เป็นการสัมภาษณ์โค๊ชเซี่ยจือหัว โดยสำนักพิมพ์ 《中国报》และความคิดเห็นเกี่ยวกับทีมหญิงเดี่ยวจีนโดยสำนักพิมพ์
แปลมาอย่างเร็ว อาจเรียบเรียงไม่ดี ต้องขออภัยครับ
---------------------------------------------------------------------------------------------
วันที่ 14/08/2015 19:01น
เซี่ยจือหัว โค๊ชที่พารัชนกไปสู่การเป็นแชมป์โลกที่อายุน้อยที่สุดเมื่อปี 2013 คาดการณ์ว่า โอลิมปิคปีหน้านักแบดหญิงเดี่ยวของจีนคงไม่พัฒนาจากเดิมมากนัก คือยังไม่ได้มีความได้เปรียบนักแบดชาติอื่นเท่าใดนัก
โค๊ชเซี่ยกล่าวว่า ไม่ใช่เพราะมาตรฐานของจีนตกต่ำลง แต่เป็นเพราะหญิงเดี่ยวจีนหยุดพัฒนา นับจากที่รัชนกทำให้จีนไม่สามารถรักษาความเป็นแชมป์ที่ครอบครองต่อเนื่องมายาวนาน ทีมหญิงเดี่ยวทั่วโลกก็เริ่มกล้าที่จะท้าทายทีมจีนมากขึ้น
นักแบดอัจริยะจากไทย รัชนก อินทนนต์ ได้ครองตำแหน่งแชมป์โลกหญิงเดี๋ยวในรายการชิงแชมป์โลกแบดมินตั้นที่กวางโจวด้วยอายุเพียง 19 ปี ได้กลายเป็นความหวังใหม่ที่นักแบดหญิงเดี๋ยวทั่วโลกจะสามารถต่อกรกับ "มหาอำนาจ" ทางแบดมินตั้นของจีนได้
รัชนก เป็นแชมป์โลกและแชมป์โลกเยาวชนที่อายุน้อยที่สุดเท่าที่เคยมีมา และเป็นนักแบดไทยคนแรกที่ได้เป็นแชมป์โลก เขาเริ่มเล่นแบดตั้งแต่อายุเพียง 6 ขวบ และมีโค๊ชเซี่ยจือหัวเป็นผู้ฝึกสอนตลอดมา
การได้ตำแหน่งแชมป์โลกของรัชนกเป็นการทำลายการผูกขาดตำแหน่งแชมป์โลกหญิงเดี่ยวของจีนที่มีมาต่อเนื่อง 14 ปี และทำให้วงการแบดมินตั้นทั่วโลกมีความหวังที่จะครอบครองตำแหน่งแชมป์โลกด้วยเช่นกัน รวมถึงมารินจากสปเน เนวาลและสินธุจากอินเดีย ยามากูชิและโอกุฮาระจากญี่ปุ่น เป็นต้น
เซี่ยจือหัวในวัยอายุ 51 ปีที่นำทีมไทยเข้าร่วมการแข่งขันชิงแชมป์โลกในครั้งนี้ ตอนที่ให้สัมภาษณ์กับสำนักพิมพ์ 《中国报》 กล่าวว่า ความแข็งเกร่งของทีมหญิงเดี่ยวของจีนได้ถูกชาติอื่นนำไปศึกษาอย่างละเอียดหมดแล้ว หลังจากที่ทีมจันพบว่าทีมชาติอื่นได้ตามทันแล้วจึงค่อยมาเริ่มตั้งใจพัฒนาเปลี่ยนแปลงเพื่อรับมือ แต่มันช้าไปแล้ว
เขากล่าวต่อว่า "อีกเรื่องนึงคือเรื่องสภาพทางจิตใจของนักกีฬา หลังจากวิธีเล่นของจีนถูกศึกษาจนละเอียดแล้ว ทีมหญิงเดี่ยวจีนไม่ได้มีอะไรพิเศษที่จะเป็นข้อได้เปรียบอีกเลย ยิ่งเล่นไปนานวันก็ยิ่งสูญเสียความมั่นใจ ซึ่งเห็นได้จากผลของปีนี้ ไม่มีผู้เล่นจีนคนใดสามารถครองแชมป์ซุปเปอร์ซีรีส์เลย"
