คดีนี้ ตร.ด่วนหาแพะง่ายไปรึเปล่า .."ตร.โพธิ์ทองแจ้งข้อหานักการภารโรงประมาททำเด็ก นร.ป.4 ถูกไฟตู้ทำน้ำเย็นช็อตดับ"

จากข่าวบอกว่า  

อ่างทอง - ตำรวจโพธิ์ทอง แจ้งข้อหานักการภารโรง ร.ร.วัดโคกพุทรา "กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้มีถึงแก่ความตาย" หลังเด็กนักเรียนชายชั้น ป.4 ถูกไฟฟ้าจากตู้ทำน้ำเย็นช็อตจนเสียชีวิต แต่เจ้าตัวปฏิเสธ ด้าน "ผอ.สพป.อ่างทอง" สั่งตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง พร้อมสั่งกำชับทุกโรงเรียนในสังกัดให้ตรวจสอบตู้ทำน้ำเย็นป้องกันเกิดเหตุซ้ำรอย
      
       เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ (11 ส.ค.) พ.ต.อ.สุรพจน์ รอดบำรุง ผกก.สภ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง พร้อมด้วย พ.ต.ท.ชูเกียรติ ทัศนัย พงส.ผนพ.(หน.งานสอบสวน) สภ.โพธิ์ทอง และ ร.ต.อ.วันชาติ นุ่มงาม พนักงานสอบสวน สภ.โพธิ์ทอง พร้อมด้วยเจ้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดอ่างทอง ได้เดินทางไปโรงเรียนวัดโคกพุทรา ม.1 ต.โคกพุทรา อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง เพื่อตรวจสอบที่เกิดเหตุ ด.ช.ธีรพล จิตรีศัพท์ อายุ 10 ขวบนักเรียนชั้น ป.4 ถูกไฟฟ้าตู้ทำน้ำเย็นช็อตเสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อวันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมาตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง พร้อมทั้งตรวจยึดตู้ทำน้ำเย็นมาตรวจสอบ
      
       เบื้องต้นพบว่าตู้ทำน้ำเย็นดังกล่าวมีสภาพเก่ามาก เนื่องจากใช้งานมานานถึง 19 ปี มีสภาพชำรุด ผุพังหลายส่วน โดยเฉพาะระบบไฟฟ้าทำความเย็นที่ใช้การไม่ได้
      
       ต่อมาเวลา 14.30 น. ร.ต.อ.วันชาติ นุ่มงาม พนักงานสอบสวน สภ.โพธิ์ทอง เจ้าของคดีได้เชิญตัวนายอารมณ์ เชื้อบุญ อายุ 55 ปีอยู่บ้านเลขที่ 93 ม.3 ต.โคกพุทรา อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง นักการภารโรงโรงเรียนวัดโคกพุทรา มาสอบสวน โดยนายอารมณ์ ให้การว่า เมื่อวันเสาร์ที่ 8 ส.ค.ที่ผ่านมา ตนได้รับแจ้งจากนางบังอร บำรุงผล ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดโคกพุทราว่าตู้ทำน้ำเย็นที่เกิดเหตุชำรุดและมีกระแสไฟฟ้ารั่ว ตนจึงไปถอดสายไฟฟ้าออกจากปลั๊กไฟและม้วนเก็บไว้บนหลังตู้เย็นเพื่อไม่ให้เกิดอันตราย
      
       แต่ยังไม่ได้ย้ายตู้ออกไปจากโรงอาหารและไม่ได้ติดป้ายเตือนเอาไว้ และได้รายงานให้ผู้อำนวยการโรงเรียนว่าได้แจ้งให้ช่างมาตรวจสอบแล้ว แต่ช่างยังไม่ได้มาตรวจสอบ จนกระทั่งวันเกิดเหตุ ด.ช.ธีรพล ซึ่งออกไปเล่นกีฬาในชั่วโมงพละศึกษาเสร็จคาดว่าคงกระหายน้ำ จึงมากดน้ำดื่ม แต่เห็นว่าน้ำไม่เย็นจึงได้แก้สายไฟที่ม้วนอยู่ไปเสียบปลั๊กและกดน้ำดื่มจึงถูกไฟฟ้าช็อตจนเสียชีวิต
      
       หลังสอบสวนเสร็จ ร.ต.อ.วันชาติ จึงแจ้งข้อหากับนายอารมณ์ ว่า กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้มีถึงแก่ความตาย แต่นายอารมณ์ ให้การปฏิเสธยืนยันว่า ไม่ได้ประมาท มีการป้องกันอย่างดีแล้วโดยการถอดสายไฟฟ้าออก หลังสอบสวนเสร็จ พนักงานสอบสวนจึงได้ปล่อยตัวไปเป็นการชั่วคราว
      
       ด้าน พ.ต.ท.ชูเกียรติ ทัศนัย พงส.ผนพ.(หน.งานสอบสวน) สภ.โพธิ์ทอง เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ และรวบรวมพยานหลักฐาน รวมทั้งผลพิสูจน์เบื้องต้นของเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานพบว่าสาเหตุเกิดจากความประมาทของนักการภารโรง จึงได้เรียกตัวมาแจ้งข้อหา ส่วนที่ให้การปฏิเสธก็เป็นสิทธิ์ที่สามารถทำได้ แต่ตนก็ได้กำชับให้พนักงานสอบสวนเร่งรวบรวมพยานหลักฐานอย่างละเอียดแล้ว
      
