-----------------------------------------------
ติดตามทริปการเดินทางของเราได้ตามนี้นะครับ
หนีงานไปเที่ยว : ตามฝันถิ่นคันไซ
- ตอนที่ 1 เตรียมเนื้อเตรียมตัว
http://ppantip.com/topic/34032943
- ตอนที่ 2 Bangkok - Osaka ตื่นเต้นฝุดๆ
http://ppantip.com/topic/34033942
- ตอนที่ 3 Osaka - Endo Sushi - Universal Studio ตอนที่ 1
http://ppantip.com/topic/34037448
- ตอนที่ 4 Universal Studio คืนสู่วัยเยาว์ในโลกใบใหญ่ ตอนที่ 2
http://ppantip.com/topic/34046029
- ตอนที่ 5 SLOW LIFE IN HIMEJI
http://ppantip.com/topic/34064955/comment1
- ตอนที่ 6 KOBE ไม่ได้มีแค่เนื้อนะ!!
http://ppantip.com/topic/34104765
- ตอนที่ 7 KYOTO ตัวตนของญี่ปุ่น
http://ppantip.com/topic/34161446
ผมทำ Facebook Page กับเขียน Blog ไว้สำหรับคนทำงาน ที่อยากหนีงานไปเที่ยวเข้ามาพูดคุยหรือแชร์เรื่องราวกันครับ ลองแวะไปเยี่ยมชม ติชม หรือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้นะครับ ^_^
https://www.facebook.com/ibreak2travel
https://ibreak2travel.wordpress.com/
-----------------------------------------------
ต่อเนื่องจากตอนที่แล้วนะครับ ตอนนี้ขอกลับมาเล่าเรื่องประสบการณ์สุดแสนประทับใจกับ 1 วันใน Universal Studio Osaka กันนะครับ
ญี่ปุ่นถือเป็นประเทศที่บริหารจัดการพื้นที่อย่างไม่ฟุ่มเฟือยนะครับ เห็นได้จากบ้านเรือน โรงแรม ห้องน้ำ และสถานที่ต่างๆ ทุกแห่งจะถูกจัดสรรพื้นที่เท่าที่จำเป็น แม้อาจจะไม่ดูโอ่โถงเหมือนบ้านเรา แต่ก็ถูกชดเชยด้วยการออกแบบเฟอร์นิเจอร์ หรืออุปกรณ์ใช้สอยที่ครบครัวและเหมาะกับพื้นที่ เวลาเราไปญี่ปุ่น เราจึงเข้าใจวัฒนธรรมในการใช้ของและพื้นที่อย่างรู้จักคิดไปโดยปริยาย…
แต่ไม่ใช่กับ Universal Studio Osaka!!!
แผนที่เส้นทางรถไฟมายังสถานี Universal City
เมื่อเราเดินทางด้วยรถไฟ JR มาถึงสถานี Universal City แล้ว สิ่งที่เราพบคือความโอ่อ่าอลังการของ Universal City Walk ซึ่งเป็น Community Mall สำหรับชอปฯ ชิม แชะ กับหลากหลายร้านค้าน่าละลายทรัพย์และร้านอาหารน่าอร่อย แต่อย่างที่เคยบอกไปเมื่อ ตอนที่แล้วว่าให้อดใจไว้ก่อน เราเข้าไปเที่ยว Universal ก่อน แล้วออกมาชอปฯ ก็ไม่เสียหายครับ
หักห้ามใจแล้วเดินข้ามโซน Citywalk นี้ไปก่อนน๊า
สิ่งที่เราต้องทำตอนนี้คือรีบไปจองรอบ เพื่อเข้าไปเที่ยว The Wizarding World of Harry Potter กันให้ได้ก่อนครับ เพราะคิวยาวมากก….ก
คลิ๊กที่นี่
https://ibreak2travel.files.wordpress.com/2015/08/studiomap-1.jpg เพื่อโหลดแผนที่ภาพใหญ่ได้เลยจ้า
อย่างที่ได้บอกไปว่าทริปนี้ผมโลภครับ ซื้อตั๋วรวมทุกเครื่องเล่นมาเลย มาทั้งที ต้องเล่นให้ครบ (แต่ไม่รู้จะครบไหมน๊า) ราคาตั๋วก็ตามนี้เลยนะครับ
