"แผนที่อยู่ที่ปาก"
วลีนี้คงไม่มีนักท่องเที่ยวหรือนักเดินทางคนไหนไม่ใช้ใช่มั้ยค่ะ,,,เราก็เช่นกัน
การเดินทางในครั้งนี้ เราเลือกที่จะเดินทางไป กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย
เพราะยังใช้สโลแกนเดิม "ตั๋วไม่ลดเราไม่บิน" ด้วยราคา เพียง 2,300 บาท (แต่อาจจะแพงไปใช่มั้ย)
การเดินทางในครั้งนี้ ไม่มีกล้องโปรตัวใหญ่ ไม่มีขาตั้งสะพายหลัง มีแต่ไอโฟนหน้าจอพังๆนี่แหละค่ะ ฮ่าๆๆๆๆ
เอาละค่ะ ครั้งนี้เราเดินทางไปกัน 2 ชะนีไทยมีไข่ยืนเยี่ยว 555555+++ กะเลยทุย ค่ะ
มีการเตรียมตัวไปค่อนข้างดีเลยทีเดียว เพราะได้ไปเก็บข้อมูลจาก
การท่องเที่ยวมาเลเซีย (สำนักงานกรุงเทพฯ) ชั้น 3 อาคารซิลลิค เฮาส์ โน้นแหนะ
ได้เอกสารและแผนที่การเดินทางมีเพียบเลยค่ะ ฟรีนะค่ะงานนี้ และเจ้าหน้าที่พูดเก้งงง เก่งงง
อยากได้อะไร หรือไม่ทราบอะไรก็สอบถามพี่เค้าได้เลยนะค่ะ
เอกสารทั้งหมดมีถุงกระดาษใส่ให้กลับมาชั่งกิโลขายที่บ้านด้วยค่ะ อิอิ ^^
จากนั้นทำการแลกเงินริงกิตจากร้านแลกแถวๆประติพัทธ์ ค่ะ ตอนที่เราไป เรทราคา อยู่ที่ 9.1 บาทต่อ 1 ริงกิต
(ไม่ใช่ 8.1 บาทต่อ 1 ริงกิตนะค่ะ เค้าขอโต๊ดดดดดด)
เริ่ดดดดดดดดด เลอออออออออออออ
เราแลกไปคนละ 5000 บาทไทยค่ะ กลับมาแลกคืนได้อีกคนละ 1500 แหนะ แสดงว่าเราใช้ไปแค่ 3500 บาทไทยเอง
และแล้ววันเดินทางก็มาถึงค่ะ แจกันที่สนามบินดอนเมือง เดินทางด้วยตัวแดงอีกแล้ววววว
Flight เราเป็น Flight เช้ามากค่ะ ไม่ค่อยมีเวลาโอ้เอ้เท่าไหร่
เพราะว่า ตม. ในสนามบินดอนเมืองคนทะลักทะลวงไส้กลวงถึงรูทวารมากค่ะ
ขนาดยืนรอ ตม. ยังลุ้นแล้ว ลุ้นอีก ว่าจะทันเครื่องมั้ยน้าาาาา
ป่ะ ขึ้นเครื่องค่ะ รอไร อิอิ
เดินทางมาประมาณ สองชั่วโมงก็มาถึง สนามบิน KLIA2 ค่ะ ใหญ่โตและใหม่มากกกกกก
อลังการงานเดินมากค่ะ เดินกว่าจะถึง ตรวจคนเข้าเมือง เล่นเอา ลิ้นห้อย
เรียกได้ว่าสนามบินนี้ สายการบินตัวแดง ครองค่ะ เพราะ Flight สีแดงเต็มตารางเลย
คือ ดี มากกกกกกกกกกกกกกกก แฮปปี้
เดินออกมาจากตรวจคนเข้าเมืองก็มาหาซื้อซิมการ์ดค่ะ ขาดไม่ได้เจงๆ
อันนี้ด้วยความที่ไม่อยากหวังน้ำบ่อหน้า เลยเข้าไปซื้อร้านตรงประตูทางออกเลยค่ะ
ไม่ได้เดินหาตามที่เค้าแนะนำกันมาในกระทู้รีวิวต่างๆมากนัก
ให้เจ้าหน้าที่เปลี่ยนให้เสร็จสรรพ จ่ายค่าเสียหายไป 25 ริงกิต ใช้งานได้ 3 วัน
