ขนคุดในที่นี้หมายถึง โรคขนคุดนะครับ (keratosis pilaris) เป็นโรคผิวหนังเรื้อรัง ที่รักษาไม่หาย รักษาหายยาก หรือเป็นๆหายๆ ส่วนใหญ่จะเป็นตามด้านหลังของต้นแขน แขนท่อนล่าง ต้นขา บางรายก็อาจจะเป็นที่หน้า ที่ตัว ลักษณะจะเป็นตุ่มเม็ดเล็กๆ คล้ายๆกับสิวอุดตันทั่วไปหมด พอบีบออกมาก็จะเป็นคล้ายๆ ไขมันขาวๆปลิ้นออกมา เป็นเลือดก็มี ดูแล้วจะคล้ายๆกับหนังไก่ ไม่เรียบ (ผมมองว่าเป็นคนละอันกับขนคุดที่โกนไม่ดีนะครับ เช่น โกนหนวดไม่ดี พอขนขึ้นใหม่มันก็เลยคุด คนละอย่างกันนะครับ)
ผมเป็นขนคุดตั้งแต่อายุ 12 ปี เป็นที่ต้นแขนลามลงมาจนถึงแขนท่อนล่าง และก็มีที่ต้นขาด้วยเช่นกัน เป็นคนผิวขาวมาก แต่ตามตัวก็จะมีตุ่มคล้ายๆสิวสีแดงๆ เยอะๆขึ้นเต็มแขนไปหมด บอกได้เลยว่าไปหาหมอมาหลายที่มาก และทุกที่ก็จะพูดว่า โรคนี้เป็นโรคที่ไม่มีอันตราย แต่หมอรู้ไหมว่ามันทรมานจิตใจกับการอยู่ร่วมกับคนในสังคมมาก รวมถึงตัวผมเองก็รับไม่ค่อยจะได้ที่มีเม็ดพวกนี้เต็มไปหมด ทุกครั้งที่ไปหาหมอก็จะถามว่า แล้วผมจะหายไหมครับ
หมอก็จะบอกว่า ไม่มีทางหาย ได้แค่บรรเทา แต่ผมเป็นหนักมาก น่าเกลียดมาก (ไม่รู้เหมือนกันว่าช่วงเวลาในชีวิตตอนนั้นผ่านพ้นมาได้ยังไง แต่ก็ทรมานใจไม่น้อย น้อยใจตัว ซึมเศร้า ไม่อยากออกสังคม ปัญหาอื่นๆมันก็ตามมาเพราะโรคนี้โรคเดียว)
ขนคุดของผมอักเสบแรงสุดตอนที่ผมไปเรียนต่อเมืองนอก อากาศหนาวๆ อาการของขนคุดยิ่งแย่มากขึ้นกว่าเดิม รูขุมขนบีบจนเป็นสีเขียวช้ำๆ สีม่วงบ้าง แดงบ้าง อักเสบไปหมด พอเกาก็เป็นแผลเป็น กว่ารอยดำรอยแดงจะหายก็ใช้เวลานานมากๆ แถมหายไม่สนิทอีก
ผมแบ่งการทดลองของผมออกเป็นสองส่วนคือ ขนคุดที่แขน กับ ขนคุดที่ต้นขา
ยาอะไรที่ว่าดีผมลองมาหมดแล้ว ตั้งแต่ AHA BHA Urea +moisturizer กรด TCA ยาละลาย keratin ที่ใช้สำหรับต่อผมปลอม รวมถึงการยิงเลเซอร์กำจัดขน ซึ่งหมอก็ไม่รับประกันว่าจะหาย แต่สมัยที่ผมยิงเลเซอร์ตอนนั้นเพิ่งจะมีเข้ามาใหม่ๆ ราคาค่อนข้างสูงมาก ผมยิงที่แขนสองข้างทั้งหมด 16 ครั้ง อาการดีขึ้น แต่ไม่หายขาดซะทีเดียว น่าจะเกิน 5 หมื่นกว่าบาท
ขนคุดที่แขนนั้น:
