เที่ยวเสียมเรียบ 4 วัน 3 คืน เก็บทุกปราสาท

มาเล่าประสบการณ์ไปเที่ยวกัมพูชา ช่วงหน้าฝน (หึหึ) วันที่ 30 กรกฎาคม – 2 สิงหาคม 2558 ที่ผ่านมาค่ะ ความตั้งใจแรกเริ่มเดิมที
คือไปดู นครวัด (กระทู้บัลดาลใจ คือ ทู้นี้ http://ppantip.com/topic/31492351 อ่านแล้วติดใจในตรงประโยคที่ บอกว่า “See Angkor Wat and Die” แล้วก็สัญญากับตัวเองไว้ว้า เอาวะ ก่อนตายขอไปเห็นด้วยตาตัวเองสักครั้ง) แต่พอเริ่มศึกษาข้อมูล จากกระทู้ใน pantip  ตกใจเลยว่า ปราสาทเยอะมากๆ ใจก็คิดเลยว่าจะเที่ยวยังไงให้ครบทุกที่เนี๊ยะ  จากนั้น เอาแผนเที่ยวของแต่ละกระทู้มายำรวมกัน เป้าหมายคือ เก็บปราสาทหลักๆให้ครบ แล้วก็ Landmark เด่นๆ สำหรับทริปนี้ ค่าใช้จ่ายรวมทุกอย่างอยู่ที่  7,000 บาท
   ปล.ใครที่อ่านชื่อกระทู้แล้วหวังว่าเราจะเก็บทุกปราสาท .. แฮร่ๆ เสียใจด้วย เราหลอก จร้า


ขอแบ่งเป็นหมวดย่อยๆ ดังนี้
หมวด : การเตรียมตัว
หมวด : แผนเที่ยว (แผนเก็บทุกปราสาทที่วางไว้ เป็นแผนเที่ยวที่เอาทุกกระทู้มายำรวม)
หมวด : เที่ยวจริง & รีวิวแต่ละวัน
หมวด : สรุปค่าใช้จ่าย

หมวด : การเตรียมตัว
1) ฤดูกาล : มี 2 ฤดู คือ ฤดูแล้ง (เดือนธันวาคม - เมษายน) และ น้ำหลาก (เดือนพฤษภาคม - พฤศจิกายน) ... ทริปนี้เราไปปลายเดือน กรกฎา ซึ่งก็อยู่ในช่วงน้ำหลาก (ช่วงกลางหน้าฝนพอดี) มองในแง่ดี จะได้วิวดีๆดูของ โตนเลสาบ (Tonle Sap) , มองแง่ร้าย ก็เที่ยวปราสาทแบบลุยฝน

2) เสื้อผ้า : ข้อมูลจากช่างภาพ แนะนำให้ใส่เสื้อผ้าสีสว่างๆ เพราะ เวลาถ่ายรูปแล้วจะเด่นจากฉากหลังขึ้นมา ,
ส่วนวันที่ไปเที่ยวนครวัด (ขึ้น ปรางค์ประธาน) และ พนมบาเค็ง (คนที่นี่ ออกเสียงว่า “บา-แคง” ) ต้องใส่กางเกงขายาว นอกนั้น สถานที่อื่น ก็ใส่ขาสั้นได้

3) จองโรงแรม, จองรถบ่อน, เช่า Taxi , จองรถตุ๊กตุ๊ก (จริงๆ ใครจะไปหาที่นู้นก็ได้นะ) แต่เราขอเลือกจองไปก่อน ชอบแบบชัวร์ๆมากกว่า
ขอแบ่งเป็นส่วนๆ ตามนี้นะคะ

     3.1) จองโรงแรม : เราจองผ่าน Booking.com ใช้บริการของโรงงาน Blossoming  Romduol  Lodge
ราคา 54 USD /3 คน/3 คืน >> เฉลี่ยแล้วค่าโรงแรมตลอดทริป ตกคนละ 18 USD





