เรียวคิ้วงามๆ นั้นเปรียบเสมือนมงกุฏของใบหน้า...Wow Wow ^0^
สวัสดีค่ะ วันนี้มีประสบการณ์ดีๆมาแชร์ให้เพื่อนๆทุกคนที่อยากจะจัดการกับคิ้วรกๆให้สวยแบบที่มันควรจะเป็น
เราจะมาว่ากันด้วยเรื่องของ “คิ้ว” ค่ะ
โดยส่วนตัวเนี้ยเรากันคิ้วไม่เป็นเลยค่ะ ได้แต่เอาแหนบมาลองดึงๆดูบางเส้นที่เราชัวร์ว่ามันมาไกลนอกกรอบคิ้วจริงๆแค่นั้นเอง พอเราดูแลเองได้ไม่ดีพอ มันก็เลยยาวและดูรกไปหมด และปัญหาที่ตามมาคือ...
ตู้ม! ทำให้แต่งหน้ายากมากกกกกกก >< จากแค่การจะเขียนคิ้วให้สวยเนี้ย หลายคนรู้ๆกันอยู่เนอะว่าเขียนคิ้วนิค่อนข้างยากที่จะเขียนให้ถูกกับรูปหน้า
คือ ไม่หนา ไม่บาง ไม่เข้ม จนเกินไป สำหรับหลายๆคน เราเชื่อว่าน่าจะจัดให้การเขียนคิ้วเป็นขั้นตอนที่ยากที่สุดในการแต่งหน้าเลย
เพราะเราเองก็เป็นหนึ่งในนั้น และนิคือเหตุผลว่าทำไมเราถึงอยากลองไปใช้บริการจากช่างที่เขาดูแลคิ้วโดยตรง ปัจจุบันนี้ก็มีร้านใหม่ๆสวยๆมาให้ใช้บริการกันมากมายเหลือเกิน หลังจากหาข้อมูลใน Internet มาเรียบร้อยแล้ว เราเลือกไปทำที่ Anastasia ค่ะ
ด้วยเหตุผลที่ว่าชอบบรรยากาศภายในร้านและวิธีบริการลูกค้า
รวมถึงความเป็นส่วนตัวด้วย สำหรับเราที่ทำครั้งแรกแล้วกล้าๆกลัวๆ เลยเลือกที่นี่ รู้สึกสบายใจที่สุดค่ะ 5555 TT0TT
สาขาที่ไปใช้บริการคือ Central Embassy ตรงสถานี BTS เพลินจิตค่ะ ได้ยินว่าเป็นสาขาล่าสุดของ Anastasia ด้วย
ร้านอยู่บนชั้น 4 นะคะ
บรรยากาศและการตกแต่งภายในร้านค่ะ
มาถึงปุ๊บก็ Confirm กับพนักงานที่ Front ตามที่เราจองคิวเอาไว้ แล้วก็ไปนั่งกรอกเอกสารง่ายๆแผ่นสองแผ่น เป็นประวัติของเราเพื่อที่ทางร้านจะออก Member Card ให้กับเราตอนมาใช้บริการโดยอัตโนมัติเลยค่ะ
อีกแผ่นเป็นแบบสอบถาม ติ๊กๆเครื่องหมาย เพื่อเป็นข้อมูลว่าเราเคยผ่านการสักคิ้ว ทำเลเซอร์ หรืออะไรอื่นๆมาบ้างมั้ย
ซึ่ง...เราว่าดีอ่ะ มันจะได้ Safe ไม่ให้มีผลกระทบกับผิว เพราะบริเวณคิ้วค่อนข้างบอบบางด้วย ประมาณ 5 นาทีก็เสร็จค่ะ