ผมเริ่มสังเกตมาตลอดระยะเวลาว่า จริงๆแล้ว เลเซอร์ช่วยส่วนนึง คือขนงอกน้อยลงมาก แต่ตุ่มๆที่เป็นขนคุดก็ยังอยู่ ทั้งๆที่ตรงนั้นไม่มีขนขึ้นแล้ว ซึ่งมันขัดกับทฤษฏีที่ว่า ขนมันม้วนอยู่ข้างใน มันเลยเป็นตุ่มๆขึ้นมา แต่จริงๆแล้วผมว่า ความผิดปกตินี้มันอยู่ที่รูขุมขนของเราด้วย รูขุมขนของคนที่เป็นโรคนี้ (จากที่อ่านในเวปนอกนะครับ) จะมีพวก keratin เกาะอยู่รอบๆรูขุมขน ทำให้เกิดการอักเสบได้ง่าย ดังนั้นผมก็เลยลองใช้พวกกรดบางๆ ลอกผิวไปด้วย ลองตั้งแต่ความเข้มข้นต่ำๆ ที่หาซื้อได้ตามท้องตลาด AHA 5% / BHA 2% อันนี้ไม่มีผลอะไรกับผิวผมเลยครับ ไม่ลอก ไม่อะไรทั้งสิ้น บางคนก็บอกว่าต้องมอยเจอร์ไรเซอร์ผิวดีๆ ก็ไปซื้อพวกโลชั่นมาทา ต้องระวังให้ดีๆพวกโลชั่นชอบมีครีมบำรุงปนมาด้วย ทาเสร็จแล้วขนที่ไปยิงมาก็ยาวอีก ลำบากใจมาก
สรุปคือ ที่แขนผมใช้ AHA ที่สั่งโรงงานผสมขึ้นมาเฉพาะ เพราะมันจะแรงกว่าท้องตลาดทั่วไป แต่ไม่ได้แรงขนาด 30% อะไรแบบนั้นนะครับ ก็แรงพอที่จะเปิดรูขุมขนได้ ส่วน moisturizer ก็ใช้ควบคู่กันไปก็แนะนำให้ใช้ยี่ห้อที่ขนไม่ยาว ผลลัพธ์ที่ได้คือ แขนไม่มีตุ่มเหลืออีกแล้ว แต่ผิวยังดูไม่เรียบเท่ากับคนปกติ ส่วนตัวผมคิดว่าแขนผมดีขึ้น 98% ครับ แทบไม่เหลือคำว่า คนเคยเป็นโรคขนคุดแล้วครับ
ส่วนที่ขาผมทดลองต่างกันครับ:
คือที่ต้องทดลองต่างกันเพราะว่าการทดลองมันต้องใช้ระยะเวลาแล้วก็ดูผลลัพธ์ไปเรื่อยๆ ที่ขาผมก็เป็นหนักเหมือนกันคือเป็นตุ่มเม็ดเล็กๆ เต็มต้นขาไปหมด แล้วก็มีอักเสบเยอะด้วย จากในรูปนั่นคือผมใช้กรด TCA +ไม้จิ้มฟันแต้มไปตามขนที่อุดตันนะครับ (ไม่ค่อยแนะนำให้ทำนะครับ ค่อนข้างอันตราย แต่ที่เกิดรอยแผลเป็นเยอะมาก เพราะผมไม่ได้แค่แต้มกรดลงไปอย่างเดียว ผมใช้ไม้จิ้มฟันที่มีกรด เขี่ยเอาเม็ดขาวๆออกมาด้วย อันไหนไม่ออก ผมก็พยายามเขี่ยจนออกมาจนได้ ปรากฏว่า เป็นแผลค่อนข้างเยอะมาก ใช้เวลาเกิน 5 เดือนรอยแผลเป็นก็ไม่หาย หวังว่าบทเรียนนี้คงเป็นบทเรียนให้กับเพื่อนๆแทนการไปทดลองเองนะครับ แต่ถ้าแต้มกรดทิ้งไว้เฉยๆ อันนี้ก็พอได้อยู่ แต่อันตรายมากนะครับ พูดเลย)
