รับน้องอย่างไรถึงเรียกว่าสร้างสรรค์
ช่วงนี้คงไม่มีอะไรฮอตไปกว่าการเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัยของน้องๆเฟรชชี่ พี่เองก็ได้แต่มองตาละห้อยเพราะว่าพี่ปีเกทคนนี้กำลังจะรับปริญญาในเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้แล้ว ไม่มีโอกาสได้กลับไปรับน้องแล้วแหละเนอะ ความรู้สึกที่มองน้องๆตอนที่พี่อยู่ ปี2-4 กับอารมณ์ที่มองน้องในตอนนี้ช่างต่างกันโดยสิ้นเชิง อยากจะกลับไปเรียนใหม่จริง..จริ๊งงง สิ่งที่เราเห็นกันมากมายในช่วงนี้ของทุกๆปี ก็คงจะเป็นภาพบรรยากาศการรับน้องของมหาวิทยาลัยต่างๆ และก็น่าเศร้านะ ที่เห็นหลายๆที่รับน้องรุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิต อันนี้เป็นสิ่งที่ควรอยู่ในการดูแลของคณะอาจารย์นะคะ ของพี่นี่โชคดีมากๆเพราะมหาวิทยาลัยที่พี่จบมาเนี่ยรับน้องกันโคตรสนุก ว้าก แว้กอะไรก็มีแหละ แล้วแต่คณะ แต่ไม่มีคณะไหนลงไม้ลงมือกับน้องนะเออ เค้ามีกฎห้ามโดนตัวน้อง แต่คณะพี่ไม่มีว้ากนะคะ เอาจริงๆพี่ก็อยากโดนว้ากนะ อยากมีอารมณ์โดนรุ่นพี่ด่าแรงๆ ร้องไห้กอดเพื่อน กดดันน เอื้อออ!! แล้วกลับมามองตัวเองตอนผ่านจุดนั้นมาแล้วว่า “ตูกลัว
ทำไมวะ 5555555” อ่ะๆ อิป้านี่พูดเรื่องตัวเองมาเยอะแล้ว เรามาพูดถึงเรื่องการรับน้องกันดีกว่า ในเด็กเฟรชชี่ทั้งหมด มันคงไม่ใช่ทุกคนหรอกที่จะชอบทำกิจกรรม ร้องเพลงเชียร์ ตบมือบนแสตนด์ ฮูเร่ๆ ปาทังก้า สามสี่ สามสี่ (แต่อิป้าชอบนะคะ คิคิ) กับเด็กที่แบบ กรี๊ดดดด เอากิจกรรมมาค่ะ เอามาเลยเพ่!! หนูพร้อมจะไปชนตู้มต้ามกับคณะอื่นล้าวววว เรียนเสร็จปุ๊ปมาเข้ากิจกรรมเชียร์ปั๊ป ฉะนั้น เรามาแบ่งกันดีกว่าว่า ถ้าเข้าไปในเรื่องของกิจกรรมแล้ว จะมีน้องเฟรชชี่แบบไหนบ้าง
กลุ่ม A : กิจกรรม มันคือจิตวิญญาณ come on babe come to me !!
