คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 53
ต่อนะคับ งานเยอะเหลือเกิน
จากความตกใจของเค้า ก็ทำให้ผมคิดได้แล้วว่า ไม่ควรเผือกดีกว่า คิดว่าจะกลับเลยละกัน (หน้าแตกฮะ) เราเป็นใครก็ไม่รู้อยู่ดีดีก็เข้าไปแบบนั้น เป็นใครก็ตกใจ
แต่เค้ากลับพูดขึ้นมาว่า "มาคนเดียวเหรอ"
ผมตอบเค้า “เอ่อ คับ มาคนเดียวคับ”
เค้านิ่งๆซักพัก แล้วเค้าก็ชวนผมนั่งด้วยกัน (เห้ย ผิดคาด รอไรล่ะ นั่งอยู่แล้ว)
ผมตอบตกลงแล้วก็ไปหยิบของที่โต๊ะ(เอาแล้วเว้ย โอกาสมาแล้ว)
แล้วเราก็เริ่มคุยกันเรื่องทั่วๆไป เค้าถามมาผมตอบ ผมถามไปเค้าตอบ ผ่านไปซักพักก็เริ่มรู้สึกได้ว่าสีหน้าเค้าเปลี่ยนไป เค้าเริ่มยิ้ม น้ำตาก็ดูจะแห้งไปแล้ว เราคุยกันถูกคอดีนะ คุยจนลืมเวลา ผมจำไม่ได้ว่าเข้ามาตอนกี่โมง
มองไปเห็นพนักงานเริ่มเก็บของบางส่วนแล้ว เค้าเลยบอกว่าเค้าคงต้องกลับแล้ว ผมก็เริ่มเก็บของ
แล้วเราก็เดินออกจากร้านเพื่อออกไปรอแท็กซี่
เราเดินคุยกันต่อมาเรื่อยๆจนมาถึงที่รอแท็กซี่ด้านหน้า เค้าถามผมว่ากลับทางไหน ส่วนเค้ากลับฝั่งนี้
ผมบอกเค้าว่าผมต้องข้ามไปรอรถอีกฝั่ง ผมก็ยืนนิ่งๆไปซักพัก และก็พูดว่า
“งั้นผมไปก่อนนะ”
“อื้ม โอเค” เค้าตอบ
ผมก็หันหลังเดินออกไปได้นิดเดียว เค้าก็เรียกผม
ผมหันหลังกลับมาทันที (คอแทบหัก)
“รอเป็นเพื่อนก่อนได้มั้ย” (หืมมมมมมม!!! )
ผมนี่แอบดีใจเลย ไม่ปฏิเสธอยู่แล้ว ผมก็ยืนรอด้วยเลย คุยกันได้ไม่นานแท็กซี่ก็มา (จะรีบมาทำไมวะ)
เค้าก้มลงไปคุยกับแท็กซี่ หันมามองหน้าผมแล้วยิ้ม แล้วก็ขึ้นรถไป
จนแท็กซี่ไปไกลแล้ว ผมนึกอะไรขึ้นได้ทันที ผมเลยลั่นออกมาซะดัง
“เห้ยยยยย!!!” ทำไมไม่ขอไลน์ขอเฟสหรือเบอร์ไว้ว้าาาาาาาาาาาาาาาา ผมก็ขำตัวเองทำไมโง่แบบนี้วะ
แต่อันที่น่าขำกว่านั้นคือ ชื่อเค้า ผมก็ยังไม่ได้ถามเลย (คุยกันไปตั้งนาน ไม่ได้ถามชื่อกัน โอ้ย!)