จากนั้นพนักงานก็จะพาเราเข้าไปในห้องเพื่อแว็กซ์คิ้ว ภายในห้องเป็นบรรยากาศแบบนี้ค่ะ แยกห้องกันชัดเจน เป็นส่วนตัวสุดๆ ><
พอเข้าห้องมาปุ๊บ เราก็นั่งลงบนเก้าอี้เบาะหนังนุ่มนิ่มในรูปนิค่ะ แล้วพี่พนักงานคนสวยก็จะมานั่งคุยกับเราด้านหน้าก่อน
(นั่งแบบแอร์โฮสเตสเวลาคุยกับผู้โดยสารบนเครื่องเลยค่ะ เทรนด์มาดีมาก ><) เขาจะแนะนำตัวกับเราก่อนว่าเขาจะเป็นผู้ดูแลเราในวันนี้ค่ะ
เสร็จแล้วก็สอบถามความชอบ ว่าเราอยากได้ทรงคิ้วแบบไหนเป็นพิเศษหรือเปล่า ของเราไม่มีนะคะ เขาก็เลยเปลี่ยนมาถามว่าเราอยากให้คิ้วเรียวลงจากเดิมหรือไม่ หรืออยากจะให้ดูหนาขึ้นจากเดิม ที่เราใช้คำว่าจากเดิมเพราะว่าเราไม่ได้คิดจะเปลี่ยนทรงคิ้วนะคะ
แค่อยากให้มันสวยแบบที่มันควรจะเป็น อยู่ในรูปที่ถูกต้องและขนาดรับกับใบหน้าค่ะ เราก็เลยบอกพี่คนสวยไปว่า เราอยากให้มันดู Soft ลง
เพราะแต่งหน้าแล้วหน้าดุ พี่พนักงานก็แนะนำเราว่า เขาจะช่วยปรับให้มันดูเรียวขึ้นนิดหน่อย หางคิ้วก็ให้เชิดขึ้นไม่ให้คิ้วตก เพราะเราเป็นคนที่มีเส้นขนคิ้วค่อนข้างเยอะค่ะ และจะใช้สีที่ดูอ่อนลงจากสีที่เราเขียนมา หน้าจะดูหวานขึ้นตอนแต่งหน้า ซึ่งเราเห็นด้วยมาก
ยินยอมพร้อมใจค่ะ ทำเลยสิคะ รออะไร 55555
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
พอตกลงรูปแบบที่เราจะแว็กซ์ได้แล้ว พี่พนักงานก็ให้เรานั่งพิงกับเก้าอี้ แล้วปรับเบาะนอนลง จากนั้นก็จะเอาผ้าขนหนูมาคลุมตัวเราไว้ให้ เพื่ออนามัยและความเรียบร้อยเนอะ จากนั้นก็ขออนุญาตลบ Make up เดิมบนคิ้วของเราก่อน เมื่อทำความสะอดเรียบร้อยแล้ว พี่พนักงานก็จะบอกให้เราหลับตาไว้ตลอดช่วงการแวกซ์คิ้ว แล้วเอาผ้าสีขาวบางๆมาวางคาดช่วงตาเราเอาไว้อีกทีนึง เป็นยังงี้ค่ะ
ยังมีชีวิตอยู่นะคะ ไม่ใช่ศพที่ไหน 5555 ทีนี้เริ่มแวกซ์กันเลยค่ะ เล่าตามความรู้สึกนะคะเพราะเราหลับตามองไม่เห็น ><
พี่เขาจะออกแบบคิ้วให้เหมาะกับใบหน้าและความต้องการของเรา
พอวาดเสร็จปุ๊บก่อนลุกเขาจะบอกว่า ไม่ต้องตกใจนะคะ เดี๋ยวขนาดจริงจะเล็กลงกว่าที่วาดเอาไว้ พอลุกเท่านั้นแหละค่ะ...
