อันที่จริงทริปมาเลเซียนี่ เจี๊ยบแพลนทุกอย่างไว้ตั้งแต่ มิถุนายน 2557 แล้วละ ก่อนที่จะไปสิงคโปร์ซะอีก แต่อย่างว่าอ่าเนอะ คนมันรักการเดินทาง อยู่ติดบ้านเป็นไม่ได้ รู้สึก ร้อน ร้อน 5555 เลยมีเวลามากพอที่จะเขียนรีวิวให้เพื่อนๆ ได้อ่านอย่างเต็มอิ่ม และจุดยืนยังคงเหมือนเดิม คืออออออ ช้านจะไปคนเดียว ฉายเดี่ยว หาเพื่อนเอาข้างหน้า แต่ดันนนนนน.... ได้เพื่อนใหม่มานางนุง นิสัยน่ารัก น่าคบหาซะด้วยสิ เลยต้องแตก รีวิวนี้มาจากทริปสิงคโปร์ เพื่อนๆไปอ่านย้อนหลังกันได้ที่
http://ppantip.com/topic/32822538 นะคะ
***เริ่มต้นวางแผนการท่องเที่ยว***
อ้อ..... ลืมบอกไปว่า จขกท. ทำงานไปด้วย เรียนป.โทไปด้วย เที่ยวด้วย 5555 ปกติเที่ยวอยู่แล้ว แต่หยุดเที่ยวไม่ได้ ก็ใจมันรัก เลยต้องโดดเรียนไปเที่ยวบ้างรัยบ้าง ใครจะเอาอย่างต้องแบ่งเวลาให้ดี แล้วก็ต้องตั้งใจเรียนนะคะ เพื่อไม่ให้สอบตก 5555555
แอบคิด....ไปคนเดียว จะไปหลายเมืองไหวป่ะว่ะ งั้นเอาแค่ KL ก่อนละกัน คาเมรง คาเมรอน ไว้ค่อยไปละกัน วันลาพักร้อนมีน้อยโปรดใช้สอยอย่างประหยัด อีกอย่างต้องโดดเรียนไปเที่ยวอีก ตารางเรียนเดือนมกราคม 2558 ก็ยังไม่ออก กลัวจะชนกับวันสอบเหลือเกิน เอาว้าาาาา วัดดวงสักครั้ง เลยเลือกวันเดินทาง 17-19 มกราคม 2558 และใช้สิทธิ์ลาพักร้อนไปหนึ่งวัน และแล้ว...ช่วงเดือน มิถุนายน 2557 สายการบินแอร์เอเชียได้ออกโปรแลกแต้ม Big Card ตั๋วไปกลับ 0 point เลยจัดมาสิค่ะ จะช้าอยู่ใย ชำระค่าเสียหาย ขาไป 1,050 บาท ขากลับ 890 บาท
แอร์เอเชียเป็นสายการบินแห่งชาติของมาเลเซีย บินกับเค้าก็อุ่นใจดีนะคะ ^^
ส่วนที่พักก็นะ.... บับว่า อยากพักที่ดีๆ เรื่องของเรื่อง คือแอบกลัว เพราะคิดว่า KL ไม่ค่อยปลอดภัยเหมือน ประเทศอื่นที่เคยไป เลยจัดไปซ๊าาาา 5 ดาว เลยคร่าาาา นอน 2 คืน ห้องสตูดิโอสวีท พร้อมอาหารเช้า จองผ่าน Air Asia Go ชำระค่าเสียหายไป 7,020.20 บาท
บรรยากาศห้องพักตามภาพเลยคร่าาา (เหมาะกับการมากับแฟนมากกก อิอิ)
จนกระทั่งเพื่อนใหม่ที่สิงคโปร์ Jean บอกว่า “ยูรู้มั้ย?? ร.