เค้าก็ไม่ได้ถามผม เหมือนเค้าก็คงไม่ได้นึกถึงตรงนี้เหมือนกัน
ผมก็ยืนงงตัวเองอยู่ซักพัก ส่ายหัวให้ความโง่ตัวเอง 555+
จากความตกใจของเค้า ก็ทำให้ผมคิดได้แล้วว่า ไม่ควรเผือกดีกว่า คิดว่าจะกลับเลยละกัน (หน้าแตกฮะ) เราเป็นใครก็ไม่รู้อยู่ดีดีก็เข้าไปแบบนั้น เป็นใครก็ตกใจ
แต่เค้ากลับพูดขึ้นมาว่า "มาคนเดียวเหรอ"
ผมตอบเค้า “เอ่อ คับ มาคนเดียวคับ”
เค้านิ่งๆซักพัก แล้วเค้าก็ชวนผมนั่งด้วยกัน (เห้ย ผิดคาด รอไรล่ะ นั่งอยู่แล้ว)
ผมตอบตกลงแล้วก็ไปหยิบของที่โต๊ะ(เอาแล้วเว้ย โอกาสมาแล้ว)
แล้วเราก็เริ่มคุยกันเรื่องทั่วๆไป เค้าถามมาผมตอบ ผมถามไปเค้าตอบ ผ่านไปซักพักก็เริ่มรู้สึกได้ว่าสีหน้าเค้าเปลี่ยนไป เค้าเริ่มยิ้ม น้ำตาก็ดูจะแห้งไปแล้ว เราคุยกันถูกคอดีนะ คุยจนลืมเวลา ผมจำไม่ได้ว่าเข้ามาตอนกี่โมง
มองไปเห็นพนักงานเริ่มเก็บของบางส่วนแล้ว เค้าเลยบอกว่าเค้าคงต้องกลับแล้ว ผมก็เริ่มเก็บของ
แล้วเราก็เดินออกจากร้านเพื่อออกไปรอแท็กซี่
เราเดินคุยกันต่อมาเรื่อยๆจนมาถึงที่รอแท็กซี่ด้านหน้า เค้าถามผมว่ากลับทางไหน ส่วนเค้ากลับฝั่งนี้
ผมบอกเค้าว่าผมต้องข้ามไปรอรถอีกฝั่ง ผมก็ยืนนิ่งๆไปซักพัก และก็พูดว่า
“งั้นผมไปก่อนนะ”
“อื้ม โอเค” เค้าตอบ
ผมก็หันหลังเดินออกไปได้นิดเดียว เค้าก็เรียกผม
ผมหันหลังกลับมาทันที (คอแทบหัก)
“รอเป็นเพื่อนก่อนได้มั้ย” (หืมมมมมมม!!! )
ผมนี่แอบดีใจเลย ไม่ปฏิเสธอยู่แล้ว ผมก็ยืนรอด้วยเลย คุยกันได้ไม่นานแท็กซี่ก็มา (จะรีบมาทำไมวะ)
เค้าก้มลงไปคุยกับแท็กซี่ หันมามองหน้าผมแล้วยิ้ม แล้วก็ขึ้นรถไป
จนแท็กซี่ไปไกลแล้ว ผมนึกอะไรขึ้นได้ทันที ผมเลยลั่นออกมาซะดัง
“เห้ยยยยย!!!” ทำไมไม่ขอไลน์ขอเฟสหรือเบอร์ไว้ว้าาาาาาาาาาาาาาาา ผมก็ขำตัวเองทำไมโง่แบบนี้วะ
แต่อันที่น่าขำกว่านั้นคือ ชื่อเค้า ผมก็ยังไม่ได้ถามเลย (คุยกันไปตั้งนาน ไม่ได้ถามชื่อกัน โอ้ย!)
