กระผมเคยใช้คำว่า พวกบ้าบุญ พวกฉลาดน้อยกราบไหว้ขอพรจากเทวรูปต่างๆ พวกไม่เข้าใจพุทธ - คืนนี้กระผมขอกลับคำขอรับ

กราบทักทายเพื่อนๆยามดึก

นานมาแล้ว นานมาระยะหนึ่ง จนถึงเมื่อไม่นานมานี้ กระผมปฏิบัตธรรมเห็นผลจนเกิดอีโก้ ทนงตน กลายเป็นว่ามี concept นี้ฝั่งอยู่ในหัวว่า

พวกที่ทำบุญอย่างเดียว ทำบุญบ่อยๆ ทำบุญเป็นหลักปฏิบัติเป็นรองไปจนถึงไม่เคยปฏิบัติเลย เป็นพวกบ้าบุญ
พวกที่ไปกราบพระเกจิ บูชาเครื่องรางของขลัง กราบไหว้ขอพรจากเทวรูป เข้าร่วมพิธีกรรมต่างๆ เป็นพวกฉลาดน้อย
พวกที่ไม่เคยปฏิบัติธรรม พวกที่มีความเข้าใจเรื่องของธรรมแตกต่างจากกระผม เป็นพวกไม่เข้าใจพุทธ

หลังจากกระผมเว้นวรรคทางการเข้ามาเสวนาธรรมในห้องนี้ ตอนนี้กระผมมีความเห็นที่ต่างไปจากเดิม

วันนี้กระผมนั่ง Taxi ไปทำงาน ในรถเต็มไปด้วยภาพของเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุทธ
ตรงกลางระหว่างที่นั่งด้านหน้ามีถังรับบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยโรค HIV
มีภาพของลุงคนขับรถเป็นตัวแทนกลุ่ม Taxi ในการถวายปัจจัยให้กับเจ้าอาวาส

กระผมแผ่เมตตาแล้วหยอดเงินลงในถังนั้น
ลุงแกก็บอก "อนุโมทนา ครับ"
แล้วกระผมก็ชวนแกคุยเรื่องการทำบุญ

ลุงแกดูเป็นคนใจดี แกมีความสุขกับการได้เป็นส่วนหนึ่งของการช่วยวัดพระบาทน้ำพุ
แกเล่าว่าแกบริจาคเลือดเป็นประจำ แกพูดจาเพราะ นุ่มๆ กระผมสัมผัสได้ว่าแกเป็นคนดี

กระผมลองพูดว่า "การให้นั้นยิ่งใหญ่ ลุงเป็นผู้ให้ที่มีจิตใจเมตตานะครับ"
ลุงตอบแบบนุ่มๆ "ผมไม่หวังสิ่งตอบแทนครับ ผมไม่ขอพรหรืออะไรครับ ผมแค่อยากช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ที่ลำบากกว่าผม"
กระผมต่อ "ใช่ครับลุง การให้คือการละความเป็นตัวตน ละความยื้อยึดถือ"

จากนั้นไปจนถึงจุดหมายปลายทาง กระผมก็ได้ทราบรายละเอียดต่างๆเกี่ยวกับวัดพระบาทน้ำพุ
เรื่อง Cost ในแต่ละวัน จำนวนผู้ป่วย จำนวนพระ จำนวนผู้เสียชีวิต เด็กกำพร้าที่ติดเชื้อ
เรื่องคนเอาญาติพี่น้องที่ติดเชื้อไปทิ้งไว้หน้าวัด เรื่องที่พระเจ้าอยู่หัวนั้นเคยเสด็จไปที่วัด

กระผมรู้ว่าลุงแกไม่ get ในประเด็นที่กระผมพูดเรื่องการละความเป็นตัวตน
แต่ลุงแกมีความสุขกับการได้เล่าเรื่องราวที่แกเป็นผู้ให้ ให้กระผมฟังตลอดทาง
กระผมเห็นว่าลุงเป็นคนมีความสุขในชีวิต แกคนมีเมตตา มีใจของผู้ให้
มันถ่ายทอดออกมาทั้ง กาย วาจา ความนอบน้อม ความสำรวม ...

กระผมเคยใช้คำว่า พวกบ้าบุญ พวกฉลาดน้อยกราบไหว้ขอพรจากเทวรูปต่างๆ พวกไม่เข้าใจพุทธ  
คืนนี้กระผมขอกลับคำขอรับ กระผมนั้นมันบ้าและฉลาดน้อยโดยแท้
ดีใจที่ตอนนี้เลิกบ้าและพอจะฉลาดขึ้นมาบ้างแล้ว

สุขสันต์ Friday ขอรับ

ไข่แมว
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
ปุ๋ยที่เป็นอาหารของต้นไม้ ดูเป็นของสกปรก  เช่น พวกขี้ หรือ ขยะเน่าๆ ต่างๆ  ...แต่ต้นไม้จะเจริญงอกงามได้ ก็เพราะปุ๋ยนี่แหละ   ต้นไม้ที่ขาดปุ๋ย คือต้นไม้ตาย

ศาสนา ก็จำเป็นต้องมีปุ๋ย ไว้บำรุง คือ พวกปัจจัยสี่ ต่างๆ  และต้องมีเปลือกห่อหุ้ม คือประเพณีและวัฒนธรรมต่างๆ  ศาสนานั้นจึงจะเจริญเติบโตต่อไปได้ในสังคมมนุษย์

ศาสนาถ้าขาดปุ๋ย ขาดเปลือก  เหลือแต่แก่น ศาสนานั้นคือศาสนาที่ตายไปแล้ว  จะเหลือเป็นเพียงแค่เป็น"ปรัชญา" หรือแนวคิด แค่นั้น ไม่อาจจะเอาไปใช้งานอะไรๆได้มากนัก   เพราะไม่มีข้อวัตรและระเบียบวิธีปฏิบัติ  ไม่มีผู้ใดมาเป็นพยานมายืนยันผลจากการปฏิบัติว่าได้ผลจริงหรือไม่
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่