โอเคอย่างน้อยก็ไม่ตกใจเพราะพี่เขาบอกไว้แล้ว แต่ตลกหน้าตัวเองเบาๆ ขำเงียบๆอยู่ในใจ 5555
รอยวาดทำให้รู้สึกเหมือนคิ้วชินจังค่ะ แบบนี้ๆ
จากนั้นก็บอกเราว่าเดี๋ยวจะเอาเส้นขนนอกกรอบที่เขาวาดเอาไว้ออก จะแต่งตรงนั้นนิดนิหน่อย เราโอเคมั้ย ถ้าโอเคก็มาทำขั้นตอนต่อไปกันเลย
พอเริ่มขั้นตอนการลงมือแว็กซ์เราก็ลงไปนอนคลุมผ้าที่บริเวณดวงตาอีกรอบ และก็รู้สึกได้ว่ามีพายเล็กๆกำลังทาแว็กซ์อุ่นๆลงมาในบริเวณที่กำลังจะแว็กซ์ เมื่อทาเสร็จแล้วก็เอาแผ่นแว็กซ์วางทับลงมา ใช้นิ้วลูบๆเพื่อให้แผ่นแว็กซ์มันแนบสนิท จากนั้นพี่พนักงานจพูดทุกครั้งก่อนดึงแว็กซ์ว่า “แว็กซ์นะคะ” พูดทุกรอบค่ะ มันทำให้เราไม่ตกใจ มีเวลาเตรียมตัวก่อน 5555 ขอบอกว่าพนักงานมือเบาๆๆๆมากเลยค่ะ คือจะจับลงไปตรงไหนของใบหน้าก็เบาไปหมด แทบจะเรียกว่าแตะอยู่แล้วค่ะ ความรู้สึกตอนดึงจะยิบๆ ไม่แสบ ไม่เจ็บค่ะ ถ้าใครใช้แหนบดึงถอนคิ้วแบบเราจะยิ่งสบายมาก ใช้แหนบเจ็บกว่าค่ะ จากนั้นก็จะมีการเก็บงานด้วยการหวีขนคิ้วให้เรียงตัวชัดๆแล้วใช้กรรไกรเล็มความยาวของเส้นขนให้สม่ำเสมอกัน จากนั้นใช้แหนบถอนส่วนเกินๆเล็กๆน้อยๆออก พอทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย ก็ถึงเวลาลุกขึ้นมาเช็คคิ้วของเราแล้วค่ะ
เห็นขนคิ้วมั้ยคะว่าเป็นระเบียบกว่าเดิมมาก ทรงคิ้วชัดเจน ความยาวของเส้นขนก็สม่ำเสมอ ไม่ยาวเป็นหย่อมๆ ขนาดยังไม่ได้เขียนคิ้วยังดูสวยเลยค่ะ ไม่โล้น ไม่บาง ไม่หาย แบบประเภทไม่เขียนไม่ได้ เพราะคิ้วบางไปเลย ชอบมากค่ะ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
มาถึงขั้นตอนต่อไป นั่นคือการบำรุงผิวหนังบริเวณที่แว๊กซ์ด้วยมาสค์สาหร่ายค่ะ พี่เขาก็จะทามาสค์ทับบริเวณคิ้วเราทั้งหมด
เขาบอกเราว่ามันจะทำให้ลดอาการแดงๆที่เกิดขึ้นเล็กน้อยหลังจากแวกซ์ค่ะ เนื้อมาสค์เย็นฉ่ำมาก ทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที ได้ค่ะ
แต่ก่อนที่พี่พนักงานจะออกไปรอด้านนอกแล้วให้เรานอนมาสค์คิ้วไว้ เขาจะถามว่า “รับเครื่องดื่มอะไรดีคะ” เพราะพอเราเสร็จออกไปจะมีเครื่องดื่มเย็นๆมาบริการให้ก่อนกลับอีกด้วย
พอถึงเวลาเอามาสค์ออกก็มาถึงขั้นตอนสุดท้าย นั่นคือการเขียนคิ้วค่ะ พนักงานจะใช้ผลิตภัณฑ์ของ Anastasia เขียนคิ้วให้เรา ซึ่งจะหยิบมาให้เราเลือกสีด้วยค่ะ เราเลือกโทนสีน้ำตาล Brunette ^^
