คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 14
สังคมเปิดกว้างมากขึ้น การกีดกันน้อยลง
การเป็นเพศที่สามถือเป็นรสนิยมส่วนบุคคล หรือถือว่าเป็นตามลักษณะฮอร์โมนของแต่ละคน
ไม่ใช่โรคติดต่อ โรคร้ายแรง หรือเป็นอะไรที่ทำให้เสื่อมสมรรถภาพในการนึกคิด ตัดสินใจ ซึ่งองค์การอนามัยโลกออกมายืนยันเอง
คนที่เป็นโฮโมโฟเบีย หรือพวกเหยียดเพศ หรือการกระทำเหยียดเพศสังคมเดี๋ยวนี้ถือเป็นสิ่งร้ายแรง
เช่น นักแสดงตัวประกอบโพสข้อความเหยียดเพศก็โดนสังคมประนาม จนต้องออกมาขอโทษ
นักแสดงหนังที่โพสเหยียดแทกซี่เกย์ ก็โดนสังคมประนาม ก็ต้องออกมาขอโทษ
คนทำแบบสอบถามในร้านอาหารเบอเกอรี่แห่งนึงแสดงออกโดยไม่รับความเห็นเพศที่สาม ทั้งๆที่เพศที่สามเป็นลูกค้าเหมือนกัน เอาเงินมาจ่ายอุดหนุนบริการเหมือนกัน ร้านนั้นโดนด่า โดนประนาม มีจดหมายเชิญเจ้าของเรื่องไปขอโทษเป็นการใหญ่
อาจารย์ที่ออกมาแสดงความเห็นเรื่องแม่อุ้มบุญแบบเหยียดเพศที่สาม สังคมก็รุมประนามเค้า เผลอๆ อนาคตการงานของอาจารย์คนนั้นก็อาจจะสั่นคลอน
ถ้าเป็นบุคคลสาธารณะ เดี๋ยวนี้ถ้าแสดงออกเหยียดเพศ มีแต่ดับเลยนะ
ทำได้ก็แค่เก็บไว้ในใจ หรือระบายเหยียดเพศในวงเหล้า เพื่อนฝูงในกลุ่ม อยากด่าเพศที่สามก็เต็มที่เลยเพราะออกสื่อไม่ได้
แต่คนธรรมดาปกติโพสลงเฟซ หรือลงพันทิพ ก็โดนด่าแล้ว
เดี๋ยวนี้บริษัทไหน องค์กรไหนไม่รับเพศที่สาม เกย์ กะเทย ทอม สาวสอง เค้าก็ไม่ง้อ แต่ละคนเค้าก็มีการศึกษา บ้านเราไม่ได้กีดกันการศึกษาสำหรับเพศที่สาม คนที่โดนกีดกันเค้าก็จะจำเอาไว้เป็นบทเรียน ไม่งอมืองอเท้า ก็หาที่อื่นที่เค้ารับ หรือออกมาทำฟรีแลนซ์ ทำธุรกิจ ตั้งใจทำมาหากินก็รวย ก็ไม่ค่อยมีแล้วนะแบบ อุ๊ยๆๆ ร้านนี้เจ้าของเป็นตุ๊ด ไม่ซื้อแระ ถึงมีแต่คนอื่นที่เค้าไม่เหยียดเพศก็ซื้ออยู่ดี ถ้าร้านคุณดีจริง
ในเมื่อการเป็นเพศที่สามมันไม่ได้ทำให้สังคมเดือดร้อน เช่นเดียวกับเป็นชายหญิงปกติทั่วไปที่ไม่ได้ทำให้สังคมเดือดร้อน
งั้นจะเก็บจะแอบทำไม คนไหนแสดงออกได้เค้าก็แสดงออกนะ ตัวตนของตัวเอง
แต่สมัยก่อนไม่ได้เปิดกว้างขนาดนนี้ เลยดูเหมือนน้อย
ในบริบทเดียวกัน ถ้าถามว่าทำไมแถบตะวันออกกลางไม่มีกะเทยเลย แล้วจะรู้ได้ไงล่ะไม่มี
อาจจะมีแต่ต้องแอบซ่อนก็ได้
แต่เกย์ตะวันออกกลางแถวนานา สีลม เยอะมากนะ นี่บ่งบอกอะไร
มันก็บ่งบอกว่า ที่เมืองไทยเราไม่ได้รังเกียจการแสดงออกเพศที่สาม แต่ถ้าเป็นบ้านเค้าอาจมีโทษร้ายแรงก็เป็นได้ตามแต่บริบทสังคม วัฒนธรรมแต่ละที่
ปล. นี่เดือนหน้าก็จะใช้ พรบ. เพศเท่าเทียมได้แล้วด้วยนะะ เค้าประกาศในราชกิจฯ เมื่อต้นปี
มาตรา ๓ ในพระราชบัญญัตินี้
“การเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมระหว่างเพศ” หมายความว่า การกระทําหรือไม่กระทําการใด
อันเป็นการแบ่งแยก กีดกัน หรือจํากัดสิทธิประโยชน์ใด ๆ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม โดยปราศจาก
ความชอบธรรม เพราะเหตุที่บุคคลนั้นเป็นเพศชายหรือเพศหญิง หรือมีการแสดงออกที่แตกต่างจากเพศ
โดยกําเนิด
ซึ่ง พรบ.นี้คุ้มครองคนทุกเพศอยู่แล้ว แล้วที่ขีดเส้นใต้ก็คือ เค้าก็คุ้มครองเพศที่สามที่มีลักษณะแตกต่างเพศกำเนิดด้วย หมายถึง กะเทย สาวประเภทสอง ทอม ผู้ชายข้ามเพศ เพราะฉะนั้นในเมื่อสังคมเปิดกว้างมากขึ้น มีกฎหมายมาคุ้มครองมากขึ้น แทนที่จะภูมิใจในสิ่งที่ตัวเองเป็น ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน ทำไมจะต้องมาหลบซ่อน หรือถือเป็นเรื่องที่น่าอายล่ะเนอะ
การเป็นเพศที่สามถือเป็นรสนิยมส่วนบุคคล หรือถือว่าเป็นตามลักษณะฮอร์โมนของแต่ละคน
ไม่ใช่โรคติดต่อ โรคร้ายแรง หรือเป็นอะไรที่ทำให้เสื่อมสมรรถภาพในการนึกคิด ตัดสินใจ ซึ่งองค์การอนามัยโลกออกมายืนยันเอง
คนที่เป็นโฮโมโฟเบีย หรือพวกเหยียดเพศ หรือการกระทำเหยียดเพศสังคมเดี๋ยวนี้ถือเป็นสิ่งร้ายแรง
เช่น นักแสดงตัวประกอบโพสข้อความเหยียดเพศก็โดนสังคมประนาม จนต้องออกมาขอโทษ
นักแสดงหนังที่โพสเหยียดแทกซี่เกย์ ก็โดนสังคมประนาม ก็ต้องออกมาขอโทษ
คนทำแบบสอบถามในร้านอาหารเบอเกอรี่แห่งนึงแสดงออกโดยไม่รับความเห็นเพศที่สาม ทั้งๆที่เพศที่สามเป็นลูกค้าเหมือนกัน เอาเงินมาจ่ายอุดหนุนบริการเหมือนกัน ร้านนั้นโดนด่า โดนประนาม มีจดหมายเชิญเจ้าของเรื่องไปขอโทษเป็นการใหญ่
อาจารย์ที่ออกมาแสดงความเห็นเรื่องแม่อุ้มบุญแบบเหยียดเพศที่สาม สังคมก็รุมประนามเค้า เผลอๆ อนาคตการงานของอาจารย์คนนั้นก็อาจจะสั่นคลอน
ถ้าเป็นบุคคลสาธารณะ เดี๋ยวนี้ถ้าแสดงออกเหยียดเพศ มีแต่ดับเลยนะ
ทำได้ก็แค่เก็บไว้ในใจ หรือระบายเหยียดเพศในวงเหล้า เพื่อนฝูงในกลุ่ม อยากด่าเพศที่สามก็เต็มที่เลยเพราะออกสื่อไม่ได้
แต่คนธรรมดาปกติโพสลงเฟซ หรือลงพันทิพ ก็โดนด่าแล้ว
เดี๋ยวนี้บริษัทไหน องค์กรไหนไม่รับเพศที่สาม เกย์ กะเทย ทอม สาวสอง เค้าก็ไม่ง้อ แต่ละคนเค้าก็มีการศึกษา บ้านเราไม่ได้กีดกันการศึกษาสำหรับเพศที่สาม คนที่โดนกีดกันเค้าก็จะจำเอาไว้เป็นบทเรียน ไม่งอมืองอเท้า ก็หาที่อื่นที่เค้ารับ หรือออกมาทำฟรีแลนซ์ ทำธุรกิจ ตั้งใจทำมาหากินก็รวย ก็ไม่ค่อยมีแล้วนะแบบ อุ๊ยๆๆ ร้านนี้เจ้าของเป็นตุ๊ด ไม่ซื้อแระ ถึงมีแต่คนอื่นที่เค้าไม่เหยียดเพศก็ซื้ออยู่ดี ถ้าร้านคุณดีจริง
ในเมื่อการเป็นเพศที่สามมันไม่ได้ทำให้สังคมเดือดร้อน เช่นเดียวกับเป็นชายหญิงปกติทั่วไปที่ไม่ได้ทำให้สังคมเดือดร้อน