     ข้อดี คือ มีสปาปลา ฟรี (ระวังเท้าด้วย ปลาตัวใหญ่มาก), ทุกๆวันที่กลับมาจากไปเที่ยวข้างนอก จะมีผ้าเย็นผสมกลิ่นหอมอ่อนๆ มาต้อนรับทุกครั้ง,
มีน้ำดื่มให้1 ขวด ตอน Check Out, จองผ่าน Booking.com ยังไม่หักเงินในบัตรเครดิต ให้เราจ่ายเป็นสด หรือ บัตรเครดิตวัน Check out
     ข้อเสีย คือ ไม่มีผ้าห่ม (จากรูปเตียงด้านบน เราจะเห็นเป็นผ้าคลุมเตียงผืนบางๆ ที่ใช้แทนผ้าห่ม), ไม่ได้จัดห้องให้ใหม่ในวันที่ 2 และ 3,
ในห้องน้ำมีสบู่ที่ Cutson ซองสีชมพูให้ 3 ซอง และ หวี (ตามจำนวนที่แจ้งไว้) ไม่มี ยาสระผม-ครีมนวด

     3.2) จองรถทัวร์(รถบ่อน) : เลือกใช้บริการของเฮงเฮง ราคา 200 บาท เดี๋ยวนี้ไม่ยึด Passport แล้ว รถจอดที่ฝังไทย ไม่ข้ามไปส่งที่ฝั่งนู้นแล้ว เนื่องจาก บ่อนเก็บค่าวิน โหดสุดๆ (หลักล้าน มั้งนะ ? ข้อมูลไม่ชัวร์) ส่วนถ้าใครกลับวันนั้นเลย สามารถกลับมาขึ้นรถคันเดิมโดยที่ไม่ต้องเสียค่ารถขากลับ แต่ของเรากลับกันคนละวันกับขาไป ก็เสียค่ารถกลับ 200 บาท
>> ค่ารถทัวร์ บางนา – โรงเกลือ คนละ 400 บาท (ไป-กลับ) หมายเหตุ ขาไปแอร์หนาวโคตร แถมน้ำแอร์หยดใส่หัวอีก

     3.3) เช่า Camry Taxi : ไปหาสดๆ ที่ด่านเลย จร่ะ ... ไม่ต้องตกใจว่าทำไมนั่งรถหรู เพราะ Taxi ที่นั้นเป็น Camry เกือบทั้งหมด สภาพรถก็กลางๆ

