สวัสดีค่ะ กระทู้นี้ก็เป็นกระทู้แรกของดิฉันนะค่ะ ดิฉันตั้งใจสมัครแอคเค้าของตัวเองเพื่อมาตั้งกระทู้นี้เลย ไม่กล้ายืมแอคเค้าของใครๆมาตั้งจริงๆค่ะ
เรื่องราวมีอยู่ว่าดิฉันก็นอนเล่นเฟสบุคไปเรื่อยๆตามประสาคนโสดในคืนเงียบๆนี่แหละค่ะ จนกระทั้งเลื่อนไปเจอรูปภาพที่เพจของเชียร์ลีดเดอร์ของคณะเนี่ยเขาก็ลงรูปประกาศว่าเอ้อออ เขาได้รับสมัครผู้นำเชียร์แล้วก็คัดเลือกแล้วก็จะประกาศผลในเฟสบุคแล้ว ให้รอก่อนนะคะอะไรประมาณนี้
ซึ่งหลายคนอาจจะสงสัยว่า เอ้อออ โพสของเชียร์ลีดเดอร์คณะเนี่ย มันเกี่ยวอะไรกับกระทู้นี้วะ?
ดิฉันบอก ได้เลยค่ะว่า ‘เกี่ยว!!!! เพราะมันทำให้ดิฉันนึกถึงตัวเองเมื่อเข้ามหาลัยตอนปีหนึ่ง สมัยดิฉันยังเป็นตุ๊ดหัวโปกจากต่างจังหวัดเพิ่งเข้ามาเรียนมหาลัยปีแรก พึ่งออกจากอ้อมอกและการคุมความประพฤติของพ่อและแม่มา’ ซึ่งตอนนั้นดิฉันก็อยากเป็นลีดคณะค่ะ 555555 และตอนนี้ชีวิตมหาลัยของดิฉันก็กำลังเดินทางอย่างรวดเร็วจนจะถึงปีที่สามแล้วค่ะ
หลายคนที่อายุมากกว่าดิฉันอาจจะกำลังคิดอยู่ว่า ‘เอ้อออ ฉันเรียนจบมาทำงานแล้ว ฉันก็ยังไม่มีแฟน ฉันก็ไม่เห็นสงสัยเหมือนแกเลยตุ๊ด!!!’
ซึ่งดิฉันก็จะบอกเลยเหมือนกันค่ะว่า 'ดิฉันสงสัยค่ะ!!!'
เพราะว่าอะไรรู้มั้ยคะ?
เพราะว่าดิฉันเนี่ยมีชุดความคิดชุดหนึ่งซึ่งยึดถือมาตลอดคะ คือ
“คนเราถ้าตั้งแต่เกิดมาจนกระทั่งเรียนมหาลัยปีสองแล้วยังไม่เคยมีแฟน มีคนมาจีบ หรือจีบใครในชีวิตคือแปลก!”
//ประโยคนี้ดิฉันได้ยินเมื่อสมัยเรียนมอต้น คือความต้องการของเขาคงแบบอยากให้หาแฟนก่อนเรียนจบอะไรประมาณนี้ จะได้มีแฟนที่แบบดีๆ มีลักษณะคล้ายๆกับเรา ซึ่งความจริงคนเราเจอแฟน แต่งงานกันตอนทำงานมันก็มีถมเถไปเนอะคะ
แต่คือที่ดิฉันสงสัยจนมาตั้งกระทู้ถามเนี่ยเพราะว่า "ตั้งแต่เกิดมาจนถึงบัดนี้ดิฉันยังไม่เคยคุยกระหนุงกระหนิงหรือมีแฟนเลยค่ะ!!!"
