สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
อย่าลืมสิครับ ว่าที่นี่คือ ประเทศไทย
มีแต่เรื่อง ดัดจริตกับขี้โม้ ครับ
-นโยบานรัฐขายฝัน ประชานิยม เห็นแก่ตัว อย่าโทษนักการเมือง เพราะ นักการเมืองเป็นไง สันดานประชาชน ก็เป็นงั้น...
-โฆษณานมผง หลอกเด็กว่า โตไป มุงจะได้ไปเป็นนักบินอวกาศ แมร่งเอาแค่ให้มุงรอดชีวิต วัยเด็กให้ได้ก่อนเถอะ ไม่ติดยาไม่เป็นภาระของสังคม ไม่เป็นพวกประชากรไร้คุณภาพ ที่มักง่ายเห็นแก่ตัว แบบที่เราๆเห็นกันอยู่ทั่วไป คิดง่ายๆ เด็ก 100 คน โตมาจนถึง อายุ 20 มีสักกี่คนที่ได้ทำงานในฝัน แล้วติดคุก ติดยา ตายไป เป็นพวกสวะในสังคมเท่าไร....ไอคนที่ไปทำตามความฝัน กลับมาพัฒนาประเทศ ไม่รู้ มีสัก 1 ใน 100 ไหม สภาพสังคมสภาพแวดล้อมของประเทศไทย มันไม่เอื้ออำนวย ต่อการเจริญทางปัญญาสักเท่าไร ต่อให้แมร่งมีอัจฉริยะเกิดมา สุดท้ายก็ไม่ใครสนใจส่งเสริมอยู่ดี อย่างมากออกข่าวโชว์พาว ไอผู้หลักผู้ใหญ่ เอาเงินใส่ซอง ยิ้มออกสื่อ เอาหน้า เรื่องเงียบ....ปัจจุบัน ผู้ปกครองแค่จ้างให้เด็กมาเรียน มีเด็กสักกี่คน ที่หัวสมองมันคิดได้เอง....ว่าอนาคตกุจะทำอะไร...จะทำตามความฝันได้ไหม ไอที่เห็นส่วนๆใหญ่ ตอนเด็กบอกอยากเป็นนู้นนี้นั้น พอโตขึ้นความจริงกับสิ่งที่คิดต่างกันโดยสิ้นเชิง มีแต่ทำงานอะไรก็ได้ที่ได้เงินเลี้ยงชีพได้ ไม่มีแรงบันดาลใจในการทำงาน
......จะมีสักกี่คน พอโตขึ้นไป มีความเป็นปัจเจกบุคคล ควรจะยิ่งในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ เห็นแก่ส่วนร่วม ทำตัวแบบคนมีอารยธรรม .......
-บ่นว่า เศษฐกิจไม่ดี แต่ดันไม่ยอมพึ่งพาตัวเอง สร้างอะไรเองไม่เป็น แบบ ญี่ปุ่น อ้างอิงส่งออก ภาคบริการ ลูกเดียว ปัญหางี้เง่า ปัญญาอ่อน ไอเรื่อง ภัยแหล้ง น้ำท่วม จำนำข้าว ขายข้าวไม่ได้ ผลผลิตการเกษตรไม่ดี คอรัปชั่น แก้กันอยู่แบบนี้ อีก พันปี มุงก็แก้ไม่จบไม่สิ้น....
-เด็กเรียนสายวิทย์ คนจบวิศวะ เต็มบ้านเต็มเมือง เรียนกันเต็มเวลา เรียนพิเศษ ขยันโคตรๆ เด็กไทยน่าจะฉลาดโคตรๆ ประเทศไทยแมร่งโคตรเจริญ....
