สวัสดีครับ
ตามหัวกระทู้เลย เพิ่งไปเที่ยวมาได้สักพักแต่เพิ่งได้มีโอกาสมาเขียนรีวิว ออกตัวนิดนึงว่าผมไปทะเลครั้งก่อนหน้าทริปนี้ก็หลายปีแล้ว ราวๆ ปี 53-54 ได้มั้ง ลืมๆ ไปแล้วว่าทะเลเป็นยังไง
วันแรก
เดินทาง
รถตู้ที่อนุเสาวรีย์ หน้าเซนจูรี่ ราคา 200 บาท/คน (เท่ากันทั้งขาไปและกลับ) ออกเดินทางประมาณ 10.00 น. ถึงประมาณ 13.15 น.
ตีกลมๆ ไปว่าประมาณ 3 ชั่วโมง 30 นาทีก็ได้ครับ
รถส่งลงที่ท่าเรือ มีร้านข้าวตามสั่งและขายของกระจุกกระจิกพวกเสื้อผ้าและของเล่นในน้ำเยอะแยะ ผมแวะกินข้าวก่อน ป้าที่คอยเรียกแขกตรงนั้นบอกว่าเรือไม่กำหนดว่าออกทุกๆ กี่นาทีกี่ชั่วโมง ถ้าเรือจะออกแล้วจะประกาศบอกเอง
ผมกับแฟนนั่งทานข้าว เข้าห้องน้ำ เอื่อยๆ อยู่ประมาณ 1 ชม.ได้มั้ง ก็ไปซื้อตั๋วขึ้นเรือ
บังคับซื้อไปกลับ เที่ยวละ 50 บาท ไปกลับก็คนละ 100 บาทครับ
เรือเสียงดัง โงนเงนไปตามกระแสคลื่น ชาวต่างชาติรวมถึงคนไทยบางคนมองดูเครื่องยนต์ที่มีควันลอยขึ้นมาเบาๆ ด้วยความฉงนระคนเป็นห่วง จริงๆ มีฝรั่งผู้หญิงวัยกลางคนนึงเดินมาทวงเสื้อชูชีพกับเด็กเรือก่อนเรือออก แต่ก็ชี้โบ้ชี้เบ้ สตาร์ทเครื่องออกไป
มีราวๆ 10 คนได้มั้งวันนั้นที่ไม่มีเสื้อชูชีพ
เรือข้ามฝากใช้เวลาประมาณ 30 นาที (บางคนบอกตัวเอง 45 นาที) ก็ถึงท่าเทียบเกาะเสม็ด หน้าด่าน มีผีเสื้อสมุทรเป็นสัญลักษณ์ให้นทท.ไปถ่ายรูปกัน
อันนี้รูปขากลับ แต่ให้ดูลักษณะของเรือ อันนี้เรือรีสอร์ท สภาพเลยจะดีกว่า แต่ประเภทเดียวกัน หน้าตาเหมือนกัน
ลงเรือปุ๊ป จ่ายเงินเข้าเกาะทันทีคนละ 20 บาท
มีเซเว่นและร้านข้าวปกติให้กินก่อนได้ อาหารแบบปกติแล้ว ที่นี่ก็จะเริ่มต้นที่จานละ 60 บาท และสินค้าใน 7-11 จะบวกราคาเพิ่มประมาณ 2-10 บาท
ติดกับท่าเรือเลยเป็นท่ารถสองแถว ซึ่งก็แค่รถกระบะสีเขียวเปิดโล่ง มีเก้าอี้อย่างเดียวไม่มีหลังคา
ราคารถจะเป็นลักษณะแบบ เหมา ไม่ใช่วิ่งออกตามเวลา 10-20 บาท ถ้าโชคดีไปหาดที่คนไปเยอะ เรทก็จะปกติ อย่างหาดทรายแก้วที่ใกล้สุดก็แค่ 10 บาท แล้วจะเพิ่มขึ้นไปตามระยะทาง หาดไกลหน่อยก็แพงขึ้น
ถ้าไปหาดยอดฮิตและใกล้สุดอย่าง หาดทรายแก้ว แนะนำอย่าพลาดไปเหมา เดินแค่ 10 นาทีก็ถึง ระยะทางไม่น่าถึง 1 กม. ครับ
ถ้าไปหาดอื่นๆ หลายๆ อาจโชคร้ายต้องยอมเหมารถ 300 บาท คือถ้ามีเพื่อนร่วมทางก็แชร์กันไป แชร์ยังไงก็ได้ให้เงินเข้ากระเป๋าคนขับ 300 บาท เช่น ถ้าไป 6 คนก็หารคนละ 50 บาท