ร. นี้แพงมากเลยนะ ไอเคยพักตอนเรียนมัธยม บริการดี อาหารก็ไม่เลว” จขกท. แอบคิดในใจ ก็ตอนนั้นกรูกลัวอ่าาาา เลยยอมจ่ายแพงๆ กลับจากสิงคโปร์แล้วความคิดเปลี่ยนทันที เสียดายตังค์ ติดใจโฮสเทลอ่าาาาา แต่ก็เอาว้าาาาา นอนหรูๆ สักทริป (ปลอบใจตัวเอง) แต่โชคเข้าข้าง Jean บอกว่าอยากไปเที่ยวกับเรา นางจะลาพักร้อนช่วงนั้นกลับบ้านที่มาเล แล้วพาเรากินเที่ยว KL ได้ยินแบบนี้ ดีใจโคตรเลยค่ะ เลยบอกนางว่างั้นจองแค่ตั๋วเครื่องบินพอ ให้มาพักด้วยกันกับ จขกท. เพราะเราจองที่พักไปแล้วและ เข้าพักได้สองคนพร้อมอาหารเช้า นางบอกว่า... ไม่เอานะ เกรงจายย ไม่ดีหรอก เกรงจายย ขอหารสอง จขกท. นี่แอบกรี๊ดดดดดดดดคร่าาาาา จิได้มีเงินเข้ากระเป๋าเพิ่ม แฮ่ๆๆๆๆๆ พอตกลงกันเสร็จ นางก็จองตั๋วจากสิงคโปร์ ไป-กลับ มาเล ตาม จขกท. และถ่ายรูปส่งไลน์ มาให้ดูเลยจร้า หลังจากนั้นเราก็ตั้งหน้าตั้งตารอกันไปเรื่อยๆ จน จขกท. งานเข้า
***ดราม่ากับแอร์เอเชีย***
เดือน พฤศจิกายน 2557 ได้รับทั้งอีเมล์และ SMS จากแอร์เอเชียว่าขอเลื่อนตารางการบิน พร้อมกับระบุเวลาเดินทางใหม่มาให้ กับมีทางเลือกให้คิดหนัก ???
ว่ากรูนัดเค้าไว้แร่ะ เค้าจองตั๋วจ่ายตังค์ เลือกเวลาใกล้กรูเลย กรูต้องรอเค้าที่สนามบินก่อนเวลาอันควร แต่เอ๊ะ!!! เค้ามีชดเชยค่าเสียเวลาให้ด้วยเหรอว้าาา กดลิ้งค์ทั้งสองลิ้งค์จากเมล์ ดูตารางบินใหม่ทั้งหมด และดูเครดิตเงินคืน แต่บับว่าไม่น่าเล้ย ดันพลาด เสียโง่จนได้ ตัดสินใจเลือกบินตามเวลาเดิมที่เค้าเลือกให้ และไปทำรายการรับเครดิตเงินคืน รู้ว่าตัวเองเข้าใจผิดก็ต่อเมื่อได้รับเมล์หลังทำรายการว่า เที่ยวบินขาไปถูกยกเลิก เหลือแต่ขากลับ ไม่ใช่เป็นการเปลี่ยนเวลาแร่ะ เราจะได้รับเงินคืนในอีกไม่ช้า
จขกท.ได้โทรหาคอลเซนเตอร์ พร้อมกับชี้แจงว่าเราเข้าใจแบบนั้น ในเมล์และขั้นตอนการทำรายการไม่ได้แจ้ง จขกท. เลยว่าเที่ยวบินขาไปของคุณจะถูกยกเลิกนะ ถ้าคุณเลือกรับเงินคืน ก็อย่างว่าอะนะ เพิ่งเจอเมล์แบบนี้จากแอร์เอเชียเป็นครั้งแรก ภาษาก็ไม่ได้เก่งมากมาย แต่เราเข้าใจผิดและทำรายการไปแล้ว จึงติดต่อมาเพื่อขอความช่วยเหลือ พนักงานที่รับสายแจ้งว่าไม่สามารถแก้ไขข้อมูลให้เราได้ แนะนำให้เราติดต่อที่หน้าเว็บของสายการบิน ที่หัวข้อ Ask AirAsia เพื่อให้เจ้าหน้าที่ ที่มีอำนาจในการอนุมัติพิจารณาการดึงข้อมูลการจองไฟลท์กลับมา
หลังจากที่ได้แจ้งเรื่องไป เรารอการติดต่อกลับจากเจ้าหน้าที่นานเกิน 5 วันทำการ จึงทักแชทผ่านหน้าเว็บไปว่าให้ตามเรื่องให้หน่อย แต่ยังคุยไม่ทันรู้เรื่อง หมดเวลาการให้บริการ 10 นาที จึงโทรเข้าคอลเซนเตอร์ เล่าถึงสิ่งที่เกิดขึ้นให้พนักงานที่รับสายฟังสักพัก แล้วเค้าก็ไปตรวจสอบข้อมูลให้......