ถ้าเห็นความยาวกระทู้แล้วถอดใจ กรุณาเลื่อนไปดูคำถามรวบยอดด้านล่างได้เลยค่ะ ^O^
_________________
ขอบอกก่อนเลยนะคะว่าโดยส่วนตัวแล้วเป็นคนผมเล็กค่ะ แล้วก็ไม่แข็งแรงด้วย (ช่างบอกตอนสระผมเพราะแอบร่วงเยอะอยู่ ไม่รู้สินะ ตอนสระเองก็ไม่เห็นจะร่วงมากมาย หรือว่าเรานวดศีรษะเบาไปหว่า) ยิ่งกว่านั้นคือผมหยักศกกึ่งตรงค่ะ คือไม่หยักศกสลวยสวยเก๋หรือตรงทั่วไปแบบนางเอกละครนะคะ หยักศกแบบหยิกอ่อนๆ อ่อนม้ากกจนแทบไม่เหมือนคนผมหยักศกแต่เหมือนคนมัดผมจนเป็นรอยอะไรแบบนี้น่ะค่ะ อันที่จริงถ้ามันหยักกว่านี้อีกนิดก็จะตัดให้มันเป็นทรงงามๆ กะเขาอยู่หรอก แต่ความจะหยักก็ไม่หยักจะตรงก็ไม่ตรงสิคะมันจนใจ มิหนำซ้ำคือผมหน้าค่ะ ผมหน้าจะเป็นหยักอ่อนๆ รอบหนึ่งจนเห็นได้ชัดยิ่งกว่านั้นคือมันงอนปลายแถมยังเด้งเหมือนตูดเป็ดและฟูบานอีกด้วย เข้าใจไหมคะว่าผมหน้าคือชีวิตค่ะ คนเขาเวลาคุยกันจะมองหน้า และเขาก็จะเห็นผมหน้าว่าเราหน้าม้าหรือปัดข้างหรือเก็บผมเข้ากับรูปหน้าหรือไม่ คงไม่มีใครคุยไปเอี้ยวตัวดูผมหลังไปมั้งเนอะ ที่สำคัญข้างหลังยังจัดเจลได้อะไรได้แต่ข้างหน้าต้องโดนน้ำโดนเหงื่อล้างหน้าบ้าง จัดดีๆ ตอนเช้าตกเที่ยงหน่อยก็เด้งตูดเป็ดอีกละ มันไม่ได้เด้งสวยสวอนนะคะพูดเลย เหอๆ
ด้วยความรำคาญและอยากมีผมพลิ้วๆ งามๆ อย่างชาวบ้านเขามั่ง อิชั้นจึงตัดสินใจไปยืดค่ะ! แต่ด้วยความที่เศรษฐกิจไม่อู้ฟู่และยังไม่ได้มีข้อมงข้อมูลแต่อย่างใดอิชั้นจึงเต็มไปด้วยความลังเล กว่าจะรู้ตัวสองขาก็พามาถึงร้านซะแล้ว บังเอิญว่าไม่ใช่ร้านบ้านๆ นะคะ ซาลอนหน้าตาดีทีเดียวค่ะ แล้วพนักงานก็มาพาไปสระผม ระหว่างสระเขาก็ชวนคุยว่ามาทำอะไร ไอ้เราก็กำลังจะบอกว่ายืดแต่มันเกิดลังเลเลยบอกว่าตัดไปก่อน คิดในใจว่าต่อให้ต้องยืดแต่ก็ต้องตัดอยู่ดีล่ะวะ 555 (คือที่เรียนเขาบังคับความยาวผมค่ะ ช่วงนั้นกำลังเกินพอดี) ระหว่างสระก็เลียบๆ เคียงๆ ถามเขาว่าถ้าจะยืดขอยืดครึ่งหัวได้ไหม คนสระก็บอกต้องคุยกับช่าง อิชั้นแอบกัดปากในใจ ยืดครึ่งหัวมันจะดูหน้าด้านไหมนี่ แต่ถามแล้วก็ไม่มีอะไรต้องเสียแล้ว...เอ้าช่างก็ช่างวะ! พอสระเสร็จก็พาไปทำผมค่ะ ระหว่างสระทำใจมาแล้วว่าหน้าต้องด้านเลยถามเขาเต็มเสียงเลยว่า
"ยืดผมครึ่งศีรษะได้ไหมคะ"
ช่างทำหน้างงพักหนึ่งแล้วก็ตอบ...ได้ค่ะ555 ว่าแล้วนางก็สาธยายค่าทำผมให้ฟังว่าซอย 150 ค่าน้ำยาลอรีอัลอีกเท่านี้ๆ บลาๆ สรุป 800 แต่นางเห็นเราเป็นนักศึกษาจึงบอกจะลดให้เหลือ 700 แถมทรีตเม้นลอรีอัลฟรีด้วย เดี๊ยนเอ๋อเลยค่ะ 555 ราคาจริงเท็จก็ไม่มีข้อมูลซะด้วย แต่ไหนๆ ก็ขั้นนี้แล้วเลยตอบตกลง ราคาไม่ว่าขอแค่สวยเป็นพอ และต้องสวยสมกับที่แบกตูดเป็ดเด้งๆ ไว้บนผมหน้าเป็นเวลาทั้งชีวิตด้วยนะไม่งั้นไม่ยอม 555 ว่าแล้วนางก็หยิบสเปรย์มาฉีดแล้วก็นำกรรไกรขั้นมาฉับๆ ที่ผม (อิชั้นตัดด้วยค่ะ เหมารวมกับ 700 นั่นแหละ) ทรงที่ตัดคือแสกข้างค่ะ ข้างหลังยาวไม่เกินสายเสื้อใน ส่วนจะดีไซด์ทรงซอยสไลด์กิ๊บเก๋แค่ไหนก็ขอให้เป็นดุลพินิจของช่างจ้า (บ่งบอกว่าไว้ใจช่างมากกว่าสายตาตัวเอง ชีวิตเข้าร้านทำผมน้อยครั้งม้ากกก ปกติเข้าร้านหน้าปากซอยตัดให้เรียบราคา 20 บาทตลอด เริ่มเข้าร้านแพง ตัดทีประมาณ 200 ตอนเป็นสาวนี่ล่ะจ้า) ตัดสักพักหนึ่งก็เสร็จ แล้วนางก็บอกว่าต่อไปนี้จะเป็นการยืด
นางเอาถุงครีมลอรีอัลมาบีบให้อิชั้นดูเลย ว่านี่นะนางใช้ของดีให้เด็กนะจ๊ะ พอนางปาดครีมนางก็บอกวิธีดูแลผมยืดอย่างอย่าสระระหว่างสามวันรวมถึงห้ามมัดและทัดหูเช่นกัน อิชั้นก็...ห๊ะ! เจ๊บอกอะไรตอนเน้ ชีวิตประจำวันของอิชั้นวนเวียนอยู่แต่แหล่งมรสุมลมร้อน เหงื่อไหลไคลย้อย ไม่สระผมจะใช้ชีวิตยังง้ายยย ยังๆ ยังห้ามโดนน้ำอีก แม่เจ้าโว้ย กะจะไม่ให้ล้างหน้าล้างตาเลยชิมิ ที่เจ็บปวดคือห้ามมัดผม!! อย่าว่าแต่จะใช้ชีวิตยังไงเลย จะโดนจารย์จับกร้อนผมป่าวเนี่ยทีนี้ (สถานศึกษาสั่งมัดรวบหางม้าค่ะ) แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ในเมื่อปาดครีมแล้ว และที่สำคัญความอยากสวยทำให้ข่มใจได้ค่าาา ระหว่างโดนดึงโดนทึ้งในใจก็คิดหาวิธีหลีกเลี่ยงการมัดผมและสระผมสารพัด ขั้นตอนการยืดยาวนานมากกก ไม่ขอสาธยายเอาไว้วันหลังละกันจุ๊บ เอาเป็นว่าผ่านไปเกือบสี่ชั่วโมง ยาวนานที่สุดในขั้นตอนการเสริมสวยที่เคยผ่านเข้ามาในชีวิต สุดท้ายนางก็พาเราไปล้างครีมยืดออกแล้วก็ลงทรีตเม้นให้ หมักทรีตเม้นครู่หนึ่งก็ล้างแล้วไปรีดผม เป่าผม ไดร์ผม บลาๆ จนเสร็จพิธีการ! อู้วว ปาดเหงื่อ ทรงผมที่ได้มันดูตรงเรียบร้อย ไม่ทื่อน่าเกลียด แล้วยังนุ่มมากอีกด้วย รู้สึกรักผมตัวเองมากกก จากนังยุ่งกลายเป็นนังเอกแล้วเรา 555 ผมตรงพลิ้ววว รู้สึกถึงฟิลลิ่งคุณหนูสาวน้อยบอบบางอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ลมพัดมาผมก็ปลิวเหมือนฉากในละครนิยาย ฟินกับตัวเองเบาๆ สะบัดผมหน้ากระจกร้านด้วย อิๆๆ ระหว่างรอพ่อมารับต้องไปกดตังค์เลยขอออกจากร้านครู่หนึ่ง ตอนวิ่งข้ามถนนป้าขายข้าวแกงข้าง ATM มองตาไม่กะพริบเลยค่ะ สังเกตเห็นคนรอบข้างก็มองบ้างบางคน (แต่ป้าข้าวแกงนี่ชัดเจน) มีคนพึมพำว่าดูผมสิ ผมสวยพลิ้วเชียว โอ้โห! ยิ้มหน้าบานในใจค่าาา ณ วินาทีนั้นรู้สึกไม่เสียดายเงินแล้วๆๆ
เอาล่ะ... จบพาร์ทสวรรค์แล้ว
ต่อไปนี้คือชีวิตจริง
หลังจากทำผมเสร็จก็เข้าหอค่ะ (โรงเรียนประจำ) เพื่อนถามใหญ่เลยไปทำไรมา ผมดูดีนะ (อ้าว ไม่ใช่ชั้นดูดีเหรอยะ 555) อย่าค่ะ...อย่าเพิ่งลอย ถ้าย้อนเวลากลับไปได้อิชั้นจะออกราชโองการสั่งให้ดึงวิญญาณกลับร่างโดยด่วนพร้อมกับยาสลายมโนชุดใหญ่ ว่ากันว่า "มารไม่มีบารมีไม่เกิด ความสวยไม่กำเนิดหากขาดความพยายาม" แน่นอนค่ะ อุปสรรคอยู่ตรงนี้