กลุ่ม B : ก็ทำได้นะ แล้วแต่อารมณ์อ่ะ so so อ่ะแก แกทำป่ะล่ะ ถ้าแกทำฉันก็ทำ
กลุ่ม C : กิจกรรมหรอ อี๋ ไม่อ่ะ เค้าจะเรียน เสียเวลาอ่านสือ เสียเวลานอน No no no บอกเธอง่ายๆได้แค่เธอถามผิดคนนนนน โฮว ~
ไม่ต้องถามกันนะว่าพี่ตอนเฟรชชี่พี่อยู่ในกลุ่มไหน พี่ตอบเลยพี่อยู่กลุ่ม A จ้ะ พี่บ้ากิจกรรมมาก แต่พี่ก็มีเพื่อนสนิทอยู่กลุ่ม C นะ พี่ไม่ว่าเพื่อนนะ เพราะว่าความชอบคนมันไม่เหมือนกัน ฉะนั้นถ้าเค้าไม่เหมือนเราก็ไม่ได้หมายความว่าเค้าแปลกประหลาดนะเด็กๆ แค่ความชอบมันต่างกันจ้ะ ต่อมาก็มาในเรื่องของรุ่นพี่บ้าง พวกน้องๆเฟรชชี่ทั้งหลายเวลาหนูเข้าไปแล้วเนี่ย หนูจะสังเกตว่าในวันที่หนูเข้าไปสัมภาษณ์ หนูจะเจอกับพวกพี่ปีต่างๆมาคอยต้อนรับ คอยบอกหนูว่าต้องเช็คชื่อที่ไหน ลงชื่อที่ไหน ลงทะเบียนเรียนอะไรยังไง อย่างคณะพี่จะมี พี่ชั้นปี พี่เชียร์ พี่ คนอ. พี่กลุ่มหรือบางที่เรียนกันว่าสันทนาการ พี่ลีดสุดเป๊ะ ความใฝ่ฝันของพี่เลยนะเว้ย เป็นลีดคณะอ่ะ แต่ตอนนั้นความสวยไม่เข้าเป้า เตี้ยด้วย เลยได้เป็นแค่พวงหรีดแทน 555555 อ่ะๆต่อๆ พวกรุ่นพี่ที่ทำกิจกรรมเนี่ยส่วนมากนะ ก็จะเป็นเฟรชชี่ กลุ่ม A มาก่อนทั้งนั้นแหละจ้ะ (ก็แหงสิ งั้นจะมาทำต่อให้เหนื่อยทำไม โวะ!) แต่พอพี่อยู่ปีสองปุ๊ป พี่ก็ไม่ได้เป็นกลุ่ม A ละนะ ย้ายมาเป็น กลุ่ม B แทน ชอบดูมากกว่า เพราะเราเป็นน้องตอนเราทำกิจกรรม โหย สนุกเว้ย กรี๊ด วี้ด บึ้ม! ไม่ต้องคิดไรมาก มาเลยๆ เต้นแร้งเต้นกาเข้าไป พี่บอกให้ทำไรทำหมด แต่พอมาเป็นพี่เมื่อไหร่ ก็จะเริ่มเครียดกัน เพราะว่าจะต้องเตรียมตัวซ้อมเต้นสันทนาการ เตรียมพร๊อพ เตรียมงานต้อนรับกันเป็นเดือนๆให้น้องๆประทับใจ ให้น้องรู้สึกว่าพอเข้ามาอยู่ที่นี่แล้วมันมีความสุขจริงๆ เหนื่อยมากนะ เห็นเพื่อน และรุ่นน้องปีต่อๆมาทำกันแล้วเนื้อย เหนื่อย ทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมาที่พี่ๆเค้าตั้งใจเตรียมงานมาให้หนูๆกันเนี่ย จุดประสงค์อีกอย่างก็คือ อยากให้หพวกหนูมีส่วนร่วมกับกิจกรรมกันเยอะๆ พอน้องไม่เข้ากิจกรรมพี่บางคนเค้าก็ไม่พอใจ น้อยใจ แบนน้องกันไปเลยก็มี ซึ่งพี่ๆจ๋า พี่ก้ต้องเข้าใจน้าว่าน้องบางคนเค้าไม่ชอบจริงๆ อย่าไปถือโทษโกรธเคือง ลงทัณฑ์บัญชาน้องๆเลยเนอะ
รับน้องสร้างสรรค์ในแบบฉบับของพี่ก็คงจะเป็นแบบ ร้องเพลงเชียร์ ผูกข้อไม้ข้อมือ พาน้องเดินชมมหาวิทยาลัย ทำกิจกรรมเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างรุ่นพี่และรุ่นน้อง ส่วนในเรื่องของว้าก พี่ว่ามันน่าสนุกดีนะ(คือไม่เคยโดนไง คณะรับน้องแบบมุ้งมิ้งๆตามประสาคณะที่ผู้หญิงเยอะ สายคุณปอยตรีช่าเยอะ ผู้ชายน้อย และชายแท้ก็ยังน้อยอีกด้วย แง TT เค้าไม่ได้ผู้ที่คณะเลย เดี๋ยวๆ ไปเรียนๆนะแก ) แต่บางคนก็รับความกดดันไม่ได้อารมณ์แบบ อะไรกันแว้ พ่อแม่ก็ไม่ใช่ ด่าเอาๆ แม่มเอ้ย รุ่นพี่ๆ เกลียดๆๆๆ แต่สักพักพอจบว้ากก็จะเห็นรุ่นน้องกับรุ่นพี่สนิทกันนะ สรุปง่ายๆเลยนะคะ รับน้องสร้างสรรค์ของพี่ก็คืออะไรที่ทำแล้วไม่ละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของน้อง ไม่ทำให้น้องเดือดร้อน เจ็บตัว หรือได้รับอันตราย และไม่ทำร้ายร่างกายน้อง อันนี้สำคัญมากๆเลยนะ สิ่งที่พี่เห็นรุ่นพี่ที่น่ารักๆเค้าทำกันมาก็คือ ก่อนที่จะเข้ากิจกรรมรุ่นพี่จะมีใบให้น้องๆเขียนว่า น้องมีโรคประจำตัวอะไร แพ้อาหารอะไร และมีกล่องยาสามัญเตรียมเดินตามน้องเสมอเวลาทำกิจกรรมตามฐานในคณะของมหาวิทยาลัย สมัยพี่เป็นเฟรชชี่ไม่รับน้องนอกสถานที่นะ รับในรั้วมหาวิทยาลัยนั่นแหละ แค่ในรั้วก็เหนื่อยแล้ว
ส่วนสิ่งที่ไม่สร้างสรรค์ที่พี่เห็นตามข่าวบ่อยๆเลยก็คือ บังคับให้น้องทานอะไรแปลกๆ อย่างบางสถาบันนี่ไปรับน้องนอกสถานที่แล้วน้องจมน้ำทะเลเสียชีวิต ทำร้ายร่างกายน้องจนบอบช้ำ บาดเจ็บสาหัสเพราะว่าทำไม่ได้ตามที่รุ่นพี่สั่ง บังคับให้น้องทำอะไรสุ่มเสี่ยง พาน้องไปอยู่ในสถานที่ ที่ไม่ปลอดภัย ให้น้องผู้หญิงกับน้องผู้ชายเล่นอะไรกันลามก พี่ว่ามันไม่สร้างสรรค์นะลูก พวกพี่ๆบางคนอาจจะดูแล้วสนุก แต่น้องๆคงไม่สนุกตามพี่ๆหรอกเนอะ และมันจะทำให้ความประทับใจแรกพบ รวมไปถึงความประทับใจในการทำกิจกรรมต่างๆไปอยู่ในขั้วลบ และคนภายนอก ผู้ปกครองจะมองพี่ๆและสถาบันที่พี่ๆอยู่รวมไปถึงบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องแต่อยู่ในสถาบันนั้น ไปในขั้วลบด้วยจ้ะ สุดท้ายนี้พี่อยากจะบอกว่าตลอดช่วงชีวิตพี่ 22 ปีที่เกิดมา ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยของพี่เป็นช่วงที่มีความสุขที่สุด พี่ก็หวังว่าน้องๆที่กำลังเข้าศึกษาในรั้วมหาวิทยาลัย ไม่ว่าน้องจะอยู่มหาวิทยาลัยอะไรก็ตาม จะใช้ชีวิตอย่างมีความสุขเช่นเดียวกับพี่ค่ะ
ว่าด้วยเรื่องการรับน้อง
ช่วงนี้คงไม่มีอะไรฮอตไปกว่าการเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัยของน้องๆเฟรชชี่ พี่เองก็ได้แต่มองตาละห้อยเพราะว่าพี่ปีเกทคนนี้กำลังจะรับปริญญาในเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้แล้ว ไม่มีโอกาสได้กลับไปรับน้องแล้วแหละเนอะ ความรู้สึกที่มองน้องๆตอนที่พี่อยู่ ปี2-4 กับอารมณ์ที่มองน้องในตอนนี้ช่างต่างกันโดยสิ้นเชิง อยากจะกลับไปเรียนใหม่จริง..จริ๊งงง สิ่งที่เราเห็นกันมากมายในช่วงนี้ของทุกๆปี ก็คงจะเป็นภาพบรรยากาศการรับน้องของมหาวิทยาลัยต่างๆ และก็น่าเศร้านะ ที่เห็นหลายๆที่รับน้องรุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิต อันนี้เป็นสิ่งที่ควรอยู่ในการดูแลของคณะอาจารย์นะคะ ของพี่นี่โชคดีมากๆเพราะมหาวิทยาลัยที่พี่จบมาเนี่ยรับน้องกันโคตรสนุก ว้าก แว้กอะไรก็มีแหละ แล้วแต่คณะ แต่ไม่มีคณะไหนลงไม้ลงมือกับน้องนะเออ เค้ามีกฎห้ามโดนตัวน้อง แต่คณะพี่ไม่มีว้ากนะคะ เอาจริงๆพี่ก็อยากโดนว้ากนะ อยากมีอารมณ์โดนรุ่นพี่ด่าแรงๆ ร้องไห้กอดเพื่อน กดดันน เอื้อออ!! แล้วกลับมามองตัวเองตอนผ่านจุดนั้นมาแล้วว่า “ตูกลัวทำไมวะ 5555555” อ่ะๆ อิป้านี่พูดเรื่องตัวเองมาเยอะแล้ว เรามาพูดถึงเรื่องการรับน้องกันดีกว่า ในเด็กเฟรชชี่ทั้งหมด มันคงไม่ใช่ทุกคนหรอกที่จะชอบทำกิจกรรม ร้องเพลงเชียร์ ตบมือบนแสตนด์ ฮูเร่ๆ ปาทังก้า สามสี่ สามสี่ (แต่อิป้าชอบนะคะ คิคิ) กับเด็กที่แบบ กรี๊ดดดด เอากิจกรรมมาค่ะ เอามาเลยเพ่!! หนูพร้อมจะไปชนตู้มต้ามกับคณะอื่นล้าวววว เรียนเสร็จปุ๊ปมาเข้ากิจกรรมเชียร์ปั๊ป ฉะนั้น เรามาแบ่งกันดีกว่าว่า ถ้าเข้าไปในเรื่องของกิจกรรมแล้ว จะมีน้องเฟรชชี่แบบไหนบ้าง
กลุ่ม A : กิจกรรม มันคือจิตวิญญาณ come on babe come to me !!
กลุ่ม B : ก็ทำได้นะ แล้วแต่อารมณ์อ่ะ so so อ่ะแก แกทำป่ะล่ะ ถ้าแกทำฉันก็ทำ
กลุ่ม C : กิจกรรมหรอ อี๋ ไม่อ่ะ เค้าจะเรียน เสียเวลาอ่านสือ เสียเวลานอน No no no บอกเธอง่ายๆได้แค่เธอถามผิดคนนนนน โฮว ~
ไม่ต้องถามกันนะว่าพี่ตอนเฟรชชี่พี่อยู่ในกลุ่มไหน พี่ตอบเลยพี่อยู่กลุ่ม A จ้ะ พี่บ้ากิจกรรมมาก แต่พี่ก็มีเพื่อนสนิทอยู่กลุ่ม C นะ พี่ไม่ว่าเพื่อนนะ เพราะว่าความชอบคนมันไม่เหมือนกัน ฉะนั้นถ้าเค้าไม่เหมือนเราก็ไม่ได้หมายความว่าเค้าแปลกประหลาดนะเด็กๆ แค่ความชอบมันต่างกันจ้ะ ต่อมาก็มาในเรื่องของรุ่นพี่บ้าง พวกน้องๆเฟรชชี่ทั้งหลายเวลาหนูเข้าไปแล้วเนี่ย หนูจะสังเกตว่าในวันที่หนูเข้าไปสัมภาษณ์ หนูจะเจอกับพวกพี่ปีต่างๆมาคอยต้อนรับ คอยบอกหนูว่าต้องเช็คชื่อที่ไหน ลงชื่อที่ไหน ลงทะเบียนเรียนอะไรยังไง อย่างคณะพี่จะมี พี่ชั้นปี พี่เชียร์ พี่ คนอ. พี่กลุ่มหรือบางที่เรียนกันว่าสันทนาการ พี่ลีดสุดเป๊ะ ความใฝ่ฝันของพี่เลยนะเว้ย เป็นลีดคณะอ่ะ แต่ตอนนั้นความสวยไม่เข้าเป้า เตี้ยด้วย เลยได้เป็นแค่พวงหรีดแทน 555555 อ่ะๆต่อๆ พวกรุ่นพี่ที่ทำกิจกรรมเนี่ยส่วนมากนะ ก็จะเป็นเฟรชชี่ กลุ่ม A มาก่อนทั้งนั้นแหละจ้ะ (ก็แหงสิ งั้นจะมาทำต่อให้เหนื่อยทำไม โวะ!) แต่พอพี่อยู่ปีสองปุ๊ป พี่ก็ไม่ได้เป็นกลุ่ม A ละนะ ย้ายมาเป็น กลุ่ม B แทน ชอบดูมากกว่า เพราะเราเป็นน้องตอนเราทำกิจกรรม โหย สนุกเว้ย กรี๊ด วี้ด บึ้ม! ไม่ต้องคิดไรมาก มาเลยๆ เต้นแร้งเต้นกาเข้าไป พี่บอกให้ทำไรทำหมด แต่พอมาเป็นพี่เมื่อไหร่ ก็จะเริ่มเครียดกัน เพราะว่าจะต้องเตรียมตัวซ้อมเต้นสันทนาการ เตรียมพร๊อพ เตรียมงานต้อนรับกันเป็นเดือนๆให้น้องๆประทับใจ ให้น้องรู้สึกว่าพอเข้ามาอยู่ที่นี่แล้วมันมีความสุขจริงๆ เหนื่อยมากนะ เห็นเพื่อน และรุ่นน้องปีต่อๆมาทำกันแล้วเนื้อย เหนื่อย ทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมาที่พี่ๆเค้าตั้งใจเตรียมงานมาให้หนูๆกันเนี่ย จุดประสงค์อีกอย่างก็คือ อยากให้หพวกหนูมีส่วนร่วมกับกิจกรรมกันเยอะๆ พอน้องไม่เข้ากิจกรรมพี่บางคนเค้าก็ไม่พอใจ น้อยใจ แบนน้องกันไปเลยก็มี ซึ่งพี่ๆจ๋า พี่ก้ต้องเข้าใจน้าว่าน้องบางคนเค้าไม่ชอบจริงๆ อย่าไปถือโทษโกรธเคือง ลงทัณฑ์บัญชาน้องๆเลยเนอะ
