บ่ายแก่ๆ ของวันที่ 17 สิงหาคม ผมทิ้งตัวลงบนที่นอน
เพื่อพักผ่อนจากความเหนื่อยล้าตลอดทั้งเมื่อวานที่ผ่านมา....
เมื่อถึงเวลาอันพอเหมาะพอควรเสียงเตือน ทั้งไลน์ ทั้งเฟซบุค
เริ่มดังขึ้นมาในความเงียบ ภาพต่างๆปรากฏขึ้นบนหน้า Feed อย่างไม่ขาดสาย
ภาพความยิ่งใหญ่ ของหมู่มวลประชาชนเสื้อสีฟ้าที่พากันเอาจักรยานคู่กายออกมา
ร่วมกันปั่นจักรยาน เพื่อถวาย แม่ของแผ่นดิน....
หลายครั้งรูปที่ปรากฏขึ้นเหล่านั้น ก็มีรูปทีมของเรา
ไปปรากฏอยู่ด้วยในฐานะของทีมรับเชิญที่ทางสมาคมจักรยานเพื่อสุขภาพไทย
ได้มาขอความร่วมมือให้เราไปช่วยดูแลขบวนประชาชนที่ไม่ได้ลงทะเบียน
หลายคนที่รู้จักก็เริ่มส่งรูปมาให้
“นี่ทีมพี่ใช่ไหมครับ”
“ขอบคุณนะครับที่มาช่วยงาน”
“เอารูปมาฝากครับ”.....
ผมเลื่อนดูภาพไปเรื่ยๆอย่างมีความสุข
จนกระทั้งไลน์ของผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้น
ผู้ชายคนที่ผมเรียกเขามาทั้งชีวิตว่า “พ่อ”
สิ่งที่เด้งขึ้นมาจากไลน์ของพ่อ คือขบวนจักรยานเล็กๆขบวนหนึ่ง
ซึ่งแตกต่างจากขบวนประชาชนนับหมื่นที่ผมได้เจอมาเมื่อวานมากนัก
ในขบวนประกอบไปด้วย
เด็กน้อยตัวเล็กๆ ใส่เสื้อสีฟ้าอย่างพร้อมเพรียงหน้าจักรยานของเด็กๆ
มีลายมือที่ผมคุ้นเคย เขียนว่า“โรงเรียนวัดบ้านวังดินดาด ปั่นเพื่อแม่”
ใช่ครับ มันคือโรงเรียนเล็กๆของพ่อ ที่เป็นครูที่นี่มากว่าค่อนชีวิต
ขบวนเห็นในภาพ ไม่ได้มีการสแกนบาร์โค้ดเพื่อเก็บเวิร์ลเรคคอร์ด
ขบวนเห็นในภาพ ไม่ได้ลงทะเบียนทั้งออนไลน์และออฟไลน์
ขบวนเห็นในภาพ ไม่ได้มีจักรยานสวยงามราคาแพง
ขบวนเห็นในภาพ ไม่ได้มีพิธีรีตรองอะไรมากมาย
ขบวนเห็นในภาพ ไม่ได้ผ่านถนนที่มีการประดับประดาสวยงาม
บางช่วงลาดยาง บางช่วงเป็นทางลูกรังตามประสาถนนต่างจังหวัด
ขบวนเห็นในภาพ ไม่ได้มีทีมเซอร์วิส มีบริการมากมาย
มีแต่ชาวบ้านที่มาช่วยกันดูแลลูกหลานคนละไม้ละมือ
แต่.....ขบวนเห็นในภาพ
กลับมีใบหน้าที่ตั้งใจแน่วแน่...และเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่มีความสุข
เฉกเช่นเดียวกับขบวนใหญ่ ที่ผมได้ผ่านมาเมื่อวานนี้
จนผมไปสะดุดกับรูปใบหนึ่ง ที่ผมไม่เคยเห็นมาเลยทั้งชีวิต
คือรูปของพ่อ...ที่ปั่นจักรยาน บนหลังจักรยานคันแรกที่พาผม
จากมือใหม่ที่แทบไม่เคยปั่นจักรยาน มาจนวันที่จักรยานกับชีวิตผมแทบแยกกันไม่ออก
รอยยิ้ม กับน้ำตามันมาจากไหนไม่รู้ผมเห็นภาพพ่อที่รักเด็กๆ จัดกิจกรรมโดยที่ไม่สนใจ
ว่าจะมีใครมาบันทึกสถิติไหมขอให้ชาวบ้านและเด็กๆได้ทำกิจกรรมร่วมกันอย่างมีความสุข
ตอนนี้ผมเริ่มไม่แปลกใจแล้วว่านิสัยของผมติดมาจากใครที่ไหน
ขอบคุณพ่อ ที่ส่งรูปเหล่านี้ มาเป็นแรงบันดาลใจให้ลูกคนนี้อีกครั้ง
ขอบคุณทุกหน่วยงานที่ทำให้เกิดกิจกรรมในครั้งนี้
และขอบคุณจักรยาน...ที่ทำให้งานของผมกับพ่อ กลายเป็นงานเดียวกันเป็นครั้งแรกในชีวิต
Latae Coffee
:Alley Cyclist Admin:
"ปั่นโดยพ่อ...ปั่นเพื่อแม่”
เพื่อพักผ่อนจากความเหนื่อยล้าตลอดทั้งเมื่อวานที่ผ่านมา....