จากนั้นเขาก็จะสอนเราเขียนคิ้วค่ะ โดยให้เราถือกระจกส่องดูตอนที่เขากำลังเขียนคิ้วเรา เทคนิคก็เข้าใจง่ายค่ะ ทำให้เรารู้หลักในการเขียนคิ้วมากขึ้น
และที่สำคัญเขียนง่ายขึ้นแน่นอน รูปคิ้วชัดเป๊ะขนาดนี้
หลังจากงานเสร็จเราก็จะได้คิ้วสวยๆกลับบ้าน พร้อมกับ Make up ให้เสร็จสรรพเลยค่ะ
รูปด้านข้างนะคะ จะได้เห็นทรงหางคิ้วชัดๆ
จะให้ดูชัดๆนะคะว่าความแตกต่างตอนที่เราเขียนคิ้วแต่งหน้าก่อนมาแว็กซ์กับหลังแว็กซ์ต่างกันขนาดไหน
รูป Before/After
สังเกตเห็นมั้ยคะว่าก่อนทำเราแต่งหน้าแล้วมีส่วนเกินทั้งหัวและหางคิ้วออกมามากแค่ไหนอร๊าย!! ><
นิถ่ายเอาไว้ตอนก่อนเข้าไปแว็กซ์กับหลังจากแว็กซ์เสร็จออกมาเข้าห้องน้ำนอกร้านแล้วค่ะ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ภายในร้านจะตกแต่งสไตล์คลาสสิค เรียบหรู ดูมีคลาส และจะมีมุมนึงที่จัดโชว์ผลิตภัณ์ของ Anastasia ด้วยค่ะ
ตอนที่พนักงานเขียนคิ้วให้เราเขาก็จะแนะนำผลิตภัณฑ์ที่ใช้เขียนคิ้วให้เราแต่ละชิ้นด้วยค่ะ ถ้าถูกใจชิ้นไหนก็เลือกซื้อติดไม้ติดมือกลับไปใช้กันได้เลย
ตัวที่เราชอบที่สุดคือ ไฮไลท์ค่ะ เพราะตัวนี้พอเติมลงไปหลังเขียนคิ้วปุ๊บคิ้วยิ่งเด่นขึ้นมาอีกค่ะ ที่สุดยอดคือใช้ได้กับทุกเฉดผิวด้วย แถมยังสามารถนำมาใช้กับส่วนอื่นๆบนใบหน้าอย่างขอบริมฝีปากด้วยนะคะ
สำหรับการมาใช้บริการในครั้งนี้ ประทับใจมากค่ะ คงจะอยู่กับ Anastasia ไม่ไปไหนแน่นอน ระยะห่างในการมาใช้บริการที่เราสอบถามพนักงานก็คือเดือนละครั้ง แต่ถ้าขนคิ้วขึ้นช้า ก็เดือนครึ่ง แต่ไม่ควรให้ห่างถึงสองเดือน เพื่อรักษารูปคิ้วเดิมเอาไว้ค่ะ
ยังไงลองไปใช้บริการดูนะคะ คุ้มค่ามากจริงๆ นอกจากงานดี พนักงานเทรนด์มาดี ยังได้ความรู้เรื่องการเขียนคิ้วกลับไปด้วยค่ะ
So Happy <3 ****
[CR] รีวิว!! คิ้วเป๊ะๆ แบบฉบับ Anastasia Beverly Hills
สวัสดีค่ะ วันนี้มีประสบการณ์ดีๆมาแชร์ให้เพื่อนๆทุกคนที่อยากจะจัดการกับคิ้วรกๆให้สวยแบบที่มันควรจะเป็น
เราจะมาว่ากันด้วยเรื่องของ “คิ้ว” ค่ะ
โดยส่วนตัวเนี้ยเรากันคิ้วไม่เป็นเลยค่ะ ได้แต่เอาแหนบมาลองดึงๆดูบางเส้นที่เราชัวร์ว่ามันมาไกลนอกกรอบคิ้วจริงๆแค่นั้นเอง พอเราดูแลเองได้ไม่ดีพอ มันก็เลยยาวและดูรกไปหมด และปัญหาที่ตามมาคือ...