บัตรผ่านประตูแบบปกติ
บัตรแบบ express ไม่คนไม่ชอบรอคิว 3, 5, หรือ 7 เครื่องเล่น
** หมายเหตุ : หากต้องการใช้บัตรผ่านแบบ express ต้องซื้อบัตรผ่านประตูแบบปกติก่อนนะครับ ไม่เช่นนั้นจะเข้าไม่ได้ครับ
เมื่อผ่านประตูเข้าไปแล้ว เราจะผ่านโซนดักเงินอันแรกครับ
เป็นโซนร้านขายของที่ระลึกอยู่ซ้ายมือครับ ที่นี่จะมีสินค้าของ Universal Studio จากทุกโซนมาวางขายนะครับ (แต่จะไม่มี item ลับ ที่จะมีขายเฉพาะร้านขายของที่ระลึกของเครื่องเล่นนั้นๆ เท่านั้นครับ) ดังนั้นถ้าเข้ามาถึงตรงนี้แล้ว อยากซื้อหมวก ที่คาดผม หรือของเล็กๆ น้อยๆ ไว้ใส่สร้างบรรยากาศก็เรียนเชิญครับ สำหรับผมแนะนำให้ซื้อขากลับครับ จะได้ไม่ต้องแบก
ความน่ารักของบริเวณโซนทางเข้าก็คือ เค้าจะมีบริการแต้มหน้าแต่งตาให้เข้ากับธีมของ Universal Studio ด้วยนะครับ
สาวญี่ปุ่นน่ารักจริงๆ
เจ้าหน้าที่คนนี้ยิ้มแย้มต้อนรับ ไม่รู้จักเหนื่อยเลย!!
เป็นสถานที ที่บรรดาลุงๆ ได้มาปล่อยแก่ กลับเป็นเด็กอีกครั้ง
เครื่องเล่นแรกที่จะเจอทางซ้ายมือ คือ Shrek’s 4D Adventure ครับ แต่ผมไม่ได้เล่นครับ เพราะจะรีบไปจองคิวเข้าโซน Harry Potter ผมเลยยอมให้ Shrek มาถ่ายรูปคู่กับผมแทนเป็นการปลอบใจ
Shrek เป็นขวัญใจของเด็กๆ เสมอ
เบ่งกล้ามแข่งกับผมด้วยยย
ระหว่างทางผมก็แฟนก็แวะถ่ายภาพกันเป็นระยะๆ
หนูน้อยกับเจ้าเสือเพลย์บอย Pink Panther
การจะเข้าไป The Wizarding World of Harry Potter นั้น เราต้องไปจองคิวก่อนครับ ให้เดินไปที่จุดหมายเลข 65 บนแผนที่ที่ผมแชร์ไว้ครับ บริเวณนั้นจะมีเจ้าหน้าที่คอยให้คำแนะนำอยู่ครับ (โปรดต่อคิวนะครับ อย่าแซงแถว อายเค้า)
หมายเลข 65 อยู่ด้านบนตรงกลางของแผนที่
มีเครื่องสำหรับลงจองคิวไว้บริการหลายเครื่อง พร้อมพนักงานไว้คอยแนะนำอย่างดีครับ อ่านไม่ออก ก็เรียกพนักงานน๊า
แน่นอนครับ… ภาษาญีปุ่น
แต่ไม่ต้องกลัว พนักงานที่นี่น่ารักและมีใจบริการจ้า
ผมกับแฟนไปถึงประมาณ 10 โมงกว่าๆ แต่ดูสิครัส เวลาที่จะได้เข้าโซน Harry คือ 15:20 – 16:20 น. ดังนั้นหลังจากนี้เราก็จะไปเที่ยวเครื่องเล่นอื่นกันแล้วครับ ซึ่งใกล้ๆ กันนั้นก็จะมีอีกหนึ่งโซนที่ผมโปรดมาก นั่นคือ Amity Village ซึ่งก็คือหมู่บ้านที่ปรากฏในภาพยนตร์เรื่อง JAWS นั่นเอง!!!!
ที่ Universal Studio นอกจากเค้าจะทำเครื่องเล่นเจ๋งๆ ไว้ให้เราสนุกกันแล้ว เพื่อให้ได้อรรถรสในการเที่ยวชม แต่ละโซนจะจำลองบรรยากาศของภาพยนตร์เรื่องนั้น มาให้เราได้สัมผัสกันจริงๆ เลยนะครับ ลองดูบรรยากาศของ Amity Village กันสิครับ
คิวเครื่องเล่นที่นี่ต้องต่อแถวกันยาวครับ แต่เค้าจะมีเวลาบอกนะ ว่าคุณจะต้องรอแถวประมาณกี่นาที
คือว่าแถวยาวววว…
หลังจากรอเข้าคิวมาพักใหญ่ เราก็จะได้ไปลุยกับฉลามขาวยักษ์จากเรื่อง JAWS กันแล้นนน !!!!