ได้รับคำตอบว่า ทางศูนย์บริการลูกค้าได้ทำการส่งเมล์แจ้งเราแล้วว่าไม่สามารถดำเนินการใดๆ ได้ เพราะผู้โดยสารได้ยืนยันทำรายการยกเลิกด้วยตัวเอง เราตอบว่า.... แต่เรายังไม่ได้รับอีเมล์ตอบกลับเลยนะ นี่เรารอนานเกิน 5 วัน และใกล้วันเดินทางแล้ว เราร้อนใจเลยติดต่อเข้ามาตามเรื่องเอง และสิ่งที่เราแจ้งไปเกิดจากความเข้าใจผิดของเรา พอจะช่วยเหลือเราได้มั้ย ไม่ว่าเราจะขอร้องอะไรไป ก็ได้รับแต่การปฏิเสธค่ะ ณ จุดนั้น เราเสียความรู้สึกมากๆ กับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะมันคือความหวัง
เราสะบัดบ๊อบไปหนึ่งครั้ง แล้วก็จัดการซื้อตั๋วใหม่ กับ Skybus (KL Sentral) ทั้งขาไปและขากลับเพิ่มเติม ในในราคา 2,556.90 บาท ได้รับส่วนลด 1,050.00 บาท จ่ายเพิ่มเองอีก 1,506.90 บาท
การซื้อตั๋ว Skybus ล่วงหน้าถือว่าจำเป็นมากๆ ถ้าบินกับแอร์เอเชียด้วยแล้วสะดวกมากเลยค่ะ ซื้อพร้อมกับการจองตั๋ว หรือ ซื้อเพิ่มก่อนเช็คอินก็ได้นะ เพราะมาเลเซียเป็นประเทศที่ใหญ่พอๆ กับประเทศเรา การเดินทางไม่ได้มีรถไฟฟ้าให้เดินทางทั้งประเทศ มีทั้งรถเมล์ รถไฟ และเครื่องบิน ซึ่งการเดินทางจากสนามบินเข้าตัวเมืองจะต้องนั่งรถเมล์อีกที เพื่อนสาวชาวมาเลแอบกระซิบว่าถ้าซื้อที่สนามบินจะแพงกว่าซื้อผ่าน Booking Air Asia สะอีก (แนะนำให้เช็คอินผ่านเว็บและปริ้น Bording Pass ทั้งขาไปและขากลับไปด้วยเลย เพราะเจ้าหน้าที่จะตรวจบนรถบัสทั้งขาไปและขากลับ ดังนั้นถ้าเราลืมเช็คอิน จะงานเข้าเอานะคะ อาจจะต้องจ่ายเงินค่ารถบัสตามปกติเลย)
***ธันวาคม 2557***
ดั่งนรกชังหรือสวรรค์แกล้งก็ไม่รู้สินะ เพราะบ่ายๆ ของวันที่ 30 ธันวาคม 2557 ทางมหาลัยฯได้ประกาศตารางสอบ และเราก็เจอแจ๊คพอต เป็นวิชาที่จัดสอบในวันที่ 18 มกราคม 2558 คร่าาาาา แค่เห็นประกาศในเว็บของมหาลัยฯ เท่านั้นแหละ ความเครียดมาเยือนทันที ทริปนี้หมดเงินไปเยอะแล้วน๊าาาาา ต้องเลือกอีกแล้ว ไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้เลย ทริปนี้อุปสรรคเยอะมว๊ากกกกกก ตั้งแต่ตั๋วเครื่องบิน ยันตารางสอบ แต่ดันนัดสาวมาเลไว้ และนางก็ซื้อตั๋วเครื่องบินไปกลับแล้วเรียบร้อย โอ้ววววววว....แม่เจ้า แต่ทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดี ขอยื่นคำร้องเลื่อนสอบเป็นวันอื่นแทน จขกท. ก็นับวันรอต่อปายยยยยย
***17/01/2015 วันเดินทาง***
เดินทางด้วยเที่ยวบิน FD319 เวลา 10.05 โดยสายการบินแอร์เอเชีย จากสนามบินดอนเมืองสู่กัวลาลัมเปอร์