แถมถ้าเน็ตหมด ก็ไปเอาคะแนนที่ได้ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าได้มาจากไหนเหมือนกัน ไปแลกได้ที่ร้านค้าที่มีสัญลักษณ์ซิมเราได้เลยค่ะ
ได้เพิ่มมาอีกลมหายใจ แฮ่ๆๆๆ มันจำเป็นจริงๆนะ อัพ อัพ อัพ แล้วก็อัพ
ได้ซิมการ์ดมาแล้ว ผู้ชายที่ร้านขายซิมทักเราเป็นภาษาไทยค่ะ "ซา หวะ เด ฮ่ะ"
ชะนีอย่าเราก็ยืน อ้าววว นี่ตูยังไม่ได้พูดอะไรเลยนะ ทำไมรู้ละ ฮ่าๆๆๆๆๆ
จากนั้นก็เดินตามป้ายบอกทางไปขึ้นรถบัสสีแดงเข้าเมืองกันค่ะ
มีให้เลือกนะค่ะว่าจะไปรถไฟหรือไปโดยรถบัส ถ้ารถไฟก็แยกไปอีกทาง
ไม่ต้องกลัวหลงนะค่ะ มีป้านบอกทางดีมากกกกกกก อ่านไม่ออกก็ดูรูปเอาค่ะ ชิลๆ
แต่ก่อนจะเดินทางไปขึ้นรถ ขอเช็คอินก่อนที่ห้องน้ำค่ะ ไม่ไหวแล้ว เกลียด Flight เช้า
ระหว่างทาง เข้าเมืองค่ะ จะผ่านบ้านเรือนซึ่งก็แยกไม่ออกว่า
ที่นี่ มาเลเซีย หรือ ว่าแถวนครศรีธรรมราช กันแน่ ฮ่าๆๆๆๆ ก็มีแต่ต้นปาล์มนี่ค่ะ
แต่ก็เพลินดีนะค่ะ มีบ้านเรือนทรงแปลกตาให้เห็นอยู่เรื่อยๆ ไม่ได้หลับเลยค่ะ เพลิ้นนน เพลินนน
พอเข้าเมืองมา ก่อนจะถึง KL Sentral ก็ผ่านย่าน Little India ค่ะ
คิดในใจ ชั้นต้องมา ชั้นต้องมา และชั้นต้องมา
พอรถมาจอดชั้นล่างสุด ของ KL Sentral เราก็หากะไดเลื่อน ขึ้นไปตั้งหลักกันก่อนค่ะ
พอขึ้นไปด้านบน จะมีเกทเยอะแยะมากมาย ไปโน่นเกทนี้ ไปนี่เกทนั้น อ้าว แล้วชั้นละ
จะไปย่าน Bukitbintang จะไปเกทไหนดี ไม่รอช้า เข้าไปถามเค้าเตอร์ตรงกลางสำหรับบอกข้อมูลเลยค่ะ
สรุป อิชั้นต้องเดินผ่านห้าง ผ่านแหล่งช๊อป เพื่อไปขึ้น Monorail เพื่อไปย่าน บูกิตบินตังค่ะ
ราคารถไฟที่นี่ไม่แพงเลยนะค่ะ ออกตรงเวลา และมาตรงเวลาดีค่ะ
การซื้อตั๋ว นางก็สะดวก สบายดี มากกก เครื่องขายตั๋วนางยอมให้หยอดเหรีญด้วยนะค่ะ
สบ๊าย สบาย เพราะชะนีใช้เหรียญของบ้านนางไม่เป็นค่ะ เอาไว้หยอดๆๆๆๆ อย่างเดียว ฮ่าๆๆๆๆ
หน้าตาขอรถไฟกินราง ที่เราจะนั่งไปที่โรงแรมเป็นแบบนี้ค่ะ
ที่เรียกว่ารถไฟกินราง เพราะว่าตอนนางวิ่ง เหมือนนางเขมือบรางไปเรื่อยๆค่ะ
ภายในรถไฟกินราง หรือ Monorail ค่ะ
แนะนำว่าหาที่จับและยึดไว้ให้ดีนะค่ะ
เพราะเวลานางเลี้ยงโค้ง เหมือนนางจะเทกระจาด
และเวลาจะขึ้นรถไฟที่กัวลาลัมเปอร์ ต้องดูดด้วยนะค่ะ ว่าเป็นตู้สำหรับผู้หญิงหรือปล่าว
ชะนีไทยแมนๆมีไข่ยืนเยี่ยว ก็วิ่งซิค่ะ เพราะโบกี้นั้น มีแต่สุภาพสตรีค่ะ 55555++