ดังนั้น เซี่ยจือหัวกล่าวว่า "จากรายการชิงแชมป์โลกปีนี้ จนถึงโอลิมปิคปีหน้า หญิงเดี่ยวจีนจะไม่มีการแปลี่ยนแปลงรูปเกมได้อย่างแน่นอน ในทางกลับกัน ทีมจีนต้องห่วงว่าเมื่อถึงเวลาแข่งโอลิมปิคปีหน้า จะมีม้ามืดตัวใหม่โผล่มาเพิ่มหรือไม่"
เซี่ยจือหัวกล่าวต่อว่า ก่อนหน้านั้นเวลาหญิงเดี่ยวจีนจะแข่งกับประเทศอื่น โอกาสชนะอยู่ที่ 90% และแพ้อยู่ที่ 10% เท่านั้น นับตั้งแต่รัชนกได้ทำให้การครองแชมป์โลกที่ต่อเนื่องของหญิงเดี่ยวจีนหยุดชะงักไป โอกาสเอาชนะจีนได้เพิ่มขึ้นเป็น 50-50 และจากปี 2013 เป็นต้นมาก็รู้สึกได้ว่าความเชื่อมั่นและโมเมนตัมของทีมหญิงเดี่ยวจีนก็ดิ่งลงเช่นกัน เมื่อหญิงเดี่ยวต่างชาติสามารถดึงฟอร์มออกมาเมื่อไหร่ ก็จะเกิดสถาณการณ์ผู้เล่นหญิงเดี่ยวจีนถูกตีพ่ายอยู่เรื่อยๆ
เซี่ยจือหัวพยากรณ์ไว้ว่าในระยะสั้นนี้คงจะยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง
เมื่อถามถึงการถอนตัวจากการแข่งขันของรัชนกเมื่อวาน โค๊ชเซี่ยได้พูดเพื่อให้ความมั่นใจกับแฟนๆว่า
รัชนกแค่เป็นตะคริว หลังจากพักผ่อนให้มากก็จะหายเป็นปกติ
เมื่อถูกถามว่าในปีที่ผ่านมา เมื่อรัชนกเดินทางไปแข่งตามรายการต่างๆ ทำไมเห็นโค๊ชเซี่ยอยู่ด้วยน้อยมาก เขาตอบว่าในศูนย์ฝึกซ้อมบ้านทองหยอด ทุกวันนี้มีโค๊ชอยู่หลายคนซึ่งสามารถทำหน้าที่ติดตามรัชนกไปแข่งตามรายการต่างๆได้ เขาเองจะทำหน้าที่นี้ต่อ แต่อาจไม่ได้บ่อยนัก แต่สำหรับรายการต่อจากนี้ที่ต้องไปเกาหลี ญี่ปุ่น เขาจะติดตามไปด้วยอย่างแน่นอน
เซี่ยจือหัวได้ยกตัวอย่างของสถานหารณ์ที่เปลี่ยนไปของทีมหญิงเดี่ยวจีนว่า โค๊ชเฉินจินซึ่งปัจจุบันดูแลการฝึกซ้อมของทีมหญิงเดี่ยวจีนได้พูดเองว่า "แต่ก่อนนั้นใครเจอเราก็ต้องรู้สึกกลัว แบบนี้ทำให้พวกเราเกิดมีความได้เปรียบด้านจิตใจ เพิ่มโอกาศชนะ แต่ตอนนี้มันเหมือนทุกคนอยู่ในระดับเดียวกัน เขาไม่กลัวเราแล้ว และกล้าจู่โจมเรามากขึ้น จากการเปลี่ยนแปลงนี้ ทำให้เราต้องมีมาตรการเพื่อรับมือให้ได้"
== ข้อความต่อไปนี้เป็นที่สำนักพิมพ์เขียนต่อ ไม่ใช่ความคิดเห็นของโค๊ชเซี่ย ==