รับน้องสร้างสรรค์ในแบบฉบับของพี่ก็คงจะเป็นแบบ ร้องเพลงเชียร์ ผูกข้อไม้ข้อมือ พาน้องเดินชมมหาวิทยาลัย ทำกิจกรรมเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างรุ่นพี่และรุ่นน้อง ส่วนในเรื่องของว้าก พี่ว่ามันน่าสนุกดีนะ(คือไม่เคยโดนไง คณะรับน้องแบบมุ้งมิ้งๆตามประสาคณะที่ผู้หญิงเยอะ สายคุณปอยตรีช่าเยอะ ผู้ชายน้อย และชายแท้ก็ยังน้อยอีกด้วย แง TT เค้าไม่ได้ผู้ที่คณะเลย เดี๋ยวๆ ไปเรียนๆนะแก ) แต่บางคนก็รับความกดดันไม่ได้อารมณ์แบบ อะไรกันแว้ พ่อแม่ก็ไม่ใช่ ด่าเอาๆ แม่มเอ้ย รุ่นพี่ๆ เกลียดๆๆๆ แต่สักพักพอจบว้ากก็จะเห็นรุ่นน้องกับรุ่นพี่สนิทกันนะ สรุปง่ายๆเลยนะคะ รับน้องสร้างสรรค์ของพี่ก็คืออะไรที่ทำแล้วไม่ละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของน้อง ไม่ทำให้น้องเดือดร้อน เจ็บตัว หรือได้รับอันตราย และไม่ทำร้ายร่างกายน้อง อันนี้สำคัญมากๆเลยนะ สิ่งที่พี่เห็นรุ่นพี่ที่น่ารักๆเค้าทำกันมาก็คือ ก่อนที่จะเข้ากิจกรรมรุ่นพี่จะมีใบให้น้องๆเขียนว่า น้องมีโรคประจำตัวอะไร แพ้อาหารอะไร และมีกล่องยาสามัญเตรียมเดินตามน้องเสมอเวลาทำกิจกรรมตามฐานในคณะของมหาวิทยาลัย สมัยพี่เป็นเฟรชชี่ไม่รับน้องนอกสถานที่นะ รับในรั้วมหาวิทยาลัยนั่นแหละ แค่ในรั้วก็เหนื่อยแล้ว
ส่วนสิ่งที่ไม่สร้างสรรค์ที่พี่เห็นตามข่าวบ่อยๆเลยก็คือ บังคับให้น้องทานอะไรแปลกๆ อย่างบางสถาบันนี่ไปรับน้องนอกสถานที่แล้วน้องจมน้ำทะเลเสียชีวิต ทำร้ายร่างกายน้องจนบอบช้ำ บาดเจ็บสาหัสเพราะว่าทำไม่ได้ตามที่รุ่นพี่สั่ง บังคับให้น้องทำอะไรสุ่มเสี่ยง พาน้องไปอยู่ในสถานที่ ที่ไม่ปลอดภัย ให้น้องผู้หญิงกับน้องผู้ชายเล่นอะไรกันลามก พี่ว่ามันไม่สร้างสรรค์นะลูก พวกพี่ๆบางคนอาจจะดูแล้วสนุก แต่น้องๆคงไม่สนุกตามพี่ๆหรอกเนอะ และมันจะทำให้ความประทับใจแรกพบ รวมไปถึงความประทับใจในการทำกิจกรรมต่างๆไปอยู่ในขั้วลบ และคนภายนอก ผู้ปกครองจะมองพี่ๆและสถาบันที่พี่ๆอยู่รวมไปถึงบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องแต่อยู่ในสถาบันนั้น ไปในขั้วลบด้วยจ้ะ สุดท้ายนี้พี่อยากจะบอกว่าตลอดช่วงชีวิตพี่ 22 ปีที่เกิดมา ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยของพี่เป็นช่วงที่มีความสุขที่สุด พี่ก็หวังว่าน้องๆที่กำลังเข้าศึกษาในรั้วมหาวิทยาลัย ไม่ว่าน้องจะอยู่มหาวิทยาลัยอะไรก็ตาม จะใช้ชีวิตอย่างมีความสุขเช่นเดียวกับพี่ค่ะ