-ตอนเรียนแมร่งมี แข่งขันทักษะทางวิชาการ ทำหุ่นยนต์ แข่งกัน คิดว่าจบไป จะทำงานบริษัทด้านเทคโนโลยีหุ่นยนต์ แบบที่ MIT ออกแบบให้กองทัพสหรัฐ หรือ แขนกลภาคอุสาหกรรมเหมือน ญี่ปุ่น-เยอรมัน หรออ แมร่งโครงการระดับภาคระดับจังหวัด ปวช ปวส มัธยม มหาลัย ชาวบ้านออกบูทประกวดผลิตภัณฑ์ โครงงานวิทย์ มีใครเอาไปต่อยอดเป็นธุรกิจระดับโลกแบบ สตีฟ จ๊อบ ได้บ้างว่ะ......อย่างเก่งก็แมร่ง Otop ประกวดร้องเพลง ล่ะมั่ง.....
-บอกว่าเด็กอาชีวะตกงาน ก็ไม่ตกงานได้ไง จบไป จะให้ทำอะไร เปิดร้านซ่อมรถ ซ่อมมือถือ ซ่อมทีวี เป็นแค่นั้นหรอชีวิต ?
บริษัทอุตสาหกรรมระดับโลก R&D แบบ เยอรมัน ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส ก็ไม่มี ที่เด็กอาชีวะของเขาจบไป แล้วมีมาตราฐานรองรับสามารถทำงานบริษัทเขาได้เลย
ของเราที่มีก็ส่วนใหญ่ หลักสูตร ปวส SCG บริษัทปูน,การไฟฟ้า,ปตท รับจำนวนจำกัด ตลาดรองรับก็มีแค่ในประเทศ ลองเป็นแบบประเทศที่เจริญแล้วสิ ฐานการผลิตทั่วโลก แล้วรับเฉพาะ เด็กอาชีวะที่จบจากสถาบันที่มีหลักสูตรของเขารองรับ แบบนี้ ความต้องการในตลาดก็มีเยอะ ไปคุมโรงงาน ไปเป็นวิศวะ ไปเป็นนักเทคนิค ประจำที่ประเทศนู้นนี้นั้น แบบที่พวก ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ มาตั้งโรงงานในไทยแล้วส่งทีมงานเฉพาะด้านมาคุมงาน.....
ดู ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน อิสราเอล ดิ ประเทศมันเล็กกว่าเรา แต่มีแบนด์ระดับโลก อย่าง มิตซูบิชิ ซัมซุง ฮุนได ASUS ACER ผลิต มือถือ อาวุธสงคราม รถยนต์ เรือขนส่งน้ำมันขนาดใหญ่ เรือดำน้ำ ซีพียูโทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีทางการทหาร เป็นประเทศชั้นนำระดับโลก
บริษัทยักษ์ใหญ่ข้ามชาติของประเทศตัวเอง สร้างความเจริญให้ประเทศเขาไปถึงไหนต่อไหนแล้ว....
ส่วนเรายังย่ำอยู่ที่เดิม เถียงกันแต่เรื่องเดิมๆ แก้ปัญหาเดิมๆ วงจรอุบาทเดิมๆ
การที่พูดว่า "คนไทย ถ้าตั้งใจทำอะไร ไม่แพ้ชาติใดในโลก" นั้นแสดงว่า คนไทยกาก กระจอก เพราะ แมร่งชมกันเอง
ทั้งๆที่เรื่องแบบนี้ คนไทยบางคนหลุดเข้าไปถึงจุดนั้นได้ แล้วเป็นที่ยอมรับในองค์กรณ์ระดับโลก หรือทำงานบริษัทระดับโลก มันเป็นเรื่องปกติของพวกประเทศที่เจริญแล้ว.....
