เหตุการณ์ เกิดที่ ริมหาดริ้น อำเภอเกาะพงัน (สถานที่จัดงาน ฟูลมูนปาร์ตี้) เวลาประมาณ 16.10 มีป้าที่ทำงาน กับเด็กชายอายุ 7 ขวบ 2 คน ไปตกปลาข้างโขดหิน ซึ่งบริเวณนั้นไม่มีผู้คนเดินผ่าน นอกจากพวกเขาสามคนแล้ว ก็ยังมีฝรั่งสาวสวยคนนึงได้มานั่งโขดหินข้าง ๆ กับที่พวกเขาตกปลาอยู่ ระหว่างที่ป้าแกตกปลาอยู่นั้น ได้วางโทรศัพท์ไว้บนโขดหินซึ่งห่างจากตัวแกไม่เกิน 4 ก้าวเวลาล่วงเลยไปประมาณ 7-10 นาที แกมารู้ตัวอีกครั้งว่าโทรศัพท์หายไปพร้อมกับผู้หญิงคนนั้นด้วย   ป้าได้วิ่งกลับมาแจ้งบังกะโล  
        เหตุการณ์ค้นหาสาวฝรั่งคนนั้นก็เกิดขึ้น น้อง ๆ ที่บังกะโล กับพนักงานร้านอาหาร ได้วิ่งตามฝรั่งคนนั้นริมหาดริ้นพร้อมกับเด็กชาย อายุ 7 ขวบที่เห็นเหตุการณ์ตอนที่ฝรั่งเอาใส่กางเกง แต่น้องเขาไม่คิดว่าเป็นของป้า ส่วนเราเองก็ได้เริ่มเปิดกล้องวงจรปิด 16.40 น. ไล่ดูไปเรื่อย ๆ ขอความช่วยเหลือจากโรงแรม  ร้านอาหาร และชมรม ที่คิดว่ามีกล้องอยู่บนหาดริ้น เพื่อติดตามฝรั่งคนนั้น จนสุดท้ายเมื่อเวลา 21.30 น. เรารู้ว่าเขาพักที่ไหน หมายเลขห้องพักอะไร เราได้ไปตามตำรวจมา และขอคุยกับผู้ดูแลรีสอร์ท เพื่อที่จะขอดูในห้องพักซึ่งฝรั่งยังอยู้ในห้องพัก ณ เวลานั้น ปราฏกว่า ทางรีสอร์ทกับตำรวจเห็นพ้องต้องกันว่าให้ไปแจ้งความแล้วพรุ่งนี้เช้าค่อยกลับมาใหม่ เรากับป้าก็ไม่สบายใจ เราคุยกับทางรีสอร์ทว่าให้เรียกลูกค้าลงมา เราจะคุยกับเขาเอง ทางรีสอร์ทให้พนักงานไปเรียกแต่ลูกค้าไม่เปิดประตู และหลังจากนั้นเราได้ตัดสินใจมานั่งรอที่ริมฟุตบาทข้างถนน จนเวลาล่วงเลยมาถึง 00.30 น. ได้มีฝรั่งกลุ่มใหญ่ เดินลงมาจากห้องพักและมีเธอคนนั้นอยู่ด้วย เราก็ได้เดินไปถามเขา ในตอนแรกเขาปฏิเสธ ไม่รู้ ไม่เห็น จนตอนนี้เราเลือดฉีดพลุ่งขึ้นหน้า โมโหมาก และก็พูดกับเขาไปว่า เธอน่าจะรู้นะว่าทำไมฉันถึงมาหาเธอเจอที่นี่ เพราะฉันตามเธอมาจาก CCTV เธอจะเอาโทรศัพท์คืนให้เขาหรือไปโรงพักกับฉัน สุดท้ายเขายอมรับและบอกว่าโทรศัพท์อยู่ในห้อง เราก็เดินตามเขาไปที่ห้องพักเพื่อที่จะไปเอาโทรศัพท์คืน และเขาก็หยิบโทรศัพท์ออกมาจากในห้อง ซึ่ง ณ ตอนนั้นเขาก็ยังไม่ยอมรับว่าเขาขโมยมา และยังพูดจาไม่ดี เราโมโหมากกให้ป้าไปตามตำรวจมาอีกครั้ง ผู้หญิงคนนั้นเข้าห้องไป เราทำอะไรไม่ได้ ตำรวจไล่ให้เราไปแจ้งความที่โรงพัก เราเลยให้ป้า ไปแจ้งความที่โรงพัก ท้องศาลา ซึ่งไกลมาก จากหาดริ้น ปรากฏว่า เวลาประมาณ ตี 1 กว่า ไม่มีร้อยเวรอยู่ ส่วนเราเองก็ติดตามฝรั่งคนนั้นไปที่ Half moon party เราติดต่อกับป้าเป็นระยะ ๆ ก็ยังไม่มีร้อยเวรมา เราเลยโทรขอความช่วยเหลือจาก 191 จนสุดท้าย เราคอยร้อยเวร กว่าครึ่งชั่วโมง และแล้วเขาก็ทำบันทึกประจำวันให้ หลังจากแจ้งความเสร็จ ป้าได้รีบกลับมาที่ ป้อมตำรวจหาดริ้น ประมาณ ตี 2 กว่า ที่ป้อมก็ไม่มีตำรวจเลย ล็อคประตูป้อมอีกต่างหาก สุดท้ายเราต้องรอตำรวจจนถึงตอนเช้า 9 โมงเช้าก็แล้ว ยังไม่มีตำรวจมา รออีกสักพักถึงมีตำรวจมา ได้โทรไปสอบถามทางรีสอร์ทที่ฝรั่งคนนั้นพักอยู่ ปรากฏว่าเขาเช็คเอาท์ ออกไปตั้งแต่ 7 โมงเช้า

เราอยากถามว่า ถ้าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับคุณ คุณจะทำอย่างไร ?
คำพูดที่ว่าได้ของแล้วก็จบ  คำนี้สมควรออกมาจากปากตำรวจหรือไม่ ?
หากไม่กล้อง CCTV เราคงสิ้นหวังที่จะตามหา
สุดท้ายนี้ขอขอบคุณอีกครั้ง กับเจ้าของกิจการโรงแรม ผู้ดูแล และ เจ้าของร้านอาหาร ที่อนุญาติให้เราเข้าไปดูกล้องวงจรปิด