แถ่นแท้น! เริ่มจากการอาบน้ำที่แสนลำบากยากเข็ญ ปกติไม่เก็บผมไม่ว่าจะสระหรือไม่ ชอบให้ผมเปียกน้ำค่ะบ้างมันสดชื่น แต่ตอนนี้คือห้าม ใช้หมวกคลุมอาบน้ำพลาสติกค่ะ การเก็บผมก็ย้ากยากเพราะผมเรามันนุ่มสลวยเกิน และที่สำคัญคือห้ามมัดเสียด้วย ถ้ามัดรวบแล้วค่อยใส่หมวกนี่ว่าไปอย่างแต่นี่คือไม่ไง เลยต้องใช้ความพยายามในการเก็บผมทุกเส้นใส่หมวกอย่างทุลักทุเล ต่อมาคือการอาบน้ำโดยไม่ให้น้ำเข้าผม คุณรู้ใช่มะว่าการอาบน้ำมันต้องมีเงยหน้าก้มหน้าเพื่อฟิลลิ่งในการอาบ แน่นอนอิชั้นก็ทำ สะบัดขนพั่บๆ นึกว่าตัวเองกำลังโฆษณาน้ำยาอาบน้ำหมาอยู่ก็ไม่ปาน ปรากฏว่าน้ำเข้าหมวกบ้าง เปียกไรผมด้านหน้านิดหน่อย (ตอนเห็นปอยผมหน้าเปียกเริ่มใจหาย) แล้วพออาบเสร็จก็ต้องเช็ดตัวให้แห้งก่อนโดยเฉพาะ คอ ไหล่ หลัง เพื่อไม่ให้เปียกน้ำค่ะ นี่ก็ยากเพราะโดยธรรมชาติก็ต้องชื้นบ้างไรบ้าง หลังจากนั้นคือนั่งทำงานโดยไม่มัดผม 555 สงสารตัวเองเหลือทน คนผ่านไปผ่านมานึกว่าจูออนหลุด ตัวเองก็ลำบาก จามฟุดฟิดผมเข้าตาตลอด ตอนนอนก็ระวังมากค่ะ ยกผมขึ้นข้างบน พยายามนอนหงายไม่ตะแคง พูดเลยว่าผ่านค่ำคืนไปอย่างยากลำบาก
...และแล้วยามเช้าก็มาถึง สเต็ปเดิมอาบน้ำค่ะ เก็บผมทุลักทุเลเหมือนเดิม ปกติอิชั้นจะอาบน้ำเช้าแบบสติไม่เต็มและจะเบลอจนกระทั่งแต่งตัวเสร็จ แต่เชื่อไหมคะว่าการเก็บผมโดยห้ามรวบนั้นมันใช้ความตั้งอกตั้งใจเสียจนอิชั้นตาสว่างเลยค่าาา วันนั้นกลายเป็นวันแรกที่อาบน้ำอย่างมีสติ หึหึ ไรผมหน้าเปียกเหมือนเดิม พยายามเป่าให้แห้งด้วยพัดลม มันก็ดูตรงๆ นะ หรืออาจเพราะแค่จุกเดียวยังไม่เห็นความโดดเด่นก็เป็นได้ หลังจากนี้เป็นขั้นตอนสำคัญที่สุดในสามโลกนั่นก็คือการมัดผมจ้าาาาา อิชั้นได้ยินนางบอกว่าต้องใช้ยางผ้านิ่มๆ มัดหลวมๆ นะมันจะลดความเสี่ยงได้ ก่อนเข้าหอเราก็หาซื้อยางอย่างที่นางว่าแต่มันจนปัญญาจริงๆ เลยได้ผ้ายืด (ที่คิดว่าใกล้เคียง) กับยางพลาสติกแบบเกลียว (คงเคยเห็นนะ) มาใช้ อิชั้นก็ชั่งใจเลือกไม่ถูกว่าเอาอันไหนดี สุดท้ายเลือกพลาสติกเกลียวค่ะ เพราะในจินตนาการคือมันน่าจะถนอมผมเพราะความเกลียวและร่องๆ ของมันน่าจะทำให้ผมไม่โดนบีบรัด ต่อจากนั้นก็ลงหอกินข้าวและเข้าแถวกลางแดด ถูกต้องงง...กลางแดด! อิชั้นพยายามหันหน้าหนีแสง ฉะนั้นผมจึงโดนแสงแทน เหงื่อออกค่ะ... ในห้องเรียนไม่มีแอร์ร้อนอบเหงื่อออกหนักเลย ทนไม่ไหวล้างหน้าปรากกฏว่าน้ำเปียกไรผมมม // ช่วงที่เหงื่อออกนี่คือมีปอยผมเปียกเหงื่กแนบหน้าเลยนะคะ แต่ก็พยายามเอามันขึ้นอ่ะค่ะ ในใจก็หวั่นวิตก ซวยละกุ
เพิ่งยืดได้วันเดียวทั้งน้ำทั้งเหงื่อทั้งมัดและยังทัดหูอีก จะรอดไหมกุ... ฮือออ 700 แงงงงง
ตกเย็นกลับหอ...