มุงเคยเห็นไหมล่ะ "คนฝรั่งเศส คนอังกฤษ คนเยอรมัน คนญี่ปุ่น คนอเมริกา ถ้าตั้งใจทำอะไร ไม่แพ้ชาติใดในโลก" ของเขาไม่บ้าจี้มามองแบบนี้แล้วว เขามีแต่พัฒนา ไม่เที่ยวมาภาคภูมิใจความเป็นหนึ่ง เขาภาคภูมิใจมากเกินพอจนมองไปจุดอื่นแล้ว
เหมือนสมมุติ แข่งรถ F1 ถ้าให้ประเทศไทยได้ที่ 1 หรือ ส่งยานอวกาศ ไทยคม-รุ่น 555 ไปนอกโลกโชว์พาวหมุนรอบดาวอังคารสัก 2-3 ที ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก แมร่งดีใจกันยกใหญ่ หายอยากหายบ้า ภาคภูมิใจโคตรปลื้มปิติ น้ำตาจิไหล แล้วพอครั้งต่อไป แพ้ ล้มเหลว จรวดระเบิด ก็โดน ตัดงบ ล้มเลิกโครงการ เสียงบประมาณเปล่าๆ ทำไปทำไม แค่เนี่ยพอจบ.....จะทำอะไร มันต้องทำด้วยแรงบันดาลใจและความฝัน เพื่อเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ ไม่ใช่ทำเพื่อให้ได้อะไรขึ้นมา พอสำเร็จ จบแค่นั้น....มันก็เหมือน กีฬา มุงดูมุงเชียร์มุงเล่นมุงดีใจที่เขาชนะ ไปเพื่ออะไร ทั้งๆที่คนอื่นมองว่า มันสนุกตรงไหนแล้วมันได้อะไร....
มุมมองความคิดของประเทศด้อยพัฒนาอย่างเรา กับประเทศที่เจริญแล้ว ต่างกัน
สมมุติ นักวิทย์คนหนึ่งคิดค้นการเคลื่อนย้ายมวลสารได้ ที่สามารถต่อยอดในอนาคตอาจถึงขั้นเดินทางข้ามจักรวาลได้ แต่เป็นแค่จุดเริ่มต้น สาธิตง่ายๆ จากน้ำแก้วหนึ่งไปยังน้ำแก้วหนึ่ง ที่อยู่ห่างกัน 10 เมตร ใช้งบประมาณ 1แสนล้านบาท ถ้าเป็นประเทศอเมริกา หรือแถวยุโรปที่เขาวิจัยเรื่อง อนุภาค โครงการอาจถูกอนุมัติ แต่ถ้าเป็นของไทย นักวิทย์ส่งเรื่องเข้าสถา นักการเมืองโชว์ความฉลาด มันบอกว่า เสียตังทำไมเยอะแยะ เดินไปหยิบแก้วแล้วไปเทน้ำใส่แก้วอีกใบ ใช้แรงไม่กี่จูลน์ จบบบ หรือ อาจถูกอนุมัติโครงการ แต่จะมีแค่เอกสาร แต่แลปวิจัยอยู่ไหนก็ไม่รู้ แต่ว่าเงินเนี่ย อนุมัติไปหมดแล้ว.....
-ของเราทำเพื่อให้เป็นที่ยอมรับทำเพื่อให้ทันโลกทันชาวบ้านเขา ทำเพื่อให้มีมาตราฐาน เป็นที่ยอมรับ เกาะกระแสโลกไปตามยุค...เพื่อบอกว่า กุก็ไม่ด้อยไปกว่ามุงนะ
-ประเทศที่เจริญแล้ว ทำเพราะ แรงบันดาลใจ อุดมการณ์ ความฝัน ความทะเยอทะยานของมนุษยชาติ เขามองข้ามไอเรื่องความเป็นหนึ่ง เรื่อง เงินไปได้...เพราะ เขาคิดได้ว่า เงินเป็นแค่ผลพลอยได้ของความสำเร็จ.....จากองค์ความรู้ที่สะสมมาจากบรรพบุรุษจากรุ่นสู่รุ่น.....
ดูอย่าง ญี่ปุ่น ดิประเทศเป็นเกาะเล็กกว่าไทย เจริญได้เพราะ เขาไม่ได้แข่งกับใคร แต่เขาทำเพราะ เขาคิดว่าเขาทำได้..แคร์ทำไม ถ้ามีคนคิดว่าขายไม่ออก.....ทำเองขายเองก็ได้...พัฒนาเอง..แข่งกันกันภายในประเทศ สร้างมาตราฐานขึ้นมาเอง องค์ความรู้ถึงขั้นที่ลองของได้แล้ว ก็ทดลองส่งออก...