เค้าก็ไม่ได้ถามผม เหมือนเค้าก็คงไม่ได้นึกถึงตรงนี้เหมือนกัน
ผมก็ยืนงงตัวเองอยู่ซักพัก ส่ายหัวให้ความโง่ตัวเอง 555+
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 157
ถึง คุณเจ้าของกระทู้ สมาชิกหมายเลข 1266188 นะค๊าาาา ^^
จากแอดมินร้านฟาร์มดีไซน์คะ พอดีทางทีมงานของร้าน ได้บังเอิญเห็นกระทู้นี้ใน pantip จึงส่งต่อมาให้ทางแอดมินอีกที (ซึ่งตอนนี้ทีมงานหลายๆคน เรียกได้ว่า ปูเสื่อรอเลยหละคะ ☆*:.。. o(≧▽≦)o .。.☆) ทางร้านจึงอยากเข้ามาให้กำลังใจ และอยากให้คุณเจ้าของกระทู้สมหวังในความรักครั้งนี้เร็วๆ
ทางร้านจึงอยากขออนุญาติมอบบัตรสมาชิกฟาร์มดีไซน์ ให้ทางคุณเจ้าของกระทู้ได้ไปคอยติดตามความรักครั้งนี้ที่ร้านฟาร์มดีไซน์ได้ง่ายขึ้น เพราะบัตรสมาชิกของร้านจะสามารถใช้ลดได้ 10% และยังมีวันพิเศษต่างๆ ทุกเดือนสำหรับสมาชิกโดยเฉพาะ รวมถึงแว่นตากันแดดรุ่นใหม่สุดคูล ขาไม้ รุ่น Wayfarmer (Limited edition) จากทางร้านให้คุณเจ้าของกระทู้ไปแอบซุ่มมองได้แบบเนียนๆอีกด้วย ปล.แว่นตาขาไม้รุ่นใหม่นี้ยังไม่ได้ออกวางจำหน่ายเลยนะคะ
จึงขออนุญาติคุณเจ้าของกระทู้ช่วยติดต่อทางเราเข้ามาทาง inbox แฟนเพจในเฟซบุ้ค FarmDesignThailand ทีได้ไหมคะ ทางทีมงานจะรีบส่งบัตรสมาชิกและแว่นกันแดดไปให้ทันทีเลยคะ (^O^)/
จากแอดมินร้านฟาร์มดีไซน์คะ พอดีทางทีมงานของร้าน ได้บังเอิญเห็นกระทู้นี้ใน pantip จึงส่งต่อมาให้ทางแอดมินอีกที (ซึ่งตอนนี้ทีมงานหลายๆคน เรียกได้ว่า ปูเสื่อรอเลยหละคะ ☆*:.。. o(≧▽≦)o .。.☆) ทางร้านจึงอยากเข้ามาให้กำลังใจ และอยากให้คุณเจ้าของกระทู้สมหวังในความรักครั้งนี้เร็วๆ
ทางร้านจึงอยากขออนุญาติมอบบัตรสมาชิกฟาร์มดีไซน์ ให้ทางคุณเจ้าของกระทู้ได้ไปคอยติดตามความรักครั้งนี้ที่ร้านฟาร์มดีไซน์ได้ง่ายขึ้น เพราะบัตรสมาชิกของร้านจะสามารถใช้ลดได้ 10% และยังมีวันพิเศษต่างๆ ทุกเดือนสำหรับสมาชิกโดยเฉพาะ รวมถึงแว่นตากันแดดรุ่นใหม่สุดคูล ขาไม้ รุ่น Wayfarmer (Limited edition) จากทางร้านให้คุณเจ้าของกระทู้ไปแอบซุ่มมองได้แบบเนียนๆอีกด้วย ปล.แว่นตาขาไม้รุ่นใหม่นี้ยังไม่ได้ออกวางจำหน่ายเลยนะคะ