อ่าาาา...เล่าแบบละเอียดให้ฟังดีกว่า
คือตอนดิฉันอยู่มอต้น วันวาเลนไทน์เพื่อนในห้องที่สวยๆก็เอ้อออมีรุ่นพี่มาให้ดอกไม้ ให้ช๊อคโกแลตจีบอะไรกันประมานนี้ แต่ตัวดิฉันก็เปล่าเปี่ยวโดดเดี่ยวเดียวดาย ก็ได้คุยกันเพื่อนสาวที่ปล่าวเปลี่ยวโดดเดี่ยวเดียวดาย ไม่มีใครเหมือนกัน เซึ่งพื่อนดิฉันก็ได้บอกกับดิฉันว่า
‘เห้ยแกรรร เดี่ยวพอแกขึ้นมอปลายแกก็มีแฟนเว้ย ฉันนะเห็นพี่มอปลายโรงเรียนเราเป็นเกย์คบกันตั้งหลายคู่' ตัวเราก็มีความเชื่ออย่างงั้นค่ะ ตามที่เพื่อนบอก แล้วก็รอคืนวันจะได้ขึ้นมอปลาย
พอได้ขึ้นมอปลาย ดิฉันก้ได้มีพี่สายซึ่งเรียนอยู่มอหก ซึ่งพี่เขาก็เป็นตุ๊ดเหมือนกันนะคะ ดิฉันก็ได้ถามพี่เขาว่าเอ้ออ
'พี่มีแฟน(ตอนนั้นใช้คำว่า’ผัว’เพราะสนิทกับพี่เขา555555) รึป่าวว?' ซึ่งพี่เขาก็ได้ให้คำตอบเราว่า
“หม่าย ไม่ช่ายยังที้” //แปลว่า “ไม่ ยังไม่มี”นะคะ [ตอนมอปลายเจ้าของกระทู้เรียนอยู่ที่ภาคใต้หน่ะคะ55555]
ซึ่งดิฉันก้รู้สึกตะหงิดๆตั้งแต่ตอนนั้นแล้วแหละค่ะว่า “ รึว่าที่เพื่อนบอกจะไม่จริงวะ?” จนทุกอย่างก็กระจ่างชัดเจนขึ้นเมื่อวันเวลาผ่านไป
ดิฉันก็เรียนจนจบชั้นมอหก ซึ่งตอนนั้นดิฉันก็ได้ทำกิจกรรมอย่าง 'ผีบ้า' คือทำเยอะ และเวลาทำก็จะเล่นใหญ่ จัดเต็ม ทำบ้า เน้นฮา เรียกเสียงหัวเราะ ซึ่งตอนนั้นเพื่อนๆ รุ่นน้อง คุณครูในโรงเรียนก็รู้จักชื่อดิฉันหมดเลยค่ะ เพราะว่าการทำตัวผีบ้าของนี่ค่ะ
ซึ่งนี่ก็ได้ให้เหตุผลโกหกตัวเอง กลบเกลื่อนบาดแผลที่หัวใจจากการเชื่ออย่างปักใจและไม่เป็นไปอย่างที่คิดว่า สาเหตุที่เราไม่มีแฟนเนี่ยเพราะว่า 'เราสวยแล้วเขาไม่กล้าจีบรึปล่าว?'(คือก็เป็นความเชื่อที่เอามาจากรุ่นน้องกับคุณครูที่ชอบชมว่าแบบ “พี่*** สวยจังเลยค่าาา”
คือก็รู้นะค่ะว่าเขาชมไปอย่างั้นแหละเด็กๆรุ่นน้องเอฟซีอะ55555 แต่มันคือบ่อยจนนี่ก็คิดว่าอาจจะเป็นเรื่องจริง5555555555//เก็บรองเท้าไว้อย่าพึ่งปามานะคะ) ซึ่งต่อมาดิฉันก็ได้มีความคิดใหม่คือ ตอนขึ้นมหาลัยเราอาจจมีแฟนก็ได้เนอะ(อันนี้คิดเองละโทษจะเพื่อนไม่ได้ละคราวนี้55555) อีกอย่างสังคมต่างจังหวัด อย่างโรงเรียนเราเนี่ยมันเป็นสังคมปิด ไม่ค่อยมีใครคบกันหรอก สังคมเล็กอีกด้วย.