อิชั้นอยู่หน้ากระจกบานใหญ่ในห้องน้ำ ใช้มือแกะยางด้วยความลุ้นระทึก หัวใจเต้นตึกๆ เหมือนกลอง... ผลปรากฏว่า ว่า ว่า...
"ผมปอยที่โดนน้ำและเหงื่อทำท่าจะคลาย (มันเริ่มโค้งแล้ว) ส่วนผมที่มัดก็เป็นรอยหักๆ นิดหนึ่ง มองเผินอาจไม่เห็นแต่ถ้าทำงี้นานๆ ก็ไม่แน่"
จะว่าแย่ก็แย่ เพราะเพิ่งยืด ยืดครั้งแรก คาดหวังแรงมาก จะว่าดีก็ดี ทรหดขนาดนี้...ได้แค่นี้ก็ควรพอใจ // พอไม่ลง 700 นะยะ TTOTT
และนี่คือเรื่องที่ต้องการความช่วยเหลือค่ะ
1. ขอวิธีเก็บผมแบบง่ายๆ ผมไม่หลุด และไม่มัด น้ำไม่เข้าค่ะ
2. ขอวิธีมัดผมยามจำเป็น แนะนำยางหรือวิธีมัด เช่น พยายามปล่อยเมื่อมีเวลาว่างอะไรงี้
3. ขอวิธีให้ผมเปียกน้ำเปียกเหงื่อได้รับผลกระทบน้อยที่สุด เช่นใช้ผ้าลูบน้ำออก หรือเป่าให้แห้ง
4. ต่อจากข้อสามค่ะ คือในกรณีที่มันเริ่มคลาย (คลายปอยเดียว) มันมีวิธีแก้ฉุกเฉินไหม ถ้าไม่มีจะยืดอีกครั้งโดยขอให้ร้านยืดให้แค่ปอยเดียวจะได้ไหมคะ
5. ส่วนผมที่ถูกมัดจนเริ่มจะหงิกเป็นรอยตามที่มัดนั้นสามารถแก้ฉุกเฉินยังไงได้บ้าง
6. เมื่อกลับมาบ้านผมว่าผมที่แสกข้างนั้นยังแสกไม่เยอะพอ อยากให้แสกมากกว่านี้ จะไปตัดซ้ำหรือแก้ไขได้หรือไม่ เห็นมีคนบอกว่าควรตัดก่อนยืด ยืดแล้วอยากตัด (แต่อยากตัดมากจริงๆ นะ ตัดให้ผมแสกข้างปริมาณมากกว่านี้ค่ะ พอจะมีวิธีไหมคะ)
7. ทั้งนี้ทั้งนั้นเมื่อปัญหาทั้งหมดไม่มีวิธีแก้แล้วจริงๆ การขอยืดซ้ำ (ทั้งหมด) ในช่วงเวลากระชั้นชิดแบบนี้จะส่งผลอะไรมากหรือไม่ หรือต้องทิ้งระยะนานแค่ไหนถึงจะยืดซ้ำได้คะ
____________________
ขอขอบคุณและแสดงความชมเชยสำหรับคนที่อ่านจบทุกบรรทัดจนถึงตรงนี้ค่ะ อิชั้นพิมพ์ยังเหนื่อยเลย // นับถือๆ !
แต่ขอยืนยันค่ะว่าถ้าไม่นับเรื่องมัด, โดนน้ำผลลัพธ์ออกมา (น่าจะ) ประทับใจมากจริงๆ (เพราะยังไม่ถึงสามวัน ยังไม่อยู่ตัวเลยไม่กล้าฟันธง แต่ ณ ตอนนี้ยังอยู่ในขั้นพอใจค่ะ) คิดไม่ถึงว่าตูดเป็ดจะกลายเป็นตรง นุ่ม สลวย พลิ้วได้ขนาดนี้ // หรือนี่คือพลังของลอรีอัลและของแพงทั้งหลาย อืมๆ น่าคิดๆ
และสุดท้าย ขอให้สาวๆ (และหนุ่มๆ) ที่คิดจะยืดผมนำประสบการณ์ของอิชั้นไปขบคิดก่อนยืด เพราะปัญหาหลายแหล่พวกนี้คุณก็ต้องเจอเหมือนกัน 555 หวังว่าทั้งหมดที่ว่ามาจะเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจให้คนกำลังจะยืดผม ไม่มากก็น้อยนะคะ รักษาสภาพผมให้ดีด้วยล่ะ โอเค๊!
