เที่ยว "วังเวียง" หน้าฝน คือที่สุด

ทริปนี้เดินทาง 6-9 สิงหาคม 2558
6 สค. 58 เริ่มต้นการเดินทางแบบตุ้มๆต่อมๆ จากสนามบินเชียงใหม่สู่สนามบินอุดรธานี โดยสายการบินนกแอร์ ซึ่งมีแค่ไฟล์ทเดียว (16.10) ต่อวันเท่านั้น พากันแบกสัมภาระวิ่งเข้าสนามบิน หอบกินเลยครับ
ถึงสนามบินอุดรโดยสวัสดิภาพตามเวลา นั่งแท็กซี่สนามบิน (ป้ายเขียว) ไปที่พัก เหมา 200 บาท


คืนนี้เราใช้ชีวิตในตัวเมืองอุดรอย่างเปรม กินปลาเผาที่ UD TOWN อารมณ์ประมาณสยามได้เลย แหล่งรวมของวัยรุ่นแบบพวกเรา ^^
ต่อด้วยหนังรอบดึก แบบ FASTASTIC 4 พากย์ไทย ที่ Central Udon รอเพื่อนที่จะตามมาสมทบ
แล้วเข้าที่พักสุดหรูที่ The ONE residence แต่รีเซปชั่นงงๆ นิดหน่อย

**ที่พักโอเคเลยครับ สะอาด เงียบ มีฟรี WIFI แต่ไม่มีอาหารเช้านะครับ
นอนพักเอาแรงไว้เริ่มต้นพรุ่งนี้ละครับ

เริ่มต้นเช้าวันใหม่ 7 สค 58 ด้วยการรีบตื่นไป บขส (เก่า) เพื่อซื้อตั๋วไปวังเวียง ย้ำ!! ตั๋วมีเที่ยวเดียวต่อวัน รอบ 8.30 ครับ ราคา 320 บาท แต่ต้องรีบไปต่อคิวนะครับ คนเยอะนะ นี่ขนาดไม่ใช่ช่วงท่องเที่ยว
*นาทีระทึกบังเกิดสิครับ ถึงคิวผมละ คนขายตั๋วบอกขอโทรศัพท์หาคิวที่หนองคายก่อนนะว่าตั๋วหมดยัง (คือมันเป็นรถ อุดร-หนองคาย-วังเวียง) นี่ยืนลุ้นประมาณ 3 นาที ถึงได้ตั๋ว ร่วมๆ ก็ 7 โมงกว่าๆ ได้ตั๋วเสร็จก็ไปหาอะไรกินซะหน่อย เลยแวะร้าน "ยิ่งอุดม" เป็นอาหารแนวโจ๊ก ข้าวต้ม ไข่กระทะ ไรงี้ อร่อยดีครับ จากนั้นก็กลับโรงแรมไป check out
==ถึงเวลาแล้ววววววว รถบัสรออยู่ที่ชานชลา เป็นรถบัสลาวนะครับ (พวงมาลัยซ้าย) ลุยครับลุย Let's goooo
รถออกละครับ...ผมนั่งแถว 1 ครับ ดีครับดี ใกล้ชิดคนขับ ผู้ช่วยคนขับ และหญิงนิรนามคนนึง เป็นไงหล่ะครับ เม้าท์กันกระจายสิครับ ภาษาไทย ลาว เมามันส์กันไป หัวเราะกิ๊กๆๆ (คือเกรงใจตรูบาง)
ซักพักรถจอดแถวตลาดครับ (จอดทำไมอ่ะ)...ผู้ช่วยคนขับ ลงไปเติมตังค์โทรศัพท์ ตามด้วยหญิงนิรนามลงไปซื้อหอยแมลงภู่ลวก ครับทั่น >> นี่มันอัลไลครับ ไม่เป็นไร อภัยให้ได้ อ่ะรถเดินทางต่อครับไปยัง บขส.หนองคาย แวะรับคน เข้าห้องน้ำ แล้วก็เดินทางต่อไปยังด่านข้ามแดนเลยครับ

==ถึงด่าน รถจอดให้ลงตรวจ passport คนขับย้ำนะครับว่า ห้ามแลกเงิน เพราะจะทำให้ช้า แต่พวกเราฟังมั้ย...ตอบ!!! ไม่ครับไม่ จัดไปคนละ แสนสองแสนครับ (ผมแลกไปแค่ 2000 บาทครับ rate อยู่ที่ 236.75 kip/1 baht) จากนั้นก็เดินทางข้ามสะพานมิตรภาพเพื่อไปยังฝั่งลาวครับ

