ผมแค่ กำลังตั้งคำถาม ว่าการระเบิดเมื่อคืนนี้ มันคืออะไร? หมายถึงอะไรในวันพรุ่งนี้...
แม้ว่าระเบิดเมื่อคืนนี้จะไม่ใช่ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ กทม. แต่ถ้าเป็นระเบิดเพื่อหวังผลฆ่าคนหมู่มาก
ผมว่านี่อาจจะเป็นครั้งแรกที่ผมได้รับรู้ว่ามีการวางระเบิด เพื่อเจตนาทำร้ายคนจำนวนมาก ในกลางเมืองจริงๆ
เพราะข่าวระเบิดที่ผ่านมา มักจะระเบิดกันกลางดึก ช่วงที่ไม่มีคน สร้างความตื่นตระหนก แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ
แต่ครั้งนี้ มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจนในจุดประสงค์ ของการปฏิบัติการ
ดังนั้น
ถ้าหากครั้งนี้ เป็นฝีมือของกลุ่มเสียผลประโยชน์ทางการเมือง หรือเป็นระเบิดสร้างสถานะการณ์ทางการเมือง
เราก็คงต้องกล่าวได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่า ต่อไปการต่อสู้ทางการเมือง จะไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว
มันจะไม่ใช่แค่การสร้างสถานะการณ์อีกแล้ว แต่โดยธรรมชาติของความขัดแย้งทางการเมืองทั่วโลก
ไม่มีนักการเมืองประเทศไหนเค้าสร้างสถานะการณ์ โดยการวางระเบิดทำร้ายคนหมู่มาก ในประเทศตนเอง ถ้าไม่ใช่สงครามกลางเมือง
แต่ถ้านี่เป็นการเมืองจริงๆ ก็จะทำให้ถือได้ว่าข้อขัดแย้งทางการเมือง ได้ยกระดับความรุนแรงมากขึ้นไปมาก จนคาดไม่ถึงเลย
แต่ถ้าครั้งนี้ คือการเอาคืนของผู้ก่อการร้ายสากล ตัวจริงเสียงจริง ...
คงต้องตั้งคำถามแล้วล่ะว่า เราพร้อมที่จะรับมือกับเหตุการณ์เหล่านี้หรือยัง ระบบรักษาความปลอดภัยของเราจะจัดการเรื่องนี้ได้หรือไม่
ในวันที่ผู้ก่อการร้ายอยู่แค่หน้าบ้าน อยู่แค่หน้าที่ทำงานของเรา ไม่ได้อยู่ไกลตัว แล้วมีแต่ข่าวให้เราดูอีกต่อไป
การทำสงครามกับผู้ก่อการร้าย เราพร้อมแค่ไหน กับกลุ่มบุคคล ที่มีความเชื่อแบบสุดโต่ง และการเจรจาไม่ได้ผลแบบนี้
ทั้งหมดนี้คงต้องหวังพึ่งพาผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงทั้งหลายแล้วล่ะครับ
ขออย่าได้มีครั้งที่สองเลย เพราะนั่นจะให้ประเทศดิ่งลงไปลึกกว่าเดิมอีก
ระเบิดเมื่อคืนนี้ สื่ออะไรได้บ้าง?
แม้ว่าระเบิดเมื่อคืนนี้จะไม่ใช่ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ กทม. แต่ถ้าเป็นระเบิดเพื่อหวังผลฆ่าคนหมู่มาก
ผมว่านี่อาจจะเป็นครั้งแรกที่ผมได้รับรู้ว่ามีการวางระเบิด เพื่อเจตนาทำร้ายคนจำนวนมาก ในกลางเมืองจริงๆ
เพราะข่าวระเบิดที่ผ่านมา มักจะระเบิดกันกลางดึก ช่วงที่ไม่มีคน สร้างความตื่นตระหนก แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ
แต่ครั้งนี้ มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจนในจุดประสงค์ ของการปฏิบัติการ
ดังนั้น
ถ้าหากครั้งนี้ เป็นฝีมือของกลุ่มเสียผลประโยชน์ทางการเมือง หรือเป็นระเบิดสร้างสถานะการณ์ทางการเมือง
เราก็คงต้องกล่าวได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่า ต่อไปการต่อสู้ทางการเมือง จะไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว
มันจะไม่ใช่แค่การสร้างสถานะการณ์อีกแล้ว แต่โดยธรรมชาติของความขัดแย้งทางการเมืองทั่วโลก
ไม่มีนักการเมืองประเทศไหนเค้าสร้างสถานะการณ์ โดยการวางระเบิดทำร้ายคนหมู่มาก ในประเทศตนเอง ถ้าไม่ใช่สงครามกลางเมือง
แต่ถ้านี่เป็นการเมืองจริงๆ ก็จะทำให้ถือได้ว่าข้อขัดแย้งทางการเมือง ได้ยกระดับความรุนแรงมากขึ้นไปมาก จนคาดไม่ถึงเลย
แต่ถ้าครั้งนี้ คือการเอาคืนของผู้ก่อการร้ายสากล ตัวจริงเสียงจริง ...
คงต้องตั้งคำถามแล้วล่ะว่า เราพร้อมที่จะรับมือกับเหตุการณ์เหล่านี้หรือยัง ระบบรักษาความปลอดภัยของเราจะจัดการเรื่องนี้ได้หรือไม่
ในวันที่ผู้ก่อการร้ายอยู่แค่หน้าบ้าน อยู่แค่หน้าที่ทำงานของเรา ไม่ได้อยู่ไกลตัว แล้วมีแต่ข่าวให้เราดูอีกต่อไป
การทำสงครามกับผู้ก่อการร้าย เราพร้อมแค่ไหน กับกลุ่มบุคคล ที่มีความเชื่อแบบสุดโต่ง และการเจรจาไม่ได้ผลแบบนี้
ทั้งหมดนี้คงต้องหวังพึ่งพาผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงทั้งหลายแล้วล่ะครับ
ขออย่าได้มีครั้งที่สองเลย เพราะนั่นจะให้ประเทศดิ่งลงไปลึกกว่าเดิมอีก