ถ้ามองจากสถานการณ์ปัจจุบัน เหมือนกับว่าประเภทหญิงเดี่ยวจีนไม่มีความได้เปรียบคู่แข่งประเทศอื่นอีกต่อไป ยิ่งจะครองแชมป์แต่ละรายการเป็นเรื่องยากมาก ถ้าการแข่งขันชิงแชมป์โลกครั้งนี้ ยังไม่สามารถครองแชมป์กลับมาได้ จะกลายเป็นสถิติไม่ได้แชมป์โลกติดต่อกันถึง 3 สมัยที่น่าอับอายอย่างยิ่ง จากประวัติของการแข่งขันชิงแชมป์โลก ตั้งแต่ปี 1983 เป็นต้นมา หญิงเดี่ยวจีนได้ครองแชมป์ 16 สมัย และก่อนถึงปี 2014 ก็ไม่เคยไม่ได้แชมป์ติดต่อกัน 2 สมัย
ในช่วงโอลิมปิคครั้งที่แล้ว (ปี 2012) ทีมหญิงเดี่ยวจีนทำได้ดีมาก - ลีเชียรุ่ยและหวังยี่หันสามรถกวาดเหรียญทองมาครองได้ ส่วนหวังซื่อเสียนและหวังซินสามารถได้เหรียญทองเอเซียนเกมส์ที่กว่างโจว ลู่หลัน หวังหลิน หวังยี่หันได้ครองแชมป์โลก 3 สมัยติดต่อกัน แต่ 2 ปีที่ผ่านมาหญิงเดี่ยวจีนไม่เพียงไม่ได้ครองตำแหน่งแชมป์ ตั้งแต่ต้นปีจนถึงตอนนี้หญิงเดี่ยว 3 คน (1 ลี, 2 หวัง) ได้ชนะเพียงแค่รายการเดียว ลีเชียรุ่ยไม่ได้ชนะรายการใดเลยเป็นเวลากว่า 10 เดือนแล้ว อันดับโลกอยู่เพียงแค่อันดับ 3 เท่านั้น
ความเป็นจริงก็คือ หญิงเดี่ยวทั้งสามคนเหมือน "ป่วยหนัก" สิ่งที่แย่กว่าการแพ้ในการแข่งขันนั้น หญิงเดี่ยวจีนกลายเป็นเหมือนใครจะมารังแกจีนก็ได้
ตลอดการแข่งขันชิงแชมป์โลกครั้งนี้ คู่แข่งของจีนแข็งแกร่งมากขึ้น รัชนกของไทยนับวันก็พัฒนาความสามารถขึ้นตามอายุ มารินจากสเปนได้กลายจากม้ามืดปีที่แล้วเป็นคู่ต่อสู้อันดับ 1 ของจีนในตอนนี้เพราะเธอมีทั้งความดุดันในเกมบุกและสภาพร่างกายที่แข็งแกร่งครบ เทียบกับหญิงเดี่ยวจีนแล้ว อายุมากกว่าแต่ไม่ได้พัฒนาเทคนิคหรือเทคติกใหม่ๆเลย ความฟิตก็นับวันจะเสื่อมถอย เช่นลีเชียรุ่ย ยิ่งเล่นถึงเกมส์สามเมื่อไหร่ โอกาสแพ้ก็มากขึ้นเท่านั้น แล้วยังมีคู่แข่งอื่นเช่น เนวาลจากอินเดีย ไต้จือยิงจากไต้หวัน และอื่นๆจากญี่ปุ่นเกาหลีอีก
โค๊ชใหญ่แบตมินตันของจีน หลีย่งปอ เองก็ยอมรับว่า "วิธีการเล่นแบบหญิงเดี่ยวของเราตกยุคตกสมัยแล้ว"
ถึงวันนี้ ทีมหญิงเดี่ยวต่างชาติเน้นเกมบุก แต่ทีมจีนยังเล่นยื้ออยู่มาก โค๊ชหญิงเดี่ยวเฉินจินได้เน้นว่าจะฝึกผู้เล่นให้ใช้เทคนิคแบบผู้ชาย คือจะเพิ่มความสามารถเกมรุกมากขึ้น แต่เวลาผ่านไปแล้วก็ยังไม่เห็นผลชัดเจนนัก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ที่มา: http://sports.sina.com.cn/others/badmin/2015-08-14/doc-ifxfxray5569866.shtml