จึงขออนุญาติคุณเจ้าของกระทู้ช่วยติดต่อทางเราเข้ามาทาง inbox แฟนเพจในเฟซบุ้ค FarmDesignThailand ทีได้ไหมคะ ทางทีมงานจะรีบส่งบัตรสมาชิกและแว่นกันแดดไปให้ทันทีเลยคะ (^O^)/
แสดงความคิดเห็น
ตามหาคนๆนึงที่ชอบมาทานขนมคนเดียว แถว The Jas วังหิน
เคยซื้อไปฝากทีนึงดันชอบมันเลยบอกว่าถ้าได้ไปเมื่อไหร่ให้ซื้อมาฝากทุกครั้ง (ดูมันสั่ง) ผมก็จะซื้อไปฝากตลอด
แต่มันมีวันนึง ขณะที่ผมแวะซื้ออยู่ ผมเห็นคนๆ นึงนั่งอยู่คนเดียว กำลังกินน้ำปั่นหรือนมปั่นอะไรซักอย่างของร้านนั่นแหละ(สีครีมๆ)
ผมก็เหลือบไปมองหลายทีระหว่างที่รอคนขายหยิบเค้กคิดเงิน ผมก็คิดในใจ (คนอะไรน่ารักจังวะ ทำไมมาคนเดียว)
แต่วันนั้นผมต้องรีบกลับ ไม่งั้นจะสั่งน้ำ นั่งกินซะเลย
หลายๆวันมาผมก็ยุ่งอยู่แต่กับงานไม่ค่อยได้ออกมา พอเคลียงานได้ งานเริ่มน้อยลง (โอเค ชิลได้) ก็เลยไปอีก
และเช่นเคยแวะซื้อชีสเค้กอีกแล้ว ขณะที่ผมรอเค้าคิดตังค์ ผมก็นึกตอนที่เห็นเค้าครั้งก่อน จะรออะไรล่ะ มองหาสิคับ
มองไปมองมา กวาดตาไปรอบๆร้าน...
เห้ยยยยย!!! เจออีกแล้ว มาคนเดียวเหมือนเดิมด้วย เอาแล้วไง จะทำไงดี วันนี้ไม่มีอะไรต้องรีบกลับด้วย อยากรู้จักเค้านะ คิดว่าอย่างน้อยๆ น่าจะไปหานั่งที่ที่จะเห็นเค้าชัดๆไม่ให้เค้ารู้ตัว
ขณะที่คิดนั่นคิดนี่ ปากก็ลั่นออกไปว่า "เอาน้ำด้วยแก้วนึงคับ" ตานี่ไม่ได้มองพนักงานเลย
พอหันกลับมา เห็นพนักงานทำหน้างงๆ แล้วถามว่าเอาน้ำอะไรคะ
เอิ่ม...เคยซื้อแต่เค้ก มันมีน้ำอะไรมั่งวะ ผมก็อึกอักๆอยู่ซักแปป พนักงานเลยแนะนำเป็น ไวมอลต์อะไรซักอย่างนี่แหละ
ผมนี่ไม่ได้มีกะจิตกะใจฟังเลย ก็เลยบอกพนักงาน คับๆเอาอันนั้นน่ะแหละคับแก้วนึง พอคิดตังค์เสร็จเค้าก็บอกเดี๋ยวไปเสิร์ฟที่โต๊ะนะคะ
ผมก็เลยเดินมาหาโต๊ะใกล้ๆ มีโต๊ะว่างที่เค้าเตอร์บังอยู่ขวามือ เหมาะเจาะเกินไปมั้ย!!! ได้ที่นั่งหันหน้าหาเค้าเลยจ้าาาา ไม่แอบแล้ว
แต่มันเป็นที่เดียวในโซนนี้ที่จะมองเห็นเค้านี่สิ พอนั่งลงไม่รู้จะทำอะไรดี ก็เลยควักอุปกรณ์แก้เขินขึ้นมากดๆเลื่อนๆไป
ทำเป็นเล่นมือถือไป แล้วก็เกิดความคิดขึ้นมาว่า แอบถ่ายรูปเค้าลองดูดีกว่า ก็เลยแอบกดถ่ายรูปเค้าแต่ทำเป็นไม่มองโทรสับตอนกด (ดูโรคจิตไงไม่รู้) แต่มันดันมีเสียงแชะขึ้นมานี่สิหันมากันหมดเลย