ถึงปุ๊ปก็เปิดใช้ไวไฟฟรีของสนามบินทันที ส่งไลน์หาสาวน้อย นัดแนะกันที่ท่ารถ Skybus พอเจอก็กอดทักทายกันแล้วก็กระโดดขึ้นรถ
เม้าท์มอยกันตลอดทางเลย ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาท ก็ถึงตัวเมือง KL ระหว่างทางก็คุยกันเรื่อง วิว ทิว ทัศน์ ลักษณะคนไทย คนมาเล และแลกเปลี่ยนความรู้กัน เอาจริงๆนะ มองซ้ายมองขวาระหว่างทาง เหมือนกำลังอยู่ทางภาคใต้ของประเทศไทยเลยอ่าาาาา เหมือนกันเดะ มีต้นไม้เยอะ ต้นยางพาราแยะ ก็เพลิดเพลินไปอีกแบบนึงนะ เมื่อถึง KL Central ก็เดินไปหาซื้อบัตรโดยสารรถโมโนเรล ไว้สำหรับเดินทางในตัวเมือง หน้าตามันเป็นแบบนี้
และเราก็มุ่งหน้าไปยังโรงแรม PARKROYAL Serviced Suites Kuala Lumpur เพื่อเช็คอินเข้าที่พัก โรงแรมนี้เดินหาไม่ยาก อยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟฟ้าโมโนเรล Jalan Raja Chulan เมื่อเช็คอินเสร็จแล้วก็พักผ่อนตามอัธยาศัยกันแป๊ปนึง ฝกก็ลงเม็ดโปรยปรายมาซ้าาาาาา เล่นเอาวันแรกมิได้เที่ยวไหนเลย พนักงานแนะนำให้ไปเดินเล่นถนนคนเดินแนวๆ ไชน่าทาว์น อาหารหลากหลายดีค่ะ ของกินเล่นก็เยอะ แต่ไม่แตกต่างจากบ้านเรามากนัก Jean อยากให้เราลองกินโน่น กินนี่ แต่พอเราบอกว่า...แบบนี้ที่บ้านเราก็มี นางบอกว่าแล้ว KL มีอะไรที่เมืองไทยไม่มีบ้างละเนี่ยะ.... เรานี่เงิบเลย 5555 แต่เราก็เลือกชิมของที่มันแปลกหูแปลกตา ที่บ้านเราไม่มีขายบ้างรัยบ้าง เลยชวนนางกินมื้อเย็น และตกลงกันว่าวันนี้ขอเป็นร้านอาหารไทย พรุ่งนี้เป็นร้านอาหารจีน สรุปว่าร้านอาหารไทยที่นั่นราคาแพงเอาเรื่องเลยค่ะ เราสั่งข้าวผัดกุ้ง ต้มยำทะเลน้ำข้น ปลากระพงทอดราดน้ำปลา 3 อย่างปาเข้าไป 1500 บาท คร่าาาาาา รสชาติสู้ไทยดั้งเดิมไม่ได้เลย
พอฝนหยุด เราก็เดินดูของตามถนนกันไปเรื่อยๆ ขนมแต่ละอย่างน่าทานดีค่ะ
ระหว่างเดินเราก็คุยแลกเปลี่ยนความรู้กับ Jean จนได้ความรู้ใหม่ว่า คนมาเลจะเรียกฝรั่งว่า “อังมอร์” แปลกดีแฮะ ความหมายมันคืออารายยยยคร้าา ใครรู้ช่วยตอบที และอีกอย่างที่คิดว่าเป็นข้อดีของการบริการประชาชนชาวมาเลเซีย คือ การเดินทางโดยสารเครื่องบินภายในประเทศ คุณจะนำของเหลวขึ้นเครื่องกี่ มล. ก็ได้ ไม่จำกัด โดยที่คุณไม่ต้องโหลดกระเป๋าค่ะ แต่ไม่ทราบแน่ชัดว่าน้ำหนักกระเปาได้กี่ กก. ย้ำว่าเฉพาะเที่ยวบินภายในประเทศเท่านั้น มันเริ่ดตรงนี้แหละค่ะ
[CR] [CR] เที่ยวมาเลเซียกับเพื่อนต่างชาติ...พัก PARKROYAL Serviced Suites Kuala Lumpur