โค๊ชเซี่ยจือหัว: "หญิงเดี่ยวจีนไม่พัฒนา ขาดความได้เปรียบ ยิ่งเล่นยิ่งหมดความมั่นใจ"
แปลมาอย่างเร็ว อาจเรียบเรียงไม่ดี ต้องขออภัยครับ
---------------------------------------------------------------------------------------------
วันที่ 14/08/2015 19:01น
เซี่ยจือหัว โค๊ชที่พารัชนกไปสู่การเป็นแชมป์โลกที่อายุน้อยที่สุดเมื่อปี 2013 คาดการณ์ว่า โอลิมปิคปีหน้านักแบดหญิงเดี่ยวของจีนคงไม่พัฒนาจากเดิมมากนัก คือยังไม่ได้มีความได้เปรียบนักแบดชาติอื่นเท่าใดนัก
โค๊ชเซี่ยกล่าวว่า ไม่ใช่เพราะมาตรฐานของจีนตกต่ำลง แต่เป็นเพราะหญิงเดี่ยวจีนหยุดพัฒนา นับจากที่รัชนกทำให้จีนไม่สามารถรักษาความเป็นแชมป์ที่ครอบครองต่อเนื่องมายาวนาน ทีมหญิงเดี่ยวทั่วโลกก็เริ่มกล้าที่จะท้าทายทีมจีนมากขึ้น
นักแบดอัจริยะจากไทย รัชนก อินทนนต์ ได้ครองตำแหน่งแชมป์โลกหญิงเดี๋ยวในรายการชิงแชมป์โลกแบดมินตั้นที่กวางโจวด้วยอายุเพียง 19 ปี ได้กลายเป็นความหวังใหม่ที่นักแบดหญิงเดี๋ยวทั่วโลกจะสามารถต่อกรกับ "มหาอำนาจ" ทางแบดมินตั้นของจีนได้
รัชนก เป็นแชมป์โลกและแชมป์โลกเยาวชนที่อายุน้อยที่สุดเท่าที่เคยมีมา และเป็นนักแบดไทยคนแรกที่ได้เป็นแชมป์โลก เขาเริ่มเล่นแบดตั้งแต่อายุเพียง 6 ขวบ และมีโค๊ชเซี่ยจือหัวเป็นผู้ฝึกสอนตลอดมา
การได้ตำแหน่งแชมป์โลกของรัชนกเป็นการทำลายการผูกขาดตำแหน่งแชมป์โลกหญิงเดี่ยวของจีนที่มีมาต่อเนื่อง 14 ปี และทำให้วงการแบดมินตั้นทั่วโลกมีความหวังที่จะครอบครองตำแหน่งแชมป์โลกด้วยเช่นกัน รวมถึงมารินจากสปเน เนวาลและสินธุจากอินเดีย ยามากูชิและโอกุฮาระจากญี่ปุ่น เป็นต้น
เซี่ยจือหัวในวัยอายุ 51 ปีที่นำทีมไทยเข้าร่วมการแข่งขันชิงแชมป์โลกในครั้งนี้ ตอนที่ให้สัมภาษณ์กับสำนักพิมพ์ 《中国报》 กล่าวว่า ความแข็งเกร่งของทีมหญิงเดี่ยวของจีนได้ถูกชาติอื่นนำไปศึกษาอย่างละเอียดหมดแล้ว หลังจากที่ทีมจันพบว่าทีมชาติอื่นได้ตามทันแล้วจึงค่อยมาเริ่มตั้งใจพัฒนาเปลี่ยนแปลงเพื่อรับมือ แต่มันช้าไปแล้ว
เขากล่าวต่อว่า "อีกเรื่องนึงคือเรื่องสภาพทางจิตใจของนักกีฬา หลังจากวิธีเล่นของจีนถูกศึกษาจนละเอียดแล้ว ทีมหญิงเดี่ยวจีนไม่ได้มีอะไรพิเศษที่จะเป็นข้อได้เปรียบอีกเลย ยิ่งเล่นไปนานวันก็ยิ่งสูญเสียความมั่นใจ ซึ่งเห็นได้จากผลของปีนี้ ไม่มีผู้เล่นจีนคนใดสามารถครองแชมป์ซุปเปอร์ซีรีส์เลย"
