6 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับเพศสัมพันธ์ที่หญิงสาวควรทราบ

แทบทุกครั้งที่พูดถึงเรื่องเพศสัมพันธ์กับผู้หญิง ปฏิกิริยาที่ได้กลับมามักเป็นท่าทีเหนียมอายเคอะเขิน ไม่ค่อยกล้าพูดกล้าตอบ ทั้ง ๆ ที่ในความเป็นจริงเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผู้หญิงอย่างเราเองก็แอบอยากรู้อยากเห็นกันอย่างลับ ๆ (เอาน่า ไม่ต้องอาย ^^)
          ความจริงแล้วการเรียนรู้เรื่องเพศไม่เห็นเป็นเรื่องน่าอาย ยิ่งเรียนรู้ยิ่งนำไปประยุกต์ใช้ได้ ปฏิบัติตนได้ถูกต้อง และยังป้องกันการตั้งครรภ์โดยไม่ตั้งใจ รวมทั้งการติดโรคจากการมีเพศสัมพันธ์ได้อีกต่างหาก สำหรับผู้ปกครองที่มีลูกสาว ก็สามารถนำเรื่องราวเหล่านี้ไปสอดแทรกเพื่อปลูกฝังให้เขามีความเข้าใจที่ถูก ต้องเกี่ยวกับเรื่องเพศ ถึงมันจะเป็นเรื่องไกลตัวในตอนนี้ แต่ยังไงก็ต้องมีประโยชน์ในอนาคตแน่นอน เพราะว่าเรื่องเพศไม่ใช่เรื่องไกลตัวเราเลยค่ะ
          ขอนำ 6 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับเพศสัมพันธ์มาฝากกัน และเป็นข้อมูลที่เหมาะกับสาว ๆ มาก ๆ เลย ลองมาดูกันค่ะ
1. การใช้ถุงยาง อาจไม่ได้ช่วยป้องกันได้ดีอย่างที่คิด
          ถุงยางอนามัย สามารถเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการป้องกันการตั้งครรภ์ได้ดีที่สุด พอ ๆ กับการกินยาคุมกำเนิด และสามารถลดโอกาสเกิดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ แต่จะเกิดผลก็ต่อเมื่อมันถูกใช้อย่าง "ถูกวิธี" เท่านั้น
          ในห้วงเวลาเสน่หาที่อารมณ์กำลังคุกรุ่น เป็นช่วงยามที่คนเราควบคุมสติตัวเองได้น้อยกว่าเวลาปกติ หนุ่มสาวอาจมองข้ามการใส่ถุงยางอนามัยไปจนกว่าจะถึงนาทีสุดท้ายก่อนปืนจะ ลั่น ซึ่งทำให้ถุงยางอนามัยไม่ได้ช่วยลดความเสี่ยงจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เลย ในเมื่อมีการเสียดสีสอดใส่กันไป แล้ว (แม้ว่ายังจะไม่ปลดปล่อยก็ตาม) รวมทั้งยังไม่อาจป้องกันการตั้งครรภ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพตามจุดประสงค์ของ การใช้ถุงยางอีกด้วย เพราะแม้จะเป็นช่วงที่อารมณ์ยังไม่ถึงจุดสูงสุด แต่ "สเปิร์ม" ที่คาอยู่ระหว่างทางของท่อลำเลียงในอวัยวะเพศชาย ก็ถูกขับดันออกมาได้พร้อม ๆ กับน้ำหล่อลื่น นั่นจึงหมายความว่า หากมีการสอดใส่เข้าไปก่อนที่จะสวมถุงยางอนามัย ก็เท่ากับมีโอกาสตั้งครรภ์ได้แล้ว
          ที่กล่าวมายังไม่รวมการใช้ถุงยางอนามัยแบบผิด ๆ เช่น สวมเข้าไปสุดปลายจนไม่มีที่เหลือไว้สำหรับกักเก็บอสุจิที่จะปล่อยออกมา ใช้น้ำยาหล่อลื่นไม่ถูกประเภททำให้ถุงยางอนามัยแตก หรือสวมใส่ไม่ถูกขนาดจนถุงยางเลื่อนหลุดขณะประกอบกิจ รวมทั้งชายหนุ่มบางคนก็ยอมรับว่า ดึงถุงยางอนามัยทิ้งก่อนที่จะร่วมเพศเสร็จด้วย เรื่องแบบนี้ไม่ใช่ผู้ชายเท่านั้นที่จะต้องรู้เอาไว้ ผู้หญิงก็ต้องรู้เอาไว้จะได้ช่วยเตือนช่วยห้ามกันด้วยนะคะ