หลังจากนั้น ผมก็ซื้อเครื่องเลเซอร์กำจัดขนที่ทำเองที่บ้านได้มายิงเอง (คือไปยิงตามคลินิกผมว่าเสียอีกสามหมื่นสี่หมื่นแน่ๆ) เครื่องที่ผมซื้อมามันช่วยทั้งเรื่องขนด้วย เรื่องรอยดำรอยแดงด้วย ส่วนตัวไม่ได้ยิงตามคู่มือสักเท่าไหร่ คือพอขนยาวขึ้นมาก็ยิง ยาวขึ้นมาก็ยิง ตามคู่มือคือ ยิงสัปดาห์ละครั้ง แต่ผมยิงทุกๆ 2 วัน บวกกับใช้ AHA + moisturizer ที่มีอยู่ไปเรื่อยๆ แค่ในระยะเวลาไม่ถึง 1 เดือน ตอนนี้ต้นขาผมแทบจะปกติแล้วครับ
สำหรับคนที่เป็นนะครับแนะนำว่า
1. อย่าแกะ อย่าบีบ อย่าเกา เพราะจะทำให้เกิดรอยแผลเป็นและหายยากมาก
2. เลเซอร์ขนช่วยได้ระดับนึง แต่หลังจากที่ขนหายไปแล้ว มันก็จะเป็นอยู่เพราะมันไม่ได้เกิดจากขนอย่างเดียว
3. ครีมที่ใช้ลอกผิวพวก AHA / BHA ต้องแรงพอที่จะลอกขี้ไคล ส่วนที่อุดตัน แต่ก็ต้องระวังว่าอย่าแรงเกินไป อันตรายเหมือนกัน
4. Moisturizer เป็นตัวที่ใช้ลดการอักเสบต่างๆ ต้องทา แต่ต้องหาตัวที่ไม่ทำให้ขนยาวขึ้นด้วยนะครับ
5. Retin A ผมใช้ร่วมด้วยเหมือนกันครับ ใช้สำหรับลอกผิวที่อักเสบเยอะ + ทาลดรอยแผลเป็น (ตัวนี้ก็เป็นตัวที่ดีมากๆตัวนึงครับ แต่ผลลัพธ์การใช้ Retin A ของแต่ละคนไม่เหมือนกันนะครับ + ยาตัวนี้เป็นยาอันตรายมากๆอีกตัวนึง อ่านวิธีการใช้ให้ดีๆ)
มีอะไรสงสัย แอดมาคุยได้ที่เฟสนะครับ chambus kham
(ส่งข้อความมาตอนที่ยังไม่ได้เป็นเพื่อน อาจจะไม่ได้รับข้อความนะครับ)
ว่าด้วยเรื่องของขนคุด ผมทรมานมานานกว่า 16 ปี วันนี้จะมาแชร์ประสบการณ์ให้เพื่อนๆครับ
ผมเป็นขนคุดตั้งแต่อายุ 12 ปี เป็นที่ต้นแขนลามลงมาจนถึงแขนท่อนล่าง และก็มีที่ต้นขาด้วยเช่นกัน เป็นคนผิวขาวมาก แต่ตามตัวก็จะมีตุ่มคล้ายๆสิวสีแดงๆ เยอะๆขึ้นเต็มแขนไปหมด บอกได้เลยว่าไปหาหมอมาหลายที่มาก และทุกที่ก็จะพูดว่า โรคนี้เป็นโรคที่ไม่มีอันตราย แต่หมอรู้ไหมว่ามันทรมานจิตใจกับการอยู่ร่วมกับคนในสังคมมาก รวมถึงตัวผมเองก็รับไม่ค่อยจะได้ที่มีเม็ดพวกนี้เต็มไปหมด ทุกครั้งที่ไปหาหมอก็จะถามว่า แล้วผมจะหายไหมครับ
หมอก็จะบอกว่า ไม่มีทางหาย ได้แค่บรรเทา แต่ผมเป็นหนักมาก น่าเกลียดมาก (ไม่รู้เหมือนกันว่าช่วงเวลาในชีวิตตอนนั้นผ่านพ้นมาได้ยังไง แต่ก็ทรมานใจไม่น้อย น้อยใจตัว ซึมเศร้า ไม่อยากออกสังคม ปัญหาอื่นๆมันก็ตามมาเพราะโรคนี้โรคเดียว)