ขาไปจะเป็นลักษณะแบบนี้ทั้งหมด
ส่วนขาออกจากหาดที่คุณพัก คุณอาจจะเหมารถที่วิ่งผ่านไปมาตลอดทั้งวันก็ได้ 300 บาท หรือจะรอ รถเวียน ซึ่งก็ต้องรอนานหน่อย และถึงไม่เหมาก็ยังต้องจ่ายค่ารถ คนขับบอกผมกับแฟนว่าถ้าโบกรถเวียนจาก หาดทรายแก้ว ไป อ่าววงเดือน น่าจะคิด 30-40 บาท ราคาไม่แน่นอนแล้วแต่คนขับ
เมื่อตกลงค่ารถกันได้แล้ว หรือคนเต็มรถพร้อมเดิมทางแล้ว ขับคดเคี้ยวออกมานิดเดียว ไม่เกิน 5 นาที จะถึง หาดทรายแก้ว แต่ก่อนถึงหาดนิดเดียวต้องจ่าย "ค่าเข้าอุทยาน" คนไทยคนละ 40 บาท ต่างชาติคนละ 200 บาท
จาก หาดทรายแก้ว ถ้าจะไป อ่าววงเดือน ซึ่งเป็นที่พักคืนที่ 2 ของผม ระยะทางมัน 2.5 กม.
หาดทรายแก้ว เป็นหาดที่ใกล้ที่สุดและคนเยอะที่สุด ตามคำบอกเล่าของคนขับรถ เค้าบอกว่าหลังเข้าพรรษามาแล้วถือว่า Low Season แล้ว คนน้อยลงถนัดตา แต่ที่หาดทรายแก้วนี่ยังต้องบอกว่าคนยังเยอะจริงๆ ก็มีคนนั่งริมหาด เล่นน้ำ ทำกิจกรรมทางน้ำกันเกลื่อนกลาดตามปกติ หาดค่อนข้างยาว ถ้าเดินสุด 2 ฝั่งเลยผมว่าน่าจะหลายร้อยเมตร พอได้เมื่อยอยู่นะ
วันแรกผมไม่ได้เล่นน้ำ เดินถ่ายรูปสักพักนึงก็เข้าห้องพัก
คืนแรก ห้องพักห่างจากทางลงหาดไม่น่าจะเกิน 100-200 เมตร เดินแป๊ปเดียว คืนละ 1,200 บาท เช็คอิน 14.00 น. เช็คเอ้าท์ 12.00 น.
ห้องพักมี แอร์, เครื่องทำน้ำอุ่น, ตู้เย็น, ทีวี ห้องขนาดเล็ก สภาพกลางๆ แต่เราก็แค่เอาไว้นอนอยู่แล้วเลยไม่คิดอะไรมาก
ช่วงค่ำ ออกมาหาที่ดินเนอร์ จะมีร้านดังๆ แบบ พลอยทะเล (Ploy Bar & Pub) ร้านเปิดโล่งริมหาดติดทะเล นั่งบนเสื่อมีโต๊ะเตี้ยๆ ผมกับแฟนอ่านรีวิวแล้วลังเลใจกับร้านนี้ สุดท้ายเลยตัดสินใจไม่นั่ง
เราเลือกไปนั่งร้าน Finale Bar อีกด้านของหาด เดินไม่กี่สิบเมตร ร้านนี้เปิดเพลงตื้ด บรรยากาศสวยมาก นั่งก้อนกลมๆ มีเม็ดโฟมข้างใน มีโต๊ะโคมไฟตรงกลาง คนเกือบเต็มร้านเลยตอนราวๆ 1 ทุ่ม จริงๆ ลังเลว่าเพลงจะตื้ดไป แต่ก็คิดๆ ว่าเดี๋ยวนั่งไปดึกๆ หน่อยก็เข้าบรรยากาศเอง แล้วพอนั่งๆ ไปก็มีการเปลี่ยนแนวเพลงไปเรื่อยๆ มีเพลงสบายๆ มาสลับตลอด
สั่งอาหารไป
กุ้งเผา ครึ่งกิโล 450 บาท
ต้มยำกุ้ง ถ้วย 180 บาท (มั้ง ประมาณ)
ยำอะไรสักอย่างเป็น recommended (ลักษณะเป็นทะเลทอดกรอบเอามายำ ก็อร่อยดี) (ราคาจำไม่ได้ น่าจะประมาณ 250 บาท)