       "หากพบว่าใครมีส่วนร่วมกระทำผิดก็จะได้แจ้งข้อหาต่อไป ส่วนนายจตุรงค์ จิตรีศัพท์ และนางลำใย บุญประสบ พ่อและแม่ของ ด.ช.ธีรพล ซึ่งกำลังเดินทางไปรับศพกลับมาบำเพ็ญกุศลนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะได้เชิญตัวมาให้ปากคำต่อไป" พ.ต.ท.ชูเกียรติ กล่าว
      
       ทางด้านนายเพชรรัตน์ นิ่มพันธุ์ ผู้อำนวยการ สพป.อ่างทอง เปิดเผยว่า หลังได้รับรายงานว่ามีเด็กนักเรียนถูกไฟฟ้าช็อตเสียชีวิตในโรงเรียนวัดโคกพุทรา หมู่ 1 ต.โคกพุทรา อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง ชื่อ ด.ช. ธีรพล จิตรีศัพท์ อายุ 10 ขวบ นักเรียนชั้นประถมปีที่ 4 จึงเข้าตรวจสอบพบว่าเป็นตู้ทำน้ำเย็นภายในโรงอาหารด้านหลังอาคารเรียน
      
       จากการสอบถามสาเหตุทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายกับเพื่อนได้เล่นกีฬากัน แต่ ด.ช.ธีรพล กระหายน้ำ จึงเดินไปดื่มน้ำที่ตู้น้ำเย็นดังกล่าว แต่พบว่าน้ำไม่เย็นเพราะไม่ได้เสียบปลั๊ก โดยมีสายไฟฟ้าม้วนอยู่บนหลังตู้น้ำเย็น ด.ช.ธีรพล จึงหยิบปลั๊กไปเสียบที่ตู้ทำน้ำเย็น และมากดน้ำที่ก๊อกหน้าตู้ จึงถูกไฟช็อตจนเสียชีวิต
      
       "ตอนนี้ผมได้มีคำสั่งตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงในเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว พร้อมทั้งออกคำสั่งด่วนถึงทุกโรงเรียนในสังกัดให้ตรวจสอบตู้ทำน้ำเย็น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุสลดซ้ำอีก เบื้องต้นทาง สพป.ได้เข้าไปให้การช่วยเหลือเรื่องการจัดพิธีศพและให้กำลังใจกับผู้บริหารโรงเรียนที่เกิดเหตุแล้ว" นายเพชรรัตน์ กล่าว

http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9580000090966




ผมอ่านข่าวนี้แล้ว รู้สึกตะหงิดๆ ว่าตำรวจหาแพะง่ายไปรึเปล่า ที่แจ้งข้อหานักการภารโรงกันดื้อๆแบบนี้

ถ้าจะหาคนผิดในคดีนี้จริงๆ ผมว่า ผอ.โรงเรียน น่าจะผิดมากกว่าเสียอีก เพราะในข่าวบอกว่า..

"เบื้องต้นพบว่าตู้ทำน้ำเย็นดังกล่าวมีสภาพเก่ามาก เนื่องจากใช้งานมานานถึง 19 ปี มีสภาพชำรุด ผุพังหลายส่วน โดยเฉพาะระบบไฟฟ้าทำความเย็นที่ใช้การไม่ได้"

ก็ในเมื่อตู้ทำน้ำเย็นมันเก่ามากและชำรุดขนาดนั้น ผอ.ทำไมไม่สั่งให้งดใช้งาน และหาตู้ใหม่มาเปลี่ยน

...

และอีกตอนหนึ่งจากข่าวก็บอกว่า  "เมื่อวันเสาร์ที่ 8 ส.ค.ที่ผ่านมา ตน( คือนักการภารโรง )ได้รับแจ้งจากนางบังอร บำรุงผล ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดโคกพุทราว่าตู้ทำน้ำเย็นที่เกิดเหตุชำรุดและมีกระแสไฟฟ้ารั่ว ตนจึงไปถอดสายไฟฟ้าออกจากปลั๊กไฟและม้วนเก็บไว้บนหลังตู้เย็นเพื่อไม่ให้เกิดอันตราย"  

"แต่ยังไม่ได้ย้ายตู้ออกไปจากโรงอาหารและไม่ได้ติดป้ายเตือนเอาไว้ และได้รายงานให้ผู้อำนวยการโรงเรียนว่าได้แจ้งให้ช่างมาตรวจสอบแล้ว แต่ช่างยังไม่ได้มาตรวจสอบ จนกระทั่งวันเกิดเหตุ"

ผมว่า นักการภารโรง เขาก็ทำสมควรแก่เหตุอยู่ระดับหนึ่งแล้วนะครับที่ "ได้รายงานให้ผู้อำนวยการโรงเรียนว่าได้แจ้งให้ช่างมาตรวจสอบแล้ว"

แต่ตรงส่วนที่บอกว่า  "แต่ยังไม่ได้ย้ายตู้ออกไปจากโรงอาหารและไม่ได้ติดป้ายเตือนเอาไว้"  ตรงนี้ผมสงสัยว่าต้องอยู่ในความรับผิดชอบของ ผอ. หรือของนักการภารโรงกันแน่ ?

ปกติทั่วไป เราได้ยินเสมอมาว่า งานอะไรๆ ในโรงเรียน ก็มักจะโยนให้นักการภารโรงรับผิดชอบอยู่เสมอ ตั้งแต่ล้างส้วม  กวาดพื้น  ดูแลความสะอาดเรียบร้อยภายในโรงเรียน ฯลฯ

แล้วนี่นักการภารโรงยังจะต้องมาตกเป็นแพะรับเคราะห์ในคดีนี้อีกหรือเนี่ย  

..
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่