อันที่จริงทริปมาเลเซียนี่ เจี๊ยบแพลนทุกอย่างไว้ตั้งแต่ มิถุนายน 2557 แล้วละ ก่อนที่จะไปสิงคโปร์ซะอีก แต่อย่างว่าอ่าเนอะ คนมันรักการเดินทาง อยู่ติดบ้านเป็นไม่ได้ รู้สึก ร้อน ร้อน 5555 เลยมีเวลามากพอที่จะเขียนรีวิวให้เพื่อนๆ ได้อ่านอย่างเต็มอิ่ม และจุดยืนยังคงเหมือนเดิม คืออออออ ช้านจะไปคนเดียว ฉายเดี่ยว หาเพื่อนเอาข้างหน้า แต่ดันนนนนน.... ได้เพื่อนใหม่มานางนุง นิสัยน่ารัก น่าคบหาซะด้วยสิ เลยต้องแตก รีวิวนี้มาจากทริปสิงคโปร์ เพื่อนๆไปอ่านย้อนหลังกันได้ที่ http://ppantip.com/topic/32822538 นะคะ
***เริ่มต้นวางแผนการท่องเที่ยว***
อ้อ..... ลืมบอกไปว่า จขกท. ทำงานไปด้วย เรียนป.โทไปด้วย เที่ยวด้วย 5555 ปกติเที่ยวอยู่แล้ว แต่หยุดเที่ยวไม่ได้ ก็ใจมันรัก เลยต้องโดดเรียนไปเที่ยวบ้างรัยบ้าง ใครจะเอาอย่างต้องแบ่งเวลาให้ดี แล้วก็ต้องตั้งใจเรียนนะคะ เพื่อไม่ให้สอบตก 5555555
แอบคิด....ไปคนเดียว จะไปหลายเมืองไหวป่ะว่ะ งั้นเอาแค่ KL ก่อนละกัน คาเมรง คาเมรอน ไว้ค่อยไปละกัน วันลาพักร้อนมีน้อยโปรดใช้สอยอย่างประหยัด อีกอย่างต้องโดดเรียนไปเที่ยวอีก ตารางเรียนเดือนมกราคม 2558 ก็ยังไม่ออก กลัวจะชนกับวันสอบเหลือเกิน เอาว้าาาาา วัดดวงสักครั้ง เลยเลือกวันเดินทาง 17-19 มกราคม 2558 และใช้สิทธิ์ลาพักร้อนไปหนึ่งวัน และแล้ว...ช่วงเดือน มิถุนายน 2557 สายการบินแอร์เอเชียได้ออกโปรแลกแต้ม Big Card ตั๋วไปกลับ 0 point เลยจัดมาสิค่ะ จะช้าอยู่ใย ชำระค่าเสียหาย ขาไป 1,050 บาท ขากลับ 890 บาท
แอร์เอเชียเป็นสายการบินแห่งชาติของมาเลเซีย บินกับเค้าก็อุ่นใจดีนะคะ ^^
ส่วนที่พักก็นะ.... บับว่า อยากพักที่ดีๆ เรื่องของเรื่อง คือแอบกลัว เพราะคิดว่า KL ไม่ค่อยปลอดภัยเหมือน ประเทศอื่นที่เคยไป เลยจัดไปซ๊าาาา 5 ดาว เลยคร่าาาา นอน 2 คืน ห้องสตูดิโอสวีท พร้อมอาหารเช้า จองผ่าน Air Asia Go ชำระค่าเสียหายไป 7,020.20 บาท
บรรยากาศห้องพักตามภาพเลยคร่าาา (เหมาะกับการมากับแฟนมากกก อิอิ)
จนกระทั่งเพื่อนใหม่ที่สิงคโปร์ Jean บอกว่า “ยูรู้มั้ย?? ร.