เราไปหา ตอนที่ทำเรื่องเข้ากัมพูชาแล้ว คนขับ Taxi (เราเข้าใจว่าอย่างนั้น) เข้ามารุมเรา พูดไทยถามว่า เราให้ราคาที่เท่าไหร่ แล้วเค้าเปิดราคามาที่  1,300 บาท  (บอกว่า ขับเองด้วย) แล้วก็ต่อรองกันมา เหลือ 1,200 บาท โดยสัญญาว่าจะไปส่งที่หน้าโรงแรม (ฮึฮึ .. อย่าไว้ใจ taxi) จากนั้นก็พาเราไปขึ้นรถ แล้วคนขับรถก็มา (คนละคนกับคนที่เข้ามารุมเมื่อกี้) โดยคนขับรถคนนี้ พูดไทยไม่ได้ค่า อังกฤษก็ไม่ได้ ... เลยนั่งเงียบมาตลอดทาง มีเพลงกัมพูชาเบาๆฟังมาตลอดทาง พอใกล้ถึงเสียมเรียม (เราเดาเอา ดูที่หลักกิโล) รถ Taxi ก็พาไปจอดที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่โรงแรมที่เราบอกไว้  จากนั้นก็มีคนขับรถตุ๊กตุ๊กมารุมเราค่ะ บอกว่าคนขับ Taxi ไม่ใช่คนเสียมเรียบ เค้าไม่รู้จักโรงแรมในนี้เลย แต่ไม่ต้องกลัวพวกเค้าจะพาไปเอง ฟรีด้วย (คือ จะบอกว่าเรากลัวตรงนี้หล่ะ) พวกเราสามคนอยู่ในภาวะจำยอม ต้องแบกเป้ลงจาก Taxi ติดต่อโรงแรม กะ รถตุ๊กตุ๊ก ก็ไม่ได้ เพราะ ไม่ได้ซื้อ local sim (ซึ่ง โรงแรม และ คนขับรถตุ๊กตุ๊ก ถามเราตั้งแต่ก่อนมาแล้ว ว่าจะให้ไปรอรับที่ไหน  เราบอกไปว่าไม่เป็นไร เดี๋ยวเรานั่ง taxi ไปลงที่โรงแรมเลย ให้เจอกับให้เจอกับตุ๊กตุ๊กที่หน้าโรงแรมทีเดียวเลย)  จากนั้น มหากาพย์ขาย Tour, เช่ารถก็เกิดขึ้น พยายามขายเราทุกอย่าง จนสุดท้าย ตกลงเช่า Taxi ขากลับ ให้ไปส่งที่ Poipet ในราคา 1,000 บาท จากนั้นก็พาเรามาส่งที่โรงแรม ก่อนส่งเราเราลงที่โรงแรม เลยต่อราคาลงมาเหลือที่ 900 บาท (ให้เตรียมเงินไทยไว้ให้พอดี เพราะ ถ้าจ่าแบงค์พันไป ก็คือไม่มีทอน ) คนขับรถตุ๊กตุ๊กบอกเราว่า เป็นคนขับเอง แต่พอถึงวันมารับจริง (นัดกันไว้ 9.00 โมง) เป็นคนละคนกับคนที่ขาย Deal เราตอนวันแรก ซึ่งเราก็ไม่แปลกใจเลย เพราะ ชิน 55 รถที่มารับนี่ก็เป็น Camry เช่นกัน แต่คันนี้ Exclusive กว่าจร้า เพราะ เบาะที่นั่งคู่กับคนขับที่เป็นเบาะนอน (เหล็กผนักพิง คนนั่งหน้า หักนั่นเอง) นั่งมาได้ประมาณชั่วโมงนึง เบาะเอนมาชนเข่าคนนั่งเบาะหลังเลย ปลื้มปริ่มมากกก
สรุป ได้ค่าเช่า Taxi ไปกลับ ปอยเปต – เสียมเรียบ ในราคา = 1,200 + 900 = 2,100 บาท >> ตกคนละ 700 บาท

     3.4) จองตุ๊กตุ๊ก : เราใช้บริการของ คุณ โดม ค่ะ ซึ่งคนขับรถของเรา พูดไทยได้คล่องมาก ราคาเป็นกันเอง พร้อมน้ำดื่มแช่เย็น และ ผ้าเย็น (ฟรี) ตลอดทริป  , เราลองสอบถามเรื่องราคา ปรากฏว่าราคาน่าคบที่เดียว
        ติดต่อ คุณโดม FB : Vichara Angkor Heng , Line ID : 442408, Tel : 855(0)1774594
        
       นอกเรื่อง : (มีเรื่องราวนิดนึง) อ่านจากรีวิวไปแล้ว เลือกที่จะจองไปก่อนคะ กับคนขับรถตุ๊กตุ๊กเจ้านึงที่ดังๆใน pantip  
ตกลงราคากันที่ 75$ โดยราคานี้คือ 2 วันครึ่ง (วันแรก ครึ่งบ่าย และ อีก 2 วันเต็มๆ) โดยจะดู 2 Sunrise & 1 Sunset และ
ไปน้ำตกที่ กบาลสเปียน (ระยะทางไกกลจากตัวนครวัด ประมาณ 50 โลนิดๆ) โดยเค้าเป็นคนขับเอง แต่เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น
เพราะ ถึงวันจริง คนที่เราติดต่อไว้ ไลน์มาบอกว่าวันนี้จะส่งคนอื่นมาแทน (อ้าว ไหนตอนแรกบอกว่าขับเอง) คนขับของเราคนใหม่นี้
ชื่อ คุณโดม (โดย คุณโดมบอกว่า จะเป็นคนขับรถให้เราทั้ง 3 วัน ... สรุปคนที่เราติดต่อไว้ เป็นนายหน้าเท่านั้นเอง)...
กลับกลายเป็นว่าเราโชคดีมากกก (ก.ไก่ ล้านตัว) เพราะ คุณโดมบริการดีมาก, พานำเที่ยวโตนเลสาบ กับ นำทางที่ กบาลสเปียน
(ปกติ คนขับรถท่านอื่นๆ จะรอที่รถแล้วให้นักท่องเที่ยวไปเอง) , มีน้ำดื่ม และ ผ้าเย็น บริการ(ฟรี) ตลอดทริป แถมพูดไทยได้เก่งมาก
(ชอบตรงที่เวลาไปซื้อกินข้าว แล้วเข้าใจอารมณ์คนไทยนี่หล่ะ ว่าต้องการ น้ำปลาพริก, เครื่องปรุง แล้วเวลากินกาแฟชอบกาแฟ
แบบหวานมัน คุณโดมก็จะพาไปหาร้านที่คนไทยที่คล้ายๆที่เมืองไทย) ลืมบอกว่า ไป คืนวันที่ 2 รถตุ๊กตุ๊กที่เราติดต่อไว้  
Line มาบอกว่า น้ำตกกบาลสเปียนที่เราจะไปนี่ มันไกลมาก จะขออีก 10 USD เราก็แบบ ไหนว่า 75 USD นี่รวมทุกอย่างแล้วไง
ก็เลยต่อรองกัน มาจบที่ 5 USD สุดท้าย จ่ายไปที่ ราคา 80 USD

