในชีวิต และก็ที่สำคัญ เป็นการออกไปเที่ยวไกลบ้านมากที่สุดครั้งแรกในชีวิตอีกต่างหากห้าห้า แลดูยิ่งใหญ่เนาะ
ก็มันยิ่งใหญ่หน่ะแหละ ออกเที่ยวคนเดียวครั้งแรกในชีวิตเลยนะ
13 / 08 / 58 ก็ยังคิดอยู่ดีไปจริงๆอะ แต่ก็จัดกระเป๋าใว้แล้วนี่หว่า ไหนๆก็ไหนๆแล้ว 13:00 น ก้าวขาเดินออกจากหอพัก ไปขึ้นรถตู้หน้าปากซอยเพื่อเดินทางไปสถานีรถไฟหาดใหญ่ เพื่อทำการซื้อตัวรถไฟ ขบวนที่ 172 สุไหงโกลกปลายทางกรุงเทพ จะเข้ามาจอดเทียบสถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ตามตั๋วในเวลา 15:39 นาที แต่ว่าามัน มาช้าไปนิด หลังจากได้ยินเสียงประกาศจากสถานีว่ารถไฟจะเข้ามาที่สถานีในเวลา 16:20 นาที เอ้ายังมีเวลาทำใจอีกหน่อย
รูปภาพทั้งหมดถ่ายโดยโทรศัพท์มือถือนะครับอาจจะไม่ชัดบ้างขออภัย
ตั๋วรถไฟฮะ
ตู้โบกี้รอการมาต่อในขบวน
ระหว่างรอรถไฟมาบางคนก็นั่ง บางคนนอน
ได้ตั๋วยืนมาขึ้นมาหาที่นั่งก่อนคอยลุ้นเอาว่าจะมีที่นั่งรึเปล่า
ก่อนรถไฟออกหาอะไรรองท้องใว้ก่อนนได้มาม่าเข้าไปก็อิ่มไประดับนึง
ใช้เวลาไม่นานรถไฟก็แล่นออกจากสถานีชุมทางหาดใหญ่ ไปจอดอีกทีก็สถานีพัทลุง ระหว่างนั้นก็ถ่ายรูปไปเรื่อย
รถจอดรับของที่สถานีบางแก้ว แปปนึง หล่ะก็ไปต่อ
ผ่านสถานีเขาชัยสนใาวิวข้างทางค่อนข้างสวยเลยทีเดียว
หลังจากนี่รถไฟก็เข้าเทียบชานชาลาที่สถานีพัทลุง ก่อนหน้านั้นจากสถานีหาดใหญ่มาผมนั่งมาคนเดียว ทีนี้แหละ จะมีเพื่อนร่วมทางที่ขึ้นมาจากสถานีพัทลุงแล้ว ที่นั่งฝั่งตรงข้ามเป็น ลุงกะป้า ลุงลงชุมพร ป้าลงราชบุรี ส่วนอีกคนข้างๆหนุ่มจากกับพูชาประเทศเพื่อนบ้านเรานี่เองก็พอพูดไทยได้บ้างเลยนั่งคุยกันมาตลอดทาง ก็สนุกดีนะ ได้คุยกะคนแปลกหน้า แลกเปลี่ยนประสบการณ์กัน
จากนั้นรถก็เข้าจอดที่สถานี สุราษธานี ถึงสถานีนี้หล่ะหิว จัดข้าวต้มไปถ้วยนึงอร่อยดี
และทีนี้แหละ หลังจากข้าวต้มตกถึงท้องหนังท้องตึงหนังตาก็เริ่มหย่อน หลับสิครับรออะไรและหลังจากนี้แหละครับเหตุการณ์สำคัญที่ว่าทำไมผมถึงนั่งไปเชียงใหม่ หลับครับหลับเลยสถานีประจวบฯไปเฉยเลยไปตื่นอีกทีก็ใกล้ถึงหัวหินแล้ว ครั้นจะลงหัวหินก็กะไรอยู่ ก็เลยนั่งต่อไปลงสถานีรถไฟบางซื่อเลยหล่ะกัน
ระหว่างนั้นก็ชมวิวข้างทางหัวหินไป
หลังจากรถไฟจอดที่สถานีหัวหินแล้ว ก็หิวหน่ะสิครับมีคนเดินมาขายข้ามต้มอยู่เอ้ารออะไรหล่ะ จัดไปหนึ่งถ้วย แต่ก็ไม่ได้ถ่ายรูปสถานีหัวหินใว้มัวแต่กิน เลยเก็บใว้ในความทรงจำแทนหล่ะกัน
รถไฟออกจากสถานีหัวหินมาวิวข้างทางค่อนข้างสวยเลยทีเดียว
มาดูข้างในตู้โบกี้กันบ้าง
รถไฟเข้าราชบุรีแล้ววิวก็ค่อนข้างสวยเลยทีเดียว สบายตากันไป
ไม่นานรถไฟก็เข้าจอดที่ราชบุรี ได้ข่าวว่าก๋วยเตี๋ยวอร่อยเลยขอลองซักนิดนึงง อืมมก็อร่อยดี 55
คุณลุงคนแปลกหน้าจากราชบุรี คอยแนะนำการเดินทางตลอดพอแกรู้ว่าผมเดินทางคนเดียวหล่ะแกชวนผมคุยยันสถานีบางซื่อเลยย สนุกดี ขอบคุณคุณลุงมากถ้าไม่ได้คุณลุงคอยบอกนี่แย่เลยย
และแล้วก็มีถึงสถานีบางซื่อรถไฟจอดเทียบชานชาลาที่สถานีบางซื่อ 2 สายใต้ ลงรถไฟแล้วก็นั่นแหละครับเป็นการตัดสินใจที่ยากที่สุดว่าจะไปไหนต่อดี คิดหนักเลยย แต่เอาวะไหนๆก็ออกมาแล้วไปให้สุดเลยก็แล้วกัน เดินไปซื้อตั๋วขึ้นเชียงใหม่ซะ
หลังจากได้ตั๋วรถไฟมาเรียบร้อยก็หาห้องน้ำอาบน้ำก่อนเลยเพราะกว่าจะถึงมาต้องเจอกับลม ฝุ่น หล่ะก็หน้าดำ เสื้อผ้าเหม็นสนิมมากกกกก หลังจากนั้นก็หาไรกินแถวๆนั้น นั่งรอไปเรื่อย ก็ได้เวลาที่รถไฟจะมา ในตั๋วลงเวลาใว้ 14:08 รถมาเลทไป 1 นาทีเลยทีเดียว หลังจากขึ้นรถไฟแล้ว ก็อีกเช่นเคยหลับครับหลับบ มาตื่นอีกทีก็สถานีลพบุรี อดกินไอติมที่อยุธยาเลย
เพื่อนร่วมทางคราวนี้เป็นคุณป้าซึ่งไปลงสถานีเด่นชัย ก็คุยโน่นนี่นั่น ชวนกินข้าวไปตลอดทาง สนุกดีครับการได้คุยกะคนที่เราไม่รู้จัก ได้รู้เรื่องราวต่างๆเยอะแยะเลย
ไม่นานรถไฟก็มาถึงสถานี นครสวรรค์ ซึ่งสถานีนี้ผมได้เพื่อนร่วทางเพิ่มมาคนนึง ทำงานอยู่ กทม มาตกรถที่ นครสวรรค์ เลยนั่งรถไฟต่อไปลงที่จังหวัดพิจิตร หลังจากได้คุยกะเพื่อนร่วมทางคนใหม่ก็เชื่อเลยครับคำว่ารักแท้แพ้ระยะทางมันใช้ได้กับบางคนเท่านั้น ผู้ชายคนนึงนั่งรถในวันหยุดสุดสัปดาห์ เพื่อที่จะไปหาคนรัก ฟังพี่เค้าเล่าไปหล่ะแอบน้ำตาซึม
หลังจากนั้นก็นั่งคุยกะพี่แกไปตลอดทางจนถึงสถานีพิจิตร พี่เขาก็ลงไป โชคดีรักกันนานๆนะครับ ^^