ร. นี้แพงมากเลยนะ ไอเคยพักตอนเรียนมัธยม บริการดี อาหารก็ไม่เลว” จขกท. แอบคิดในใจ ก็ตอนนั้นกรูกลัวอ่าาาา เลยยอมจ่ายแพงๆ กลับจากสิงคโปร์แล้วความคิดเปลี่ยนทันที เสียดายตังค์ ติดใจโฮสเทลอ่าาาาา แต่ก็เอาว้าาาาา นอนหรูๆ สักทริป (ปลอบใจตัวเอง) แต่โชคเข้าข้าง Jean บอกว่าอยากไปเที่ยวกับเรา นางจะลาพักร้อนช่วงนั้นกลับบ้านที่มาเล แล้วพาเรากินเที่ยว KL ได้ยินแบบนี้ ดีใจโคตรเลยค่ะ เลยบอกนางว่างั้นจองแค่ตั๋วเครื่องบินพอ ให้มาพักด้วยกันกับ จขกท. เพราะเราจองที่พักไปแล้วและ เข้าพักได้สองคนพร้อมอาหารเช้า นางบอกว่า... ไม่เอานะ เกรงจายย ไม่ดีหรอก เกรงจายย ขอหารสอง จขกท. นี่แอบกรี๊ดดดดดดดดคร่าาาาา จิได้มีเงินเข้ากระเป๋าเพิ่ม แฮ่ๆๆๆๆๆ พอตกลงกันเสร็จ นางก็จองตั๋วจากสิงคโปร์ ไป-กลับ มาเล ตาม จขกท. และถ่ายรูปส่งไลน์ มาให้ดูเลยจร้า หลังจากนั้นเราก็ตั้งหน้าตั้งตารอกันไปเรื่อยๆ จน จขกท. งานเข้า
***ดราม่ากับแอร์เอเชีย***
เดือน พฤศจิกายน 2557 ได้รับทั้งอีเมล์และ SMS จากแอร์เอเชียว่าขอเลื่อนตารางการบิน พร้อมกับระบุเวลาเดินทางใหม่มาให้ กับมีทางเลือกให้คิดหนัก ???
ว่ากรูนัดเค้าไว้แร่ะ เค้าจองตั๋วจ่ายตังค์ เลือกเวลาใกล้กรูเลย กรูต้องรอเค้าที่สนามบินก่อนเวลาอันควร แต่เอ๊ะ!!! เค้ามีชดเชยค่าเสียเวลาให้ด้วยเหรอว้าาา กดลิ้งค์ทั้งสองลิ้งค์จากเมล์ ดูตารางบินใหม่ทั้งหมด และดูเครดิตเงินคืน แต่บับว่าไม่น่าเล้ย ดันพลาด เสียโง่จนได้ ตัดสินใจเลือกบินตามเวลาเดิมที่เค้าเลือกให้ และไปทำรายการรับเครดิตเงินคืน รู้ว่าตัวเองเข้าใจผิดก็ต่อเมื่อได้รับเมล์หลังทำรายการว่า เที่ยวบินขาไปถูกยกเลิก เหลือแต่ขากลับ ไม่ใช่เป็นการเปลี่ยนเวลาแร่ะ เราจะได้รับเงินคืนในอีกไม่ช้า
จขกท.ได้โทรหาคอลเซนเตอร์ พร้อมกับชี้แจงว่าเราเข้าใจแบบนั้น ในเมล์และขั้นตอนการทำรายการไม่ได้แจ้ง จขกท. เลยว่าเที่ยวบินขาไปของคุณจะถูกยกเลิกนะ ถ้าคุณเลือกรับเงินคืน ก็อย่างว่าอะนะ เพิ่งเจอเมล์แบบนี้จากแอร์เอเชียเป็นครั้งแรก ภาษาก็ไม่ได้เก่งมากมาย แต่เราเข้าใจผิดและทำรายการไปแล้ว จึงติดต่อมาเพื่อขอความช่วยเหลือ พนักงานที่รับสายแจ้งว่าไม่สามารถแก้ไขข้อมูลให้เราได้ แนะนำให้เราติดต่อที่หน้าเว็บของสายการบิน ที่หัวข้อ Ask AirAsia เพื่อให้เจ้าหน้าที่ ที่มีอำนาจในการอนุมัติพิจารณาการดึงข้อมูลการจองไฟลท์กลับมา
หลังจากที่ได้แจ้งเรื่องไป เรารอการติดต่อกลับจากเจ้าหน้าที่นานเกิน 5 วันทำการ จึงทักแชทผ่านหน้าเว็บไปว่าให้ตามเรื่องให้หน่อย แต่ยังคุยไม่ทันรู้เรื่อง หมดเวลาการให้บริการ 10 นาที จึงโทรเข้าคอลเซนเตอร์ เล่าถึงสิ่งที่เกิดขึ้นให้พนักงานที่รับสายฟังสักพัก แล้วเค้าก็ไปตรวจสอบข้อมูลให้......