ขนคุดของผมอักเสบแรงสุดตอนที่ผมไปเรียนต่อเมืองนอก อากาศหนาวๆ อาการของขนคุดยิ่งแย่มากขึ้นกว่าเดิม รูขุมขนบีบจนเป็นสีเขียวช้ำๆ สีม่วงบ้าง แดงบ้าง อักเสบไปหมด พอเกาก็เป็นแผลเป็น กว่ารอยดำรอยแดงจะหายก็ใช้เวลานานมากๆ แถมหายไม่สนิทอีก
ผมแบ่งการทดลองของผมออกเป็นสองส่วนคือ ขนคุดที่แขน กับ ขนคุดที่ต้นขา
ยาอะไรที่ว่าดีผมลองมาหมดแล้ว ตั้งแต่ AHA BHA Urea +moisturizer กรด TCA ยาละลาย keratin ที่ใช้สำหรับต่อผมปลอม รวมถึงการยิงเลเซอร์กำจัดขน ซึ่งหมอก็ไม่รับประกันว่าจะหาย แต่สมัยที่ผมยิงเลเซอร์ตอนนั้นเพิ่งจะมีเข้ามาใหม่ๆ ราคาค่อนข้างสูงมาก ผมยิงที่แขนสองข้างทั้งหมด 16 ครั้ง อาการดีขึ้น แต่ไม่หายขาดซะทีเดียว น่าจะเกิน 5 หมื่นกว่าบาท
ขนคุดที่แขนนั้น:
ผมเริ่มสังเกตมาตลอดระยะเวลาว่า จริงๆแล้ว เลเซอร์ช่วยส่วนนึง คือขนงอกน้อยลงมาก แต่ตุ่มๆที่เป็นขนคุดก็ยังอยู่ ทั้งๆที่ตรงนั้นไม่มีขนขึ้นแล้ว ซึ่งมันขัดกับทฤษฏีที่ว่า ขนมันม้วนอยู่ข้างใน มันเลยเป็นตุ่มๆขึ้นมา แต่จริงๆแล้วผมว่า ความผิดปกตินี้มันอยู่ที่รูขุมขนของเราด้วย รูขุมขนของคนที่เป็นโรคนี้ (จากที่อ่านในเวปนอกนะครับ) จะมีพวก keratin เกาะอยู่รอบๆรูขุมขน ทำให้เกิดการอักเสบได้ง่าย ดังนั้นผมก็เลยลองใช้พวกกรดบางๆ ลอกผิวไปด้วย ลองตั้งแต่ความเข้มข้นต่ำๆ ที่หาซื้อได้ตามท้องตลาด AHA 5% / BHA 2% อันนี้ไม่มีผลอะไรกับผิวผมเลยครับ ไม่ลอก ไม่อะไรทั้งสิ้น บางคนก็บอกว่าต้องมอยเจอร์ไรเซอร์ผิวดีๆ ก็ไปซื้อพวกโลชั่นมาทา ต้องระวังให้ดีๆพวกโลชั่นชอบมีครีมบำรุงปนมาด้วย ทาเสร็จแล้วขนที่ไปยิงมาก็ยาวอีก ลำบากใจมาก
สรุปคือ ที่แขนผมใช้ AHA ที่สั่งโรงงานผสมขึ้นมาเฉพาะ เพราะมันจะแรงกว่าท้องตลาดทั่วไป แต่ไม่ได้แรงขนาด 30% อะไรแบบนั้นนะครับ ก็แรงพอที่จะเปิดรูขุมขนได้ ส่วน moisturizer ก็ใช้ควบคู่กันไปก็แนะนำให้ใช้ยี่ห้อที่ขนไม่ยาว ผลลัพธ์ที่ได้คือ แขนไม่มีตุ่มเหลืออีกแล้ว แต่ผิวยังดูไม่เรียบเท่ากับคนปกติ ส่วนตัวผมคิดว่าแขนผมดีขึ้น 98% ครับ แทบไม่เหลือคำว่า คนเคยเป็นโรคขนคุดแล้วครับ
ส่วนที่ขาผมทดลองต่างกันครับ:
คือที่ต้องทดลองต่างกันเพราะว่าการทดลองมันต้องใช้ระยะเวลาแล้วก็ดูผลลัพธ์ไปเรื่อยๆ ที่ขาผมก็เป็นหนักเหมือนกันคือเป็นตุ่มเม็ดเล็กๆ เต็มต้นขาไปหมด แล้วก็มีอักเสบเยอะด้วย จากในรูปนั่นคือผมใช้กรด TCA +ไม้จิ้มฟันแต้มไปตามขนที่อุดตันนะครับ (ไม่ค่อยแนะนำให้ทำนะครับ ค่อนข้างอันตราย แต่ที่เกิดรอยแผลเป็นเยอะมาก เพราะผมไม่ได้แค่แต้มกรดลงไปอย่างเดียว ผมใช้ไม้จิ้มฟันที่มีกรด เขี่ยเอาเม็ดขาวๆออกมาด้วย อันไหนไม่ออก ผมก็พยายามเขี่ยจนออกมาจนได้ ปรากฏว่า เป็นแผลค่อนข้างเยอะมาก ใช้เวลาเกิน 5 เดือนรอยแผลเป็นก็ไม่หาย หวังว่าบทเรียนนี้คงเป็นบทเรียนให้กับเพื่อนๆแทนการไปทดลองเองนะครับ แต่ถ้าแต้มกรดทิ้งไว้เฉยๆ อันนี้ก็พอได้อยู่ แต่อันตรายมากนะครับ พูดเลย)
หลังจากนั้น ผมก็ซื้อเครื่องเลเซอร์กำจัดขนที่ทำเองที่บ้านได้มายิงเอง (คือไปยิงตามคลินิกผมว่าเสียอีกสามหมื่นสี่หมื่นแน่ๆ) เครื่องที่ผมซื้อมามันช่วยทั้งเรื่องขนด้วย เรื่องรอยดำรอยแดงด้วย ส่วนตัวไม่ได้ยิงตามคู่มือสักเท่าไหร่ คือพอขนยาวขึ้นมาก็ยิง ยาวขึ้นมาก็ยิง ตามคู่มือคือ ยิงสัปดาห์ละครั้ง แต่ผมยิงทุกๆ 2 วัน บวกกับใช้ AHA + moisturizer ที่มีอยู่ไปเรื่อยๆ แค่ในระยะเวลาไม่ถึง 1 เดือน ตอนนี้ต้นขาผมแทบจะปกติแล้วครับ
สำหรับคนที่เป็นนะครับแนะนำว่า
1. อย่าแกะ อย่าบีบ อย่าเกา เพราะจะทำให้เกิดรอยแผลเป็นและหายยากมาก
2. เลเซอร์ขนช่วยได้ระดับนึง แต่หลังจากที่ขนหายไปแล้ว มันก็จะเป็นอยู่เพราะมันไม่ได้เกิดจากขนอย่างเดียว
3. ครีมที่ใช้ลอกผิวพวก AHA / BHA ต้องแรงพอที่จะลอกขี้ไคล ส่วนที่อุดตัน แต่ก็ต้องระวังว่าอย่าแรงเกินไป อันตรายเหมือนกัน
4. Moisturizer เป็นตัวที่ใช้ลดการอักเสบต่างๆ ต้องทา แต่ต้องหาตัวที่ไม่ทำให้ขนยาวขึ้นด้วยนะครับ
5. Retin A ผมใช้ร่วมด้วยเหมือนกันครับ ใช้สำหรับลอกผิวที่อักเสบเยอะ + ทาลดรอยแผลเป็น (ตัวนี้ก็เป็นตัวที่ดีมากๆตัวนึงครับ แต่ผลลัพธ์การใช้ Retin A ของแต่ละคนไม่เหมือนกันนะครับ + ยาตัวนี้เป็นยาอันตรายมากๆอีกตัวนึง อ่านวิธีการใช้ให้ดีๆ)
มีอะไรสงสัย แอดมาคุยได้ที่เฟสนะครับ chambus kham
(ส่งข้อความมาตอนที่ยังไม่ได้เป็นเพื่อน อาจจะไม่ได้รับข้อความนะครับ)