อเมริกา ขนาดประเทศเขาเป็นเบอร์ 1 ของโลก แต่เขายังไม่หยุดพัฒนาเพราะ เขามองข้าม ไอเรื่องแบบนั้นไปแล้ว ตอนนี้เขามองไประดับจักรวาล ว่าอนาคต กุจะไปตั้งอาณานิคมนอกโลกได้อย่างไร....
เหตุผลที่ประเทศไทยไม่มีเทคโนโลยี เป็นของตัวเอง เพราะ ไม่มีการต่อยอด พอตายแล้วก็ตายเลย ไม่มีการพัฒนา...
หลายๆอย่างในอดีต ที่ประเทศไทย เคยได้ก่อนเพื่อน เจริญก่อนเพื่อน ในแถบเอเซีย แต่ไม่เคยเลยที่คิดจะค้นคว้าพัฒนาวิจัย....พอปัจจุบันลูกหลาน ก็ได้แต่ กินบุญเก่า พูดถึงแต่เรื่องเก่าๆ....
-มีรถไฟก่อนเพื่อน -มีเรือดำน้ำก่อนใคร -สร้างเครื่องบินรบ รบกับฝรั่งเศส -40 ปีที่แล้ว เกาหลีใต้ ยังมาดูงานที่ไทย....
...น่าเวทนา.... อนาคตอีก สัก 100 ปี เราคงเห็นเด็กไทย นั่งเล่นมือถือ แบนด์ลาว แบนด์พม่า...แบบที่เราปัจจุบันเรานั่งเล่นมือถือแบนด์เกาหลี.....
มีแต่เรื่อง ดัดจริตกับขี้โม้ ครับ
-นโยบานรัฐขายฝัน ประชานิยม เห็นแก่ตัว อย่าโทษนักการเมือง เพราะ นักการเมืองเป็นไง สันดานประชาชน ก็เป็นงั้น...
-โฆษณานมผง หลอกเด็กว่า โตไป มุงจะได้ไปเป็นนักบินอวกาศ แมร่งเอาแค่ให้มุงรอดชีวิต วัยเด็กให้ได้ก่อนเถอะ ไม่ติดยาไม่เป็นภาระของสังคม ไม่เป็นพวกประชากรไร้คุณภาพ ที่มักง่ายเห็นแก่ตัว แบบที่เราๆเห็นกันอยู่ทั่วไป คิดง่ายๆ เด็ก 100 คน โตมาจนถึง อายุ 20 มีสักกี่คนที่ได้ทำงานในฝัน แล้วติดคุก ติดยา ตายไป เป็นพวกสวะในสังคมเท่าไร....ไอคนที่ไปทำตามความฝัน กลับมาพัฒนาประเทศ ไม่รู้ มีสัก 1 ใน 100 ไหม สภาพสังคมสภาพแวดล้อมของประเทศไทย มันไม่เอื้ออำนวย ต่อการเจริญทางปัญญาสักเท่าไร ต่อให้แมร่งมีอัจฉริยะเกิดมา สุดท้ายก็ไม่ใครสนใจส่งเสริมอยู่ดี อย่างมากออกข่าวโชว์พาว ไอผู้หลักผู้ใหญ่ เอาเงินใส่ซอง ยิ้มออกสื่อ เอาหน้า เรื่องเงียบ....ปัจจุบัน ผู้ปกครองแค่จ้างให้เด็กมาเรียน มีเด็กสักกี่คน ที่หัวสมองมันคิดได้เอง....ว่าอนาคตกุจะทำอะไร...จะทำตามความฝันได้ไหม ไอที่เห็นส่วนๆใหญ่ ตอนเด็กบอกอยากเป็นนู้นนี้นั้น พอโตขึ้นความจริงกับสิ่งที่คิดต่างกันโดยสิ้นเชิง มีแต่ทำงานอะไรก็ได้ที่ได้เงินเลี้ยงชีพได้ ไม่มีแรงบันดาลใจในการทำงาน
......จะมีสักกี่คน พอโตขึ้นไป มีความเป็นปัจเจกบุคคล ควรจะยิ่งในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ เห็นแก่ส่วนร่วม ทำตัวแบบคนมีอารยธรรม .......