เมื่อถึงเวลาอันพอเหมาะพอควรเสียงเตือน ทั้งไลน์ ทั้งเฟซบุค
เริ่มดังขึ้นมาในความเงียบ ภาพต่างๆปรากฏขึ้นบนหน้า Feed อย่างไม่ขาดสาย
ภาพความยิ่งใหญ่ ของหมู่มวลประชาชนเสื้อสีฟ้าที่พากันเอาจักรยานคู่กายออกมา
ร่วมกันปั่นจักรยาน เพื่อถวาย แม่ของแผ่นดิน....
หลายครั้งรูปที่ปรากฏขึ้นเหล่านั้น ก็มีรูปทีมของเรา
ไปปรากฏอยู่ด้วยในฐานะของทีมรับเชิญที่ทางสมาคมจักรยานเพื่อสุขภาพไทย
ได้มาขอความร่วมมือให้เราไปช่วยดูแลขบวนประชาชนที่ไม่ได้ลงทะเบียน
หลายคนที่รู้จักก็เริ่มส่งรูปมาให้
“นี่ทีมพี่ใช่ไหมครับ”
“ขอบคุณนะครับที่มาช่วยงาน”
“เอารูปมาฝากครับ”.....
ผมเลื่อนดูภาพไปเรื่ยๆอย่างมีความสุข
จนกระทั้งไลน์ของผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้น
ผู้ชายคนที่ผมเรียกเขามาทั้งชีวิตว่า “พ่อ”
สิ่งที่เด้งขึ้นมาจากไลน์ของพ่อ คือขบวนจักรยานเล็กๆขบวนหนึ่ง
ซึ่งแตกต่างจากขบวนประชาชนนับหมื่นที่ผมได้เจอมาเมื่อวานมากนัก
ในขบวนประกอบไปด้วย
เด็กน้อยตัวเล็กๆ ใส่เสื้อสีฟ้าอย่างพร้อมเพรียงหน้าจักรยานของเด็กๆ
มีลายมือที่ผมคุ้นเคย เขียนว่า“โรงเรียนวัดบ้านวังดินดาด ปั่นเพื่อแม่”
ใช่ครับ มันคือโรงเรียนเล็กๆของพ่อ ที่เป็นครูที่นี่มากว่าค่อนชีวิต
ขบวนเห็นในภาพ ไม่ได้มีการสแกนบาร์โค้ดเพื่อเก็บเวิร์ลเรคคอร์ด
ขบวนเห็นในภาพ ไม่ได้ลงทะเบียนทั้งออนไลน์และออฟไลน์
ขบวนเห็นในภาพ ไม่ได้มีจักรยานสวยงามราคาแพง
ขบวนเห็นในภาพ ไม่ได้มีพิธีรีตรองอะไรมากมาย
ขบวนเห็นในภาพ ไม่ได้ผ่านถนนที่มีการประดับประดาสวยงาม
บางช่วงลาดยาง บางช่วงเป็นทางลูกรังตามประสาถนนต่างจังหวัด
ขบวนเห็นในภาพ ไม่ได้มีทีมเซอร์วิส มีบริการมากมาย
มีแต่ชาวบ้านที่มาช่วยกันดูแลลูกหลานคนละไม้ละมือ
แต่.....ขบวนเห็นในภาพ
กลับมีใบหน้าที่ตั้งใจแน่วแน่...และเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่มีความสุข
เฉกเช่นเดียวกับขบวนใหญ่ ที่ผมได้ผ่านมาเมื่อวานนี้
จนผมไปสะดุดกับรูปใบหนึ่ง ที่ผมไม่เคยเห็นมาเลยทั้งชีวิต
คือรูปของพ่อ...ที่ปั่นจักรยาน บนหลังจักรยานคันแรกที่พาผม
จากมือใหม่ที่แทบไม่เคยปั่นจักรยาน มาจนวันที่จักรยานกับชีวิตผมแทบแยกกันไม่ออก
รอยยิ้ม กับน้ำตามันมาจากไหนไม่รู้ผมเห็นภาพพ่อที่รักเด็กๆ จัดกิจกรรมโดยที่ไม่สนใจ
ว่าจะมีใครมาบันทึกสถิติไหมขอให้ชาวบ้านและเด็กๆได้ทำกิจกรรมร่วมกันอย่างมีความสุข
ตอนนี้ผมเริ่มไม่แปลกใจแล้วว่านิสัยของผมติดมาจากใครที่ไหน
ขอบคุณพ่อ ที่ส่งรูปเหล่านี้ มาเป็นแรงบันดาลใจให้ลูกคนนี้อีกครั้ง
ขอบคุณทุกหน่วยงานที่ทำให้เกิดกิจกรรมในครั้งนี้
และขอบคุณจักรยาน...ที่ทำให้งานของผมกับพ่อ กลายเป็นงานเดียวกันเป็นครั้งแรกในชีวิต
Latae Coffee
:Alley Cyclist Admin: