[เล็กๆน้อยๆก่อนเกม] เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด vs บางกอกกลาส เอฟซี ✿



เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด (2) – บางกอกกลาส เอฟซี (3) @ เอสซีจี สเตเดี้ยม … เวลา 19.00 น. … 9 สิงหาคม 2558


เพิ่งจะผ่านพ้นบิ๊กแมทซ์ระหว่างจ่าฝูงร่วมของตารางไทยพรีเมียร์ลีกอย่างบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ไปเมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว

สุดสัปดาห์นี้ มีบิ๊กแมทซ์ให้ติดตามชมกันอีกแล้ว โดยในวันอาทิตย์นี้ เป็นเกมระหว่างจ่าฝูงร่วมอย่างเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด และบางกอกกลาส เอฟซี




ไทยพรีเมียร์ลีก นัดที่ 165 “กิเลนผยอง” เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด เปิดเอสซีจี สเตเดี้ยม รับการมาเยือนของ“เดอะ แรบบิท” บางกอกกลาส เอฟซี

โดยก่อนลงสนาม ทั้งเจ้าบ้านและทีมเยือน อยู่ในอันดับ 2 และ 3 ของตาราง มี 38 แต้ม เท่าทีมอันดับ 1 "ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

(ซึ่งก็จะลงสนามพบกับศรีสะเกษ เอฟซี ในวันและเวลาเดียวกัน)








ย้อนกลับไปดูเกมล่าสุดของทั้ง 2 ทีม ซึ่งก็เป็นเกมการแข่งขันในรายการไทยพรีเมียร์ลีก ไม่มีเกมกลางสัปดาห์ เพราะไม่เน้นบอลถ้วย

(อุ๊ย ... อันนี้เค้าล้อเล่นนะตัวเอง !!)

เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด บุกไปแบ่งแต้มจากทีม "ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จ่าฝูงในเลกแรก ด้วยสกอร์ 2 – 2

โดยผู้ที่ทำประตูได้ในเกม ได้แก่ มาริโอ ยูรอฟสกี้ และเคลตัน ซิลวา ... ขอโน้ตไว้ว่า ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ทำเข้าประตูตัวเอง 1 ประตู





ส่วนบางกอกกลาส เอฟซี เปิดบ้านรับการมาเยือนของ "กว่างโซ้งมหาภัย" เชียงราย ยูไนเต็ด

และเป็นเจ้าบ้านที่เก็บ 3 แต้มได้ ด้วยการเอาชนะทีมเชียงราย ยูไนเต็ด ไปด้วยสกอร์ 3 – 2

แต่เป็นชัยชนะท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของแฟนบอล อันเนื่องมาจากการที่ บางกอกกลาส เอฟซี ได้จุดโทษ จากจังหวะที่ไม่น่าจะเป็นจุดโทษ

ขอโน้ตไว้ว่า เกมนี้ ทั้งทีมเหย้าและทีมเยือน ทำเข้าประตูตัวเอง ทีมละ 1 ลูก ในส่วนของบางกอกกลาส เป็นพีรพงศ์ พิชิตโชติรัตน์ ที่ทำเข้าประตูตัวเอง






ความน่าสนใจของเกมคือ แนวรับของทั้งสองทีม ได้รับคำยกย่องว่า แข็งแกร่ง ด้านเจ้าบ้าน ปิด “เลกแรก” ด้วยสถิติ “ทีมที่เสียประตูน้อยที่สุด”

โดยมีคีย์แมนคนสำคัญอย่างนาโออากิ อาโอยาม่า เซ็นเตอร์แบ็คชาวญี่ปุ่น  

1 ใน 2 เซ็นเตอร์แบ็ค กองหลังยอดเยี่ยมของไทยพรีเมียร์ลีกในเลกแรก (TPL Best XI 2015 จากการจัดอันดับของ Goal Thailand ; goal.com)

ส่วนทีมเยือน ก็มีแมทธิว สมิธ เซ็นเตอร์แบ็คอีกหนึ่งคนที่ครองตำแหน่งกองหลังยอดเยี่ยมของไทยพรีเมียร์ลีกในเลกแรก ด้วยเช่นกัน

(ลงสนามครบทั้ง 17 เกม โชว์ฟอร์มดีทุกนัด และทำประตูได้ถึง 4 ประตู)






ผลงาน 5 นัดหลังสุดในลีก

เมืองทอง ชนะ 3 เสมอ 2 ยิงได้ 9 เสียเพียงแค่ 3 ประตู ... ส่วนบางกอกกลาสชนะ 3 เสมอ 2 ยิงได้ 7 เสีย 4 ประตู ... เก็บได้ 11 จาก 15 แต้ม เท่ากัน






ดาวซัลโวสูงสุดของทีม ของเมืองทอง ยูไนเต็ด ได้แก่ เคลตัน ซิลวา ด้วยสถิติ 10 ประตู ส่วนของทางบางกอกกลาส ได้แก่ ดาร์โก ทาเชฟสกี้ 7 ประตู









ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม ในส่วนของเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ได้แก่

ผู้รักษาประตู : กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์

แบ็คโฟร์จากขวาไปซ้าย : สุพร ปีนะกาตาโพธิ์ (ปิยพล ผานิชกุล) , นาโออากิ อาโอยาม่า , คิม ดองจิน , สุริยา สิงห์มุ้ย

มิดฟิลด์ : มาริโอ ยูรอฟสกี้ , สารัช อยู่เย็น , ดัสกร ทองเหลา , ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์

กองหน้า : เคลตัน ซิลวา , ธีรศิลป์ แดงดา (ชนานันท์ ป้อมบุบผา , กษิดิ์เดช เวทยาวงศ์)








ส่วนข้อมูลในส่วนนี้ของบางกอกกลาส เอฟซี ... ขอผ่าน เพราะไม่ได้ติดตามชมเกมบ่อยๆ อันเนื่องมาจากมุมกล้องที่ชวนเวียนหัว

(ที่จริง ในช่วงหลัง ได้ดูเกมของบางกอกกลาสหลายนัดเหมือนกัน จำได้แค่ว่า ชายพีร์โดนเหลืองแดงไป 2 นัด และนัดล่าสุด ชายพีร์ทำเข้าประตูตัวเอง)

พยายามจะจำสิ่งที่ดีๆ และยืนยันว่าสิ่งนี้แหละดี พีรพงศ์ พิชิตโชติรัตน์ หัวหน้าขุนพลกระต่ายแก้ว เป็นนักเตะที่ทุ่มเทดี โดดเด่นทั้งลุคและสไตล์การเล่น


อัพเดทเพิ่มเติม

ในส่วนของผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนามของทางบางกอกกลาส เอฟซี ขอใช้ข้อมูลที่ได้จากเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ สโมสรฟุตบอลบางกอกกล๊าส

คัดลอกมาบางส่วน ดังนี้


"ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

ด่านสุดท้าย นริศ ทวีกุล จะกลับมาเฝ้าเสาประตูอีกครั้ง โดยมี แมทธิว สมิธ, เจษฏากร เหมแดง และ วสันต์ ฮมแสน เป็นตัวเลือกในแผงเกมรับของทีม

แดนกลางจะได้ 3 คีย์แมนอย่าง พีรพงศ์ พิชิตโชติรัตน์, ศิวกร แสงวงศ์ และ ภคิณ ไก่แก้ว ทำเกมในแดนกลาง โดยมี ดาร์โก้ ทาเซฟสกี้ คอยปั้นเกมรุก

พร้อมจะใช้ ธนาสิทธิ์ ศิริผลา กับ บดินทร์ ผาลา ลงสร้างสรรค์เกมรุกริมเส้น ส่วนหัวหอกตัวเป้าคาดว่าจะเป็น อริดาเน่ ซานตาน่า"




[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้




สถิติการพบกันในเอสซีจี สเตเดี้ยม

ปกติจะไม่ค่อยเอาในส่วนของสถิติมากล่าวถึง แต่สำหรับคู่นี้ ขอกล่าวถึงซักนิด ... สั้นๆง่ายๆ ที่เอสซีจี สเตเดี้ยม เมืองทองไม่เคยแพ้บางกอกกลาส

และนักเตะคีย์แมนคนสำคัญก็คือ ธีรศิลป์ แดงดา


ขอขยายความในส่วนของสถิติการพบกันที่เอสซีจี สเตเดี้ยม เพิ่มเติม ดังนี้

2009 เมืองทอง ยูไนเต็ด 1 – 0 บางกอกกลาส เอฟซี ... เมืองทองได้ประตูชัย จากธีรศิลป์ แดงดา

2010 เมืองทอง ยูไนเต็ด 2 – 0 บางกอกกลาส เอฟซี ... 1 ใน 2 ประตู จากธีรศิลป์ แดงดา

2011 เมืองทอง ยูไนเต็ด 6 – 2 บางกอกกลาส เอฟซี ... ธีรศิลป์ แดงดา ทำแฮททริคได้ในเกมนี้

2012 เมืองทอง ยูไนเต็ด 2 – 2 บางกอกกลาส เอฟซี .... 1  แอสซิสต์ โดยธีรศิลป์ แดงดา

2013 เมืองทอง ยูไนเต็ด 1 – 0 บางกอกกลาส เอฟซี ... เมืองทองได้ประตูชัยจากมาริโอ ยูรอฟสกี้ (จากการแอสซิสต์ โดยธีรศิลป์ แดงดา)

2014 เมืองทอง ยูไนเต็ด 2 – 1 บางกอกกลาส เอฟซี  ... 2 ประตูจาก คิมดองจิน และเจย์ โบธรอยด์ (1 แอสซิสต์ โดยธีรศิลป์ แดงดา)


ผลการแข่งขันในเลกแรก ช่วงต้นฤดูกาล บางกอกกลาส เอฟซี เปิดลีโอ สเตเดี้ยม รับการมาเยือนของเมืองทอง ยูไนเต็ด ก็เสมอกันแบบไม่มีประตู 0 - 0







มีความมั่นใจว่า เกมนี้น่าจะเป็นอีกหนึ่งเกมที่สนุก เพราะเป็นทีมหัวตารางทั้งคู่ และใครชนะ มีสิทธิ์ขยับขึ้นเป็นอันดับที่ 1 ของตาราง

(แต่ต้องลุ้นผลคู่ศรีสะเกษ เอฟซีและบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดด้วย)

คาดหวังว่า จะได้เห็นรูปเกมที่สนุก ไม่เกร็งและไม่อึดอัดจนเกินไป เพราะทั้งสองทีม ถ้าต้องการลุ้นแชมป์ ก็ควรจะมีเป้าหมายอยู่ที่ 3 แต้ม ในทุกๆนัด



นอกเหนือจากเกมการแข่งขันในสนามแล้ว คาดหวังด้วยว่า จะได้เห็นการดวลกันระหว่างมาสคอตที่น่ารัก (แถมยังลีลาดี - ท่ายากเยอะ) ของทั้งสองทีม

มาสคอตของเมืองทอง ไม่เอากิกี้นะ ... กิกี้ เก็บไว้ดวลกับมาริโอ ยูรอฟสกี้ ... ถ้าจะดวลกับแรบบิท ขอเป็นเลนนี่ดีกว่า

(นี่เป็นเหตุผลที่โพสกระทู้พรีวิวตั้งแต่ไก่โห่ อยากฝากข้อความใน 2 บรรทัดนี้ ไปถึงสโมสรเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ดและบางกอกกลาส เอฟซี นั่นเอง)








ในส่วนของอุลตร้าเมืองทองกับอุลตร้าแรบบิท ถ้าคิดจะดวลกันอีกคู่ก็ขอให้เอาดวลด้วยเสียงเพลงและกำลังใจ ให้สมกับที่เป็นแฟนบอลตัวจริงเสียงจริง

เจ้าของกระทู้ ขอเอาใจช่วยทั้งสองทีม ไม่ใช่เพราะอยากให้ทั้งสองทีมตัดแต้มกันเอง แต่เพราะชอบทั้งเมืองทอง ยูไนเต็ด และบางกอกกลาส เอฟซี





ก่อนเกมนี้ มีข้อมูลมาฝากเท่านี้ ไม่มั่นใจนัก ว่าข้อมูลถูกต้องทั้งหมดมั๊ย ตรงไหนผิดพลาดก็คอมเม้นท์แย้งเอาไว้ได้ จะได้ตรวจสอบและแก้ไขให้ถูกต้อง

สุดท้ายสำหรับกระทู้นี้ อย่าเสพติดความสำเร็จและชัยชนะของสโมสร เพราะมันจะทำให้เราดูฟุตบอลอย่างไม่มีความสุข

ความสุขเดียวจากฟุตบอล คือการได้ชมเกมที่สนุก โดยไม่ต้องมีเงื่อนไขว่า หนึ่งในสองทีมในสนามต้องเป็นทีมโปรด และทีมโปรดต้องชนะเท่านั้น



EAT FOOTBALL , SLEEP FOOTBALL , BREATHE FOOTBALL , NOT THE CLUB !!! เดาะบอล




[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่