พอเข้าเวียงจันทร์แล้วถนนดีมากครับ เป็นคอนกรีต 6 เลนอย่างดี เสาไฟฟ้านี่ต้นใหญ่มาก ว้าวๆๆ ลาวเจริญสุดๆ

ข้างหน้าชักเริ่มมีเมฆดำ รึนี่เป็นสัญญาณบอกเราว่า...WELCOME to LAOS... ซักพักฝนเริ่มตกจ้า ไม่เป็นไรพร้อมลุยถนนดี



นั่งมาเรื่อยๆ นี่ชักเริ่มสั่น อากาศหนาวหรา?? ป๊าวววว ดูถนนสิครับ นี่ถนนของเวียงจันทร์นะครับพี่น้อง ว่าจะหลับซะหน่อยที่ไหนได้หล่ะ เห็นแบบนี้ อีกกี่ชั่วโมงจะถึงวังเวียงครับเนี่ยยยยยย



ไม่เป็นไรใจพร้อม กายพร้อม!!! เอี๊ยดดดดด รถหยุด คนขับบอกว่าขอแวะซื้อน้ำแพร๊บบบบ สักพักได้ยินเสียง ตุ๊บ ตุ๊บ ตุ๊บ เหมือนลูกโป่งแตก ผมนี่รีบมองออกไปนอกหน้าต่าง บร๊ะ ผู้ช่วยคนขับ และแม่หญิงนิรนาม ทั้งสองกำลังยืนเล่นเกมส์ปาลูกโป่ง (แบบงานวัดบ้านเรา) เพื่อให้ได้มาซึ่งน้ำ 2 ขวด ในขณะที่ผู้โดยสารเกือบห้าสิบนั่งหลับนั่งรอนั่งหุยอยู่บนรถ

บ้าไปแล้ว!!! เพื่อนผมหุย (=อุทาน ในภาษาเหนือ) แบบว่าอดใจไม่ไหวละครัช เจ้ที่นั่งหลังคนขับถึงกับถามคนขับ "แล้วนี่สิถึงกี่โมงหล่ะเนี่ย!!!" พี่แกตอบอย่างชัดถ้อยชัดคำ เรื่อยๆคร้าบ บ่าย 3 ก็ถึง...คือคุณยิ้มครับ ออก 8.30 ถึงบ่าย 3 จะชิวไปไหน จากนั้นก็บีบแตรเรียกพลพรรคขึ้นรถ
==เอาจริงนะ คือผมรู้สึกเหมือน 3 สามคนนี้ขับบัสมาเที่ยวไทย แล้วพวกเราอาศัยรถเข้ากลับลาวยังไงชอบกล นี่มันเหมือนมาจ่ายตลาด เที่ยวงานวัดนี่หว่า ป่ะๆ เดินทางต่อ
...สักพัก รถจอดอีกแล้วครับท่านผู้ชม แต่รอบนี้แวะเข้าห้องน้ำและหาไรกิน (หิวมากบอกเลย แนะนำตุนอาหารจากไทยไปเยอะๆ ครับ แล้วจะหาว่าไม่บอก) เย่ๆๆๆๆๆ ได้กินอะไรสักที ไหนดูสิมีไรกินบ้าง

คือๆๆๆๆๆ แพงมาก!!! นี่ถ้าตีเป็นเงินบาทก็เริ่มต้นที่ 50 บาทอ่ะ อย่างเช่น มาม่าคัพ (คือยี่ห้อ ตัวหนังสือ ไทยเต็มๆ ประมาณว่าอิมพอร์ตจากไทย) พร้อมน้ำร้อน ราคา 10,000 kip  ข้าวจี่อันละ 5000 kip กล้วยใส่ไส้มะพร้าว 3 ลูก 5000 kip



**ย้ำอีกครั้ง ซื้อของไทย ตุนของไทย จากฝั่งไทยไปเยอะๆ ไม่ใช่ไม่ให้กินของฝั่งลาวนะครับ แต่สินค้าเกือบทุกอย่าง แบรนด์ไทย 555
หลังจากกินอะไรรองท้องแล้ว ก็เดินทางต่อครับ

ถนนหนทางในลาว ถือว่ายังไม่พัฒนาครับ หลุมขรุขระค่อนข้างเยอะ นี่ดีนะ(มั้ย) ฤดูฝน คือถ้าถนนแห้งนี่ไม่อยากคิดเลย ฝุ่นควันกระจายแน่

นี่แค่เริ่มต้นนะครับ
ต่อใน comment นะครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่