อันที่จริงตั้งใจจะรีวิวคู่พาเลซนะครับ แต่กลับบ้านมาดูไม่ทัน เลยได้รอดูคู่ดึกแทน แฟนสิงห์บลูกับสวอนซี อ่านแล้วก็คอมเมนต์กันได้เลยครับ หัดเขียนรีวิว พรีวิวอยู่

11 ผู้เล่นตัวจริง
-    เชลซี = คูร์กตัว, อิวาโนวิช, เคฮิลล์, เทอรี่, อัซปิลิกวยต้า, มาติช, ฟาเบรกัส, ออสการ์, วิลเลี่ยน, อาซาร์, คอสต้า
o    มีน่าแปลกใจตำแหน่งเดียวคือ ดิเอโก้ คอสต้า ข่าวก่อนหน้า 24 ชม. ยังบอกว่าไม่ฟิต คงเป็นแทคติคข่าวลวงของมูรินโญ่ตามถนัด

-    สวอนซี = ฟาเบียนสกี, นอห์ตัน, เฟอร์นันเดซ, วิลเลี่ยม, เทเลอร์, คี, เชลวีย์, อายิว, มอนเตโร่, ซิกูร์สัน, โกมิส
o    เซอร์ไพร์สหนักมาก กับการที่สวอนซีเปิดเกมแลกในระบบ 4-3-3 อันที่จริงแทบจะเป็น 4-2-4 อยู่แล้ว ซิกูร์สัน กับ อายิว ตำแหน่งถนัดคือหน้าต่ำ ไม่ใช่ปีก ส่วน เจฟเฟอร์สัน มอนเตโร่ ก็ชัดเจนปีกตัวจี๊ดทำเกมอย่างเดียวไม่เน้นหาช่องว่าง มี โกมิส ยืนค้ำหน้าเป้าอีกหนึ่งคน

สรุปประเด็นระหว่างเกมส์
-    รูปเกมส์ในครึ่งแรกออกมาเป็นเชลซีเก็บบอลได้มากกว่าด้วยทีมเวอร์คและทักษะ สวอนซีแย่งบอลแทบไม่ได้ บอลจังหวะสองเป็นของเชลซีแทบทั้งหมด รูปเกมส์โดยรวม เป็นเชลซีเปิดเกมส์เข้าใส่ ส่วนสวอนซีรอจังหวะผิดพลาดและชิงจังหวะเล่นบอลเร็ว

-    พัฒนาการอย่างชัดจเนของสวอนซีในฤดูกาลนี้คือ ออกบอลเร็วขึ้นมาก จังหวะหวาดเสียวทั้งหมดในครึ่งแรกมาจากเกมโต้กลับ ซึ่งน่าแปลกใจมากับการจัดตัวผู้เล่น  ถ้าคิดจะเล่นเกมส์โต้กลับบางทีควรถอด หนึ่งในสามคนนี้ออกแล้วใส่เป็นตัวตัดเกมส์กลางสนามลงไปบดแทน ซิกูร์สัน, อายิว, หรือ มอนเตโร่ แต่กลายเป็นว่า สรุปรูปเกมออกมาพอดี การสื่อสารระหว่างผู้เล่นใหม่อย่าง อายิว กับ โกมิส (ที่มาตอนครึ่งฤดูกาลหลัง) ทำได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อ มอนเตโร่ มีส่วนกับเกมส์มาก เก็บบอลไว้กับตัวได้มากที่สุดในทีม ขับเคลื่อนทีมด้วยการไปกับบอลในหลายทิศทาง

-    หมดครึ่งแรก ช่องโหว่อันโจ่งแจ้งของเชลซีที่ต้องได้รับการแก้ไขคือ การตัดเกมส์สวอนซีในแผงมิดฟิลด์ เชลซีต้องมีตัวช่วยหนึ่งคนแบ่งเบาภาระ มาติช ในการเบรกเกมส์โต้กลับ ถ้าทำได้สวอนซีอาจจบเกมส์ตรงประเด็นนี้เลย ส่วนสวอนซีตามหลัง 2-1 ต้องพยายามเปิดเกมส์แลก ยังไงเชลซีคงไม่รีบปิดเกมส์เร็ว เพราะเล่นในบ้านเกมส์แรก คงพยามเล่นเกมส์รุกหวังเอาใจแฟนบอลไปด้วย

-     เริ่มครึ่งหลัง สวอนซีดวงแตก คี ซุง เฮือน (ไม่รู้ออกเสียงถูกรึเปล่า) เจ็บจนเล่นต่อไม่ได้ เขาเป็นหนึ่งในสามนักเตะสวอนซีชุดนี้ที่ถ้าจะได้ประตู เขามักมีส่วนร่วมอยู่เสมอ ใครไม่รู้จักก็ไปตามหาดูเอานะครับ เป็นนักเตะเอเชียคุณภาพสูงอีกคนหนึ่ง ไม่ค่อยมีใครกล่าวถึง เซนส์บอลดีสำหรับตำแหน่งกลางสนามและการตัดเกมส์ บอกตามตรงว่าเห็น คี เจ็บจนเล่นต่อไม่ได้ นี่ผมฟันธงไปแล้วเชลซีบวกเพิ่มแน่นอน


-    เชลซีก็แจคพอตแตก คูร์กตัว โดนใบแดงพร้อมเสียจุดโทษ ต้องอธิบายว่าประสบการณ์ในการตัดบอลจังหวะก้ำกึ่งนอกเขตโทษสำหรับนายทวารหนุ่มคนยังบกพร่องไปบ้าง คุณภาพมีไม่มากเท่าการป้องกันลูกยิงในกรอบเขตโทษ จังหวะออกมาชัดเจนสำหรับใบแดง แต่ก้ำกึ่งสำหรับจุดโทษ ขนาดดูภาพช้ายังตัดสินใจยาก แต่จากภาพช้าดูจากลำดับร่างกายของคูร์กตัว จะพบว่าเท้าหลักที่ยืนบนหญ้าเหยียบอยู่บนเส้นเขตโทษแล้ว ดังนั้นเท้าที่เตะออกไปกับองศาตัว ควรจะเหลื่อมออกมาจากเส้นเขตโทษ ดังนั้นส่วนตัวผมสรุปว่าไม่ใช่ลูกโทษครับ การเลือกถอดออสการ์ออกเพื่อเอาเบโกวิชลง ก็มีนัยยะว่า เชลซีเลือกที่จะเปลี่ยนจากการต่อบอลเป็นไดเรคฟุตบอล


-    อัสเมียร์ เบโกวิช !! ประมาณ เกือบสี่สิบนาทีที่ลงเล่นขอบอกว่า แฟนเชลซีสบายใจได้เลย คุณภาพดีมากวัดจากปฎิกริยาในการป้องกันประตู และการอ่านทางบอลโดยเฉพาะลูกที่เบี่ยงตัวไปทางซ้ายตะปบลูกยิงของมอนเตโร่เข้าซอง ประสบการณ์สูงมากจังหวะนี้ ตลอดช่วงเวลาในสนามได้แต่สรุปความว่าลงทำหน้าที่ได้เป็นอย่างดี อีกสามแมตช์ถัดไปอาจไม่เลวร้ายนักสำหรับแฟนสิงห์บลู

-    ลาก่อนฟาเบรกัส บางทีเขาควรถูกถอดออกก่อนออสการ์ ด้วยเหตุผลที่ว่าช่วยเกมส์รับได้น้อยมาก เดี๋ยวนี้ฝั่งตรงข้ามรู้ทันกันหมดแล้วว่าบีบบอลเร็วจากเชสแล้วเชลจะร้องว่า “เชสสซซ เข้” เสียบอลง่ายมากครับ ประกอบกับการออกบอลจังหวะได้เสียดรอปลงไป โดยรวมยังมีประโยชน์กับทีมถ้าอีกฝ่ายประมาท ส่วนคนที่ลงมาแทนคือ ซูม่า

-    มอนเตโร่ พลังหมดหลอด หลังจากที่เคลื่อนตัวเยอะมากตลอดทั้งเกมส์ หลอกอิวาโนวิชจนหัวปั่น สุดท้ายตะคริวขึ้นจำต้องส่ง เราท์เลท ลงมาแทน อันที่จริงตัวนี้สปีดดีกว่ามอนเตโร่อีก แต่ว่าจังหวะการคอนโทรลบอลดีไม่เท่า ทำให้ไปกับบอลได้ทิศทางเดียวคือทางที่หน้าหันไป ก็จะถูกอิวาโนวิชจับทางได้ง่ายกว่า

-    วิลเลี่ยนออก ฟัลเกาเข้า ปิดเกมส์ ! หลังจากทีถอดฟาเบรกัสออกซูม่าเข้า เพื่อผ่อนเกมส์รุกเน้นรับ มูรินโญ่พบว่าสวอนซีเล่นอย่างก้ำกึ่งว่าจะบุกหรือเล่นรับก็แล้วแต่เชลซีเลือก ดังนั้นมูรินโญ่ตัดสินใจให้ตัวเองเป็นคนเลือกโมเมนตั้มของเกมโดยการเดินเกมส์รุกแทน สรุปสวอนซีก็ตั้งรับทั้งที่เล่นสิบเอ็ดคน และประคองตัวจนแบ่งแต้มสำเร็จ จบเกมเก้าสิบนาที

ประเด็นรายบุคคลที่น่าสนใจ
•    เบโกวิชเล่นเกมส์นี้ได้ดีกว่าแมตช์อุ่นเครื่องมากราวกับคนละคน อาจเป็นเพราะสภาพความเชื่อมั่นทางจิตใจ เบโกวิชเป็นผู้รักษาประตูชั้นดีอยู่แล้ว แต่การที่ถูกซื้อมาเพื่อเป็นตัวสำรองนั้นความรู้สึกต่างย่อมต่างกับการที่ทั้งทีมพร้อมสนับสนุนเขาในสถานการณ์เช่นนี้ เขาแสดงออกอย่างชัดเจนถึงความมั่นใจในการลงเล่นทั้งที่ทีมเหลือสิบตัว ถ้าจะมีใครสักคนได้แต้มสูงที่สุดในทีมเชลซี ผมเลือก เบโกวิช

•    ฟาเบรกัส ถูกโจมตีจากสาวกเชลซีมากขึ้นเรื่อยๆ ประเด็นคือ ฟาเบรกัสไม่มีสปีด และเก็บบอลไม่เหนียวแน่น คือ การเอาฟาเบรกัสเทียบกับมาติชนั้นไม่ได้นะครับ มาติชเก็บบอลเหนียวมากๆ แต่ก็ต้องบอกว่าฟาเบรกัสมีวิสัยทัศน์ที่ดีมากกว่าเช่นกัน เช่นเดียวกับการเอาไปเทียบกับวิลเลี่ยนที่วิ่งเร็วมาก แข็งแรงและช่วยไล่กวดบอล คือ วิลเลี่ยนเปิดบอลสิบครั้งเพื่อนร่วมทีมยังไม่ค่อยจะได้เปรียบสักครั้งเลยครับ ถ้าเทียบกับฟาเบรกัสที่ไม่จ่ายบอลให้เพื่อนได้เปรียบตลอดเวลา ประเด็นก็คือ ฟาเบรกัสต้องพัฒนาจุดด้อยในเรื่องการเสียบอล จะมาจากการที่มีสปีดช้า หรือครองบอลไม่เหนียวแน่นก็ตาม ถ้าผลสุดท้ายคือไม่เสียบอล ประเด็นนี้เป็นจบครับ เพราะเขาคิดเร็วมาก และทีมจะได้เปรียบทันทีจากข้อนี้เมื่อเอาตัวรอดมาจากสถานการณ์ได้ แต่ปัจจุบันขอสรุปว่า “ถ่วงทีมมากครับ”

•    เจฟเฟอร์สัน มอนเตโร่ ถามตามตรงเลย ใครวะ ? รู้แหละครับว่าเล่นปีก ยิงได้บ้าง จ่ายได้บ้าง แต่ไม่เคยตั้งใจดูสวอนซี หรือดูสวอนซีก็ไม่ได้ไปสนใจดูว่าไอ้นี่มันทำอะไรอยู่ กล่าวโดยสรุปคือ มอนเตโร่นี่สปีดต้นน่ากลัวมากครับ เล่นได้สองเท้า ตัดสินใจช้าหน่อยแต่ไปกับบอลได้ดีมาก ดังนั้นเปิดบอลสิบทีอาจเข้าเป้าสักทีสองที แต่ในเกมส์หนึ่งไอ้หมอนี่จะมีโอกาสเปิดบอลหรือลักไก่ยิงเยอะมากครับ เขาสร้างโอกาสได้ด้วยตัวเอง


•    ก็เพราะ จอนโจ้ เชลวีย์ นี่แหละครับ ที่ดึงโฟกัสผมไปเมื่อรับชมการแข่งขันของสวอนซี สำหรับผมเขาคือ แมนออฟเดอะแมตช์ ในเกมส์นี้ เขาเป็นนักบอลที่ตัดสินใจเร็ว และมีมุมมองในสนามที่ประหลาดกว่านักเตะทั่วไป ข้อด้อยของเขาคือ การควบคุมอารมณ์ กับความสม่ำเสมอ ซึ่งว่ากันตามตรงก็พัฒนาขึ้นตามลำดับ จุดเด่นตั้งแต่ตอนยังเล่นให้ลิเวอร์พูลก็คือ การออกบอลจังหวะได้เสียกับยิงไกล ปัจจุบันพัฒนาในเรื่องเปลี่ยนจังหวะเกมส์ และเก็บบอลไว้กับตัวได้ (ทั้งที่เคลื่อนตัวช้ามาก)