ด้วยความกลัวเค้าคิดว่าเราไปแอบถ่ายใครรึเปล่า ผมก็เลยยกสองนิ้วทำเซลฟี่ทันทีเลยจ้า(โคตรไว555+)
ผลงานรีบถ่าย ก่อนที่จะทำท่าเซลฟี่ตัวเอง >.< ขออนุญาตเจ้าของภาพนะครับ เซนเซอร์ไว้แล้ว
เดี๋ยวมาต่อนะครับ
***********
ต่อนะคับ
หลังจากที่ผมทำให้เหตุการณ์สงบสุขลงได้ ทุกคนก็หันหน้ากลับไปกินของกินตัวเองต่อ (รอดแล้ว)
ผมก็แอบมองเค้าเป็นพักๆ ดูไปทุกส่วน ตั้งแต่หัวจรดเท้า ดูไปดูมาผมก็เริ่มชะงัก หยุดมองที่สีหน้าเค้าดูแปลกๆ
เป็นเศร้าๆซึมๆ เหมือนเสียใจกับอะไรมาซักอย่าง ไม่สนใจกับอะไรรอบๆข้าง มีแต่นั่งก้มหน้า
ทำให้ผมนึกถึงครั้งก่อนที่เจอเค้าครั้งแรก เค้าก็เป็นอารมณ์แบบนี้นี่หว่า
ก็เลยเริ่มสงสัย ในใจผมก็คิดไปเรื่อย
เค้าอาจจะเลิกกับแฟนหรือเปล่า หรือปัญหาทางบ้าน สูญเสียไรงี้รึเปล่า
ในขณะที่คิดไปเรื่อย ผมก็เห็นน้ำตาเค้าหยดลงมา เอาแล้วไง เห็นสีหน้าไม่ดีตั้งแต่แรกแล้ว
ผมก็ไม่รู้ช่วยไรดี รู้สึกแย่ไปกับเค้าเลยครับ แล้วเค้าก็เงยหน้าขึ้นมานิดนึง เหมือนจะหากระดาษหรืออะไรมาซับน้ำตา แต่เค้าไม่มีเลยนอกจากกระดาษทิชชู่ตอนที่พนักงานให้มา แต่บังเอิญผมเห็นเค้าใช้และขยำเทิ้งก่อนหน้านี้แล้ว ผมก็มองไปรอบๆ ก็คิดไรไม่ออก ลองหากระดาษทิชชูในกระเป๋าตัวเองดู ปรากฏว่าเจอพอดี เลยรวบรวมความกล้า ตัดสินใจหยิบมัน แล้วก็ลุกขึ้นไปหาเค้าทันที (อย่างกับในหนัง รู้สึกตัวเองเป็นพระเอกไงไม่รู้)
ผมยืนอยู่ข้างๆ ที่เค้านั่ง ยืนเกร็งๆซักพักนึง แล้วก็ยื่นกระดาษให้ เค้าทำท่าตกใจนิดๆ แล้วก็เอามือปาดน้ำตาตัวเอง ก้มมองที่กระดาษ แล้วก็เงยหน้าขึ้นมามองผม ตอนนั้นผมรู้สึกตามัวๆไงไม่รู้ หายใจไม่ค่อยสะดวก
เค้าทำหน้างงๆซักแปป ผมก็เลยยื่นเข้าไปใกล้อีก เค้าก้มมองที่กระดาษแล้วก็หยิบไปจากมือผม
ผมก็ไม่รู้จะพูดอะไร ไม่รู้จะปลอบใจยังไง แถมผมก็เป็นใครไม่รู้ อยู่ดีๆ ก็เอาทิชชูไปให้เค้า
เห็นสีหน้าแล้ว จากเศร้าอยู่ดีๆ กลายเป็นตกใจผมแทน (นี่ผมกำลังเผือกเรื่องคนอื่นอยู่ใช่มั้ย) ผมไม่รู้จะทำไงก็เลยตัดสินใจพูดออกไป “ใจเย็นๆ นะครับ” เค้าเงียบ ยังไม่พูดอะไร ผมโคตรรู้สึกหน้าแตกมากเลยตอนนั้น แบบนึกในใจ ว่าแล้ววว ไม่น่าเข้าไปเลยยยยย