แม้ จนท. จะพูดภาษาญี่ปุ่นนะ แต่เราก็สามารถเดาเรื่องราวได้จากภาษากายของครับ (แอ๊คติ้งโคตรดีเลยล่ะ) Story ของเครื่องเล่นก็ประมาณว่าพวกเราเป็นนักท่องเที่ยวมาล่องเรือเที่ยวชมหมู่บ้านริมทะเล Amity Village แล้วขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังพาชม ก็ได้รับวิทยุแจ้งมาว่ามีฉลามหลุดเข้ามาทำอันตรายคนในหมู่บ้าน ทีนี้พวกเราซึ่งอยู่กลางทางก็จะได้เห็นสภาพของหมู่บ้านที่ถูกฉลามยักษ์โจมตี มีรอยเลือด มีเรือพัง และสุดท้าย… ก็ถึงคราวเราที่จะต้องโดนโจมตี !!!!!!
ระวัง!!! ฉลามมาแล้ว!!!
เจ้าฉลามขาว โผล่ขึ้นมาจู่โจม ดูเลือดสิ เต็มปากเลย !!!
เสร็จจากการลุยกับฉลามขาว ท้องเราก็เริ่มหิว เลยขอจัดมื้อกลางวันสักมื้อที่ Amity Village ครับ
บรรยากาศร้านก็ดูสมจริง เข้ากับธีมหมู่บ้าน
อิ่มหนำสำราญแล้ว ก็ได้เวลาไปให้อาหาร T-Rex กันล่ะ ใช่แล้ว เรากำลังจะไปโซน Jurassic Park กัน (หมายเลข 50 บนแผนที่) มาถึงตรงนี้เปิด Sountrack Jurassic Park ประกอบด้วยจะได้อรรถรสมาก
จำรถคันนี้กันได้ม๊ายยย
ไปหม่ำเนื้อไดโนเสาร์กัน 5555
Universal Studio เนี่ยเค้าจริงจังกับการสร้างบรรยากาศมาก ผมกับแฟนรู้สึกเหมือนได้เป็น ดร.อลัน กับ ดร.แอลลี่ จาก Jurassic Park ภาคแรกเลย อ้าว!! งงเลย คนอายุไม่ถึง 30 งงเลยครับ ว่าสองคนนี้เป็นใคร 5555
คิวรอเครื่องเล่น Jurassic Park นี่รอนานกว่า JAWS อีกครับ นักท่องเที่ยวหลายคนรอไป กินไป ดื่มไป กันเลย อ้อ!! เครื่องเล่นนี้จะคล้ายๆ กับ Water Splash (หรือล่องแก่ง) ของ Dream World ครับ ถ้ากลัวเปียกผมแนะนำให้ซื้อเสื้อกันฝนจากตู้จำหน่ายอัตโนมัตินะครับ (แฟนผมเตรียมไปจากเมืองไทยเลยครับ เพราะราคาถูกกว่ากันมาก 5555 แหม…รอบคอบจริงๆ)
ตอนที่เรือพุ่งลงมานี่ น้ำกระจาย เปียกโชกเลย
ถึงจะเปียกปอน แต่ก็ยิ้มแย้มสนุกสนานกันทุกคน
สำหรับเครื่องเล่นนี้ไม่ขอไม่สปอยล์นะ ไม่งั้นไม่มัน แต่ขอบอกว่า โคตรตื่นเต้น !!!!!