ข้าวสวย 1 จาน แล้วก็น้ำเปล่า 50 บาทมั้ง
อาหารชุดแรกรอไม่นานมาก ได้ทุกอย่างครบยกเว้นกุ้งเผา ต้มยำกุ้งอร่อยเลย แต่อ่อนเผ็ดไปนิด แต่ให้กุ้งเยอะมาก ล้นจานเลย
แต่กินไปได้แป๊ปเดียว ฝนโปรยลงมา ทุกคนรีบอพยพเดินขึ้นบันไดเข้าไปในร้าน ยกเข้าไปเสร็จ ผมเดินออกมายกอีกรอบ ปรากฏว่า ฝนเลิกตกซะงั้น ตกแค่ไม่กี่นาที ก็ยังนั่งลังเลอยู่แป๊ปนึงว่ามันจะตกอีกมั้ย แต่สุดท้ายก็ยกกลับออกไปอีก พร้อมๆ กับคนอื่นๆ
และนี่ น่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้โต๊ะผมไม่ได้ กุ้งเผา (แต่เราก็เอาเลขโต๊ะติดตัวไปตลอดตอนขึ้นข้างบนตามคำแนะนำของเด็กเสิร์ฟ) แถมจริงๆ ระหว่างที่หนีฝนนี่ใช้เวลารวมไม่น่าเกิน 5 นาที
กลับมานั่งที่เดิม จนผมกับแฟนกินข้าวอิ่ม แฟนสั่งเครื่องดื่มมา จำชื่อไม่ได้เหมือนกันแหะ เป็นค็อกเทลเมล่อนหรืออะไรสักอย่าง สีขาวข้นหน่อยๆ หวานๆ รสชาติคล้ายนม แต่มีความร้อนของแอลกอฮอล์ 220 บาท ส่วนผมไฮเนเก้นเล็ก 100 บาท
อ้อ ส่วนโชว์ควงกระบอกไฟที่หลายๆ คนชอบ มีเกือบทุกร้านนะครับ พวกนี้เดินตระเวนเล่นไปทั่ว ดูแล้วก็สนุกดี มีเดินขอทิปตอนจบโชว์นะ
ไม่น่าจะถึง 4 ทุ่มพนักงานก็ไล่กับเงินลูกค้าทุกโต๊ะ ดีที่ทางร้านเข้าใจเรื่องกุ้งเผา เพราะเราก็ชี้ให้ดูว่าไม่ได้จริงๆ เช็คบิลแล้ว หักกุ้งเผาออก
ยอดออกมา 800 บาท
หลังจากนั้นผมก็สั่งไฮเนเก้นมาอีก มีขายเฉพาะขวดเล็ก ขวดละ 100 บาท น้ำแข็งถังละ 100 บาทเช่นกัน
ช่วงที่น่าหงุดหงิดคือการเรียกพนักงานเสิร์ฟ เรียกยากมาก สั่งยาก รอนาน ตั้งแต่ได้อาหารชุดแรกมาทุกครั้งที่สั่งเครื่องดื่มจะใช้เวลานานมากจนผมต้องสั่งทีเดียวมา 2-3 ขวด แถมลืมน้ำแข็ง ก็ยักแย่ยักยันกันนานกว่าจะได้ดื่ม
แต่ก็เข้าใจในระดับนึงครับ เพราะคนเต็มร้านเลย แต่ละคนคงยุ่งน่าดู
อีกจุดที่ไม่สู้ดีนักของวันนั้น คือ ดนตรีสด มือคีย์บอร์ดเล่นได้ดี แต่ชอบพูดอะไรแปลกๆ บ่อยๆ เล่นมุขภาษาอังกฤษแบบไทยๆ ฝืดๆ ช่วงหัวค่ำมีคนจีนของเพลง เทียน หมี่ มี่ ด้วยก็เฮฮากันระดับ ต่อมามีคนไทยขึ้นไปโชว์ลูกคอเพลง Lost Stars เพลงประกอบภาพยนต์ Begin Again คนนี้ร้องได้ดีเรียกว่าเป็น entertain คนฟังได้แบบจริงๆ จังๆ เลยล่ะครับ ฟังแล้วชอบเลย
