เมื่อ ปลายเดือน เมษา 2558 ผมจอดรถไว้ใต้ตึกคอนโดฯ
ช่วงเวลากลางคืน รปภ.คอนโดฯ มาเคาะห้องบอกมีผู้เช่าถอยรถมาชนท้ายรถผม
เป็นรถ nissan march จากที่สังเกต ท้ายรถ march บุบยุบเข้าไปทั้งแก้ม
ส่วนรถผม chevrolet รุ่น optra พลาสติครองกันชนหลังแตก
(พลาสติครองกันชนคือ ซิลิโคนด้านในที่เอาไว้ซับแรงกระแทก อยู่ด้านในกันชนอีกที)
ตัวกันชนหลัง ไม่ได้บุบ แต่เป็นรอยสีกระเทาะ ขนาดประมาณ 30 ซม.

พนักงานเคลมประกันมาถึงที่เกิดเหตุ ก็ถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน และขอใบขับขี่ทั้งสองฝ่าย
(งงว่า รถผมจอดไว้เฉยๆ โดนถอยมาชน ต้องใช้ใบขับขี่ด้วยหรอ)
จากนั้นพนักงานออกใบเคลมมาให้ และบอกให้ไปเคลมกับอู่ในซอย ลาดพร้าว 87

หลังจากนั้น ผมได้ไปเคลมประกันกับอู่ ลาดพร้าว 87 ตามที่แนะนำ
อู่บอกว่า พลาสติครองกันชนต้องใช้เวลาเบิกประมาณ 2 - 3 เดือน เพราะไม่มีอะไหล่
และ ในส่วนของสีกระเทาะ จะเคลมเฉพาะจุด ไม่เคลมทั้งกันชนให้ ถ้าจะทำทั้งชิ้นต้องเพิ่มเงินเองอีก2,000 บาท

ซึ่งผมได้โทรไปยังน้องชายผมที่ทำงานประกันรถเหมือนกัน
น้องชายบอกว่า จ่ายเพิ่ม 2พัน นี่อู่ข้างนอกทำสีได้ทั้งกันชนเลยนะ
ผมเองก็ไม่ยอมเคลมเฉพาะจุด ตั้งแต่เคยขับรถมาไม่เคยเคลมสีเฉพาะจุดให้รถเป็นรอยดำด่าง
แล้วจะให้เคลมเฉพาะจุดแล้วรถสีไม่เสมอกัน ผมไม่เอาด้วยหรอก
ก็เลยตัดสินใจไม่ทำกับอู่ที่ประกันแนะนำ และไปทำกับอู่ที่เคยทำประจำ
ซึ่งทางอู่ไม่ได้ดีลโดยตรงกับ ว. แต่อู่จะเดินเรื่องเคลมประกันให้

ผมได้เซ็นมอบอำนาจให้อู่ดำเนินการเคลม/เบิก กับ ว.
หลังจากนั้น อู่ได้นำใบเคลมไปเบิกของกับ ว.
ทางนั้นบอกว่าไม่มีรูป ไม่สามารถจ่ายให้ได้
ทางอู่ก็ได้ถ่ายรูป ชิ้นส่วนที่แตกหัก รอยกระเทาะ และเลขทะเบียน / ตัวถัง
ทุกอย่างถูกต้องตามที่ ว. ต้องการ และดำเนินการอีกครั้ง

เรื่องยืดยาว มาจนถึงเดือนสิงหา ทางอู่เองยังเคลมไม่ได้
ทาง ว. บอกว่า ต้องเอารถขับมาที่บริษัทโดยตรงเพื่อยืนยัน

แล้วที่พนักงานตัวแทนของ ว.เอง มาถ่ายรูปไปตอนวันเกิดเหตุ อันนั้นใช้ไม่ได้หรอครับ
แล้วที่อู่ถ่ายรูปไป ใช้ไม่ได้หรอครับ
จนสุดท้ายมาบอกว่า ต้องขับรถไปเคลมเอง แบบนี้หมายความว่าอย่างไร
ไหนจะความล่าช้าในการรออะไหล่อีก
นอกจากนี้ ผมขับรถคันนี้ทุกวันทั้งๆที่ยังมีรอยกระเทาะและกันชนไม่สมบูรณ์
และสายไฟที่ซ่อนอยู่กับพลาสติครองกันชน ห้อยระโยงระยางออกมา
ซึ่งหนึ่งในนั้นมีสายไฟเซ็นเซอร์หลังที่ขาดหลุดรุ่ย

ทางน้องชายแนะนำให้เรียกค่าเสียเวลาซึ่งโดยปกติ ผู้เสียหายจะเรียกเป็นรายวัน
ในส่วนนี้ตอนแรกผมคิดว่าไม่จำเป็น แต่ตอนนี้คงต้องคิดใหม่แล้วครับ
บอกตรงๆว่า ชาตินี้จะไม่มีวันใช้ประกันภัย ยี่ห้อนี้เป็นอันขาด
ใครพอแนะนำได้ไหมครับ มีหน่วยงานไหนที่รับผิดชอบให้ผมได้ร้องเรียนได้บ้าง