หลังจากรถไฟแล่นออกจากสถานีพิจิตรก็หลับๆตื่นๆมาตลอดทาง รู้สึกตัวอีกทีรถไฟก็มาถึงอำเภอเด่นชัยพอดี เป็นสถานีที่ป้าคนแปลกหน้าต้องลงแล้ว ไม่ได้ถ่ายรูปใว้ ขอบคุณป้ามากครับสำหรับข้าวเหนียวว
ออกจากเด่นชัยมาก็หลับตลอดทาง มาตื่นอีกทีก็ที่นี่พอดี อากาศเย็นๆถึงหนาวกันเลยทีเดียวว
สถานีลำพูน เย้อีกไม่กี่อึดใจก็ถึงจังหวัดเชียงใหม่แล้ว
รถไฟแล่นเข้าจอดเทียบที่สถานีรถไฟเชียงใหม่ในเวลา 05:50 ฝนตกสิครับ ยืนงงอยู่ที่สถานีรถไฟอยู่นาน เลยเดินออกไปตั้งหลักหน้าสถานีรถไฟ อ่าวมาถึงแล้วนอนไหนหล่ะทีนี้ ก็เลยเดินไปถามคนแถวๆนั้นไม่มีใครให้คำแนะนำดีๆเลยซ้ากคนน - -" เลยเดินเล่นๆอยู่แถวนั้น ไปเอะใจกะป้าย สุพนิชเกสท์เฮ้าท์ หล่ะก็เดินดิ่งเข้าไป สอบถามราคามา
ห้องพักที่ สุพนิชเกสท์เฮ้าท์ จะมีหลายราคา มีให้เลือกคือ
1. ห้องแอร์ 500บาท/คืน
2. ห้องพัดลม ห้องน้ำในตัว 250 บาท/คืน
3. ห้องพัดลม ห้องน้ำรวม 180 บาท/คืน
**ไม่รวมอาหารเช้า
หาที่พักได้แล้วเอาไงต่อหล่ะทีนี้ หาร้านเช่ามอไซค์สิครับรออะไรอยู่ สอบถามคนแถวนั้นก็ได้เรื่องมาว่า ให้ไปเช่ารถแถวๆสถานีขนส่งอาเขตซึ่งอยู่ไม่ไกลประมาณ 2 กิโล มี 2 ทางให้เลือกระหว่างเดินไปหรือขึ้นรถแดง ไปเที่ยวแบบงบน้อยแบบผมจะให้เลือกอีกหรอครับ เดินสะฮะรออะไรอยู่ 555 พอเดินไปถึงสถานีขนส่งอาเขตแล้วก็หาเลยครับ ร้านเช่ามอไซค
ซึ่งก็มีคนในพื้นที่แนะนำมาว่าให้ไปเช่าที่ร้าน bikky หาไม่ยากครับร้านอยู่ติดสถานีขนส่งอาเขตเลย เดินเข้าไปร้านหล่ะเลือกรถ รถที่ผมเลือกเป็น HONDA wave 125 i เพราะประหยัดน้ำมัน เข้าโค้งบนดอยสุเทพได้ดีเลยทีเดียว อ้อราคาเช่ารถ 250 บาทครับ ไม่ต้องวางมัดจำ ส่วนรถเกียร์ออโตเมติก 300 นะครับ
[CR] Alone Trip เมื่อเด็กสงขลาแบกเป้นั่งรถไฟฟรีไปเชียงใหม่
นี่เป็นกระทู้รีวิวการเดินทางท่องเที่ยวคนเดียวอย่างเป็นทางการของผม มือใหม่หัดรีวิวยังไงก็ให้คำแนะนำกันบ้างนะครับ ^^
เนื่องจากช่วงปิดเทอมปี 3 ผมฝึกงานนเลยเหลือช่วงเวลาว่างน้อยหลังฝึกงาน ทางมหาลัยพาไปลงพื้นที่ทำงานอีก เลยทำให้เหลือเวลาในการปิดเทอมไม่มาก
แต่พอคิดๆดูเวลาที่ว่างอยู่นิดๆหน่อยๆอยู่บ้านมันก็น่าเบื่อ เลยวางแผนเล่นๆว่าจะไปเที่ยวแค่ประจวบ แต่ไปๆมาๆไหงไปโผล่เชียงใหม่ได้หล่ะ 555 มาติดตามชมกันครับ