ตู้ม! ทำให้แต่งหน้ายากมากกกกกกก >< จากแค่การจะเขียนคิ้วให้สวยเนี้ย หลายคนรู้ๆกันอยู่เนอะว่าเขียนคิ้วนิค่อนข้างยากที่จะเขียนให้ถูกกับรูปหน้า
คือ ไม่หนา ไม่บาง ไม่เข้ม จนเกินไป สำหรับหลายๆคน เราเชื่อว่าน่าจะจัดให้การเขียนคิ้วเป็นขั้นตอนที่ยากที่สุดในการแต่งหน้าเลย
เพราะเราเองก็เป็นหนึ่งในนั้น และนิคือเหตุผลว่าทำไมเราถึงอยากลองไปใช้บริการจากช่างที่เขาดูแลคิ้วโดยตรง ปัจจุบันนี้ก็มีร้านใหม่ๆสวยๆมาให้ใช้บริการกันมากมายเหลือเกิน หลังจากหาข้อมูลใน Internet มาเรียบร้อยแล้ว เราเลือกไปทำที่ Anastasia ค่ะ
ด้วยเหตุผลที่ว่าชอบบรรยากาศภายในร้านและวิธีบริการลูกค้า
รวมถึงความเป็นส่วนตัวด้วย สำหรับเราที่ทำครั้งแรกแล้วกล้าๆกลัวๆ เลยเลือกที่นี่ รู้สึกสบายใจที่สุดค่ะ 5555 TT0TT
สาขาที่ไปใช้บริการคือ Central Embassy ตรงสถานี BTS เพลินจิตค่ะ ได้ยินว่าเป็นสาขาล่าสุดของ Anastasia ด้วย
ร้านอยู่บนชั้น 4 นะคะ
บรรยากาศและการตกแต่งภายในร้านค่ะ
มาถึงปุ๊บก็ Confirm กับพนักงานที่ Front ตามที่เราจองคิวเอาไว้ แล้วก็ไปนั่งกรอกเอกสารง่ายๆแผ่นสองแผ่น เป็นประวัติของเราเพื่อที่ทางร้านจะออก Member Card ให้กับเราตอนมาใช้บริการโดยอัตโนมัติเลยค่ะ
อีกแผ่นเป็นแบบสอบถาม ติ๊กๆเครื่องหมาย เพื่อเป็นข้อมูลว่าเราเคยผ่านการสักคิ้ว ทำเลเซอร์ หรืออะไรอื่นๆมาบ้างมั้ย
ซึ่ง...เราว่าดีอ่ะ มันจะได้ Safe ไม่ให้มีผลกระทบกับผิว เพราะบริเวณคิ้วค่อนข้างบอบบางด้วย ประมาณ 5 นาทีก็เสร็จค่ะ
จากนั้นพนักงานก็จะพาเราเข้าไปในห้องเพื่อแว็กซ์คิ้ว ภายในห้องเป็นบรรยากาศแบบนี้ค่ะ แยกห้องกันชัดเจน เป็นส่วนตัวสุดๆ ><
พอเข้าห้องมาปุ๊บ เราก็นั่งลงบนเก้าอี้เบาะหนังนุ่มนิ่มในรูปนิค่ะ แล้วพี่พนักงานคนสวยก็จะมานั่งคุยกับเราด้านหน้าก่อน
(นั่งแบบแอร์โฮสเตสเวลาคุยกับผู้โดยสารบนเครื่องเลยค่ะ เทรนด์มาดีมาก ><) เขาจะแนะนำตัวกับเราก่อนว่าเขาจะเป็นผู้ดูแลเราในวันนี้ค่ะ
เสร็จแล้วก็สอบถามความชอบ ว่าเราอยากได้ทรงคิ้วแบบไหนเป็นพิเศษหรือเปล่า ของเราไม่มีนะคะ เขาก็เลยเปลี่ยนมาถามว่าเราอยากให้คิ้วเรียวลงจากเดิมหรือไม่ หรืออยากจะให้ดูหนาขึ้นจากเดิม ที่เราใช้คำว่าจากเดิมเพราะว่าเราไม่ได้คิดจะเปลี่ยนทรงคิ้วนะคะ
แค่อยากให้มันสวยแบบที่มันควรจะเป็น อยู่ในรูปที่ถูกต้องและขนาดรับกับใบหน้าค่ะ เราก็เลยบอกพี่คนสวยไปว่า เราอยากให้มันดู Soft ลง
เพราะแต่งหน้าแล้วหน้าดุ พี่พนักงานก็แนะนำเราว่า เขาจะช่วยปรับให้มันดูเรียวขึ้นนิดหน่อย หางคิ้วก็ให้เชิดขึ้นไม่ให้คิ้วตก เพราะเราเป็นคนที่มีเส้นขนคิ้วค่อนข้างเยอะค่ะ และจะใช้สีที่ดูอ่อนลงจากสีที่เราเขียนมา หน้าจะดูหวานขึ้นตอนแต่งหน้า ซึ่งเราเห็นด้วยมาก
ยินยอมพร้อมใจค่ะ ทำเลยสิคะ รออะไร 55555
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
พอตกลงรูปแบบที่เราจะแว็กซ์ได้แล้ว พี่พนักงานก็ให้เรานั่งพิงกับเก้าอี้ แล้วปรับเบาะนอนลง จากนั้นก็จะเอาผ้าขนหนูมาคลุมตัวเราไว้ให้ เพื่ออนามัยและความเรียบร้อยเนอะ จากนั้นก็ขออนุญาตลบ Make up เดิมบนคิ้วของเราก่อน เมื่อทำความสะอดเรียบร้อยแล้ว พี่พนักงานก็จะบอกให้เราหลับตาไว้ตลอดช่วงการแวกซ์คิ้ว แล้วเอาผ้าสีขาวบางๆมาวางคาดช่วงตาเราเอาไว้อีกทีนึง เป็นยังงี้ค่ะ
ยังมีชีวิตอยู่นะคะ ไม่ใช่ศพที่ไหน 5555 ทีนี้เริ่มแวกซ์กันเลยค่ะ เล่าตามความรู้สึกนะคะเพราะเราหลับตามองไม่เห็น ><
พี่เขาจะออกแบบคิ้วให้เหมาะกับใบหน้าและความต้องการของเรา
พอวาดเสร็จปุ๊บก่อนลุกเขาจะบอกว่า ไม่ต้องตกใจนะคะ เดี๋ยวขนาดจริงจะเล็กลงกว่าที่วาดเอาไว้ พอลุกเท่านั้นแหละค่ะ...