ดนตรีเล่นตั้งแต่หัวค่ำสักพักนึง แล้วก็พักไป ดีเจเปิดเพลงแทน ซึ่งผมกับแฟนก็ยังลงความเห็นกันว่าเปิดเพลงนี่บางทียังดีกว่าเสียอีกนะ ดนตรีสดคนร้องที่เป็นผู้หญิงร้องดีแล้วล่ะครับ สุภาพเรียบร้อย เล่นมุขพอขำๆ แต่คู่ขาพี่ผมยาวดูเหมือนคึกคักไปหน่อย เห็นแกว่าเป็นตัวแทนฉุกเฉิน ไม่ได้เตรียมตัว มาเที่ยวเหมือนกัน คีย์บอร์ดก็ยืมเขาเอา
รอบสองดึกๆ มือกีต้าร์มาแล้วรู้สึกดีขึ้น เล่นกีต้าร์ฟังแล้วเพลินดี แต่พี่ผมยาวก็ยังเยอะเหมือนเดิม ไม่ว่ากัน
นั่งกินเบียร์ขวดเล็กไป 4 ขวด พอใกล้เที่ยงคืน มีบัง (จริงๆ เป็นคนแอฟริกาใต้ เจ้าตัวบอกด้วยสำเนียงกระท่อนกระแท่น) เข็นรถมาขายโรตี
ไม่ธรรมดา มีประมาณ 20 รสได้มั้ง พวก Nutella, Cheese มีหมด สั่งกล้วยชีส 2 อัน ก็อร่อยดีครับ อ้อ อันละ 60 บาท
จากนั้นก็เดินกลับที่พักเกือบๆ เที่ยงคืน พอดีใกล้ๆ มี 7-11 ผมเดินเข้าไปซื้อของกินเล่นกับเบียร์อีกนิดหน่อย กลับมานั่งดูทีวี มีช่องหนังเพียบเลย พอดีมี Jurassic Park (1993) เรื่องโปรดพอดี ผมเลยนั่งดูจนเกือบๆ ตี 2 ถึงได้นอน
จบวันแรก (ต่อวันที่สองข้างล่าง)
:: Review: เที่ยวเสม็ด หาดทรายแก้ว และ อ่าววงเดือน 8-10 ส.ค. 58 ::
ตามหัวกระทู้เลย เพิ่งไปเที่ยวมาได้สักพักแต่เพิ่งได้มีโอกาสมาเขียนรีวิว ออกตัวนิดนึงว่าผมไปทะเลครั้งก่อนหน้าทริปนี้ก็หลายปีแล้ว ราวๆ ปี 53-54 ได้มั้ง ลืมๆ ไปแล้วว่าทะเลเป็นยังไง
วันแรก
เดินทาง
รถตู้ที่อนุเสาวรีย์ หน้าเซนจูรี่ ราคา 200 บาท/คน (เท่ากันทั้งขาไปและกลับ) ออกเดินทางประมาณ 10.00 น. ถึงประมาณ 13.15 น.
ตีกลมๆ ไปว่าประมาณ 3 ชั่วโมง 30 นาทีก็ได้ครับ
รถส่งลงที่ท่าเรือ มีร้านข้าวตามสั่งและขายของกระจุกกระจิกพวกเสื้อผ้าและของเล่นในน้ำเยอะแยะ ผมแวะกินข้าวก่อน ป้าที่คอยเรียกแขกตรงนั้นบอกว่าเรือไม่กำหนดว่าออกทุกๆ กี่นาทีกี่ชั่วโมง ถ้าเรือจะออกแล้วจะประกาศบอกเอง
ผมกับแฟนนั่งทานข้าว เข้าห้องน้ำ เอื่อยๆ อยู่ประมาณ 1 ชม.ได้มั้ง ก็ไปซื้อตั๋วขึ้นเรือ
บังคับซื้อไปกลับ เที่ยวละ 50 บาท ไปกลับก็คนละ 100 บาทครับ
เรือเสียงดัง โงนเงนไปตามกระแสคลื่น ชาวต่างชาติรวมถึงคนไทยบางคนมองดูเครื่องยนต์ที่มีควันลอยขึ้นมาเบาๆ ด้วยความฉงนระคนเป็นห่วง จริงๆ มีฝรั่งผู้หญิงวัยกลางคนนึงเดินมาทวงเสื้อชูชีพกับเด็กเรือก่อนเรือออก แต่ก็ชี้โบ้ชี้เบ้ สตาร์ทเครื่องออกไป
มีราวๆ 10 คนได้มั้งวันนั้นที่ไม่มีเสื้อชูชีพ
เรือข้ามฝากใช้เวลาประมาณ 30 นาที (บางคนบอกตัวเอง 45 นาที) ก็ถึงท่าเทียบเกาะเสม็ด หน้าด่าน มีผีเสื้อสมุทรเป็นสัญลักษณ์ให้นทท.ไปถ่ายรูปกัน