-บ่นว่า เศษฐกิจไม่ดี แต่ดันไม่ยอมพึ่งพาตัวเอง สร้างอะไรเองไม่เป็น แบบ ญี่ปุ่น อ้างอิงส่งออก ภาคบริการ ลูกเดียว ปัญหางี้เง่า ปัญญาอ่อน ไอเรื่อง ภัยแหล้ง น้ำท่วม จำนำข้าว ขายข้าวไม่ได้ ผลผลิตการเกษตรไม่ดี คอรัปชั่น แก้กันอยู่แบบนี้ อีก พันปี มุงก็แก้ไม่จบไม่สิ้น....
-เด็กเรียนสายวิทย์ คนจบวิศวะ เต็มบ้านเต็มเมือง เรียนกันเต็มเวลา เรียนพิเศษ ขยันโคตรๆ เด็กไทยน่าจะฉลาดโคตรๆ ประเทศไทยแมร่งโคตรเจริญ....
-ตอนเรียนแมร่งมี แข่งขันทักษะทางวิชาการ ทำหุ่นยนต์ แข่งกัน คิดว่าจบไป จะทำงานบริษัทด้านเทคโนโลยีหุ่นยนต์ แบบที่ MIT ออกแบบให้กองทัพสหรัฐ หรือ แขนกลภาคอุสาหกรรมเหมือน ญี่ปุ่น-เยอรมัน หรออ แมร่งโครงการระดับภาคระดับจังหวัด ปวช ปวส มัธยม มหาลัย ชาวบ้านออกบูทประกวดผลิตภัณฑ์ โครงงานวิทย์ มีใครเอาไปต่อยอดเป็นธุรกิจระดับโลกแบบ สตีฟ จ๊อบ ได้บ้างว่ะ......อย่างเก่งก็แมร่ง Otop ประกวดร้องเพลง ล่ะมั่ง.....
-บอกว่าเด็กอาชีวะตกงาน ก็ไม่ตกงานได้ไง จบไป จะให้ทำอะไร เปิดร้านซ่อมรถ ซ่อมมือถือ ซ่อมทีวี เป็นแค่นั้นหรอชีวิต ?
บริษัทอุตสาหกรรมระดับโลก R&D แบบ เยอรมัน ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส ก็ไม่มี ที่เด็กอาชีวะของเขาจบไป แล้วมีมาตราฐานรองรับสามารถทำงานบริษัทเขาได้เลย
ของเราที่มีก็ส่วนใหญ่ หลักสูตร ปวส SCG บริษัทปูน,การไฟฟ้า,ปตท รับจำนวนจำกัด ตลาดรองรับก็มีแค่ในประเทศ ลองเป็นแบบประเทศที่เจริญแล้วสิ ฐานการผลิตทั่วโลก แล้วรับเฉพาะ เด็กอาชีวะที่จบจากสถาบันที่มีหลักสูตรของเขารองรับ แบบนี้ ความต้องการในตลาดก็มีเยอะ ไปคุมโรงงาน ไปเป็นวิศวะ ไปเป็นนักเทคนิค ประจำที่ประเทศนู้นนี้นั้น แบบที่พวก ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ มาตั้งโรงงานในไทยแล้วส่งทีมงานเฉพาะด้านมาคุมงาน.....
ดู ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน อิสราเอล ดิ ประเทศมันเล็กกว่าเรา แต่มีแบนด์ระดับโลก อย่าง มิตซูบิชิ ซัมซุง ฮุนได ASUS ACER ผลิต มือถือ อาวุธสงคราม รถยนต์ เรือขนส่งน้ำมันขนาดใหญ่ เรือดำน้ำ ซีพียูโทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีทางการทหาร เป็นประเทศชั้นนำระดับโลก
บริษัทยักษ์ใหญ่ข้ามชาติของประเทศตัวเอง สร้างความเจริญให้ประเทศเขาไปถึงไหนต่อไหนแล้ว....
