พระอาจารย์ชา สุภัทโท
วัดหนองป่าพง
อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี
...
มันเดือดร้อนเพราะอะไร ทำไมลูกหลานพูดไม่ฟังคำพ่อแม่
เด็กนักเรียนทำไมลูกศิษย์ไม่เคารพครูอาจารย์ เพราะอะไรหือ
อันนี้มันเป็นเพราะอะไร
ถ้าหากจะพูดให้มันตรงไปตรงมาแล้ว
มันเป็นจาก "พ่อแม่" นั่นเอง พ่อแม่เพิกเฉยไปเสีย
บำรุงบำเรอลูกจนให้มากๆ เอาใจมันทุกอย่าง
"แม่.." "ขา...." "พ่อ..." "ค้าบบ...."
อ่อนน้อมมันเหลื๊อ....เกิน
โดยมันจะทำอะไรก็ให้ตามใจมันทุกอย่าง
เมื่อมันโตมาแล้วน่ะมันก็ไม่เชื่อเรา ไม่ฟังเรานี่เพราะความรัก
ความรักนั้นน่ะมันเป็นโทษ ความรักมันเป็นทุกข์
ความรักนั้นมันเป็นเหตุ มันเป็นซะอย่างนี้
ไอ้ความรักนั้นน่ะ.. "ให้รักเหมือนพระพุทธเจ้าท่านสอน"
สอนสาวกของท่าน ท่านรักสาวกของท่าน
กลัวสาวกจะเป็นทุกข์หลาย
..นอนมาก..อย่าไปนอนมากมันเลย
..กินมาก..อย่าไปกินมันมากเลย
อะไรทุกอย่างจงทำให้น๊อยน้อยลงนั่นแหละ
ท่านดูพระเจ้าพระสงฆ์ท่าน ท่านสอน
ท่านรักลูกของท่าน พระพุทธเจ้าน่ะ
...สอนให้มักน้อย ให้สันโดษ
อย่าไปทำสิ่งมันไม่ดีไม่งามเกิดขึ้นในตัวเอง
อย่าไปทำอะไรที่ให้มันเป็นโทษแก่เจ้าของ ให้โทษแก่ผู้อื่น
ท่านสอน...เรียกว่าพระพุทธเจ้าท่านรักลูกของท่าน
สอน คิดไม่ได้..สอน ...จนลูกของท่าน ผู้ฟังธรรมท่าน
ประพฤติปฏิบัติตามท่านเป็นสุปฏิปันโน อุชุปฏิปันโน
ญายปฏิปันโน สามีจิปฏิปันโน เป็น "พระอริยบุคคล" ทั้งนั้น
นี้ก็เพราะ
"ท่านรักลูกของท่านโดยธรรมะ"
แต่รักลูกของท่านโดยหลักธรรมะเช่นนั้นแล้ว
ท่านจะปล่อยไปที่ไหนก็ได้ จะต้องให้เข้าไปในป่าก็ได้
ไปในกรุงก็ได้ ไปที่ไหนก็ตามทีเถอะ
ไม่เยื่อใยในสมบัติเจ้าของแล้ว ไม่เยื่อใยในสมบัติคนอื่นแล้ว
ไม่เยื่อใยในสมบัติของเทวดาแล้ว จะไปทิศไหนก็สบายใจ
ไม่เป็นพิษไม่เป็นภัย อันนี้พระพุทธเจ้าท่านสอน
ท่านรักลูกของท่าน ท่านต้องสอน ท่านต้องเฆี่ยน
ท่านต้องว่า ท่านต้องกล่าว
รักลูกอย่างพระพุทธเจ้า : หลวงพ่อชา สุภัทโท
พระอาจารย์ชา สุภัทโท
วัดหนองป่าพง
อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี
...
มันเดือดร้อนเพราะอะไร ทำไมลูกหลานพูดไม่ฟังคำพ่อแม่
เด็กนักเรียนทำไมลูกศิษย์ไม่เคารพครูอาจารย์ เพราะอะไรหือ
อันนี้มันเป็นเพราะอะไร ถ้าหากจะพูดให้มันตรงไปตรงมาแล้ว
มันเป็นจาก "พ่อแม่" นั่นเอง พ่อแม่เพิกเฉยไปเสีย
บำรุงบำเรอลูกจนให้มากๆ เอาใจมันทุกอย่าง
"แม่.." "ขา...." "พ่อ..." "ค้าบบ...."
อ่อนน้อมมันเหลื๊อ....เกิน
โดยมันจะทำอะไรก็ให้ตามใจมันทุกอย่าง
เมื่อมันโตมาแล้วน่ะมันก็ไม่เชื่อเรา ไม่ฟังเรานี่เพราะความรัก
ความรักนั้นน่ะมันเป็นโทษ ความรักมันเป็นทุกข์
ความรักนั้นมันเป็นเหตุ มันเป็นซะอย่างนี้
ไอ้ความรักนั้นน่ะ.. "ให้รักเหมือนพระพุทธเจ้าท่านสอน"
สอนสาวกของท่าน ท่านรักสาวกของท่าน
กลัวสาวกจะเป็นทุกข์หลาย
..นอนมาก..อย่าไปนอนมากมันเลย
..กินมาก..อย่าไปกินมันมากเลย
อะไรทุกอย่างจงทำให้น๊อยน้อยลงนั่นแหละ
ท่านดูพระเจ้าพระสงฆ์ท่าน ท่านสอน
ท่านรักลูกของท่าน พระพุทธเจ้าน่ะ
...สอนให้มักน้อย ให้สันโดษ
อย่าไปทำสิ่งมันไม่ดีไม่งามเกิดขึ้นในตัวเอง
อย่าไปทำอะไรที่ให้มันเป็นโทษแก่เจ้าของ ให้โทษแก่ผู้อื่น
ท่านสอน...เรียกว่าพระพุทธเจ้าท่านรักลูกของท่าน
สอน คิดไม่ได้..สอน ...จนลูกของท่าน ผู้ฟังธรรมท่าน
ประพฤติปฏิบัติตามท่านเป็นสุปฏิปันโน อุชุปฏิปันโน
ญายปฏิปันโน สามีจิปฏิปันโน เป็น "พระอริยบุคคล" ทั้งนั้น
นี้ก็เพราะ "ท่านรักลูกของท่านโดยธรรมะ"
แต่รักลูกของท่านโดยหลักธรรมะเช่นนั้นแล้ว
ท่านจะปล่อยไปที่ไหนก็ได้ จะต้องให้เข้าไปในป่าก็ได้
ไปในกรุงก็ได้ ไปที่ไหนก็ตามทีเถอะ
ไม่เยื่อใยในสมบัติเจ้าของแล้ว ไม่เยื่อใยในสมบัติคนอื่นแล้ว
ไม่เยื่อใยในสมบัติของเทวดาแล้ว จะไปทิศไหนก็สบายใจ
ไม่เป็นพิษไม่เป็นภัย อันนี้พระพุทธเจ้าท่านสอน
ท่านรักลูกของท่าน ท่านต้องสอน ท่านต้องเฆี่ยน
ท่านต้องว่า ท่านต้องกล่าว