คราวนี้ค่ะ ความหวังมาอยู่ที่การได้ขึ้นมหาลัย พอเราได้ขึ้นปีหนึ่ง นี่ก็ได้หันหลังกลับไปมองความผิดพลาดต่างๆตอนมอปลายแล้วก็เอามาปรับปรุงตอนขึ้นมหาลัย คือ ดิฉันเลิกทำตัวทำกิจกรรมอย่าง 'ผีบ้า' แบบตอนมอปลาย เลิกพูด'คะขา คะขา' ตลอดเวลาเหมือนมอปลาย เรียกง่ายๆก็คือเริ่มแอ๊บนั้นแหละ แต่นี่คือไม่ได้มองว่าเป็นการแอ๊บนะคะ มีความรู้สึกว่ามันเป็นการเติบโต การเรียนรู้ การทำตัวให้ถูกกาละเทศะ คิดว่าโตแล้วอะไรที่เด็กๆทำก็เลิกทำเห้อ คือส่วนตัวก็ไม่ได้รู้สึกอึดอัดอะไรนะคะ
ผลที่ตามมาคืออะไรรู้มั้ยคะ...... มีผู้หญิงมาจีบค่ะ5555555555 คือตอนนั้นเขาก็คงเห็นว่าเราเป็นคนเงียบๆเรียบร้อยค่ะ ซึ่งจริงๆอะ เราอะไม่มีเพื่อนเราก็เลยไม่ได้คุยไม่ได้อะไรมากกว่า555555 แต่ตอนหลังเขาก็ไปขุดๆในเฟสบุคเราเขาก็รู้ว่าเราไม่แมน ก็หายไป5555555555
ต่อมาคือ....ถูกเลือกให้เป็นตัวแทนไปประกวดเดือนคณะ แม่จร้าววววววววววค้าาาาาาาาาา นี่ก็นึกในใจว่าเอ้อออออ ไม่มีคนอื่นรึไง ปฎิเสธได้มั้ยยยย ทำไมต้องเป็นเราว้าาาาาาา ตัวเราก็เพิ่งเลิกพูดคะขา หัดพูดครับเอง แล้วนี่จะให้ไปประกวดเดือนกรรมๆๆๆ //คือแอบบอกละกันว่าเจ้าของกระทู้เป็นคนใต้ แต่ว่าเป็นคนใต้แบบมีเชื่อจีนผสมเชื่อไทยคือจะไม่ได้ผิวคล้ำ หน้าตาก็เฉยๆ สูง179น้ำหนัก65 มาตราฐานชายไทยนี่แหละ55555
ส่วนผลการประกวดนี่ก็ไม่ได้ตำแหน่งอะไรคะ เพราะคนอื่นที่ประกวดนี่หล่อมากกกก!!!55555 ( ฟินมากตอนเก็บตัว ห้อมล้อมด้วยผู้ชายหล่อๆ 5555555 ) ตอนประกวดนี่เพื่อนเก่าก็แห่กันไปดูไปกดไลค์สนับสนุนกันเต็มที่เพราะมันตลกที่ได้เห็นเพื่อนมันแอ๊บแมนตอบคำถามบนเวที5555555
และความพีคที่สุดหลังจากนั้นคือ....มีตุ๊ดมาจีบค้าาาาาา หลายคนด้วยค้าาาาา ด้วยความไม่แมนเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ผนวกกับการไม่ได้เปิดตัวเป็นตุ๊ดอย่างเป็นทางการหรือการแกรนโอเพนนิ่ง ประกอบกับสีหน้าท่าทาง ทำให้พวกเดียวกันสัมผัสได้ถึงออร่าและเข้าหา แต่หารู้ไม่ว่าตอนนั้นเราแอบคิดอยู่ในใจว่า
เธ้อออออ! พวกเดียวกันน้าาาาาา อีกอย่าเธ้อก็รองพื้นหนาไปรู้ป่าวววบิ๊กอายก็สีสวยไปด้วยยย เลาอยากบอกเธ้อมากเลย แต่เลากลัวโดนเธ้อตบเลาไม่อยากมีเรื่อง 55555555