โอเคอย่างน้อยก็ไม่ตกใจเพราะพี่เขาบอกไว้แล้ว แต่ตลกหน้าตัวเองเบาๆ ขำเงียบๆอยู่ในใจ 5555
รอยวาดทำให้รู้สึกเหมือนคิ้วชินจังค่ะ แบบนี้ๆ
จากนั้นก็บอกเราว่าเดี๋ยวจะเอาเส้นขนนอกกรอบที่เขาวาดเอาไว้ออก จะแต่งตรงนั้นนิดนิหน่อย เราโอเคมั้ย ถ้าโอเคก็มาทำขั้นตอนต่อไปกันเลย
พอเริ่มขั้นตอนการลงมือแว็กซ์เราก็ลงไปนอนคลุมผ้าที่บริเวณดวงตาอีกรอบ และก็รู้สึกได้ว่ามีพายเล็กๆกำลังทาแว็กซ์อุ่นๆลงมาในบริเวณที่กำลังจะแว็กซ์ เมื่อทาเสร็จแล้วก็เอาแผ่นแว็กซ์วางทับลงมา ใช้นิ้วลูบๆเพื่อให้แผ่นแว็กซ์มันแนบสนิท จากนั้นพี่พนักงานจพูดทุกครั้งก่อนดึงแว็กซ์ว่า “แว็กซ์นะคะ” พูดทุกรอบค่ะ มันทำให้เราไม่ตกใจ มีเวลาเตรียมตัวก่อน 5555 ขอบอกว่าพนักงานมือเบาๆๆๆมากเลยค่ะ คือจะจับลงไปตรงไหนของใบหน้าก็เบาไปหมด แทบจะเรียกว่าแตะอยู่แล้วค่ะ ความรู้สึกตอนดึงจะยิบๆ ไม่แสบ ไม่เจ็บค่ะ ถ้าใครใช้แหนบดึงถอนคิ้วแบบเราจะยิ่งสบายมาก ใช้แหนบเจ็บกว่าค่ะ จากนั้นก็จะมีการเก็บงานด้วยการหวีขนคิ้วให้เรียงตัวชัดๆแล้วใช้กรรไกรเล็มความยาวของเส้นขนให้สม่ำเสมอกัน จากนั้นใช้แหนบถอนส่วนเกินๆเล็กๆน้อยๆออก พอทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย ก็ถึงเวลาลุกขึ้นมาเช็คคิ้วของเราแล้วค่ะ
เห็นขนคิ้วมั้ยคะว่าเป็นระเบียบกว่าเดิมมาก ทรงคิ้วชัดเจน ความยาวของเส้นขนก็สม่ำเสมอ ไม่ยาวเป็นหย่อมๆ ขนาดยังไม่ได้เขียนคิ้วยังดูสวยเลยค่ะ ไม่โล้น ไม่บาง ไม่หาย แบบประเภทไม่เขียนไม่ได้ เพราะคิ้วบางไปเลย ชอบมากค่ะ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
มาถึงขั้นตอนต่อไป นั่นคือการบำรุงผิวหนังบริเวณที่แว๊กซ์ด้วยมาสค์สาหร่ายค่ะ พี่เขาก็จะทามาสค์ทับบริเวณคิ้วเราทั้งหมด
เขาบอกเราว่ามันจะทำให้ลดอาการแดงๆที่เกิดขึ้นเล็กน้อยหลังจากแวกซ์ค่ะ เนื้อมาสค์เย็นฉ่ำมาก ทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที ได้ค่ะ
แต่ก่อนที่พี่พนักงานจะออกไปรอด้านนอกแล้วให้เรานอนมาสค์คิ้วไว้ เขาจะถามว่า “รับเครื่องดื่มอะไรดีคะ” เพราะพอเราเสร็จออกไปจะมีเครื่องดื่มเย็นๆมาบริการให้ก่อนกลับอีกด้วย