เวลารถไฟมาจอดก็สังเกตที่ข้างตัวรถไฟค่ะ ว่าเค้ามีสีชมพูดสวยสด เขียนว่า Coach for lady หรือปล่าว
นั่ง Monorail มาลงที่สถานี Bukit Bintang ค่ะ แล้วเดินไปนิดเดียวก็ถึงโรงแรมที่พักแล้วค่ะ
ที่พักก็ถือว่าโอเคนะ ขอแค่มีแอร์ มีสายฉึดตูด ก็กรี้ดลั่นห้องแล้วค่ะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ
ทำธุระส่วนตัวเสร็จ พักให้หายเหนื่อยก็ออกตะลุยกันต่อเลยค่ะ
ที่แรกที่เราจะไป ต้องออกไปนอกเมืองสักนิดนะค่ะ
เราจะไปกันที่ Sultan Salahuddin Abdul Aziz Mosque
เป็น Mosque สีฟ้าใหญ่โตอลังการมากค่ะ
(ขอยืมรูปมาจาก Google เพื่อนรักนะค่ะ)
การเดินทางก็ไม่ยากเลยค่ะ
นั่งรถไฟสาย Port KLANG Line จาก KL Sentral ไปลงสถานี Shah Alarm
ที่นั่งดีค่ะ ที่ใครที่มัน ราคาประมาณ 2 ริงกิตกว่าๆ ใช้เวลาเดินทาง ประมาณ 45 นาทีก็ถึง จากนั้นต่อแท็กซี่ประมาณ 10 ริงกิต ค่ะ
ภายในสวยงามอลังการมาก มาคนบรรยายให้ด้วยนะค่ะ
แต่แอบไม่เข้าใจ เพราะส่วนใหญ่บรรยายออกแนวเรียนวัฒนธรรมของศาสนาอิสลามค่ะ
เอ้อระเหย ลอยชาย ได้สักพักก็นั่งรถไฟกลับมาเที่ยวในเมืองกันค่ะ
ที่เที่ยวในเมืองก็ไม่ไกลกันมาก เดิน เดิน เดิน แล้วก็เดิน เดิน เดิน ค่ะ แฮ่ๆๆๆ ถามทางไปเรื่อย ไปดูรูปเอาละกันนะค่ะ
นี่เป็นตลาด Sentral Market ค่ะ ภายในมีขายของฝาก ขายของพื้นบ้าน คล้ายๆกับ JJ Mail บ้านเราค่ะ
แต่ก็เดินเพลินดี
ด้านหลังของตลาด Sentral Market ก็สวยดีนะค่ะ บ้านเมืองดูสะอาดตา ตึกรามบ้านช่องก็น่าเดินมากๆค่ะ
ตกดึกก็ไปนั่งรอดูน้ำพุประกอบแสง สี เสียง ที่ตึกแฝดค่ะ
แต่ แต่ แต่ คืนแรกไม่เจอนะค่ะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ
อิเทยสองตนไปนั่งรอเกือบชั่วโมง สรุป รอผิดฝั่งของตึก ขร่าาาาาา ฟาวไป คืนแรก
ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ การแสดงน้ำพุจะมีขึ้นที่สวนด้านหลังของตึกแฝดนะค่ะ
แต่พวกเราไปนั่งรอด้านหน้า มันคงจะมาเริงระบำให้ดูอยู่หรอกนะค่ะ ฮ่าๆๆๆ
การแสดงก็ตามตารางเลยค่ะ
สวยงามดีนะ บรรยากาศดี แถมมีวิวตึกแฝดด้วย
รูปข้างล่าง เป็นวิวด้านหน้าของตึกแผยที่กะเทยไปรอน้ำพุเก้อนะค่ะ ฮ่าๆๆๆๆ
วันต่อมาเราจะไปบุก Genting Highlands กันค่ะ
ซื้อทัวร์ได้ที่เค้าเตอร์ ใน KL Sentral ค่ะ
แต่ถ้าจะไปเช้า แนะนำให้ซื้อล่วงหน้า 1 วันนะค่ะ ไม่งั้นเต็มแน่ๆ