เสร็จจาก Jurassic Park เราก็ไปเดินถ่ายรูปเล่น กินบรรยากาศกันอีกนิดหน่อย แล้วก็ได้เวลาไปเข้าคิวรอเข้าโซน Harry Potter กันแล้วครับ ตอนนี้เป็นเวลาสำหรับรอบ 14:50 ยังไม่ถึงรอบของเรา ผมเลยเดินถ่ายภาพบรรยากาศมาฝากกัน
บรรยากาศบริเวณทางเข้าของโซน Harry Potter คนเพียบเลย
รออีกไม่นานก็ได้เวลาของพวกเราแล้ว ดีใจฝุดๆ
หนีงานไปเที่ยว : ตามฝันถิ่นคันไซ (Day 2 : Universal Studio คืนสู่วัยเยาว์ในโลกใบใหญ่ #2)
ติดตามทริปการเดินทางของเราได้ตามนี้นะครับ
หนีงานไปเที่ยว : ตามฝันถิ่นคันไซ
- ตอนที่ 1 เตรียมเนื้อเตรียมตัว http://ppantip.com/topic/34032943
- ตอนที่ 2 Bangkok - Osaka ตื่นเต้นฝุดๆ http://ppantip.com/topic/34033942
- ตอนที่ 3 Osaka - Endo Sushi - Universal Studio ตอนที่ 1 http://ppantip.com/topic/34037448
- ตอนที่ 4 Universal Studio คืนสู่วัยเยาว์ในโลกใบใหญ่ ตอนที่ 2 http://ppantip.com/topic/34046029
- ตอนที่ 5 SLOW LIFE IN HIMEJI http://ppantip.com/topic/34064955/comment1
- ตอนที่ 6 KOBE ไม่ได้มีแค่เนื้อนะ!! http://ppantip.com/topic/34104765
- ตอนที่ 7 KYOTO ตัวตนของญี่ปุ่น http://ppantip.com/topic/34161446
ผมทำ Facebook Page กับเขียน Blog ไว้สำหรับคนทำงาน ที่อยากหนีงานไปเที่ยวเข้ามาพูดคุยหรือแชร์เรื่องราวกันครับ ลองแวะไปเยี่ยมชม ติชม หรือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้นะครับ ^_^
https://www.facebook.com/ibreak2travel
https://ibreak2travel.wordpress.com/
-----------------------------------------------
ต่อเนื่องจากตอนที่แล้วนะครับ ตอนนี้ขอกลับมาเล่าเรื่องประสบการณ์สุดแสนประทับใจกับ 1 วันใน Universal Studio Osaka กันนะครับ
ญี่ปุ่นถือเป็นประเทศที่บริหารจัดการพื้นที่อย่างไม่ฟุ่มเฟือยนะครับ เห็นได้จากบ้านเรือน โรงแรม ห้องน้ำ และสถานที่ต่างๆ ทุกแห่งจะถูกจัดสรรพื้นที่เท่าที่จำเป็น แม้อาจจะไม่ดูโอ่โถงเหมือนบ้านเรา แต่ก็ถูกชดเชยด้วยการออกแบบเฟอร์นิเจอร์ หรืออุปกรณ์ใช้สอยที่ครบครัวและเหมาะกับพื้นที่ เวลาเราไปญี่ปุ่น เราจึงเข้าใจวัฒนธรรมในการใช้ของและพื้นที่อย่างรู้จักคิดไปโดยปริยาย…
แต่ไม่ใช่กับ Universal Studio Osaka!!!
แผนที่เส้นทางรถไฟมายังสถานี Universal City
เมื่อเราเดินทางด้วยรถไฟ JR มาถึงสถานี Universal City แล้ว สิ่งที่เราพบคือความโอ่อ่าอลังการของ Universal City Walk ซึ่งเป็น Community Mall สำหรับชอปฯ ชิม แชะ กับหลากหลายร้านค้าน่าละลายทรัพย์และร้านอาหารน่าอร่อย แต่อย่างที่เคยบอกไปเมื่อ ตอนที่แล้วว่าให้อดใจไว้ก่อน เราเข้าไปเที่ยว Universal ก่อน แล้วออกมาชอปฯ ก็ไม่เสียหายครับ
หักห้ามใจแล้วเดินข้ามโซน Citywalk นี้ไปก่อนน๊า
สิ่งที่เราต้องทำตอนนี้คือรีบไปจองรอบ เพื่อเข้าไปเที่ยว The Wizarding World of Harry Potter กันให้ได้ก่อนครับ เพราะคิวยาวมากก….ก
คลิ๊กที่นี่ https://ibreak2travel.files.wordpress.com/2015/08/studiomap-1.jpg เพื่อโหลดแผนที่ภาพใหญ่ได้เลยจ้า