ทริปนี้ใช้เวลาเดินทางไปทั้งหมด 8 วัน จากวันที่ 13 - 20 สิงหาคม 2558
เดินทางจาก หาดใหญ่ - กรุงเทพ - เชียงใหม่ - กรุงเทพ - หาดใหญ่
ระยะทางกว่า 3400 กิโลเมตร ระยะเวลา 71 ชั่วโมง
อย่ามัวพูดพร่ำทำเพลงงั้นมาชมกันเลยดีกว่า
เริ่มจากวันที่ 12 / 08 / 58 เก็บกระเป๋าจากบ้านไปใว้ที่หอพัก นอนคิดไปคิดมาเห้ยมันไกลนะจะไปจริงๆหรอ โรงแรมก็ไม่ได้จองข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวก็ไม่มี แถมเป็นการนั่งรถไฟเป็นครั้งที่ 2 ในชีวิต และก็ที่สำคัญ เป็นการออกไปเที่ยวไกลบ้านมากที่สุดครั้งแรกในชีวิตอีกต่างหากห้าห้า แลดูยิ่งใหญ่เนาะ
ก็มันยิ่งใหญ่หน่ะแหละ ออกเที่ยวคนเดียวครั้งแรกในชีวิตเลยนะ
13 / 08 / 58 ก็ยังคิดอยู่ดีไปจริงๆอะ แต่ก็จัดกระเป๋าใว้แล้วนี่หว่า ไหนๆก็ไหนๆแล้ว 13:00 น ก้าวขาเดินออกจากหอพัก ไปขึ้นรถตู้หน้าปากซอยเพื่อเดินทางไปสถานีรถไฟหาดใหญ่ เพื่อทำการซื้อตัวรถไฟ ขบวนที่ 172 สุไหงโกลกปลายทางกรุงเทพ จะเข้ามาจอดเทียบสถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ตามตั๋วในเวลา 15:39 นาที แต่ว่าามัน มาช้าไปนิด หลังจากได้ยินเสียงประกาศจากสถานีว่ารถไฟจะเข้ามาที่สถานีในเวลา 16:20 นาที เอ้ายังมีเวลาทำใจอีกหน่อย
รูปภาพทั้งหมดถ่ายโดยโทรศัพท์มือถือนะครับอาจจะไม่ชัดบ้างขออภัย
ตั๋วรถไฟฮะ
ตู้โบกี้รอการมาต่อในขบวน
ระหว่างรอรถไฟมาบางคนก็นั่ง บางคนนอน
ได้ตั๋วยืนมาขึ้นมาหาที่นั่งก่อนคอยลุ้นเอาว่าจะมีที่นั่งรึเปล่า
ก่อนรถไฟออกหาอะไรรองท้องใว้ก่อนนได้มาม่าเข้าไปก็อิ่มไประดับนึง
ใช้เวลาไม่นานรถไฟก็แล่นออกจากสถานีชุมทางหาดใหญ่ ไปจอดอีกทีก็สถานีพัทลุง ระหว่างนั้นก็ถ่ายรูปไปเรื่อย
รถจอดรับของที่สถานีบางแก้ว แปปนึง หล่ะก็ไปต่อ
ผ่านสถานีเขาชัยสนใาวิวข้างทางค่อนข้างสวยเลยทีเดียว
หลังจากนี่รถไฟก็เข้าเทียบชานชาลาที่สถานีพัทลุง ก่อนหน้านั้นจากสถานีหาดใหญ่มาผมนั่งมาคนเดียว ทีนี้แหละ จะมีเพื่อนร่วมทางที่ขึ้นมาจากสถานีพัทลุงแล้ว ที่นั่งฝั่งตรงข้ามเป็น ลุงกะป้า ลุงลงชุมพร ป้าลงราชบุรี ส่วนอีกคนข้างๆหนุ่มจากกับพูชาประเทศเพื่อนบ้านเรานี่เองก็พอพูดไทยได้บ้างเลยนั่งคุยกันมาตลอดทาง ก็สนุกดีนะ ได้คุยกะคนแปลกหน้า แลกเปลี่ยนประสบการณ์กัน