นั้นแหละค่ะชีวิตปีหนึ่งก็ผ่านพ้นไป
พอจบปีหนึ่งเราไม่มีแฟนเราก็ปลอบใจว่าเอ้ออ เรากำลังปรับตัวเข้ากับสังคมใหม่รึปล่าว? เลยยังไม่มีใคร แต่พอทำไปทำมาหายใจเข้าออก ตอนนี้ก็จบปีสองแล้ว ปีที่แล้วก็โฟกัสกับการเรียนไม่ได้ไปทำอะไรเท่าไหร่ ไม่ได้ค่อยเที่ยวกลางวันกลางคืนบ่อยเหมือนตอนปีหนึ่ง เพราะมีความรู้สึกว่าการเรียนปีสองมันยากกว่าปีหนึ่ง ชีวิตก็วนลูป ตื่น อาบน้ำ ไปเรียน กินข้าว อ่านหนังสือ ดูซีรี่ย์ เที่ยวนิดหน่อย เข้านอน อยู่แค่นี้อะค่ะ
คราวนี้มาเข้าเรื่องดีกว่า บอกก่อนว่าเจ้าของกระทู้เนี่ย ถ้าอยู่กับเพื่อนจะออกสาวนิดหน่อยแบบตลกๆๆตามสายตลก แต่ถ้าคนไม่รู้จักหรือไม่เคยคุยจะไม่รู้เลยไม่แมน ซึ่งเจ้าของกระทู้ก็ไม่ได้ให้จำกัดความตัวเองว่าเป็นเกย์ควีนอะไรนะครับ(อ้าวครับเฉ้ยยย5555) มีความรู้สึกว่ามันแปลกๆๆ คือก็ไม่ได้สำอางสำออยมาก ไม่อยากเป็นผู้หญิง ก็เลยสะดวกใจว่าเอ้อออ เป็นตุ๊ดนี่แหละ555555
คือสงสัยว่าคนเป็นตุ๊ดละก็เป็นสายตลกเนี่ยเขาหาแฟนกันยังไงงงงงง? บอกเลยว่านี่ทำตามในพันทิปเกือบทุกอย่างแล้ว ไม่ว่าไปเที่ยวที่ที่เขาว่าได้แน่ๆๆ(นึกละก็โมโหอุสาห์จ่ายตังค่ารถค่าเครื่องไปตั้งหลายพัน ไม่ได้อะไรกลับมาเลยนอกจากประสบการณ์ไปตลกขำแตกทำตัวผีบ้ากับเพื่อน555555) ไปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิต่างๆ โหลดแอปมาเล่นคือทำหมดแล้ว ก็ยังหาไม่ได้ ขนาดว่าไม่ได้เลือกมากไทยฝรั่งก็โอเคหมด ก้ไม่ได้55555555
เอ้อออคือบอกอีกอย่างนึงว่าส่วนตัวเนี่ยเป็นคนมองคนที่เป็นเกย์ไม่ออกด้วย เคยมีเพื่อนที่เขาเป็น ซึ่งเหมือนกับเขาเคยมาทำดีๆกับเราด้วยช่วงนึง เราก็นึกว่าเป็นผู้ชาย เราก็ตลกกกกกกใส่ตลกกกกแบบตลกกกกกับเพื่อนทุกคน จนเรามารู้ที่หลังว่าเอ้าาา เป็นหรออ พอเราจะเริ่มให้โอกาสอะไรแบบนี้ก็ไม่ติดแล้วเพราะเราไปตลกกับเขาไว้แล้วก่อนหน้านี้555555555555555555
โอ้ยยยยพิมไปก็ตลกไป เป็นตุ๊ดสายตลกนี่ อกหักยังตลกเลย555555 ถ้าใครรู้ใครสงสารก็ช่วยแนะนำหน่อยครับ
***แก้ไขคำผิดกับปรับคำให้อ่านได้คล่องขึ้นนิดหน่อยแล้วนะครับบบบ
เป็นตุ๊ดสายตลกหาผัวยังไงคะ?