(ยาว) สำหรับคนที่คิดจะยืดผม รีวิวประสบการณ์ยืดครั้งแรก พร้อมปัญหาที่ต้องการผู้รู้แนะนะค่ะ
_________________
ขอบอกก่อนเลยนะคะว่าโดยส่วนตัวแล้วเป็นคนผมเล็กค่ะ แล้วก็ไม่แข็งแรงด้วย (ช่างบอกตอนสระผมเพราะแอบร่วงเยอะอยู่ ไม่รู้สินะ ตอนสระเองก็ไม่เห็นจะร่วงมากมาย หรือว่าเรานวดศีรษะเบาไปหว่า) ยิ่งกว่านั้นคือผมหยักศกกึ่งตรงค่ะ คือไม่หยักศกสลวยสวยเก๋หรือตรงทั่วไปแบบนางเอกละครนะคะ หยักศกแบบหยิกอ่อนๆ อ่อนม้ากกจนแทบไม่เหมือนคนผมหยักศกแต่เหมือนคนมัดผมจนเป็นรอยอะไรแบบนี้น่ะค่ะ อันที่จริงถ้ามันหยักกว่านี้อีกนิดก็จะตัดให้มันเป็นทรงงามๆ กะเขาอยู่หรอก แต่ความจะหยักก็ไม่หยักจะตรงก็ไม่ตรงสิคะมันจนใจ มิหนำซ้ำคือผมหน้าค่ะ ผมหน้าจะเป็นหยักอ่อนๆ รอบหนึ่งจนเห็นได้ชัดยิ่งกว่านั้นคือมันงอนปลายแถมยังเด้งเหมือนตูดเป็ดและฟูบานอีกด้วย เข้าใจไหมคะว่าผมหน้าคือชีวิตค่ะ คนเขาเวลาคุยกันจะมองหน้า และเขาก็จะเห็นผมหน้าว่าเราหน้าม้าหรือปัดข้างหรือเก็บผมเข้ากับรูปหน้าหรือไม่ คงไม่มีใครคุยไปเอี้ยวตัวดูผมหลังไปมั้งเนอะ ที่สำคัญข้างหลังยังจัดเจลได้อะไรได้แต่ข้างหน้าต้องโดนน้ำโดนเหงื่อล้างหน้าบ้าง จัดดีๆ ตอนเช้าตกเที่ยงหน่อยก็เด้งตูดเป็ดอีกละ มันไม่ได้เด้งสวยสวอนนะคะพูดเลย เหอๆ
ด้วยความรำคาญและอยากมีผมพลิ้วๆ งามๆ อย่างชาวบ้านเขามั่ง อิชั้นจึงตัดสินใจไปยืดค่ะ! แต่ด้วยความที่เศรษฐกิจไม่อู้ฟู่และยังไม่ได้มีข้อมงข้อมูลแต่อย่างใดอิชั้นจึงเต็มไปด้วยความลังเล กว่าจะรู้ตัวสองขาก็พามาถึงร้านซะแล้ว บังเอิญว่าไม่ใช่ร้านบ้านๆ นะคะ ซาลอนหน้าตาดีทีเดียวค่ะ แล้วพนักงานก็มาพาไปสระผม ระหว่างสระเขาก็ชวนคุยว่ามาทำอะไร ไอ้เราก็กำลังจะบอกว่ายืดแต่มันเกิดลังเลเลยบอกว่าตัดไปก่อน คิดในใจว่าต่อให้ต้องยืดแต่ก็ต้องตัดอยู่ดีล่ะวะ 555 (คือที่เรียนเขาบังคับความยาวผมค่ะ ช่วงนั้นกำลังเกินพอดี) ระหว่างสระก็เลียบๆ เคียงๆ ถามเขาว่าถ้าจะยืดขอยืดครึ่งหัวได้ไหม คนสระก็บอกต้องคุยกับช่าง อิชั้นแอบกัดปากในใจ ยืดครึ่งหัวมันจะดูหน้าด้านไหมนี่ แต่ถามแล้วก็ไม่มีอะไรต้องเสียแล้ว...เอ้าช่างก็ช่างวะ! พอสระเสร็จก็พาไปทำผมค่ะ ระหว่างสระทำใจมาแล้วว่าหน้าต้องด้านเลยถามเขาเต็มเสียงเลยว่า
ช่างทำหน้างงพักหนึ่งแล้วก็ตอบ...ได้ค่ะ555 ว่าแล้วนางก็สาธยายค่าทำผมให้ฟังว่าซอย 150 ค่าน้ำยาลอรีอัลอีกเท่านี้ๆ บลาๆ สรุป 800 แต่นางเห็นเราเป็นนักศึกษาจึงบอกจะลดให้เหลือ 700 แถมทรีตเม้นลอรีอัลฟรีด้วย เดี๊ยนเอ๋อเลยค่ะ 555 ราคาจริงเท็จก็ไม่มีข้อมูลซะด้วย แต่ไหนๆ ก็ขั้นนี้แล้วเลยตอบตกลง ราคาไม่ว่าขอแค่สวยเป็นพอ และต้องสวยสมกับที่แบกตูดเป็ดเด้งๆ ไว้บนผมหน้าเป็นเวลาทั้งชีวิตด้วยนะไม่งั้นไม่ยอม 555 ว่าแล้วนางก็หยิบสเปรย์มาฉีดแล้วก็นำกรรไกรขั้นมาฉับๆ ที่ผม (อิชั้นตัดด้วยค่ะ เหมารวมกับ 700 นั่นแหละ) ทรงที่ตัดคือแสกข้างค่ะ ข้างหลังยาวไม่เกินสายเสื้อใน ส่วนจะดีไซด์ทรงซอยสไลด์กิ๊บเก๋แค่ไหนก็ขอให้เป็นดุลพินิจของช่างจ้า (บ่งบอกว่าไว้ใจช่างมากกว่าสายตาตัวเอง ชีวิตเข้าร้านทำผมน้อยครั้งม้ากกก ปกติเข้าร้านหน้าปากซอยตัดให้เรียบราคา 20 บาทตลอด เริ่มเข้าร้านแพง ตัดทีประมาณ 200 ตอนเป็นสาวนี่ล่ะจ้า) ตัดสักพักหนึ่งก็เสร็จ แล้วนางก็บอกว่าต่อไปนี้จะเป็นการยืด
นางเอาถุงครีมลอรีอัลมาบีบให้อิชั้นดูเลย ว่านี่นะนางใช้ของดีให้เด็กนะจ๊ะ พอนางปาดครีมนางก็บอกวิธีดูแลผมยืดอย่างอย่าสระระหว่างสามวันรวมถึงห้ามมัดและทัดหูเช่นกัน อิชั้นก็...ห๊ะ! เจ๊บอกอะไรตอนเน้ ชีวิตประจำวันของอิชั้นวนเวียนอยู่แต่แหล่งมรสุมลมร้อน เหงื่อไหลไคลย้อย ไม่สระผมจะใช้ชีวิตยังง้ายยย ยังๆ ยังห้ามโดนน้ำอีก แม่เจ้าโว้ย กะจะไม่ให้ล้างหน้าล้างตาเลยชิมิ ที่เจ็บปวดคือห้ามมัดผม!! อย่าว่าแต่จะใช้ชีวิตยังไงเลย จะโดนจารย์จับกร้อนผมป่าวเนี่ยทีนี้ (สถานศึกษาสั่งมัดรวบหางม้าค่ะ) แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ในเมื่อปาดครีมแล้ว และที่สำคัญความอยากสวยทำให้ข่มใจได้ค่าาา ระหว่างโดนดึงโดนทึ้งในใจก็คิดหาวิธีหลีกเลี่ยงการมัดผมและสระผมสารพัด ขั้นตอนการยืดยาวนานมากกก ไม่ขอสาธยายเอาไว้วันหลังละกันจุ๊บ เอาเป็นว่าผ่านไปเกือบสี่ชั่วโมง ยาวนานที่สุดในขั้นตอนการเสริมสวยที่เคยผ่านเข้ามาในชีวิต สุดท้ายนางก็พาเราไปล้างครีมยืดออกแล้วก็ลงทรีตเม้นให้ หมักทรีตเม้นครู่หนึ่งก็ล้างแล้วไปรีดผม เป่าผม ไดร์ผม บลาๆ จนเสร็จพิธีการ! อู้วว ปาดเหงื่อ ทรงผมที่ได้มันดูตรงเรียบร้อย ไม่ทื่อน่าเกลียด แล้วยังนุ่มมากอีกด้วย รู้สึกรักผมตัวเองมากกก จากนังยุ่งกลายเป็นนังเอกแล้วเรา 555 ผมตรงพลิ้ววว รู้สึกถึงฟิลลิ่งคุณหนูสาวน้อยบอบบางอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ลมพัดมาผมก็ปลิวเหมือนฉากในละครนิยาย ฟินกับตัวเองเบาๆ สะบัดผมหน้ากระจกร้านด้วย อิๆๆ ระหว่างรอพ่อมารับต้องไปกดตังค์เลยขอออกจากร้านครู่หนึ่ง ตอนวิ่งข้ามถนนป้าขายข้าวแกงข้าง ATM มองตาไม่กะพริบเลยค่ะ สังเกตเห็นคนรอบข้างก็มองบ้างบางคน (แต่ป้าข้าวแกงนี่ชัดเจน) มีคนพึมพำว่าดูผมสิ ผมสวยพลิ้วเชียว โอ้โห! ยิ้มหน้าบานในใจค่าาา ณ วินาทีนั้นรู้สึกไม่เสียดายเงินแล้วๆๆ
เอาล่ะ... จบพาร์ทสวรรค์แล้ว ต่อไปนี้คือชีวิตจริง
หลังจากทำผมเสร็จก็เข้าหอค่ะ (โรงเรียนประจำ) เพื่อนถามใหญ่เลยไปทำไรมา ผมดูดีนะ (อ้าว ไม่ใช่ชั้นดูดีเหรอยะ 555) อย่าค่ะ...อย่าเพิ่งลอย ถ้าย้อนเวลากลับไปได้อิชั้นจะออกราชโองการสั่งให้ดึงวิญญาณกลับร่างโดยด่วนพร้อมกับยาสลายมโนชุดใหญ่ ว่ากันว่า "มารไม่มีบารมีไม่เกิด ความสวยไม่กำเนิดหากขาดความพยายาม" แน่นอนค่ะ อุปสรรคอยู่ตรงนี้