จากนั้นรถก็เข้าจอดที่สถานี สุราษธานี ถึงสถานีนี้หล่ะหิว จัดข้าวต้มไปถ้วยนึงอร่อยดี
และทีนี้แหละ หลังจากข้าวต้มตกถึงท้องหนังท้องตึงหนังตาก็เริ่มหย่อน หลับสิครับรออะไรและหลังจากนี้แหละครับเหตุการณ์สำคัญที่ว่าทำไมผมถึงนั่งไปเชียงใหม่ หลับครับหลับเลยสถานีประจวบฯไปเฉยเลยไปตื่นอีกทีก็ใกล้ถึงหัวหินแล้ว ครั้นจะลงหัวหินก็กะไรอยู่ ก็เลยนั่งต่อไปลงสถานีรถไฟบางซื่อเลยหล่ะกัน
ระหว่างนั้นก็ชมวิวข้างทางหัวหินไป
หลังจากรถไฟจอดที่สถานีหัวหินแล้ว ก็หิวหน่ะสิครับมีคนเดินมาขายข้ามต้มอยู่เอ้ารออะไรหล่ะ จัดไปหนึ่งถ้วย แต่ก็ไม่ได้ถ่ายรูปสถานีหัวหินใว้มัวแต่กิน เลยเก็บใว้ในความทรงจำแทนหล่ะกัน
รถไฟออกจากสถานีหัวหินมาวิวข้างทางค่อนข้างสวยเลยทีเดียว
มาดูข้างในตู้โบกี้กันบ้าง
รถไฟเข้าราชบุรีแล้ววิวก็ค่อนข้างสวยเลยทีเดียว สบายตากันไป
ไม่นานรถไฟก็เข้าจอดที่ราชบุรี ได้ข่าวว่าก๋วยเตี๋ยวอร่อยเลยขอลองซักนิดนึงง อืมมก็อร่อยดี 55
คุณลุงคนแปลกหน้าจากราชบุรี คอยแนะนำการเดินทางตลอดพอแกรู้ว่าผมเดินทางคนเดียวหล่ะแกชวนผมคุยยันสถานีบางซื่อเลยย สนุกดี ขอบคุณคุณลุงมากถ้าไม่ได้คุณลุงคอยบอกนี่แย่เลยย
และแล้วก็มีถึงสถานีบางซื่อรถไฟจอดเทียบชานชาลาที่สถานีบางซื่อ 2 สายใต้ ลงรถไฟแล้วก็นั่นแหละครับเป็นการตัดสินใจที่ยากที่สุดว่าจะไปไหนต่อดี คิดหนักเลยย แต่เอาวะไหนๆก็ออกมาแล้วไปให้สุดเลยก็แล้วกัน เดินไปซื้อตั๋วขึ้นเชียงใหม่ซะ
หลังจากได้ตั๋วรถไฟมาเรียบร้อยก็หาห้องน้ำอาบน้ำก่อนเลยเพราะกว่าจะถึงมาต้องเจอกับลม ฝุ่น หล่ะก็หน้าดำ เสื้อผ้าเหม็นสนิมมากกกกก หลังจากนั้นก็หาไรกินแถวๆนั้น นั่งรอไปเรื่อย ก็ได้เวลาที่รถไฟจะมา ในตั๋วลงเวลาใว้ 14:08 รถมาเลทไป 1 นาทีเลยทีเดียว หลังจากขึ้นรถไฟแล้ว ก็อีกเช่นเคยหลับครับหลับบ มาตื่นอีกทีก็สถานีลพบุรี อดกินไอติมที่อยุธยาเลย
เพื่อนร่วมทางคราวนี้เป็นคุณป้าซึ่งไปลงสถานีเด่นชัย ก็คุยโน่นนี่นั่น ชวนกินข้าวไปตลอดทาง สนุกดีครับการได้คุยกะคนที่เราไม่รู้จัก ได้รู้เรื่องราวต่างๆเยอะแยะเลย