เรื่องราวมีอยู่ว่าดิฉันก็นอนเล่นเฟสบุคไปเรื่อยๆตามประสาคนโสดในคืนเงียบๆนี่แหละค่ะ จนกระทั้งเลื่อนไปเจอรูปภาพที่เพจของเชียร์ลีดเดอร์ของคณะเนี่ยเขาก็ลงรูปประกาศว่าเอ้อออ เขาได้รับสมัครผู้นำเชียร์แล้วก็คัดเลือกแล้วก็จะประกาศผลในเฟสบุคแล้ว ให้รอก่อนนะคะอะไรประมาณนี้
ซึ่งหลายคนอาจจะสงสัยว่า เอ้อออ โพสของเชียร์ลีดเดอร์คณะเนี่ย มันเกี่ยวอะไรกับกระทู้นี้วะ?
ดิฉันบอก ได้เลยค่ะว่า ‘เกี่ยว!!!! เพราะมันทำให้ดิฉันนึกถึงตัวเองเมื่อเข้ามหาลัยตอนปีหนึ่ง สมัยดิฉันยังเป็นตุ๊ดหัวโปกจากต่างจังหวัดเพิ่งเข้ามาเรียนมหาลัยปีแรก พึ่งออกจากอ้อมอกและการคุมความประพฤติของพ่อและแม่มา’ ซึ่งตอนนั้นดิฉันก็อยากเป็นลีดคณะค่ะ 555555 และตอนนี้ชีวิตมหาลัยของดิฉันก็กำลังเดินทางอย่างรวดเร็วจนจะถึงปีที่สามแล้วค่ะ
หลายคนที่อายุมากกว่าดิฉันอาจจะกำลังคิดอยู่ว่า ‘เอ้อออ ฉันเรียนจบมาทำงานแล้ว ฉันก็ยังไม่มีแฟน ฉันก็ไม่เห็นสงสัยเหมือนแกเลยตุ๊ด!!!’
ซึ่งดิฉันก็จะบอกเลยเหมือนกันค่ะว่า 'ดิฉันสงสัยค่ะ!!!'
เพราะว่าอะไรรู้มั้ยคะ?
เพราะว่าดิฉันเนี่ยมีชุดความคิดชุดหนึ่งซึ่งยึดถือมาตลอดคะ คือ
“คนเราถ้าตั้งแต่เกิดมาจนกระทั่งเรียนมหาลัยปีสองแล้วยังไม่เคยมีแฟน มีคนมาจีบ หรือจีบใครในชีวิตคือแปลก!”
//ประโยคนี้ดิฉันได้ยินเมื่อสมัยเรียนมอต้น คือความต้องการของเขาคงแบบอยากให้หาแฟนก่อนเรียนจบอะไรประมาณนี้ จะได้มีแฟนที่แบบดีๆ มีลักษณะคล้ายๆกับเรา ซึ่งความจริงคนเราเจอแฟน แต่งงานกันตอนทำงานมันก็มีถมเถไปเนอะคะ
แต่คือที่ดิฉันสงสัยจนมาตั้งกระทู้ถามเนี่ยเพราะว่า "ตั้งแต่เกิดมาจนถึงบัดนี้ดิฉันยังไม่เคยคุยกระหนุงกระหนิงหรือมีแฟนเลยค่ะ!!!"