เราตั้งใจจะไปกันแต่เช้า แต่เต็ม แล้วก็เต็มค่ะ เลยได้รอบ 11 โมง
เวลาที่เหลือเราก็รถไฟไปเที่ยว Masjid Jamek กันค่ะ
ในวันที่ไป มีการประกวด ลิเกฮูลู ด้วย
เริ่ดดดดดดดดด ได้บรรยากาศไปอีกกกกกกกก
ได้เวลาละ เราก็กลับมาที่ KL Sental ค่ะ นั่งรถไป Genting กันดีฝ่าาาาาา
นอนหลับยาวค่ะ พอรู้สึกว่า รถเริ่มโค้งมากขึ้น แสดงว่าใกล้ถึงแล้วนะค่ะ
พอถึงแล้วเราก็ไปขึ้นกระเช้ากันได้ขร่าาาาา
วันนี้โชคดีมากกกกก ไม่มีคนเลย ไม่ต้องรอคิว สามารถขึ้นได้เลย เลือกเอา จะนั่งอันไหน ฮ่าๆๆๆๆ
ขึ้นมาด้านบนอากาศดีมากๆค่ะ ออกจะเย็นๆด้วยซ้ำ ชอบมากเลย
ไม่น่าเชื่อว่าในมาเลเซียจะมีสถานที่ที่อากาศเย็นแบบนี้อยู่ด้วย
ภายในส่วนใหญ่เป็น Casino และแหล่งบรรเทิงค่ะ
เดินเล่นไปเรื่อย ก็ไปถามเจ้าหน้าที่เพื่อหารถฟรีไปวัด Chin Swee กันค่ะ
รถฟรีจะมียู่หน้าโรงแรม First World ค่ะ ออกตามรอบนะค่ะ
ติดต่อสอบถามเจ้าหน้าที่ได้เลย บางคนพูดไทยได้ด้วย
บรรยากาศบนวัด Chin Swee ค่ะ อากาศเย็นสบายมากกกกก
ติดตามกันต่อกระทู้ตอนที่ 2 ค่ะ
http://ppantip.com/topic/34082724
[CR] เมื่อ 2 ชะนีไทย มีไข่ยืนเยี่ยว "บุก" กัวลาลัมเปอร์
วลีนี้คงไม่มีนักท่องเที่ยวหรือนักเดินทางคนไหนไม่ใช้ใช่มั้ยค่ะ,,,เราก็เช่นกัน
การเดินทางในครั้งนี้ เราเลือกที่จะเดินทางไป กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย
เพราะยังใช้สโลแกนเดิม "ตั๋วไม่ลดเราไม่บิน" ด้วยราคา เพียง 2,300 บาท (แต่อาจจะแพงไปใช่มั้ย)
การเดินทางในครั้งนี้ ไม่มีกล้องโปรตัวใหญ่ ไม่มีขาตั้งสะพายหลัง มีแต่ไอโฟนหน้าจอพังๆนี่แหละค่ะ ฮ่าๆๆๆๆ
เอาละค่ะ ครั้งนี้เราเดินทางไปกัน 2 ชะนีไทยมีไข่ยืนเยี่ยว 555555+++ กะเลยทุย ค่ะ
มีการเตรียมตัวไปค่อนข้างดีเลยทีเดียว เพราะได้ไปเก็บข้อมูลจาก
การท่องเที่ยวมาเลเซีย (สำนักงานกรุงเทพฯ) ชั้น 3 อาคารซิลลิค เฮาส์ โน้นแหนะ
ได้เอกสารและแผนที่การเดินทางมีเพียบเลยค่ะ ฟรีนะค่ะงานนี้ และเจ้าหน้าที่พูดเก้งงง เก่งงง
อยากได้อะไร หรือไม่ทราบอะไรก็สอบถามพี่เค้าได้เลยนะค่ะ
เอกสารทั้งหมดมีถุงกระดาษใส่ให้กลับมาชั่งกิโลขายที่บ้านด้วยค่ะ อิอิ ^^
จากนั้นทำการแลกเงินริงกิตจากร้านแลกแถวๆประติพัทธ์ ค่ะ ตอนที่เราไป เรทราคา อยู่ที่ 9.1 บาทต่อ 1 ริงกิต