ไม่นานรถไฟก็มาถึงสถานี นครสวรรค์ ซึ่งสถานีนี้ผมได้เพื่อนร่วทางเพิ่มมาคนนึง ทำงานอยู่ กทม มาตกรถที่ นครสวรรค์ เลยนั่งรถไฟต่อไปลงที่จังหวัดพิจิตร หลังจากได้คุยกะเพื่อนร่วมทางคนใหม่ก็เชื่อเลยครับคำว่ารักแท้แพ้ระยะทางมันใช้ได้กับบางคนเท่านั้น ผู้ชายคนนึงนั่งรถในวันหยุดสุดสัปดาห์ เพื่อที่จะไปหาคนรัก ฟังพี่เค้าเล่าไปหล่ะแอบน้ำตาซึม
หลังจากนั้นก็นั่งคุยกะพี่แกไปตลอดทางจนถึงสถานีพิจิตร พี่เขาก็ลงไป โชคดีรักกันนานๆนะครับ ^^
หลังจากรถไฟแล่นออกจากสถานีพิจิตรก็หลับๆตื่นๆมาตลอดทาง รู้สึกตัวอีกทีรถไฟก็มาถึงอำเภอเด่นชัยพอดี เป็นสถานีที่ป้าคนแปลกหน้าต้องลงแล้ว ไม่ได้ถ่ายรูปใว้ ขอบคุณป้ามากครับสำหรับข้าวเหนียวว
ออกจากเด่นชัยมาก็หลับตลอดทาง มาตื่นอีกทีก็ที่นี่พอดี อากาศเย็นๆถึงหนาวกันเลยทีเดียวว
สถานีลำพูน เย้อีกไม่กี่อึดใจก็ถึงจังหวัดเชียงใหม่แล้ว
รถไฟแล่นเข้าจอดเทียบที่สถานีรถไฟเชียงใหม่ในเวลา 05:50 ฝนตกสิครับ ยืนงงอยู่ที่สถานีรถไฟอยู่นาน เลยเดินออกไปตั้งหลักหน้าสถานีรถไฟ อ่าวมาถึงแล้วนอนไหนหล่ะทีนี้ ก็เลยเดินไปถามคนแถวๆนั้นไม่มีใครให้คำแนะนำดีๆเลยซ้ากคนน - -" เลยเดินเล่นๆอยู่แถวนั้น ไปเอะใจกะป้าย สุพนิชเกสท์เฮ้าท์ หล่ะก็เดินดิ่งเข้าไป สอบถามราคามา
ห้องพักที่ สุพนิชเกสท์เฮ้าท์ จะมีหลายราคา มีให้เลือกคือ
1. ห้องแอร์ 500บาท/คืน
2. ห้องพัดลม ห้องน้ำในตัว 250 บาท/คืน
3. ห้องพัดลม ห้องน้ำรวม 180 บาท/คืน
**ไม่รวมอาหารเช้า
หาที่พักได้แล้วเอาไงต่อหล่ะทีนี้ หาร้านเช่ามอไซค์สิครับรออะไรอยู่ สอบถามคนแถวนั้นก็ได้เรื่องมาว่า ให้ไปเช่ารถแถวๆสถานีขนส่งอาเขตซึ่งอยู่ไม่ไกลประมาณ 2 กิโล มี 2 ทางให้เลือกระหว่างเดินไปหรือขึ้นรถแดง ไปเที่ยวแบบงบน้อยแบบผมจะให้เลือกอีกหรอครับ เดินสะฮะรออะไรอยู่ 555 พอเดินไปถึงสถานีขนส่งอาเขตแล้วก็หาเลยครับ ร้านเช่ามอไซค
ซึ่งก็มีคนในพื้นที่แนะนำมาว่าให้ไปเช่าที่ร้าน bikky หาไม่ยากครับร้านอยู่ติดสถานีขนส่งอาเขตเลย เดินเข้าไปร้านหล่ะเลือกรถ รถที่ผมเลือกเป็น HONDA wave 125 i เพราะประหยัดน้ำมัน เข้าโค้งบนดอยสุเทพได้ดีเลยทีเดียว อ้อราคาเช่ารถ 250 บาทครับ ไม่ต้องวางมัดจำ ส่วนรถเกียร์ออโตเมติก 300 นะครับ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น