อันนี้รูปขากลับ แต่ให้ดูลักษณะของเรือ อันนี้เรือรีสอร์ท สภาพเลยจะดีกว่า แต่ประเภทเดียวกัน หน้าตาเหมือนกัน
ลงเรือปุ๊ป จ่ายเงินเข้าเกาะทันทีคนละ 20 บาท
มีเซเว่นและร้านข้าวปกติให้กินก่อนได้ อาหารแบบปกติแล้ว ที่นี่ก็จะเริ่มต้นที่จานละ 60 บาท และสินค้าใน 7-11 จะบวกราคาเพิ่มประมาณ 2-10 บาท
ติดกับท่าเรือเลยเป็นท่ารถสองแถว ซึ่งก็แค่รถกระบะสีเขียวเปิดโล่ง มีเก้าอี้อย่างเดียวไม่มีหลังคา
ราคารถจะเป็นลักษณะแบบ เหมา ไม่ใช่วิ่งออกตามเวลา 10-20 บาท ถ้าโชคดีไปหาดที่คนไปเยอะ เรทก็จะปกติ อย่างหาดทรายแก้วที่ใกล้สุดก็แค่ 10 บาท แล้วจะเพิ่มขึ้นไปตามระยะทาง หาดไกลหน่อยก็แพงขึ้น
ถ้าไปหาดยอดฮิตและใกล้สุดอย่าง หาดทรายแก้ว แนะนำอย่าพลาดไปเหมา เดินแค่ 10 นาทีก็ถึง ระยะทางไม่น่าถึง 1 กม. ครับ
ถ้าไปหาดอื่นๆ หลายๆ อาจโชคร้ายต้องยอมเหมารถ 300 บาท คือถ้ามีเพื่อนร่วมทางก็แชร์กันไป แชร์ยังไงก็ได้ให้เงินเข้ากระเป๋าคนขับ 300 บาท เช่น ถ้าไป 6 คนก็หารคนละ 50 บาท
ขาไปจะเป็นลักษณะแบบนี้ทั้งหมด
ส่วนขาออกจากหาดที่คุณพัก คุณอาจจะเหมารถที่วิ่งผ่านไปมาตลอดทั้งวันก็ได้ 300 บาท หรือจะรอ รถเวียน ซึ่งก็ต้องรอนานหน่อย และถึงไม่เหมาก็ยังต้องจ่ายค่ารถ คนขับบอกผมกับแฟนว่าถ้าโบกรถเวียนจาก หาดทรายแก้ว ไป อ่าววงเดือน น่าจะคิด 30-40 บาท ราคาไม่แน่นอนแล้วแต่คนขับ
เมื่อตกลงค่ารถกันได้แล้ว หรือคนเต็มรถพร้อมเดิมทางแล้ว ขับคดเคี้ยวออกมานิดเดียว ไม่เกิน 5 นาที จะถึง หาดทรายแก้ว แต่ก่อนถึงหาดนิดเดียวต้องจ่าย "ค่าเข้าอุทยาน" คนไทยคนละ 40 บาท ต่างชาติคนละ 200 บาท
จาก หาดทรายแก้ว ถ้าจะไป อ่าววงเดือน ซึ่งเป็นที่พักคืนที่ 2 ของผม ระยะทางมัน 2.5 กม.
หาดทรายแก้ว เป็นหาดที่ใกล้ที่สุดและคนเยอะที่สุด ตามคำบอกเล่าของคนขับรถ เค้าบอกว่าหลังเข้าพรรษามาแล้วถือว่า Low Season แล้ว คนน้อยลงถนัดตา แต่ที่หาดทรายแก้วนี่ยังต้องบอกว่าคนยังเยอะจริงๆ ก็มีคนนั่งริมหาด เล่นน้ำ ทำกิจกรรมทางน้ำกันเกลื่อนกลาดตามปกติ หาดค่อนข้างยาว ถ้าเดินสุด 2 ฝั่งเลยผมว่าน่าจะหลายร้อยเมตร พอได้เมื่อยอยู่นะ
วันแรกผมไม่ได้เล่นน้ำ เดินถ่ายรูปสักพักนึงก็เข้าห้องพัก
คืนแรก ห้องพักห่างจากทางลงหาดไม่น่าจะเกิน 100-200 เมตร เดินแป๊ปเดียว คืนละ 1,200 บาท เช็คอิน 14.00 น. เช็คเอ้าท์ 12.00 น.