ได้รับคำตอบว่า ทางศูนย์บริการลูกค้าได้ทำการส่งเมล์แจ้งเราแล้วว่าไม่สามารถดำเนินการใดๆ ได้ เพราะผู้โดยสารได้ยืนยันทำรายการยกเลิกด้วยตัวเอง เราตอบว่า.... แต่เรายังไม่ได้รับอีเมล์ตอบกลับเลยนะ นี่เรารอนานเกิน 5 วัน และใกล้วันเดินทางแล้ว เราร้อนใจเลยติดต่อเข้ามาตามเรื่องเอง และสิ่งที่เราแจ้งไปเกิดจากความเข้าใจผิดของเรา พอจะช่วยเหลือเราได้มั้ย ไม่ว่าเราจะขอร้องอะไรไป ก็ได้รับแต่การปฏิเสธค่ะ ณ จุดนั้น เราเสียความรู้สึกมากๆ กับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะมันคือความหวัง
เราสะบัดบ๊อบไปหนึ่งครั้ง แล้วก็จัดการซื้อตั๋วใหม่ กับ Skybus (KL Sentral) ทั้งขาไปและขากลับเพิ่มเติม ในในราคา 2,556.90 บาท ได้รับส่วนลด 1,050.00 บาท จ่ายเพิ่มเองอีก 1,506.90 บาท
การซื้อตั๋ว Skybus ล่วงหน้าถือว่าจำเป็นมากๆ ถ้าบินกับแอร์เอเชียด้วยแล้วสะดวกมากเลยค่ะ ซื้อพร้อมกับการจองตั๋ว หรือ ซื้อเพิ่มก่อนเช็คอินก็ได้นะ เพราะมาเลเซียเป็นประเทศที่ใหญ่พอๆ กับประเทศเรา การเดินทางไม่ได้มีรถไฟฟ้าให้เดินทางทั้งประเทศ มีทั้งรถเมล์ รถไฟ และเครื่องบิน ซึ่งการเดินทางจากสนามบินเข้าตัวเมืองจะต้องนั่งรถเมล์อีกที เพื่อนสาวชาวมาเลแอบกระซิบว่าถ้าซื้อที่สนามบินจะแพงกว่าซื้อผ่าน Booking Air Asia สะอีก (แนะนำให้เช็คอินผ่านเว็บและปริ้น Bording Pass ทั้งขาไปและขากลับไปด้วยเลย เพราะเจ้าหน้าที่จะตรวจบนรถบัสทั้งขาไปและขากลับ ดังนั้นถ้าเราลืมเช็คอิน จะงานเข้าเอานะคะ อาจจะต้องจ่ายเงินค่ารถบัสตามปกติเลย)
***ธันวาคม 2557***
ดั่งนรกชังหรือสวรรค์แกล้งก็ไม่รู้สินะ เพราะบ่ายๆ ของวันที่ 30 ธันวาคม 2557 ทางมหาลัยฯได้ประกาศตารางสอบ และเราก็เจอแจ๊คพอต เป็นวิชาที่จัดสอบในวันที่ 18 มกราคม 2558 คร่าาาาา แค่เห็นประกาศในเว็บของมหาลัยฯ เท่านั้นแหละ ความเครียดมาเยือนทันที ทริปนี้หมดเงินไปเยอะแล้วน๊าาาาา ต้องเลือกอีกแล้ว ไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้เลย ทริปนี้อุปสรรคเยอะมว๊ากกกกกก ตั้งแต่ตั๋วเครื่องบิน ยันตารางสอบ แต่ดันนัดสาวมาเลไว้ และนางก็ซื้อตั๋วเครื่องบินไปกลับแล้วเรียบร้อย โอ้ววววววว....แม่เจ้า แต่ทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดี ขอยื่นคำร้องเลื่อนสอบเป็นวันอื่นแทน จขกท. ก็นับวันรอต่อปายยยยยย
***17/01/2015 วันเดินทาง***
เดินทางด้วยเที่ยวบิน FD319 เวลา 10.05 โดยสายการบินแอร์เอเชีย จากสนามบินดอนเมืองสู่กัวลาลัมเปอร์