แถ่นแท้น! เริ่มจากการอาบน้ำที่แสนลำบากยากเข็ญ ปกติไม่เก็บผมไม่ว่าจะสระหรือไม่ ชอบให้ผมเปียกน้ำค่ะบ้างมันสดชื่น แต่ตอนนี้คือห้าม ใช้หมวกคลุมอาบน้ำพลาสติกค่ะ การเก็บผมก็ย้ากยากเพราะผมเรามันนุ่มสลวยเกิน และที่สำคัญคือห้ามมัดเสียด้วย ถ้ามัดรวบแล้วค่อยใส่หมวกนี่ว่าไปอย่างแต่นี่คือไม่ไง เลยต้องใช้ความพยายามในการเก็บผมทุกเส้นใส่หมวกอย่างทุลักทุเล ต่อมาคือการอาบน้ำโดยไม่ให้น้ำเข้าผม คุณรู้ใช่มะว่าการอาบน้ำมันต้องมีเงยหน้าก้มหน้าเพื่อฟิลลิ่งในการอาบ แน่นอนอิชั้นก็ทำ สะบัดขนพั่บๆ นึกว่าตัวเองกำลังโฆษณาน้ำยาอาบน้ำหมาอยู่ก็ไม่ปาน ปรากฏว่าน้ำเข้าหมวกบ้าง เปียกไรผมด้านหน้านิดหน่อย (ตอนเห็นปอยผมหน้าเปียกเริ่มใจหาย) แล้วพออาบเสร็จก็ต้องเช็ดตัวให้แห้งก่อนโดยเฉพาะ คอ ไหล่ หลัง เพื่อไม่ให้เปียกน้ำค่ะ นี่ก็ยากเพราะโดยธรรมชาติก็ต้องชื้นบ้างไรบ้าง หลังจากนั้นคือนั่งทำงานโดยไม่มัดผม 555 สงสารตัวเองเหลือทน คนผ่านไปผ่านมานึกว่าจูออนหลุด ตัวเองก็ลำบาก จามฟุดฟิดผมเข้าตาตลอด ตอนนอนก็ระวังมากค่ะ ยกผมขึ้นข้างบน พยายามนอนหงายไม่ตะแคง พูดเลยว่าผ่านค่ำคืนไปอย่างยากลำบาก
...และแล้วยามเช้าก็มาถึง สเต็ปเดิมอาบน้ำค่ะ เก็บผมทุลักทุเลเหมือนเดิม ปกติอิชั้นจะอาบน้ำเช้าแบบสติไม่เต็มและจะเบลอจนกระทั่งแต่งตัวเสร็จ แต่เชื่อไหมคะว่าการเก็บผมโดยห้ามรวบนั้นมันใช้ความตั้งอกตั้งใจเสียจนอิชั้นตาสว่างเลยค่าาา วันนั้นกลายเป็นวันแรกที่อาบน้ำอย่างมีสติ หึหึ ไรผมหน้าเปียกเหมือนเดิม พยายามเป่าให้แห้งด้วยพัดลม มันก็ดูตรงๆ นะ หรืออาจเพราะแค่จุกเดียวยังไม่เห็นความโดดเด่นก็เป็นได้ หลังจากนี้เป็นขั้นตอนสำคัญที่สุดในสามโลกนั่นก็คือการมัดผมจ้าาาาา อิชั้นได้ยินนางบอกว่าต้องใช้ยางผ้านิ่มๆ มัดหลวมๆ นะมันจะลดความเสี่ยงได้ ก่อนเข้าหอเราก็หาซื้อยางอย่างที่นางว่าแต่มันจนปัญญาจริงๆ เลยได้ผ้ายืด (ที่คิดว่าใกล้เคียง) กับยางพลาสติกแบบเกลียว (คงเคยเห็นนะ) มาใช้ อิชั้นก็ชั่งใจเลือกไม่ถูกว่าเอาอันไหนดี สุดท้ายเลือกพลาสติกเกลียวค่ะ เพราะในจินตนาการคือมันน่าจะถนอมผมเพราะความเกลียวและร่องๆ ของมันน่าจะทำให้ผมไม่โดนบีบรัด ต่อจากนั้นก็ลงหอกินข้าวและเข้าแถวกลางแดด ถูกต้องงง...กลางแดด! อิชั้นพยายามหันหน้าหนีแสง ฉะนั้นผมจึงโดนแสงแทน เหงื่อออกค่ะ... ในห้องเรียนไม่มีแอร์ร้อนอบเหงื่อออกหนักเลย ทนไม่ไหวล้างหน้าปรากกฏว่าน้ำเปียกไรผมมม // ช่วงที่เหงื่อออกนี่คือมีปอยผมเปียกเหงื่กแนบหน้าเลยนะคะ แต่ก็พยายามเอามันขึ้นอ่ะค่ะ ในใจก็หวั่นวิตก ซวยละกุ เพิ่งยืดได้วันเดียวทั้งน้ำทั้งเหงื่อทั้งมัดและยังทัดหูอีก จะรอดไหมกุ... ฮือออ 700 แงงงงง
ตกเย็นกลับหอ...