ห้องพักมี แอร์, เครื่องทำน้ำอุ่น, ตู้เย็น, ทีวี ห้องขนาดเล็ก สภาพกลางๆ แต่เราก็แค่เอาไว้นอนอยู่แล้วเลยไม่คิดอะไรมาก
ช่วงค่ำ ออกมาหาที่ดินเนอร์ จะมีร้านดังๆ แบบ พลอยทะเล (Ploy Bar & Pub) ร้านเปิดโล่งริมหาดติดทะเล นั่งบนเสื่อมีโต๊ะเตี้ยๆ ผมกับแฟนอ่านรีวิวแล้วลังเลใจกับร้านนี้ สุดท้ายเลยตัดสินใจไม่นั่ง
เราเลือกไปนั่งร้าน Finale Bar อีกด้านของหาด เดินไม่กี่สิบเมตร ร้านนี้เปิดเพลงตื้ด บรรยากาศสวยมาก นั่งก้อนกลมๆ มีเม็ดโฟมข้างใน มีโต๊ะโคมไฟตรงกลาง คนเกือบเต็มร้านเลยตอนราวๆ 1 ทุ่ม จริงๆ ลังเลว่าเพลงจะตื้ดไป แต่ก็คิดๆ ว่าเดี๋ยวนั่งไปดึกๆ หน่อยก็เข้าบรรยากาศเอง แล้วพอนั่งๆ ไปก็มีการเปลี่ยนแนวเพลงไปเรื่อยๆ มีเพลงสบายๆ มาสลับตลอด
สั่งอาหารไป
กุ้งเผา ครึ่งกิโล 450 บาท
ต้มยำกุ้ง ถ้วย 180 บาท (มั้ง ประมาณ)
ยำอะไรสักอย่างเป็น recommended (ลักษณะเป็นทะเลทอดกรอบเอามายำ ก็อร่อยดี) (ราคาจำไม่ได้ น่าจะประมาณ 250 บาท)
ข้าวสวย 1 จาน แล้วก็น้ำเปล่า 50 บาทมั้ง
อาหารชุดแรกรอไม่นานมาก ได้ทุกอย่างครบยกเว้นกุ้งเผา ต้มยำกุ้งอร่อยเลย แต่อ่อนเผ็ดไปนิด แต่ให้กุ้งเยอะมาก ล้นจานเลย
แต่กินไปได้แป๊ปเดียว ฝนโปรยลงมา ทุกคนรีบอพยพเดินขึ้นบันไดเข้าไปในร้าน ยกเข้าไปเสร็จ ผมเดินออกมายกอีกรอบ ปรากฏว่า ฝนเลิกตกซะงั้น ตกแค่ไม่กี่นาที ก็ยังนั่งลังเลอยู่แป๊ปนึงว่ามันจะตกอีกมั้ย แต่สุดท้ายก็ยกกลับออกไปอีก พร้อมๆ กับคนอื่นๆ
และนี่ น่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้โต๊ะผมไม่ได้ กุ้งเผา (แต่เราก็เอาเลขโต๊ะติดตัวไปตลอดตอนขึ้นข้างบนตามคำแนะนำของเด็กเสิร์ฟ) แถมจริงๆ ระหว่างที่หนีฝนนี่ใช้เวลารวมไม่น่าเกิน 5 นาที
กลับมานั่งที่เดิม จนผมกับแฟนกินข้าวอิ่ม แฟนสั่งเครื่องดื่มมา จำชื่อไม่ได้เหมือนกันแหะ เป็นค็อกเทลเมล่อนหรืออะไรสักอย่าง สีขาวข้นหน่อยๆ หวานๆ รสชาติคล้ายนม แต่มีความร้อนของแอลกอฮอล์ 220 บาท ส่วนผมไฮเนเก้นเล็ก 100 บาท
อ้อ ส่วนโชว์ควงกระบอกไฟที่หลายๆ คนชอบ มีเกือบทุกร้านนะครับ พวกนี้เดินตระเวนเล่นไปทั่ว ดูแล้วก็สนุกดี มีเดินขอทิปตอนจบโชว์นะ