อ่าาาา...เล่าแบบละเอียดให้ฟังดีกว่า
คือตอนดิฉันอยู่มอต้น วันวาเลนไทน์เพื่อนในห้องที่สวยๆก็เอ้อออมีรุ่นพี่มาให้ดอกไม้ ให้ช๊อคโกแลตจีบอะไรกันประมานนี้ แต่ตัวดิฉันก็เปล่าเปี่ยวโดดเดี่ยวเดียวดาย ก็ได้คุยกันเพื่อนสาวที่ปล่าวเปลี่ยวโดดเดี่ยวเดียวดาย ไม่มีใครเหมือนกัน เซึ่งพื่อนดิฉันก็ได้บอกกับดิฉันว่า
‘เห้ยแกรรร เดี่ยวพอแกขึ้นมอปลายแกก็มีแฟนเว้ย ฉันนะเห็นพี่มอปลายโรงเรียนเราเป็นเกย์คบกันตั้งหลายคู่' ตัวเราก็มีความเชื่ออย่างงั้นค่ะ ตามที่เพื่อนบอก แล้วก็รอคืนวันจะได้ขึ้นมอปลาย
พอได้ขึ้นมอปลาย ดิฉันก้ได้มีพี่สายซึ่งเรียนอยู่มอหก ซึ่งพี่เขาก็เป็นตุ๊ดเหมือนกันนะคะ ดิฉันก็ได้ถามพี่เขาว่าเอ้ออ
'พี่มีแฟน(ตอนนั้นใช้คำว่า’ผัว’เพราะสนิทกับพี่เขา555555) รึป่าวว?' ซึ่งพี่เขาก็ได้ให้คำตอบเราว่า
“หม่าย ไม่ช่ายยังที้” //แปลว่า “ไม่ ยังไม่มี”นะคะ [ตอนมอปลายเจ้าของกระทู้เรียนอยู่ที่ภาคใต้หน่ะคะ55555]
ซึ่งดิฉันก้รู้สึกตะหงิดๆตั้งแต่ตอนนั้นแล้วแหละค่ะว่า “ รึว่าที่เพื่อนบอกจะไม่จริงวะ?” จนทุกอย่างก็กระจ่างชัดเจนขึ้นเมื่อวันเวลาผ่านไป
ดิฉันก็เรียนจนจบชั้นมอหก ซึ่งตอนนั้นดิฉันก็ได้ทำกิจกรรมอย่าง 'ผีบ้า' คือทำเยอะ และเวลาทำก็จะเล่นใหญ่ จัดเต็ม ทำบ้า เน้นฮา เรียกเสียงหัวเราะ ซึ่งตอนนั้นเพื่อนๆ รุ่นน้อง คุณครูในโรงเรียนก็รู้จักชื่อดิฉันหมดเลยค่ะ เพราะว่าการทำตัวผีบ้าของนี่ค่ะ
ซึ่งนี่ก็ได้ให้เหตุผลโกหกตัวเอง กลบเกลื่อนบาดแผลที่หัวใจจากการเชื่ออย่างปักใจและไม่เป็นไปอย่างที่คิดว่า สาเหตุที่เราไม่มีแฟนเนี่ยเพราะว่า 'เราสวยแล้วเขาไม่กล้าจีบรึปล่าว?'(คือก็เป็นความเชื่อที่เอามาจากรุ่นน้องกับคุณครูที่ชอบชมว่าแบบ “พี่*** สวยจังเลยค่าาา”
คือก็รู้นะค่ะว่าเขาชมไปอย่างั้นแหละเด็กๆรุ่นน้องเอฟซีอะ55555 แต่มันคือบ่อยจนนี่ก็คิดว่าอาจจะเป็นเรื่องจริง5555555555//เก็บรองเท้าไว้อย่าพึ่งปามานะคะ) ซึ่งต่อมาดิฉันก็ได้มีความคิดใหม่คือ ตอนขึ้นมหาลัยเราอาจจมีแฟนก็ได้เนอะ(อันนี้คิดเองละโทษจะเพื่อนไม่ได้ละคราวนี้55555) อีกอย่างสังคมต่างจังหวัด อย่างโรงเรียนเราเนี่ยมันเป็นสังคมปิด ไม่ค่อยมีใครคบกันหรอก สังคมเล็กอีกด้วย.