อิชั้นอยู่หน้ากระจกบานใหญ่ในห้องน้ำ ใช้มือแกะยางด้วยความลุ้นระทึก หัวใจเต้นตึกๆ เหมือนกลอง... ผลปรากฏว่า ว่า ว่า...
"ผมปอยที่โดนน้ำและเหงื่อทำท่าจะคลาย (มันเริ่มโค้งแล้ว) ส่วนผมที่มัดก็เป็นรอยหักๆ นิดหนึ่ง มองเผินอาจไม่เห็นแต่ถ้าทำงี้นานๆ ก็ไม่แน่"
จะว่าแย่ก็แย่ เพราะเพิ่งยืด ยืดครั้งแรก คาดหวังแรงมาก จะว่าดีก็ดี ทรหดขนาดนี้...ได้แค่นี้ก็ควรพอใจ // พอไม่ลง 700 นะยะ TTOTT
และนี่คือเรื่องที่ต้องการความช่วยเหลือค่ะ
1. ขอวิธีเก็บผมแบบง่ายๆ ผมไม่หลุด และไม่มัด น้ำไม่เข้าค่ะ
2. ขอวิธีมัดผมยามจำเป็น แนะนำยางหรือวิธีมัด เช่น พยายามปล่อยเมื่อมีเวลาว่างอะไรงี้
3. ขอวิธีให้ผมเปียกน้ำเปียกเหงื่อได้รับผลกระทบน้อยที่สุด เช่นใช้ผ้าลูบน้ำออก หรือเป่าให้แห้ง
4. ต่อจากข้อสามค่ะ คือในกรณีที่มันเริ่มคลาย (คลายปอยเดียว) มันมีวิธีแก้ฉุกเฉินไหม ถ้าไม่มีจะยืดอีกครั้งโดยขอให้ร้านยืดให้แค่ปอยเดียวจะได้ไหมคะ
5. ส่วนผมที่ถูกมัดจนเริ่มจะหงิกเป็นรอยตามที่มัดนั้นสามารถแก้ฉุกเฉินยังไงได้บ้าง
6. เมื่อกลับมาบ้านผมว่าผมที่แสกข้างนั้นยังแสกไม่เยอะพอ อยากให้แสกมากกว่านี้ จะไปตัดซ้ำหรือแก้ไขได้หรือไม่ เห็นมีคนบอกว่าควรตัดก่อนยืด ยืดแล้วอยากตัด (แต่อยากตัดมากจริงๆ นะ ตัดให้ผมแสกข้างปริมาณมากกว่านี้ค่ะ พอจะมีวิธีไหมคะ)
7. ทั้งนี้ทั้งนั้นเมื่อปัญหาทั้งหมดไม่มีวิธีแก้แล้วจริงๆ การขอยืดซ้ำ (ทั้งหมด) ในช่วงเวลากระชั้นชิดแบบนี้จะส่งผลอะไรมากหรือไม่ หรือต้องทิ้งระยะนานแค่ไหนถึงจะยืดซ้ำได้คะ
____________________
ขอขอบคุณและแสดงความชมเชยสำหรับคนที่อ่านจบทุกบรรทัดจนถึงตรงนี้ค่ะ อิชั้นพิมพ์ยังเหนื่อยเลย // นับถือๆ !
แต่ขอยืนยันค่ะว่าถ้าไม่นับเรื่องมัด, โดนน้ำผลลัพธ์ออกมา (น่าจะ) ประทับใจมากจริงๆ (เพราะยังไม่ถึงสามวัน ยังไม่อยู่ตัวเลยไม่กล้าฟันธง แต่ ณ ตอนนี้ยังอยู่ในขั้นพอใจค่ะ) คิดไม่ถึงว่าตูดเป็ดจะกลายเป็นตรง นุ่ม สลวย พลิ้วได้ขนาดนี้ // หรือนี่คือพลังของลอรีอัลและของแพงทั้งหลาย อืมๆ น่าคิดๆ
และสุดท้าย ขอให้สาวๆ (และหนุ่มๆ) ที่คิดจะยืดผมนำประสบการณ์ของอิชั้นไปขบคิดก่อนยืด เพราะปัญหาหลายแหล่พวกนี้คุณก็ต้องเจอเหมือนกัน 555 หวังว่าทั้งหมดที่ว่ามาจะเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจให้คนกำลังจะยืดผม ไม่มากก็น้อยนะคะ รักษาสภาพผมให้ดีด้วยล่ะ โอเค๊!