อย่างที่ได้บอกไปว่าทริปนี้ผมโลภครับ ซื้อตั๋วรวมทุกเครื่องเล่นมาเลย มาทั้งที ต้องเล่นให้ครบ (แต่ไม่รู้จะครบไหมน๊า) ราคาตั๋วก็ตามนี้เลยนะครับ
บัตรผ่านประตูแบบปกติ
บัตรแบบ express ไม่คนไม่ชอบรอคิว 3, 5, หรือ 7 เครื่องเล่น
** หมายเหตุ : หากต้องการใช้บัตรผ่านแบบ express ต้องซื้อบัตรผ่านประตูแบบปกติก่อนนะครับ ไม่เช่นนั้นจะเข้าไม่ได้ครับ
เมื่อผ่านประตูเข้าไปแล้ว เราจะผ่านโซนดักเงินอันแรกครับ เป็นโซนร้านขายของที่ระลึกอยู่ซ้ายมือครับ ที่นี่จะมีสินค้าของ Universal Studio จากทุกโซนมาวางขายนะครับ (แต่จะไม่มี item ลับ ที่จะมีขายเฉพาะร้านขายของที่ระลึกของเครื่องเล่นนั้นๆ เท่านั้นครับ) ดังนั้นถ้าเข้ามาถึงตรงนี้แล้ว อยากซื้อหมวก ที่คาดผม หรือของเล็กๆ น้อยๆ ไว้ใส่สร้างบรรยากาศก็เรียนเชิญครับ สำหรับผมแนะนำให้ซื้อขากลับครับ จะได้ไม่ต้องแบก
ความน่ารักของบริเวณโซนทางเข้าก็คือ เค้าจะมีบริการแต้มหน้าแต่งตาให้เข้ากับธีมของ Universal Studio ด้วยนะครับ
สาวญี่ปุ่นน่ารักจริงๆ
เจ้าหน้าที่คนนี้ยิ้มแย้มต้อนรับ ไม่รู้จักเหนื่อยเลย!!
เป็นสถานที ที่บรรดาลุงๆ ได้มาปล่อยแก่ กลับเป็นเด็กอีกครั้ง
เครื่องเล่นแรกที่จะเจอทางซ้ายมือ คือ Shrek’s 4D Adventure ครับ แต่ผมไม่ได้เล่นครับ เพราะจะรีบไปจองคิวเข้าโซน Harry Potter ผมเลยยอมให้ Shrek มาถ่ายรูปคู่กับผมแทนเป็นการปลอบใจ
Shrek เป็นขวัญใจของเด็กๆ เสมอ
เบ่งกล้ามแข่งกับผมด้วยยย
ระหว่างทางผมก็แฟนก็แวะถ่ายภาพกันเป็นระยะๆ
หนูน้อยกับเจ้าเสือเพลย์บอย Pink Panther
การจะเข้าไป The Wizarding World of Harry Potter นั้น เราต้องไปจองคิวก่อนครับ ให้เดินไปที่จุดหมายเลข 65 บนแผนที่ที่ผมแชร์ไว้ครับ บริเวณนั้นจะมีเจ้าหน้าที่คอยให้คำแนะนำอยู่ครับ (โปรดต่อคิวนะครับ อย่าแซงแถว อายเค้า)
หมายเลข 65 อยู่ด้านบนตรงกลางของแผนที่
มีเครื่องสำหรับลงจองคิวไว้บริการหลายเครื่อง พร้อมพนักงานไว้คอยแนะนำอย่างดีครับ อ่านไม่ออก ก็เรียกพนักงานน๊า
แน่นอนครับ… ภาษาญีปุ่น
แต่ไม่ต้องกลัว พนักงานที่นี่น่ารักและมีใจบริการจ้า
ผมกับแฟนไปถึงประมาณ 10 โมงกว่าๆ แต่ดูสิครัส เวลาที่จะได้เข้าโซน Harry คือ 15:20 – 16:20 น. ดังนั้นหลังจากนี้เราก็จะไปเที่ยวเครื่องเล่นอื่นกันแล้วครับ ซึ่งใกล้ๆ กันนั้นก็จะมีอีกหนึ่งโซนที่ผมโปรดมาก นั่นคือ Amity Village ซึ่งก็คือหมู่บ้านที่ปรากฏในภาพยนตร์เรื่อง JAWS นั่นเอง!!!!
ที่ Universal Studio นอกจากเค้าจะทำเครื่องเล่นเจ๋งๆ ไว้ให้เราสนุกกันแล้ว เพื่อให้ได้อรรถรสในการเที่ยวชม แต่ละโซนจะจำลองบรรยากาศของภาพยนตร์เรื่องนั้น มาให้เราได้สัมผัสกันจริงๆ เลยนะครับ ลองดูบรรยากาศของ Amity Village กันสิครับ
คิวเครื่องเล่นที่นี่ต้องต่อแถวกันยาวครับ แต่เค้าจะมีเวลาบอกนะ ว่าคุณจะต้องรอแถวประมาณกี่นาที
คือว่าแถวยาวววว…
หลังจากรอเข้าคิวมาพักใหญ่ เราก็จะได้ไปลุยกับฉลามขาวยักษ์จากเรื่อง JAWS กันแล้นนน !!!!