คราวนี้ค่ะ ความหวังมาอยู่ที่การได้ขึ้นมหาลัย พอเราได้ขึ้นปีหนึ่ง นี่ก็ได้หันหลังกลับไปมองความผิดพลาดต่างๆตอนมอปลายแล้วก็เอามาปรับปรุงตอนขึ้นมหาลัย คือ ดิฉันเลิกทำตัวทำกิจกรรมอย่าง 'ผีบ้า' แบบตอนมอปลาย เลิกพูด'คะขา คะขา' ตลอดเวลาเหมือนมอปลาย เรียกง่ายๆก็คือเริ่มแอ๊บนั้นแหละ แต่นี่คือไม่ได้มองว่าเป็นการแอ๊บนะคะ มีความรู้สึกว่ามันเป็นการเติบโต การเรียนรู้ การทำตัวให้ถูกกาละเทศะ คิดว่าโตแล้วอะไรที่เด็กๆทำก็เลิกทำเห้อ คือส่วนตัวก็ไม่ได้รู้สึกอึดอัดอะไรนะคะ
ผลที่ตามมาคืออะไรรู้มั้ยคะ...... มีผู้หญิงมาจีบค่ะ5555555555 คือตอนนั้นเขาก็คงเห็นว่าเราเป็นคนเงียบๆเรียบร้อยค่ะ ซึ่งจริงๆอะ เราอะไม่มีเพื่อนเราก็เลยไม่ได้คุยไม่ได้อะไรมากกว่า555555 แต่ตอนหลังเขาก็ไปขุดๆในเฟสบุคเราเขาก็รู้ว่าเราไม่แมน ก็หายไป5555555555
ต่อมาคือ....ถูกเลือกให้เป็นตัวแทนไปประกวดเดือนคณะ แม่จร้าววววววววววค้าาาาาาาาาา นี่ก็นึกในใจว่าเอ้อออออ ไม่มีคนอื่นรึไง ปฎิเสธได้มั้ยยยย ทำไมต้องเป็นเราว้าาาาาาา ตัวเราก็เพิ่งเลิกพูดคะขา หัดพูดครับเอง แล้วนี่จะให้ไปประกวดเดือนกรรมๆๆๆ //คือแอบบอกละกันว่าเจ้าของกระทู้เป็นคนใต้ แต่ว่าเป็นคนใต้แบบมีเชื่อจีนผสมเชื่อไทยคือจะไม่ได้ผิวคล้ำ หน้าตาก็เฉยๆ สูง179น้ำหนัก65 มาตราฐานชายไทยนี่แหละ55555
ส่วนผลการประกวดนี่ก็ไม่ได้ตำแหน่งอะไรคะ เพราะคนอื่นที่ประกวดนี่หล่อมากกกก!!!55555 ( ฟินมากตอนเก็บตัว ห้อมล้อมด้วยผู้ชายหล่อๆ 5555555 ) ตอนประกวดนี่เพื่อนเก่าก็แห่กันไปดูไปกดไลค์สนับสนุนกันเต็มที่เพราะมันตลกที่ได้เห็นเพื่อนมันแอ๊บแมนตอบคำถามบนเวที5555555
และความพีคที่สุดหลังจากนั้นคือ....มีตุ๊ดมาจีบค้าาาาาา หลายคนด้วยค้าาาาา ด้วยความไม่แมนเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ผนวกกับการไม่ได้เปิดตัวเป็นตุ๊ดอย่างเป็นทางการหรือการแกรนโอเพนนิ่ง ประกอบกับสีหน้าท่าทาง ทำให้พวกเดียวกันสัมผัสได้ถึงออร่าและเข้าหา แต่หารู้ไม่ว่าตอนนั้นเราแอบคิดอยู่ในใจว่า
เธ้อออออ! พวกเดียวกันน้าาาาาา อีกอย่าเธ้อก็รองพื้นหนาไปรู้ป่าวววบิ๊กอายก็สีสวยไปด้วยยย เลาอยากบอกเธ้อมากเลย แต่เลากลัวโดนเธ้อตบเลาไม่อยากมีเรื่อง 55555555