ไม่น่าจะถึง 4 ทุ่มพนักงานก็ไล่กับเงินลูกค้าทุกโต๊ะ ดีที่ทางร้านเข้าใจเรื่องกุ้งเผา เพราะเราก็ชี้ให้ดูว่าไม่ได้จริงๆ เช็คบิลแล้ว หักกุ้งเผาออก
ยอดออกมา 800 บาท
หลังจากนั้นผมก็สั่งไฮเนเก้นมาอีก มีขายเฉพาะขวดเล็ก ขวดละ 100 บาท น้ำแข็งถังละ 100 บาทเช่นกัน
ช่วงที่น่าหงุดหงิดคือการเรียกพนักงานเสิร์ฟ เรียกยากมาก สั่งยาก รอนาน ตั้งแต่ได้อาหารชุดแรกมาทุกครั้งที่สั่งเครื่องดื่มจะใช้เวลานานมากจนผมต้องสั่งทีเดียวมา 2-3 ขวด แถมลืมน้ำแข็ง ก็ยักแย่ยักยันกันนานกว่าจะได้ดื่ม
แต่ก็เข้าใจในระดับนึงครับ เพราะคนเต็มร้านเลย แต่ละคนคงยุ่งน่าดู
อีกจุดที่ไม่สู้ดีนักของวันนั้น คือ ดนตรีสด มือคีย์บอร์ดเล่นได้ดี แต่ชอบพูดอะไรแปลกๆ บ่อยๆ เล่นมุขภาษาอังกฤษแบบไทยๆ ฝืดๆ ช่วงหัวค่ำมีคนจีนของเพลง เทียน หมี่ มี่ ด้วยก็เฮฮากันระดับ ต่อมามีคนไทยขึ้นไปโชว์ลูกคอเพลง Lost Stars เพลงประกอบภาพยนต์ Begin Again คนนี้ร้องได้ดีเรียกว่าเป็น entertain คนฟังได้แบบจริงๆ จังๆ เลยล่ะครับ ฟังแล้วชอบเลย
ดนตรีเล่นตั้งแต่หัวค่ำสักพักนึง แล้วก็พักไป ดีเจเปิดเพลงแทน ซึ่งผมกับแฟนก็ยังลงความเห็นกันว่าเปิดเพลงนี่บางทียังดีกว่าเสียอีกนะ ดนตรีสดคนร้องที่เป็นผู้หญิงร้องดีแล้วล่ะครับ สุภาพเรียบร้อย เล่นมุขพอขำๆ แต่คู่ขาพี่ผมยาวดูเหมือนคึกคักไปหน่อย เห็นแกว่าเป็นตัวแทนฉุกเฉิน ไม่ได้เตรียมตัว มาเที่ยวเหมือนกัน คีย์บอร์ดก็ยืมเขาเอา
รอบสองดึกๆ มือกีต้าร์มาแล้วรู้สึกดีขึ้น เล่นกีต้าร์ฟังแล้วเพลินดี แต่พี่ผมยาวก็ยังเยอะเหมือนเดิม ไม่ว่ากัน
นั่งกินเบียร์ขวดเล็กไป 4 ขวด พอใกล้เที่ยงคืน มีบัง (จริงๆ เป็นคนแอฟริกาใต้ เจ้าตัวบอกด้วยสำเนียงกระท่อนกระแท่น) เข็นรถมาขายโรตี
ไม่ธรรมดา มีประมาณ 20 รสได้มั้ง พวก Nutella, Cheese มีหมด สั่งกล้วยชีส 2 อัน ก็อร่อยดีครับ อ้อ อันละ 60 บาท
จากนั้นก็เดินกลับที่พักเกือบๆ เที่ยงคืน พอดีใกล้ๆ มี 7-11 ผมเดินเข้าไปซื้อของกินเล่นกับเบียร์อีกนิดหน่อย กลับมานั่งดูทีวี มีช่องหนังเพียบเลย พอดีมี Jurassic Park (1993) เรื่องโปรดพอดี ผมเลยนั่งดูจนเกือบๆ ตี 2 ถึงได้นอน
จบวันแรก (ต่อวันที่สองข้างล่าง)