4) แลกเงิน : ในเสียมเรียบ จะใช้เงิน ดอลล่าร์ เป็นส่วนใหญ่ แต่สินค้า หรือบริการบางอย่าง สามารถซื้อเป็นเงินไทยได้
โดย Rate จะเท่ากับ 1 USD  = 32 บาท = 4,000 Riels  (อ่านว่า “เรียล”)
แนะนำให้พกเงินไทยติดตัวไว้ด้วย เพราะราคาบางอย่างถ้าจ่ายเป็นเงินไทยจะคุ้มกว่า
นอกเรื่อง : วันที่เราไปแลกเงินได้ Rate ที่ 34.8 บาท/USD  คือ ได้ Rate ที่แพงสุดๆในช่วงนี้เลย T_T
เราแลก คนละ 210 USD (มีเหลือกลับมา 40 กว่าเหรียญ แล้วสรุปค่าใช้จ่ายให้ฟังค่ะ)

ปล.เราอยู่แถวบางนาค่ะ เลยแลกที่ร้าน k79 Express บริการรวดเร็ว ประทับใจ Rate ไม่ต่างกับ Super Rich มากนัก


หมวด : แผนเที่ยว
(แผนเก็บทุกปราสาทที่วางไว้ เป็นแผนเที่ยวที่เอาทุกกระทู้มายำรวม)

วันที่ 1 : โตนเลสาบ, ขึ้น Balloon, ดูพระอาทิตย์ตก ที่พนมบาเค็ง, Pub Street/Night Market

วันที่ 2 : ดูพระอาทิตย์ขึ้นที่นครวัด, กลุ่มปราสาทนครธม (Angkor Thom) (ได้แก่ ปราสาทบายน (Bayon), ปราสาทบาปวน (Baphuan หรือ Baphuon), ปราสาทพิมานอากาศ (Phimeanakas), ลานพระเจ้าขี้เรือน (Leper King Terrace), Elephant terrace & Royal Temple) ,
แล้วช่วงบ่ายไปต่อที่  ปราสาทตาพรม (Ta Prohm),  มื้อเย็นก็ไปกินบุฟเฟ่ ที่มีการแสดงรำนางอัปสรา

วันที่ 3 : ดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ สระทรง (Srah Srang), ช่วงเช้า ไป ปราสาทบันทายกเดย (Banteay Kdei), ปราสาทบันทายศรี (Banteay Srei),
ปราสาทบันทายสำเหร่ (Banteay Samre), ปราสาทตาสม (Ta Som), ปราสาทนาคพัน (Neak Pean), ปราสาทพระขรรค์ (Preah Khan),
ปราสาทแปรรูป (Pre Rup), ปราสาทตาแก้ว (Ta Keo), ช่วงบ่ายไปต่อที่ กบาลสะเปียน (Kbal Spean), กลับที่พัก

วันที่ 4 : วันเดินทางกลับ แต่จะแวะเที่ยวคาสิโน แล้วค่อยข้ามมาฝั่งไทย
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่