พอถึงเวลาเอามาสค์ออกก็มาถึงขั้นตอนสุดท้าย นั่นคือการเขียนคิ้วค่ะ พนักงานจะใช้ผลิตภัณฑ์ของ Anastasia เขียนคิ้วให้เรา ซึ่งจะหยิบมาให้เราเลือกสีด้วยค่ะ เราเลือกโทนสีน้ำตาล Brunette ^^
จากนั้นเขาก็จะสอนเราเขียนคิ้วค่ะ โดยให้เราถือกระจกส่องดูตอนที่เขากำลังเขียนคิ้วเรา เทคนิคก็เข้าใจง่ายค่ะ ทำให้เรารู้หลักในการเขียนคิ้วมากขึ้น
และที่สำคัญเขียนง่ายขึ้นแน่นอน รูปคิ้วชัดเป๊ะขนาดนี้
หลังจากงานเสร็จเราก็จะได้คิ้วสวยๆกลับบ้าน พร้อมกับ Make up ให้เสร็จสรรพเลยค่ะ
รูปด้านข้างนะคะ จะได้เห็นทรงหางคิ้วชัดๆ
จะให้ดูชัดๆนะคะว่าความแตกต่างตอนที่เราเขียนคิ้วแต่งหน้าก่อนมาแว็กซ์กับหลังแว็กซ์ต่างกันขนาดไหน
รูป Before/After
สังเกตเห็นมั้ยคะว่าก่อนทำเราแต่งหน้าแล้วมีส่วนเกินทั้งหัวและหางคิ้วออกมามากแค่ไหนอร๊าย!! ><
นิถ่ายเอาไว้ตอนก่อนเข้าไปแว็กซ์กับหลังจากแว็กซ์เสร็จออกมาเข้าห้องน้ำนอกร้านแล้วค่ะ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ภายในร้านจะตกแต่งสไตล์คลาสสิค เรียบหรู ดูมีคลาส และจะมีมุมนึงที่จัดโชว์ผลิตภัณ์ของ Anastasia ด้วยค่ะ
ตอนที่พนักงานเขียนคิ้วให้เราเขาก็จะแนะนำผลิตภัณฑ์ที่ใช้เขียนคิ้วให้เราแต่ละชิ้นด้วยค่ะ ถ้าถูกใจชิ้นไหนก็เลือกซื้อติดไม้ติดมือกลับไปใช้กันได้เลย
ตัวที่เราชอบที่สุดคือ ไฮไลท์ค่ะ เพราะตัวนี้พอเติมลงไปหลังเขียนคิ้วปุ๊บคิ้วยิ่งเด่นขึ้นมาอีกค่ะ ที่สุดยอดคือใช้ได้กับทุกเฉดผิวด้วย แถมยังสามารถนำมาใช้กับส่วนอื่นๆบนใบหน้าอย่างขอบริมฝีปากด้วยนะคะ
สำหรับการมาใช้บริการในครั้งนี้ ประทับใจมากค่ะ คงจะอยู่กับ Anastasia ไม่ไปไหนแน่นอน ระยะห่างในการมาใช้บริการที่เราสอบถามพนักงานก็คือเดือนละครั้ง แต่ถ้าขนคิ้วขึ้นช้า ก็เดือนครึ่ง แต่ไม่ควรให้ห่างถึงสองเดือน เพื่อรักษารูปคิ้วเดิมเอาไว้ค่ะ
ยังไงลองไปใช้บริการดูนะคะ คุ้มค่ามากจริงๆ นอกจากงานดี พนักงานเทรนด์มาดี ยังได้ความรู้เรื่องการเขียนคิ้วกลับไปด้วยค่ะ
So Happy <3 ****
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น