(ไม่ใช่ 8.1 บาทต่อ 1 ริงกิตนะค่ะ เค้าขอโต๊ดดดดดด)
เริ่ดดดดดดดดด เลอออออออออออออ
เราแลกไปคนละ 5000 บาทไทยค่ะ กลับมาแลกคืนได้อีกคนละ 1500 แหนะ แสดงว่าเราใช้ไปแค่ 3500 บาทไทยเอง
และแล้ววันเดินทางก็มาถึงค่ะ แจกันที่สนามบินดอนเมือง เดินทางด้วยตัวแดงอีกแล้ววววว
Flight เราเป็น Flight เช้ามากค่ะ ไม่ค่อยมีเวลาโอ้เอ้เท่าไหร่
เพราะว่า ตม. ในสนามบินดอนเมืองคนทะลักทะลวงไส้กลวงถึงรูทวารมากค่ะ
ขนาดยืนรอ ตม. ยังลุ้นแล้ว ลุ้นอีก ว่าจะทันเครื่องมั้ยน้าาาาา
ป่ะ ขึ้นเครื่องค่ะ รอไร อิอิ
เดินทางมาประมาณ สองชั่วโมงก็มาถึง สนามบิน KLIA2 ค่ะ ใหญ่โตและใหม่มากกกกกก
อลังการงานเดินมากค่ะ เดินกว่าจะถึง ตรวจคนเข้าเมือง เล่นเอา ลิ้นห้อย
เรียกได้ว่าสนามบินนี้ สายการบินตัวแดง ครองค่ะ เพราะ Flight สีแดงเต็มตารางเลย
คือ ดี มากกกกกกกกกกกกกกกก แฮปปี้
เดินออกมาจากตรวจคนเข้าเมืองก็มาหาซื้อซิมการ์ดค่ะ ขาดไม่ได้เจงๆ
อันนี้ด้วยความที่ไม่อยากหวังน้ำบ่อหน้า เลยเข้าไปซื้อร้านตรงประตูทางออกเลยค่ะ
ไม่ได้เดินหาตามที่เค้าแนะนำกันมาในกระทู้รีวิวต่างๆมากนัก
ให้เจ้าหน้าที่เปลี่ยนให้เสร็จสรรพ จ่ายค่าเสียหายไป 25 ริงกิต ใช้งานได้ 3 วัน
แถมถ้าเน็ตหมด ก็ไปเอาคะแนนที่ได้ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าได้มาจากไหนเหมือนกัน ไปแลกได้ที่ร้านค้าที่มีสัญลักษณ์ซิมเราได้เลยค่ะ
ได้เพิ่มมาอีกลมหายใจ แฮ่ๆๆๆ มันจำเป็นจริงๆนะ อัพ อัพ อัพ แล้วก็อัพ
ได้ซิมการ์ดมาแล้ว ผู้ชายที่ร้านขายซิมทักเราเป็นภาษาไทยค่ะ "ซา หวะ เด ฮ่ะ"
ชะนีอย่าเราก็ยืน อ้าววว นี่ตูยังไม่ได้พูดอะไรเลยนะ ทำไมรู้ละ ฮ่าๆๆๆๆๆ
จากนั้นก็เดินตามป้ายบอกทางไปขึ้นรถบัสสีแดงเข้าเมืองกันค่ะ
มีให้เลือกนะค่ะว่าจะไปรถไฟหรือไปโดยรถบัส ถ้ารถไฟก็แยกไปอีกทาง
ไม่ต้องกลัวหลงนะค่ะ มีป้านบอกทางดีมากกกกกกก อ่านไม่ออกก็ดูรูปเอาค่ะ ชิลๆ
แต่ก่อนจะเดินทางไปขึ้นรถ ขอเช็คอินก่อนที่ห้องน้ำค่ะ ไม่ไหวแล้ว เกลียด Flight เช้า
ระหว่างทาง เข้าเมืองค่ะ จะผ่านบ้านเรือนซึ่งก็แยกไม่ออกว่า
ที่นี่ มาเลเซีย หรือ ว่าแถวนครศรีธรรมราช กันแน่ ฮ่าๆๆๆๆ ก็มีแต่ต้นปาล์มนี่ค่ะ
แต่ก็เพลินดีนะค่ะ มีบ้านเรือนทรงแปลกตาให้เห็นอยู่เรื่อยๆ ไม่ได้หลับเลยค่ะ เพลิ้นนน เพลินนน
พอเข้าเมืองมา ก่อนจะถึง KL Sentral ก็ผ่านย่าน Little India ค่ะ