ส่วนเรายังย่ำอยู่ที่เดิม เถียงกันแต่เรื่องเดิมๆ แก้ปัญหาเดิมๆ วงจรอุบาทเดิมๆ
การที่พูดว่า "คนไทย ถ้าตั้งใจทำอะไร ไม่แพ้ชาติใดในโลก" นั้นแสดงว่า คนไทยกาก กระจอก เพราะ แมร่งชมกันเอง
ทั้งๆที่เรื่องแบบนี้ คนไทยบางคนหลุดเข้าไปถึงจุดนั้นได้ แล้วเป็นที่ยอมรับในองค์กรณ์ระดับโลก หรือทำงานบริษัทระดับโลก มันเป็นเรื่องปกติของพวกประเทศที่เจริญแล้ว.....
มุงเคยเห็นไหมล่ะ "คนฝรั่งเศส คนอังกฤษ คนเยอรมัน คนญี่ปุ่น คนอเมริกา ถ้าตั้งใจทำอะไร ไม่แพ้ชาติใดในโลก" ของเขาไม่บ้าจี้มามองแบบนี้แล้วว เขามีแต่พัฒนา ไม่เที่ยวมาภาคภูมิใจความเป็นหนึ่ง เขาภาคภูมิใจมากเกินพอจนมองไปจุดอื่นแล้ว
เหมือนสมมุติ แข่งรถ F1 ถ้าให้ประเทศไทยได้ที่ 1 หรือ ส่งยานอวกาศ ไทยคม-รุ่น 555 ไปนอกโลกโชว์พาวหมุนรอบดาวอังคารสัก 2-3 ที ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก แมร่งดีใจกันยกใหญ่ หายอยากหายบ้า ภาคภูมิใจโคตรปลื้มปิติ น้ำตาจิไหล แล้วพอครั้งต่อไป แพ้ ล้มเหลว จรวดระเบิด ก็โดน ตัดงบ ล้มเลิกโครงการ เสียงบประมาณเปล่าๆ ทำไปทำไม แค่เนี่ยพอจบ.....จะทำอะไร มันต้องทำด้วยแรงบันดาลใจและความฝัน เพื่อเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ ไม่ใช่ทำเพื่อให้ได้อะไรขึ้นมา พอสำเร็จ จบแค่นั้น....มันก็เหมือน กีฬา มุงดูมุงเชียร์มุงเล่นมุงดีใจที่เขาชนะ ไปเพื่ออะไร ทั้งๆที่คนอื่นมองว่า มันสนุกตรงไหนแล้วมันได้อะไร....
มุมมองความคิดของประเทศด้อยพัฒนาอย่างเรา กับประเทศที่เจริญแล้ว ต่างกัน
สมมุติ นักวิทย์คนหนึ่งคิดค้นการเคลื่อนย้ายมวลสารได้ ที่สามารถต่อยอดในอนาคตอาจถึงขั้นเดินทางข้ามจักรวาลได้ แต่เป็นแค่จุดเริ่มต้น สาธิตง่ายๆ จากน้ำแก้วหนึ่งไปยังน้ำแก้วหนึ่ง ที่อยู่ห่างกัน 10 เมตร ใช้งบประมาณ 1แสนล้านบาท ถ้าเป็นประเทศอเมริกา หรือแถวยุโรปที่เขาวิจัยเรื่อง อนุภาค โครงการอาจถูกอนุมัติ แต่ถ้าเป็นของไทย นักวิทย์ส่งเรื่องเข้าสถา นักการเมืองโชว์ความฉลาด มันบอกว่า เสียตังทำไมเยอะแยะ เดินไปหยิบแก้วแล้วไปเทน้ำใส่แก้วอีกใบ ใช้แรงไม่กี่จูลน์ จบบบ หรือ อาจถูกอนุมัติโครงการ แต่จะมีแค่เอกสาร แต่แลปวิจัยอยู่ไหนก็ไม่รู้ แต่ว่าเงินเนี่ย อนุมัติไปหมดแล้ว.....