ดังนั้น เซี่ยจือหัวกล่าวว่า "จากรายการชิงแชมป์โลกปีนี้ จนถึงโอลิมปิคปีหน้า หญิงเดี่ยวจีนจะไม่มีการแปลี่ยนแปลงรูปเกมได้อย่างแน่นอน ในทางกลับกัน ทีมจีนต้องห่วงว่าเมื่อถึงเวลาแข่งโอลิมปิคปีหน้า จะมีม้ามืดตัวใหม่โผล่มาเพิ่มหรือไม่"
เซี่ยจือหัวกล่าวต่อว่า ก่อนหน้านั้นเวลาหญิงเดี่ยวจีนจะแข่งกับประเทศอื่น โอกาสชนะอยู่ที่ 90% และแพ้อยู่ที่ 10% เท่านั้น นับตั้งแต่รัชนกได้ทำให้การครองแชมป์โลกที่ต่อเนื่องของหญิงเดี่ยวจีนหยุดชะงักไป โอกาสเอาชนะจีนได้เพิ่มขึ้นเป็น 50-50 และจากปี 2013 เป็นต้นมาก็รู้สึกได้ว่าความเชื่อมั่นและโมเมนตัมของทีมหญิงเดี่ยวจีนก็ดิ่งลงเช่นกัน เมื่อหญิงเดี่ยวต่างชาติสามารถดึงฟอร์มออกมาเมื่อไหร่ ก็จะเกิดสถาณการณ์ผู้เล่นหญิงเดี่ยวจีนถูกตีพ่ายอยู่เรื่อยๆ
เซี่ยจือหัวพยากรณ์ไว้ว่าในระยะสั้นนี้คงจะยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง
เมื่อถามถึงการถอนตัวจากการแข่งขันของรัชนกเมื่อวาน โค๊ชเซี่ยได้พูดเพื่อให้ความมั่นใจกับแฟนๆว่า
รัชนกแค่เป็นตะคริว หลังจากพักผ่อนให้มากก็จะหายเป็นปกติ
เมื่อถูกถามว่าในปีที่ผ่านมา เมื่อรัชนกเดินทางไปแข่งตามรายการต่างๆ ทำไมเห็นโค๊ชเซี่ยอยู่ด้วยน้อยมาก เขาตอบว่าในศูนย์ฝึกซ้อมบ้านทองหยอด ทุกวันนี้มีโค๊ชอยู่หลายคนซึ่งสามารถทำหน้าที่ติดตามรัชนกไปแข่งตามรายการต่างๆได้ เขาเองจะทำหน้าที่นี้ต่อ แต่อาจไม่ได้บ่อยนัก แต่สำหรับรายการต่อจากนี้ที่ต้องไปเกาหลี ญี่ปุ่น เขาจะติดตามไปด้วยอย่างแน่นอน
เซี่ยจือหัวได้ยกตัวอย่างของสถานหารณ์ที่เปลี่ยนไปของทีมหญิงเดี่ยวจีนว่า โค๊ชเฉินจินซึ่งปัจจุบันดูแลการฝึกซ้อมของทีมหญิงเดี่ยวจีนได้พูดเองว่า "แต่ก่อนนั้นใครเจอเราก็ต้องรู้สึกกลัว แบบนี้ทำให้พวกเราเกิดมีความได้เปรียบด้านจิตใจ เพิ่มโอกาศชนะ แต่ตอนนี้มันเหมือนทุกคนอยู่ในระดับเดียวกัน เขาไม่กลัวเราแล้ว และกล้าจู่โจมเรามากขึ้น จากการเปลี่ยนแปลงนี้ ทำให้เราต้องมีมาตรการเพื่อรับมือให้ได้"
== ข้อความต่อไปนี้เป็นที่สำนักพิมพ์เขียนต่อ ไม่ใช่ความคิดเห็นของโค๊ชเซี่ย ==