2. เร่งรีบกินยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน หากพลาดพลั้งมีเซ็กส์โดยไม่ได้ป้องกัน หรือถุงยางอนามัยแตกระหว่างทาง
          เมื่อได้พลาดพลั้งมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน หรือสิ่งที่ใช้ป้องกันเกิดหลุดจากที่ที่มันควรอยู่ (เช่น ถุงยางอนามัยแตก เลื่อนหลุด ห่วงคุมกำเนิดหลุด ฯลฯ) หรือกังวลว่าอาจตั้งครรภ์เพราะลืมทานยาคุมกำเนิดในช่วงที่มีเพศสัมพันธ์ การรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินเป็นช่วยป้องกันคุณจากการตั้งครรภ์ได้ และควรรับประทานภายใน 72 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ แต่จะได้ผลดีที่สุดเมื่อรับประทานหลังมีเพศสัมพันธ์ทันที เพราะฉะนั้นจึงเป็นการดีกว่าหากจะมียาคุมกำเนิดฉุกเฉินสักชุดเก็บไว้ใน ลิ้นชักส่วนตัว เพื่อจะสามารถรับมือกับเหตุการณ์พลาดพลั้งได้ทันท่วงที

          อย่างไรก็ตาม ในประเทศไทย ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินสามารถหาซื้อได้โดยไม่ต้องใช้ใบสั่งยาจากแพทย์ด้วยค่ะ แต่ต้องศึกษาให้ดี เพราะการทานบ่อยเกินไปจะมีผลกระทบต่อร่างกายแน่นอน แพทย์จึงแนะนำให้ใช้เมื่อยามจำเป็นจริง ๆ เท่านั้น
3. เซ็กส์ในวัยหนุ่มสาว มีความเสี่ยงต่อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์สูง
          ชายหญิงในช่วงอายุ 15-24 ปี เป็นช่วงวัยที่มีกิจกรรมทางเพศนับเป็น 25% เมื่อเทียบสัดส่วนกับช่วงวัยอื่น แต่กลับเป็นช่วงวัยที่พบโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์มากถึง 50% ตามสถิติจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (สหรัฐฯ) ในปี 2006
          นอกจากจะส่งเสริมการป้องกันที่ถูกต้องเมื่อมีเพศสัมพันธ์แล้ว ยังควรต้องตรวจร่างกายเพื่อหาเชื้อโรคที่มาจากการโรคติดต่อทางเพศ เช่น HIV ซิฟิลิส หนองในแท้ หนองในเทียมด้วย ส่วนความถี่ในการตรวจเพื่อค้นหาโรคนั้น ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมทางเพศของแต่ละบุคคล อาจตรวจทุก ๆ 4-5 เดือนในกรณีที่เปลี่ยนแฟนหรือคู่นอนบ่อย หรือตรวจทุก 2 ปี ในกรณีที่คบหาและมั่นคงอยู่กับคนคนเดียวก็ได้

4. โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์บางประเภท แทบไม่แสดงอาการให้ผู้ป่วยรู้ตัว
          ในเพศหญิงนั้น สามารถมีเชื้อหนองในแท้ (gonorrhea) หนองในเทียม (chlamydia) ซิฟิลิส (syphilis) และเอดส์ (HIV) อยู่ในร่างกายได้โดยไม่แสดงอาการใด ๆ ออกมาให้ผู้ป่วยรู้ตัว เช่น เชื้อหนองในเทียม มาจากการติดเชื้อแบคทีเรียขณะมีเพศสัมพันธ์ โรคจะไม่แสดงสัญญาณใด ๆ ที่บ่งให้ทราบได้ว่ากำลังติดเชื้อ แต่จะส่งผลเสียต่อระบบสืบพันธุ์เป็นอันมากในระยะยาว ฉะนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องตรวจเพื่อหาเชื้อที่อาจมาจากโรคติดต่อทางเพศ สัมพันธ์อย่างสม่ำเสมอ ความถี่ในการตรวจขึ้นอยู่กับพฤติกรรมทางเพศของบุคคล ยิ่งมีคู่นอนมากหน้าหลายตายิ่งต้องตรวจถี่ขึ้น
5. สาวที่มีกิจกรรมทางเพศบ่อย มีโอกาสติดเชื้อ HPV สูงขึ้น
          เชื้อ HPV หรือ Human Papillomavirus เป็นเชื้อไวรัสชนิดหนึ่งซึ่งก่อให้เกิดหูดชนิดต่าง ๆ มีสายพันธุ์มากกว่า 100 ชนิด และกว่า 30 ชนิดในนั้นก่อให้เกิดหูดที่อวัยวะเพศ ติดต่อกันได้ด้วยการมีเพศสัมพันธ์ โดยที่ผู้มีเชื้ออาจไม่รู้ตัวเองเลย และในหญิงที่ติดเชื้อ HPV มีโอกาสพัฒนาไปสู่การเป็นโรคมะเร็งปากมดลูกได้ การตรวจหาเชื้อ HPV ด้วยการทำแปบสเมียร์ จึงเป็นสิ่งที่ผู้หญิงทุกคนควรกระทำ ส่วนที่อายุต่ำกว่า 26 ปี ก็ควรได้รับวัคซีนป้องกันเชื้อ HPV ด้วย

6. ยาเม็ดคุมกำเนิด มีประโยชน์มากกว่าแค่ป้องกันการตั้งครรภ์
          ในหลาย ๆ ประเทศรวมทั้งประเทศไทย สามารถหาซื้อยาเม็ดคุมกำเนิดได้โดยไม่ต้องอาศัยใบสั่งยาจากแพทย์ นอกจากจะกินเพื่อการป้องกันการตั้งครรภ์แล้ว มันยังมีประโยชน์อื่น ๆ อีก ได้แก่
6.1 ลดปริมาณเลือดประจำเดือนในหญิงที่มีอาการโลหิตจาง
6.2 บรรเทาอาการปวดท้องประจำเดือน
6.3 ลดความเสี่ยงในการเป็นโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ และมะเร็งรังไข่
6.4 บรรเทาอาการอารมณ์ไม่เสถียรในช่วงมีประจำเดือน อันเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนเพศ
6.5 ช่วยบรรเทาอาการสิว

          ใครมีอาการดังที่กล่าว สามารถใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดในการบรรเทาอาการได้ แต่ในบางรายก็สามารถมีผลข้างเคียงบางประการเช่น เจ็บเต้านม เวียนศีรษะ หรือคลื่นไส้ ซึ่งอาการจะค่อย ๆ หายไปได้เองเมื่อกินยาติดต่อกัน 2-3 เดือนค่ะ

          เรื่องเกี่ยวกับเพศเหล่านี้จะเป็นประโยชน์กับสาว ๆ ได้แน่นอน หากไม่ใช่ในตอนนี้ ก็เป็นในอนาคตข้างหน้านี่แหละค่ะ ขอ ให้จำไว้ว่าเรื่องเพศไม่ใช่เรื่องน่าอาย การมีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับมันเป็นเรื่องจำเป็น จำเป็นทั้งต่อสวัสดิภาพและสุขภาพของเรา รวมทั้งของคนรักด้วยนะคะ สาว ๆ คนไหนที่ได้อ่านแล้ว อย่าลืมแชร์เรื่องราวที่ผู้หญิงควรรู้ให้เพื่อนสาวของคุณด้วยนะคะ ^^

Report : LIV Capsule
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่