นั้นแหละค่ะชีวิตปีหนึ่งก็ผ่านพ้นไป
พอจบปีหนึ่งเราไม่มีแฟนเราก็ปลอบใจว่าเอ้ออ เรากำลังปรับตัวเข้ากับสังคมใหม่รึปล่าว? เลยยังไม่มีใคร แต่พอทำไปทำมาหายใจเข้าออก ตอนนี้ก็จบปีสองแล้ว ปีที่แล้วก็โฟกัสกับการเรียนไม่ได้ไปทำอะไรเท่าไหร่ ไม่ได้ค่อยเที่ยวกลางวันกลางคืนบ่อยเหมือนตอนปีหนึ่ง เพราะมีความรู้สึกว่าการเรียนปีสองมันยากกว่าปีหนึ่ง ชีวิตก็วนลูป ตื่น อาบน้ำ ไปเรียน กินข้าว อ่านหนังสือ ดูซีรี่ย์ เที่ยวนิดหน่อย เข้านอน อยู่แค่นี้อะค่ะ
คราวนี้มาเข้าเรื่องดีกว่า บอกก่อนว่าเจ้าของกระทู้เนี่ย ถ้าอยู่กับเพื่อนจะออกสาวนิดหน่อยแบบตลกๆๆตามสายตลก แต่ถ้าคนไม่รู้จักหรือไม่เคยคุยจะไม่รู้เลยไม่แมน ซึ่งเจ้าของกระทู้ก็ไม่ได้ให้จำกัดความตัวเองว่าเป็นเกย์ควีนอะไรนะครับ(อ้าวครับเฉ้ยยย5555) มีความรู้สึกว่ามันแปลกๆๆ คือก็ไม่ได้สำอางสำออยมาก ไม่อยากเป็นผู้หญิง ก็เลยสะดวกใจว่าเอ้อออ เป็นตุ๊ดนี่แหละ555555
คือสงสัยว่าคนเป็นตุ๊ดละก็เป็นสายตลกเนี่ยเขาหาแฟนกันยังไงงงงงง? บอกเลยว่านี่ทำตามในพันทิปเกือบทุกอย่างแล้ว ไม่ว่าไปเที่ยวที่ที่เขาว่าได้แน่ๆๆ(นึกละก็โมโหอุสาห์จ่ายตังค่ารถค่าเครื่องไปตั้งหลายพัน ไม่ได้อะไรกลับมาเลยนอกจากประสบการณ์ไปตลกขำแตกทำตัวผีบ้ากับเพื่อน555555) ไปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิต่างๆ โหลดแอปมาเล่นคือทำหมดแล้ว ก็ยังหาไม่ได้ ขนาดว่าไม่ได้เลือกมากไทยฝรั่งก็โอเคหมด ก้ไม่ได้55555555
เอ้อออคือบอกอีกอย่างนึงว่าส่วนตัวเนี่ยเป็นคนมองคนที่เป็นเกย์ไม่ออกด้วย เคยมีเพื่อนที่เขาเป็น ซึ่งเหมือนกับเขาเคยมาทำดีๆกับเราด้วยช่วงนึง เราก็นึกว่าเป็นผู้ชาย เราก็ตลกกกกกกใส่ตลกกกกแบบตลกกกกกับเพื่อนทุกคน จนเรามารู้ที่หลังว่าเอ้าาา เป็นหรออ พอเราจะเริ่มให้โอกาสอะไรแบบนี้ก็ไม่ติดแล้วเพราะเราไปตลกกับเขาไว้แล้วก่อนหน้านี้555555555555555555
โอ้ยยยยพิมไปก็ตลกไป เป็นตุ๊ดสายตลกนี่ อกหักยังตลกเลย555555 ถ้าใครรู้ใครสงสารก็ช่วยแนะนำหน่อยครับ
***แก้ไขคำผิดกับปรับคำให้อ่านได้คล่องขึ้นนิดหน่อยแล้วนะครับบบบ