ถ้ามองจากสถานการณ์ปัจจุบัน เหมือนกับว่าประเภทหญิงเดี่ยวจีนไม่มีความได้เปรียบคู่แข่งประเทศอื่นอีกต่อไป ยิ่งจะครองแชมป์แต่ละรายการเป็นเรื่องยากมาก ถ้าการแข่งขันชิงแชมป์โลกครั้งนี้ ยังไม่สามารถครองแชมป์กลับมาได้ จะกลายเป็นสถิติไม่ได้แชมป์โลกติดต่อกันถึง 3 สมัยที่น่าอับอายอย่างยิ่ง จากประวัติของการแข่งขันชิงแชมป์โลก ตั้งแต่ปี 1983 เป็นต้นมา หญิงเดี่ยวจีนได้ครองแชมป์ 16 สมัย และก่อนถึงปี 2014 ก็ไม่เคยไม่ได้แชมป์ติดต่อกัน 2 สมัย
ในช่วงโอลิมปิคครั้งที่แล้ว (ปี 2012) ทีมหญิงเดี่ยวจีนทำได้ดีมาก - ลีเชียรุ่ยและหวังยี่หันสามรถกวาดเหรียญทองมาครองได้ ส่วนหวังซื่อเสียนและหวังซินสามารถได้เหรียญทองเอเซียนเกมส์ที่กว่างโจว ลู่หลัน หวังหลิน หวังยี่หันได้ครองแชมป์โลก 3 สมัยติดต่อกัน แต่ 2 ปีที่ผ่านมาหญิงเดี่ยวจีนไม่เพียงไม่ได้ครองตำแหน่งแชมป์ ตั้งแต่ต้นปีจนถึงตอนนี้หญิงเดี่ยว 3 คน (1 ลี, 2 หวัง) ได้ชนะเพียงแค่รายการเดียว ลีเชียรุ่ยไม่ได้ชนะรายการใดเลยเป็นเวลากว่า 10 เดือนแล้ว อันดับโลกอยู่เพียงแค่อันดับ 3 เท่านั้น
ความเป็นจริงก็คือ หญิงเดี่ยวทั้งสามคนเหมือน "ป่วยหนัก" สิ่งที่แย่กว่าการแพ้ในการแข่งขันนั้น หญิงเดี่ยวจีนกลายเป็นเหมือนใครจะมารังแกจีนก็ได้
ตลอดการแข่งขันชิงแชมป์โลกครั้งนี้ คู่แข่งของจีนแข็งแกร่งมากขึ้น รัชนกของไทยนับวันก็พัฒนาความสามารถขึ้นตามอายุ มารินจากสเปนได้กลายจากม้ามืดปีที่แล้วเป็นคู่ต่อสู้อันดับ 1 ของจีนในตอนนี้เพราะเธอมีทั้งความดุดันในเกมบุกและสภาพร่างกายที่แข็งแกร่งครบ เทียบกับหญิงเดี่ยวจีนแล้ว อายุมากกว่าแต่ไม่ได้พัฒนาเทคนิคหรือเทคติกใหม่ๆเลย ความฟิตก็นับวันจะเสื่อมถอย เช่นลีเชียรุ่ย ยิ่งเล่นถึงเกมส์สามเมื่อไหร่ โอกาสแพ้ก็มากขึ้นเท่านั้น แล้วยังมีคู่แข่งอื่นเช่น เนวาลจากอินเดีย ไต้จือยิงจากไต้หวัน และอื่นๆจากญี่ปุ่นเกาหลีอีก
โค๊ชใหญ่แบตมินตันของจีน หลีย่งปอ เองก็ยอมรับว่า "วิธีการเล่นแบบหญิงเดี่ยวของเราตกยุคตกสมัยแล้ว"
ถึงวันนี้ ทีมหญิงเดี่ยวต่างชาติเน้นเกมบุก แต่ทีมจีนยังเล่นยื้ออยู่มาก โค๊ชหญิงเดี่ยวเฉินจินได้เน้นว่าจะฝึกผู้เล่นให้ใช้เทคนิคแบบผู้ชาย คือจะเพิ่มความสามารถเกมรุกมากขึ้น แต่เวลาผ่านไปแล้วก็ยังไม่เห็นผลชัดเจนนัก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้