แม้ จนท. จะพูดภาษาญี่ปุ่นนะ แต่เราก็สามารถเดาเรื่องราวได้จากภาษากายของครับ (แอ๊คติ้งโคตรดีเลยล่ะ) Story ของเครื่องเล่นก็ประมาณว่าพวกเราเป็นนักท่องเที่ยวมาล่องเรือเที่ยวชมหมู่บ้านริมทะเล Amity Village แล้วขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังพาชม ก็ได้รับวิทยุแจ้งมาว่ามีฉลามหลุดเข้ามาทำอันตรายคนในหมู่บ้าน ทีนี้พวกเราซึ่งอยู่กลางทางก็จะได้เห็นสภาพของหมู่บ้านที่ถูกฉลามยักษ์โจมตี มีรอยเลือด มีเรือพัง และสุดท้าย… ก็ถึงคราวเราที่จะต้องโดนโจมตี !!!!!!
ระวัง!!! ฉลามมาแล้ว!!!
เจ้าฉลามขาว โผล่ขึ้นมาจู่โจม ดูเลือดสิ เต็มปากเลย !!!
เสร็จจากการลุยกับฉลามขาว ท้องเราก็เริ่มหิว เลยขอจัดมื้อกลางวันสักมื้อที่ Amity Village ครับ
บรรยากาศร้านก็ดูสมจริง เข้ากับธีมหมู่บ้าน
อิ่มหนำสำราญแล้ว ก็ได้เวลาไปให้อาหาร T-Rex กันล่ะ ใช่แล้ว เรากำลังจะไปโซน Jurassic Park กัน (หมายเลข 50 บนแผนที่) มาถึงตรงนี้เปิด Sountrack Jurassic Park ประกอบด้วยจะได้อรรถรสมาก
จำรถคันนี้กันได้ม๊ายยย
ไปหม่ำเนื้อไดโนเสาร์กัน 5555
Universal Studio เนี่ยเค้าจริงจังกับการสร้างบรรยากาศมาก ผมกับแฟนรู้สึกเหมือนได้เป็น ดร.อลัน กับ ดร.แอลลี่ จาก Jurassic Park ภาคแรกเลย อ้าว!! งงเลย คนอายุไม่ถึง 30 งงเลยครับ ว่าสองคนนี้เป็นใคร 5555
คิวรอเครื่องเล่น Jurassic Park นี่รอนานกว่า JAWS อีกครับ นักท่องเที่ยวหลายคนรอไป กินไป ดื่มไป กันเลย อ้อ!! เครื่องเล่นนี้จะคล้ายๆ กับ Water Splash (หรือล่องแก่ง) ของ Dream World ครับ ถ้ากลัวเปียกผมแนะนำให้ซื้อเสื้อกันฝนจากตู้จำหน่ายอัตโนมัตินะครับ (แฟนผมเตรียมไปจากเมืองไทยเลยครับ เพราะราคาถูกกว่ากันมาก 5555 แหม…รอบคอบจริงๆ)
ตอนที่เรือพุ่งลงมานี่ น้ำกระจาย เปียกโชกเลย
ถึงจะเปียกปอน แต่ก็ยิ้มแย้มสนุกสนานกันทุกคน
สำหรับเครื่องเล่นนี้ไม่ขอไม่สปอยล์นะ ไม่งั้นไม่มัน แต่ขอบอกว่า โคตรตื่นเต้น !!!!!
เสร็จจาก Jurassic Park เราก็ไปเดินถ่ายรูปเล่น กินบรรยากาศกันอีกนิดหน่อย แล้วก็ได้เวลาไปเข้าคิวรอเข้าโซน Harry Potter กันแล้วครับ ตอนนี้เป็นเวลาสำหรับรอบ 14:50 ยังไม่ถึงรอบของเรา ผมเลยเดินถ่ายภาพบรรยากาศมาฝากกัน
บรรยากาศบริเวณทางเข้าของโซน Harry Potter คนเพียบเลย
รออีกไม่นานก็ได้เวลาของพวกเราแล้ว ดีใจฝุดๆ