คิดในใจ ชั้นต้องมา ชั้นต้องมา และชั้นต้องมา
พอรถมาจอดชั้นล่างสุด ของ KL Sentral เราก็หากะไดเลื่อน ขึ้นไปตั้งหลักกันก่อนค่ะ
พอขึ้นไปด้านบน จะมีเกทเยอะแยะมากมาย ไปโน่นเกทนี้ ไปนี่เกทนั้น อ้าว แล้วชั้นละ
จะไปย่าน Bukitbintang จะไปเกทไหนดี ไม่รอช้า เข้าไปถามเค้าเตอร์ตรงกลางสำหรับบอกข้อมูลเลยค่ะ
สรุป อิชั้นต้องเดินผ่านห้าง ผ่านแหล่งช๊อป เพื่อไปขึ้น Monorail เพื่อไปย่าน บูกิตบินตังค่ะ
ราคารถไฟที่นี่ไม่แพงเลยนะค่ะ ออกตรงเวลา และมาตรงเวลาดีค่ะ
การซื้อตั๋ว นางก็สะดวก สบายดี มากกก เครื่องขายตั๋วนางยอมให้หยอดเหรีญด้วยนะค่ะ
สบ๊าย สบาย เพราะชะนีใช้เหรียญของบ้านนางไม่เป็นค่ะ เอาไว้หยอดๆๆๆๆ อย่างเดียว ฮ่าๆๆๆๆ
หน้าตาขอรถไฟกินราง ที่เราจะนั่งไปที่โรงแรมเป็นแบบนี้ค่ะ
ที่เรียกว่ารถไฟกินราง เพราะว่าตอนนางวิ่ง เหมือนนางเขมือบรางไปเรื่อยๆค่ะ
ภายในรถไฟกินราง หรือ Monorail ค่ะ
แนะนำว่าหาที่จับและยึดไว้ให้ดีนะค่ะ
เพราะเวลานางเลี้ยงโค้ง เหมือนนางจะเทกระจาด
และเวลาจะขึ้นรถไฟที่กัวลาลัมเปอร์ ต้องดูดด้วยนะค่ะ ว่าเป็นตู้สำหรับผู้หญิงหรือปล่าว
ชะนีไทยแมนๆมีไข่ยืนเยี่ยว ก็วิ่งซิค่ะ เพราะโบกี้นั้น มีแต่สุภาพสตรีค่ะ 55555++
เวลารถไฟมาจอดก็สังเกตที่ข้างตัวรถไฟค่ะ ว่าเค้ามีสีชมพูดสวยสด เขียนว่า Coach for lady หรือปล่าว
นั่ง Monorail มาลงที่สถานี Bukit Bintang ค่ะ แล้วเดินไปนิดเดียวก็ถึงโรงแรมที่พักแล้วค่ะ
ที่พักก็ถือว่าโอเคนะ ขอแค่มีแอร์ มีสายฉึดตูด ก็กรี้ดลั่นห้องแล้วค่ะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ
ทำธุระส่วนตัวเสร็จ พักให้หายเหนื่อยก็ออกตะลุยกันต่อเลยค่ะ
ที่แรกที่เราจะไป ต้องออกไปนอกเมืองสักนิดนะค่ะ
เราจะไปกันที่ Sultan Salahuddin Abdul Aziz Mosque
เป็น Mosque สีฟ้าใหญ่โตอลังการมากค่ะ
(ขอยืมรูปมาจาก Google เพื่อนรักนะค่ะ)
การเดินทางก็ไม่ยากเลยค่ะ
นั่งรถไฟสาย Port KLANG Line จาก KL Sentral ไปลงสถานี Shah Alarm
ที่นั่งดีค่ะ ที่ใครที่มัน ราคาประมาณ 2 ริงกิตกว่าๆ ใช้เวลาเดินทาง ประมาณ 45 นาทีก็ถึง จากนั้นต่อแท็กซี่ประมาณ 10 ริงกิต ค่ะ
ภายในสวยงามอลังการมาก มาคนบรรยายให้ด้วยนะค่ะ
แต่แอบไม่เข้าใจ เพราะส่วนใหญ่บรรยายออกแนวเรียนวัฒนธรรมของศาสนาอิสลามค่ะ
เอ้อระเหย ลอยชาย ได้สักพักก็นั่งรถไฟกลับมาเที่ยวในเมืองกันค่ะ
ที่เที่ยวในเมืองก็ไม่ไกลกันมาก เดิน เดิน เดิน แล้วก็เดิน เดิน เดิน ค่ะ แฮ่ๆๆๆ ถามทางไปเรื่อย ไปดูรูปเอาละกันนะค่ะ
นี่เป็นตลาด Sentral Market ค่ะ ภายในมีขายของฝาก ขายของพื้นบ้าน คล้ายๆกับ JJ Mail บ้านเราค่ะ
แต่ก็เดินเพลินดี
ด้านหลังของตลาด Sentral Market ก็สวยดีนะค่ะ บ้านเมืองดูสะอาดตา ตึกรามบ้านช่องก็น่าเดินมากๆค่ะ
ตกดึกก็ไปนั่งรอดูน้ำพุประกอบแสง สี เสียง ที่ตึกแฝดค่ะ
แต่ แต่ แต่ คืนแรกไม่เจอนะค่ะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ
อิเทยสองตนไปนั่งรอเกือบชั่วโมง สรุป รอผิดฝั่งของตึก ขร่าาาาาา ฟาวไป คืนแรก
ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ การแสดงน้ำพุจะมีขึ้นที่สวนด้านหลังของตึกแฝดนะค่ะ
แต่พวกเราไปนั่งรอด้านหน้า มันคงจะมาเริงระบำให้ดูอยู่หรอกนะค่ะ ฮ่าๆๆๆ
การแสดงก็ตามตารางเลยค่ะ
สวยงามดีนะ บรรยากาศดี แถมมีวิวตึกแฝดด้วย
รูปข้างล่าง เป็นวิวด้านหน้าของตึกแผยที่กะเทยไปรอน้ำพุเก้อนะค่ะ ฮ่าๆๆๆๆ
วันต่อมาเราจะไปบุก Genting Highlands กันค่ะ
ซื้อทัวร์ได้ที่เค้าเตอร์ ใน KL Sentral ค่ะ
แต่ถ้าจะไปเช้า แนะนำให้ซื้อล่วงหน้า 1 วันนะค่ะ ไม่งั้นเต็มแน่ๆ
เราตั้งใจจะไปกันแต่เช้า แต่เต็ม แล้วก็เต็มค่ะ เลยได้รอบ 11 โมง
เวลาที่เหลือเราก็รถไฟไปเที่ยว Masjid Jamek กันค่ะ
ในวันที่ไป มีการประกวด ลิเกฮูลู ด้วย
เริ่ดดดดดดดดด ได้บรรยากาศไปอีกกกกกกกก
ได้เวลาละ เราก็กลับมาที่ KL Sental ค่ะ นั่งรถไป Genting กันดีฝ่าาาาาา
นอนหลับยาวค่ะ พอรู้สึกว่า รถเริ่มโค้งมากขึ้น แสดงว่าใกล้ถึงแล้วนะค่ะ
พอถึงแล้วเราก็ไปขึ้นกระเช้ากันได้ขร่าาาาา
วันนี้โชคดีมากกกกก ไม่มีคนเลย ไม่ต้องรอคิว สามารถขึ้นได้เลย เลือกเอา จะนั่งอันไหน ฮ่าๆๆๆๆ
ขึ้นมาด้านบนอากาศดีมากๆค่ะ ออกจะเย็นๆด้วยซ้ำ ชอบมากเลย
ไม่น่าเชื่อว่าในมาเลเซียจะมีสถานที่ที่อากาศเย็นแบบนี้อยู่ด้วย
ภายในส่วนใหญ่เป็น Casino และแหล่งบรรเทิงค่ะ
เดินเล่นไปเรื่อย ก็ไปถามเจ้าหน้าที่เพื่อหารถฟรีไปวัด Chin Swee กันค่ะ
รถฟรีจะมียู่หน้าโรงแรม First World ค่ะ ออกตามรอบนะค่ะ
ติดต่อสอบถามเจ้าหน้าที่ได้เลย บางคนพูดไทยได้ด้วย
บรรยากาศบนวัด Chin Swee ค่ะ อากาศเย็นสบายมากกกกก
ติดตามกันต่อกระทู้ตอนที่ 2 ค่ะ
http://ppantip.com/topic/34082724