งั้นจะเก็บจะแอบทำไม คนไหนแสดงออกได้เค้าก็แสดงออกนะ ตัวตนของตัวเอง
แต่สมัยก่อนไม่ได้เปิดกว้างขนาดนนี้ เลยดูเหมือนน้อย
ในบริบทเดียวกัน ถ้าถามว่าทำไมแถบตะวันออกกลางไม่มีกะเทยเลย แล้วจะรู้ได้ไงล่ะไม่มี
อาจจะมีแต่ต้องแอบซ่อนก็ได้
แต่เกย์ตะวันออกกลางแถวนานา สีลม เยอะมากนะ นี่บ่งบอกอะไร
มันก็บ่งบอกว่า ที่เมืองไทยเราไม่ได้รังเกียจการแสดงออกเพศที่สาม แต่ถ้าเป็นบ้านเค้าอาจมีโทษร้ายแรงก็เป็นได้ตามแต่บริบทสังคม วัฒนธรรมแต่ละที่
ปล. นี่เดือนหน้าก็จะใช้ พรบ. เพศเท่าเทียมได้แล้วด้วยนะะ เค้าประกาศในราชกิจฯ เมื่อต้นปี
มาตรา ๓ ในพระราชบัญญัตินี้
“การเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมระหว่างเพศ” หมายความว่า การกระทําหรือไม่กระทําการใด
อันเป็นการแบ่งแยก กีดกัน หรือจํากัดสิทธิประโยชน์ใด ๆ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม โดยปราศจาก
ความชอบธรรม เพราะเหตุที่บุคคลนั้นเป็นเพศชายหรือเพศหญิง หรือมีการแสดงออกที่แตกต่างจากเพศ
โดยกําเนิด
ซึ่ง พรบ.นี้คุ้มครองคนทุกเพศอยู่แล้ว แล้วที่ขีดเส้นใต้ก็คือ เค้าก็คุ้มครองเพศที่สามที่มีลักษณะแตกต่างเพศกำเนิดด้วย หมายถึง กะเทย สาวประเภทสอง ทอม ผู้ชายข้ามเพศ เพราะฉะนั้นในเมื่อสังคมเปิดกว้างมากขึ้น มีกฎหมายมาคุ้มครองมากขึ้น แทนที่จะภูมิใจในสิ่งที่ตัวเองเป็น ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน ทำไมจะต้องมาหลบซ่อน หรือถือเป็นเรื่องที่น่าอายล่ะเนอะ
แสดงความคิดเห็น
ทำไมตอนนี้ตุ๊ดกะเทยเยอะจัง
คือช่วงนี้เห็นเยอะมากคือมากกว่าในอดีตเยอะเลย......
แค่สงสัยและตั้งสมมุติฐานเองล้วนๆ.....พูดง่ายๆคือเดากึ่งความน่าจะเป็น...
ขอถามก่อนว่า ตอนก่อนคลอดแม่หรือเมียหรือญาติหรือคนรู้จัก ชอบทานน้ำมะพร้าวไหม...................
....ตามความเชื่อที่ว่าดื้มน้ำมะพร้าวแล้วลูกคลอดออกมาทำให้ตัวขาว ไขมันน้อย คลอดง่าย......
อันนี้ความเชื่อแถมภาคอิสานกินกันเยอะมาก.....
ผมสังเกตดูส่วนมากเห็นชอบกินกันมาก ทั้งคนรู้จักและเพื่อนฝูง แล้วลูกที่พอโตมา
เริ่มออกอาการแต๋วที่เป็นผู้ชายนะ ส่วนผู้หญิงปกติแฮะ........
....ผมว่ามันต้องมีส่วนแน่นอน เพราะในมะพร้าวมีฮอร์โมนเอสโตรเจนเพศหญิงเยอะ และที่สำคัญมะพร้าวยังแก้ผมร่วงได้ด้วย
พูดง่ายๆก็คือ ลดฮอร์โมนเพศชายลงนั่นเอง.....อันนี้ผมสรุปเองนะครับ จากการสังเกตุ
และทดทองใช้น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ทำให้ผมร่วงน้อยลงและยังดกดำขึ้น(อันนี้ไม่ได้โฆษณาเด้อบอกก่อน)
..............ขอถามครับ....กินน้ำมะพร้าวเยอะเสี่ยงทำให้ลูกที่เกิดมาเบี่ยงเบนไหม(โดยเฉพาะเพศชาย)................