-ของเราทำเพื่อให้เป็นที่ยอมรับทำเพื่อให้ทันโลกทันชาวบ้านเขา ทำเพื่อให้มีมาตราฐาน เป็นที่ยอมรับ เกาะกระแสโลกไปตามยุค...เพื่อบอกว่า กุก็ไม่ด้อยไปกว่ามุงนะ
-ประเทศที่เจริญแล้ว ทำเพราะ แรงบันดาลใจ อุดมการณ์ ความฝัน ความทะเยอทะยานของมนุษยชาติ เขามองข้ามไอเรื่องความเป็นหนึ่ง เรื่อง เงินไปได้...เพราะ เขาคิดได้ว่า เงินเป็นแค่ผลพลอยได้ของความสำเร็จ.....จากองค์ความรู้ที่สะสมมาจากบรรพบุรุษจากรุ่นสู่รุ่น.....
ดูอย่าง ญี่ปุ่น ดิประเทศเป็นเกาะเล็กกว่าไทย เจริญได้เพราะ เขาไม่ได้แข่งกับใคร แต่เขาทำเพราะ เขาคิดว่าเขาทำได้..แคร์ทำไม ถ้ามีคนคิดว่าขายไม่ออก.....ทำเองขายเองก็ได้...พัฒนาเอง..แข่งกันกันภายในประเทศ สร้างมาตราฐานขึ้นมาเอง องค์ความรู้ถึงขั้นที่ลองของได้แล้ว ก็ทดลองส่งออก...
อเมริกา ขนาดประเทศเขาเป็นเบอร์ 1 ของโลก แต่เขายังไม่หยุดพัฒนาเพราะ เขามองข้าม ไอเรื่องแบบนั้นไปแล้ว ตอนนี้เขามองไประดับจักรวาล ว่าอนาคต กุจะไปตั้งอาณานิคมนอกโลกได้อย่างไร....
เหตุผลที่ประเทศไทยไม่มีเทคโนโลยี เป็นของตัวเอง เพราะ ไม่มีการต่อยอด พอตายแล้วก็ตายเลย ไม่มีการพัฒนา...
หลายๆอย่างในอดีต ที่ประเทศไทย เคยได้ก่อนเพื่อน เจริญก่อนเพื่อน ในแถบเอเซีย แต่ไม่เคยเลยที่คิดจะค้นคว้าพัฒนาวิจัย....พอปัจจุบันลูกหลาน ก็ได้แต่ กินบุญเก่า พูดถึงแต่เรื่องเก่าๆ....
-มีรถไฟก่อนเพื่อน -มีเรือดำน้ำก่อนใคร -สร้างเครื่องบินรบ รบกับฝรั่งเศส -40 ปีที่แล้ว เกาหลีใต้ ยังมาดูงานที่ไทย....
...น่าเวทนา.... อนาคตอีก สัก 100 ปี เราคงเห็นเด็กไทย นั่งเล่นมือถือ แบนด์ลาว แบนด์พม่า...แบบที่เราปัจจุบันเรานั่งเล่นมือถือแบนด์เกาหลี.....
แสดงความคิดเห็น
ทำไมบริษัทไทยที่ใหญ่ระดับโลก เเป็นบริษัท ปตท ที่ใช้ทรัพยากรธรรมชาติ ทำไมไม่เป็นแบบ google,oracle,microsoft
อเมริกาบริษัทที่ยิ่งใหญ่ระดับโลกมีทั้งขายไอเดีย นวัตกรรม และขายทรัพยากรธรรมชาติ
แต่ของไทยที่ใหญ่ๆระดับโลก เห็นแต่ขายทรัพยากรธรรมชาติ
ถ้าหมดจะทำยังไงต่อ ? ทำไมเป็นแบบนี้ ?