ถึงปุ๊ปก็เปิดใช้ไวไฟฟรีของสนามบินทันที ส่งไลน์หาสาวน้อย นัดแนะกันที่ท่ารถ Skybus พอเจอก็กอดทักทายกันแล้วก็กระโดดขึ้นรถ
เม้าท์มอยกันตลอดทางเลย ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาท ก็ถึงตัวเมือง KL ระหว่างทางก็คุยกันเรื่อง วิว ทิว ทัศน์ ลักษณะคนไทย คนมาเล และแลกเปลี่ยนความรู้กัน เอาจริงๆนะ มองซ้ายมองขวาระหว่างทาง เหมือนกำลังอยู่ทางภาคใต้ของประเทศไทยเลยอ่าาาาา เหมือนกันเดะ มีต้นไม้เยอะ ต้นยางพาราแยะ ก็เพลิดเพลินไปอีกแบบนึงนะ เมื่อถึง KL Central ก็เดินไปหาซื้อบัตรโดยสารรถโมโนเรล ไว้สำหรับเดินทางในตัวเมือง หน้าตามันเป็นแบบนี้
และเราก็มุ่งหน้าไปยังโรงแรม PARKROYAL Serviced Suites Kuala Lumpur เพื่อเช็คอินเข้าที่พัก โรงแรมนี้เดินหาไม่ยาก อยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟฟ้าโมโนเรล Jalan Raja Chulan เมื่อเช็คอินเสร็จแล้วก็พักผ่อนตามอัธยาศัยกันแป๊ปนึง ฝกก็ลงเม็ดโปรยปรายมาซ้าาาาาา เล่นเอาวันแรกมิได้เที่ยวไหนเลย พนักงานแนะนำให้ไปเดินเล่นถนนคนเดินแนวๆ ไชน่าทาว์น อาหารหลากหลายดีค่ะ ของกินเล่นก็เยอะ แต่ไม่แตกต่างจากบ้านเรามากนัก Jean อยากให้เราลองกินโน่น กินนี่ แต่พอเราบอกว่า...แบบนี้ที่บ้านเราก็มี นางบอกว่าแล้ว KL มีอะไรที่เมืองไทยไม่มีบ้างละเนี่ยะ.... เรานี่เงิบเลย 5555 แต่เราก็เลือกชิมของที่มันแปลกหูแปลกตา ที่บ้านเราไม่มีขายบ้างรัยบ้าง เลยชวนนางกินมื้อเย็น และตกลงกันว่าวันนี้ขอเป็นร้านอาหารไทย พรุ่งนี้เป็นร้านอาหารจีน สรุปว่าร้านอาหารไทยที่นั่นราคาแพงเอาเรื่องเลยค่ะ เราสั่งข้าวผัดกุ้ง ต้มยำทะเลน้ำข้น ปลากระพงทอดราดน้ำปลา 3 อย่างปาเข้าไป 1500 บาท คร่าาาาาา รสชาติสู้ไทยดั้งเดิมไม่ได้เลย
พอฝนหยุด เราก็เดินดูของตามถนนกันไปเรื่อยๆ ขนมแต่ละอย่างน่าทานดีค่ะ
ระหว่างเดินเราก็คุยแลกเปลี่ยนความรู้กับ Jean จนได้ความรู้ใหม่ว่า คนมาเลจะเรียกฝรั่งว่า “อังมอร์” แปลกดีแฮะ ความหมายมันคืออารายยยยคร้าา ใครรู้ช่วยตอบที และอีกอย่างที่คิดว่าเป็นข้อดีของการบริการประชาชนชาวมาเลเซีย คือ การเดินทางโดยสารเครื่องบินภายในประเทศ คุณจะนำของเหลวขึ้นเครื่องกี่ มล. ก็ได้ ไม่จำกัด โดยที่คุณไม่ต้องโหลดกระเป๋าค่ะ แต่ไม่ทราบแน่ชัดว่าน้ำหนักกระเปาได้กี่ กก. ย้ำว่าเฉพาะเที่ยวบินภายในประเทศเท่านั้น มันเริ่ดตรงนี้แหละค่ะ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น