One Day Trip 2 [ วังหลัง-ท่ามหาราช ]
การเดินทางของเราครั้งนี้เริ่มต้นกันที่อนุเสาวรีย์ฯซึ่งตรงกับวันที่ซ้อมปั่น Bike for Mom โดยการมานั่งรอคอยรถเมย์ สาย 503 กะ 59 ที่แสนนานและยาวนาน โดยทำให้เกิดคำถามในใจว่า "รถพี่ใช้เครื่องยนต์ หรือ วัวลากว่ะ นานจิบเป๋ง..." รอมา 20นาที รถเมย์สาย 140 ป่ะที่ไป " แสมดำ " ผ่านไปประมาณ 20 คันแล้ว รถเรารอยังไม่มาซักคัน และแล้วพี่ทหารก็ประกาศขึ้นมาว่าใครรอรถสาย 503 , 59 ให้เปลี่ยนไปขึ้นรถเมย์สาย ตื๊ด......ดดด (จำไม่ได้สายไร) ฝั่ง รพ.ราชวิถี เพราะรถติดขบวนปั่นยังมาไม่ได้อีกนาน เลยบ่นกับเพื่อนว่าไมพึ่งประกาศว่ะรอตั้งนาน ประกาศแต่แจกน้ำกินอยู่นั้นแหละ #$^%#$^#$@#%@^@ หงุดหงิดขึ้นรถแท๊กซี่แม่มเลย เพราะรถไม่ค่อยมีคงไม่น่าแพง (
ก่อนขึ้นรถไปถามพี่แท๊กซี่ก่อนเลยพี่ไปส่งรถรึเปล่า อันนี้แก้เผ็ดมันก่อนให้มัน งง จะได้แถไม่ได้ จริงๆแค่คิดแต่วิธีนี่น่าใช้นะ น่าสนใจ คิดในใจนะไม่ได้ถามจิง) เลยโบกแท๊กซี่ถามพี่ไปสนามหลวงไหม ตกลงไปก็ข้ึนสิคราบ ไปถึงตรงสนามหลวงเค้าก็จอดให้เราลงตรงวันพระแก้ว
เราก็เดินมาคนให้อาหารนกพิราบกัน โดยมีคนเดินมาขายอาหารให้เราเป็นข้าวโพดใส่ถุงเล็กๆ 3 ถุง 20บาท (ทำไมเค้าไม่รวมถุงเดียวกัน เพื่ออะไรใครจะไปถามให้ทีนะ สงสัย) เราก็เลยจัดไป 20.- เราเอาอาหารใส่บนฝ่ามือนกมันก็บินมาเกาะกินกันบนมือ ก็ถ่ายรูปกันไป
โดยที่คนขายแนำนำว่าระวังหัวมันจะมีขี้นกหย่อนลงมาใส่ทรงผมอันหล่อเหลาของเราได้ พอสนุกกันพอหอมปากหอมคอเราก็จะออกเดินทาง
ไปที่ท่าเรือท่าช้างเพื่อที่จะข้ามไปหาของกินที่จุดหมายของเรานั่นคือ ตลาดวังหลัง นั่นเองเดินผ่านอาคารไม้แบบเก่าตกแต่งท่าสีใหม่ ร้านอาหาร ร้านค้าขายของ ผ่าน ม.ศิลปากร
มาจนสุดถนนเราก็จะเจอมางไปท่าเรือเพื่อข้ามไปยังตลาดวังหลัง โดยค่าบริการจะอยู่ที่ คนล่ะ 3 บาท เราก็ต้องมายืนรอให้เรือข้ามฝากมารับ
พอขึ้นเรือก็ไปเก็บภาพบรรยากาศกลางแม่น้ำ ท้องฟ้าสีฟ้าคราม (ใจคิดกลัวฝนอยู่เลย แต่กลั้นใจเสี่ยงดวงลองมาดู)
พอถึงฝั่งแล้วเราก็รีบเดินเข้าไปหาไรรองท้องก่อนเพราะนี่ บ่ายกว่าและยังไม่ได้กินไรเลยจนเดินมาเจอร้าน อรทัยซูชิวังหลัง+ทาโกะยากิ , น้ำปั่น ราคาก็ไม่แพง ซูชิ ราคา 5-7 บาท , ทาโกะ 5 บาท แต่เด็ดสุดคือน้ำปั่น (ชอบกินโกโก้ปั่นเข้มๆ) แก้วใหญ่ 45 บาท คนต่อคิวเยอะมากกกก พอมาต่อคิวเองถึงรู้ว่าพี่เค้าทำช้านี่หว่าาา แต่ของเค้าก็ถือว่าเด็ด!!โกโก้ปั่นแกใส่ไรไม่รู้เวลาดูดมีกุ๊บๆกร๊อบๆให้เคี้ยวเล่นด้วย คุ้มค่ากับการรอคอยมาก (ไม่ได้จ้างมาโฆษณานะ แต่ไปแล้วอย่าลืมลองดู)
เอ๊าาาา.....ไปต่อๆ มัวแต่กินนานล่ะ เดินมาไปเจอร้านมาการองลามูเน่ สีสันสะดุดตาหันควับเก็บภาพและเดินผ่านไป (ไม่ชอบกินของหวาน เลยไม่รู้สึกไรต่างกับน้ำปั่น) เดินมุ่งหน้าไปจุดหมายต่อไป
Next Station วัดระฆัง พอถึงเราก็ไปทำบุญปล่อยนกปล่อยปลา ให้อาหารปลาและอาหารนก มีเด็กซื้อขนมปังให้ปลาไปกินเองไปคงอร่อยของน้องเค้าล่ะนะ ซื้อขึ้นปังไป 3ชุด ไม่ใช่ว่าให้คนเดียวหมดนะแต่พ่อเค้าขอให้บ้างน้องแกไม่ยอมร้องไห้เดินไปหยิบใหม่ จนหมดไป 3ชุด บางจังหวะดีๆคนเดียวนั้นก็ตบถุงให้เสียงดังนกบินตกใจก็บินขึ้นไปเต็มฟ้าคนหยิบกล้องถ่ายกันให้มั่วไปหมด
เมื่อเราเสพบรรยากาศนานจนเกินไปจนเพื่อนที่มาด้วยกันต้องชวนกลับบอกจะเก็บนานจนจะเป็นไข้หวัดนกแล้วเนี้ย...... เลยเดินกลับมาหาของกินที่วังหลัง (อ๋อ ตัววัดไม่ได้เข้าไป กะไว้ทริปหน้านะครับ) มาแวะอยู่ที่ร้านก๊วยจั๊บญวน
เข้ามาถึงไม่ได้ทันทำไรถามก่อนเลย ธรรมดา/พิเศษ นิ่แม่คุ๊ณใจคอไม่ให้หยิบเมนูเลยรึไง จะทราบไหมว่ามีอะไรกินอย่างอื่นบ้างไหมรึเปล่า บอกขอดูก่อนแปบนะครับคนรับคนแรกก็เดินไป ไม่ทันไรคนที่สองก็มาถามอีก ธรมมดา/พิเศษ เออบริการเค้าดีจริงๆวุ้ยย
สรุปเลยได้ธรรมดา 2 / หมูยอเอ็นลวกจิ้ม 1 โค้ก 1 จ่ายค่าเสียหายไป 124 บาท ท้องอิ่มเท้าเดินต่อไปยังสถานที่สุดท้าย "
ท่ามหาราช "
มารอเรือที่เดิมเพิ่มเติมคือเรือมาพอดีสบายล่ะไปขึ้นสิรอไรล่ะคราบบบ ถึงฝั่งจ่ายค่าเรือ คนล่ะ 3 บาท เท่าเดิม
ก็เดินมาเพื่อที่จะถ่ายมุมที่หลังคาเป็นคันร่ม แต่ถึงกับนอยเพราะร่มมันเปื่อยหมดแล้วแถมขาดอีกตั้งหาก น้ำตาไหลซิกๆ ก็เดินเก็บบรรยากาศกันไปคนเยอะมากมาย เดินไปถ่ายรูปที่มุมต้นหญ้าที่ชั้น 2 ป๊าดติโถ่!!!! ไม่มีดอกมีแต่ต้นชีวิตช้านไหง๊เป็นงี้
ซักพักฟ้าเริ่มครึ้มลมเริ่มมา คงหมดเวลาสนุกและสิ ถึงเวลาที่ต้องเรากลับแล้ว เราก็เดินทางกลับไปที่จุดเดิมตรงสนามหลวงรอรถเมย์ 59 , 503 ในใจก็คิดคงนานแน่เลย ทันใดนั้นก็มีพี่ผู้หญิง 2 คน ถามคนพี่ที่ป้อม ขสมก. ว่าไปเสาวรีย์ตรงนี้ใช่ไหม เราเลยชวนพี่เค้าแชร์ไปแท๊กซี่กัน 4 คน ก็คงไม่เกินคนล่ะ 25-30 บาท พี่เค้าก็คิดแปบนึงแล้วก็ตกลงเพราะฝนจะตก เฉลี่ยก็คนล่ะ 20 บาท เป็นอันถึงที่หมายอย่างปลอดภัย
............. The End .............
สรุปค่าเสียหายตลอดทริป ( 2คน ) เท่ากับ 498 บาท [ คราวนี้หนักค่ารถไปหน่อย ]
สมุดบันทึกทริปการเดินทาง >> [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
http://ppantip.com/topic/33956470 วัดภูเขาทอง
http://ppantip.com/topic/34021831 วังหลัง-ท่ามหาราช
http://ppantip.com/topic/34446793 ตลาดน้ำอัมพวา
http://ppantip.com/topic/34801935 คนโสดตะลุยบางรัก ในวันของคนอินเลิฟ
http://ppantip.com/topic/34827016 เติมความหวานผ่านถนนสายสีชมพู ณ ทุ่งกำแพงแสน
http://ppantip.com/topic/35041817 สะพายรัก ไปพักร้อน @ เกาะสีชัง
http://ppantip.com/topic/35220476 Check in : เทศกาลไอติม Fresh Fin in ice @ CTW
http://ppantip.com/topic/35352739 • BackPack เอราวัณหน้าฝน • งบ 1000 | 2 วัน 1 คืน •
http://ppantip.com/topic/35551462 ก า ล ค รั้ ง ห นึ่ ง ฉั น ห ล ง รั ก เ ธ อ น ะ " ก ก ก อ ด "
http://ppantip.com/topic/35931940 ภูกระดึงคนเดียวแล้วไง? แค่แบงค์ 1,000฿ 3 ใบ กับใจถึงๆ
https://ppantip.com/topic/36667190 กอดตัวเองมันเหงา ออกไปกอดเขาดีกว่า @เขาล้อมหมวก เที่ยวคนเดียว แบบไม่ง้อรถส่วนตัว กับ งบสบายกระเป๋า
https://ppantip.com/topic/36858937 ปล่อยใจเหงาๆ ให้ล่องลอยไปในสายหมอก @ ภูสอยดาว
https://ppantip.com/topic/37057828 กอดหมอก ห่มหนาว @ เขาค้อ - ภูทับเบิก
One Day Trip [วังหลัง-ท่ามหาราช]
การเดินทางของเราครั้งนี้เริ่มต้นกันที่อนุเสาวรีย์ฯซึ่งตรงกับวันที่ซ้อมปั่น Bike for Mom โดยการมานั่งรอคอยรถเมย์ สาย 503 กะ 59 ที่แสนนานและยาวนาน โดยทำให้เกิดคำถามในใจว่า "รถพี่ใช้เครื่องยนต์ หรือ วัวลากว่ะ นานจิบเป๋ง..." รอมา 20นาที รถเมย์สาย 140 ป่ะที่ไป " แสมดำ " ผ่านไปประมาณ 20 คันแล้ว รถเรารอยังไม่มาซักคัน และแล้วพี่ทหารก็ประกาศขึ้นมาว่าใครรอรถสาย 503 , 59 ให้เปลี่ยนไปขึ้นรถเมย์สาย ตื๊ด......ดดด (จำไม่ได้สายไร) ฝั่ง รพ.ราชวิถี เพราะรถติดขบวนปั่นยังมาไม่ได้อีกนาน เลยบ่นกับเพื่อนว่าไมพึ่งประกาศว่ะรอตั้งนาน ประกาศแต่แจกน้ำกินอยู่นั้นแหละ #$^%#$^#$@#%@^@ หงุดหงิดขึ้นรถแท๊กซี่แม่มเลย เพราะรถไม่ค่อยมีคงไม่น่าแพง (ก่อนขึ้นรถไปถามพี่แท๊กซี่ก่อนเลยพี่ไปส่งรถรึเปล่า อันนี้แก้เผ็ดมันก่อนให้มัน งง จะได้แถไม่ได้ จริงๆแค่คิดแต่วิธีนี่น่าใช้นะ น่าสนใจ คิดในใจนะไม่ได้ถามจิง) เลยโบกแท๊กซี่ถามพี่ไปสนามหลวงไหม ตกลงไปก็ข้ึนสิคราบ ไปถึงตรงสนามหลวงเค้าก็จอดให้เราลงตรงวันพระแก้ว
เราก็เดินมาคนให้อาหารนกพิราบกัน โดยมีคนเดินมาขายอาหารให้เราเป็นข้าวโพดใส่ถุงเล็กๆ 3 ถุง 20บาท (ทำไมเค้าไม่รวมถุงเดียวกัน เพื่ออะไรใครจะไปถามให้ทีนะ สงสัย) เราก็เลยจัดไป 20.- เราเอาอาหารใส่บนฝ่ามือนกมันก็บินมาเกาะกินกันบนมือ ก็ถ่ายรูปกันไป
โดยที่คนขายแนำนำว่าระวังหัวมันจะมีขี้นกหย่อนลงมาใส่ทรงผมอันหล่อเหลาของเราได้ พอสนุกกันพอหอมปากหอมคอเราก็จะออกเดินทาง
ไปที่ท่าเรือท่าช้างเพื่อที่จะข้ามไปหาของกินที่จุดหมายของเรานั่นคือ ตลาดวังหลัง นั่นเองเดินผ่านอาคารไม้แบบเก่าตกแต่งท่าสีใหม่ ร้านอาหาร ร้านค้าขายของ ผ่าน ม.ศิลปากร
มาจนสุดถนนเราก็จะเจอมางไปท่าเรือเพื่อข้ามไปยังตลาดวังหลัง โดยค่าบริการจะอยู่ที่ คนล่ะ 3 บาท เราก็ต้องมายืนรอให้เรือข้ามฝากมารับ
พอขึ้นเรือก็ไปเก็บภาพบรรยากาศกลางแม่น้ำ ท้องฟ้าสีฟ้าคราม (ใจคิดกลัวฝนอยู่เลย แต่กลั้นใจเสี่ยงดวงลองมาดู)
พอถึงฝั่งแล้วเราก็รีบเดินเข้าไปหาไรรองท้องก่อนเพราะนี่ บ่ายกว่าและยังไม่ได้กินไรเลยจนเดินมาเจอร้าน อรทัยซูชิวังหลัง+ทาโกะยากิ , น้ำปั่น ราคาก็ไม่แพง ซูชิ ราคา 5-7 บาท , ทาโกะ 5 บาท แต่เด็ดสุดคือน้ำปั่น (ชอบกินโกโก้ปั่นเข้มๆ) แก้วใหญ่ 45 บาท คนต่อคิวเยอะมากกกก พอมาต่อคิวเองถึงรู้ว่าพี่เค้าทำช้านี่หว่าาา แต่ของเค้าก็ถือว่าเด็ด!!โกโก้ปั่นแกใส่ไรไม่รู้เวลาดูดมีกุ๊บๆกร๊อบๆให้เคี้ยวเล่นด้วย คุ้มค่ากับการรอคอยมาก (ไม่ได้จ้างมาโฆษณานะ แต่ไปแล้วอย่าลืมลองดู)
เอ๊าาาา.....ไปต่อๆ มัวแต่กินนานล่ะ เดินมาไปเจอร้านมาการองลามูเน่ สีสันสะดุดตาหันควับเก็บภาพและเดินผ่านไป (ไม่ชอบกินของหวาน เลยไม่รู้สึกไรต่างกับน้ำปั่น) เดินมุ่งหน้าไปจุดหมายต่อไป
Next Station วัดระฆัง พอถึงเราก็ไปทำบุญปล่อยนกปล่อยปลา ให้อาหารปลาและอาหารนก มีเด็กซื้อขนมปังให้ปลาไปกินเองไปคงอร่อยของน้องเค้าล่ะนะ ซื้อขึ้นปังไป 3ชุด ไม่ใช่ว่าให้คนเดียวหมดนะแต่พ่อเค้าขอให้บ้างน้องแกไม่ยอมร้องไห้เดินไปหยิบใหม่ จนหมดไป 3ชุด บางจังหวะดีๆคนเดียวนั้นก็ตบถุงให้เสียงดังนกบินตกใจก็บินขึ้นไปเต็มฟ้าคนหยิบกล้องถ่ายกันให้มั่วไปหมด
เมื่อเราเสพบรรยากาศนานจนเกินไปจนเพื่อนที่มาด้วยกันต้องชวนกลับบอกจะเก็บนานจนจะเป็นไข้หวัดนกแล้วเนี้ย...... เลยเดินกลับมาหาของกินที่วังหลัง (อ๋อ ตัววัดไม่ได้เข้าไป กะไว้ทริปหน้านะครับ) มาแวะอยู่ที่ร้านก๊วยจั๊บญวน
เข้ามาถึงไม่ได้ทันทำไรถามก่อนเลย ธรรมดา/พิเศษ นิ่แม่คุ๊ณใจคอไม่ให้หยิบเมนูเลยรึไง จะทราบไหมว่ามีอะไรกินอย่างอื่นบ้างไหมรึเปล่า บอกขอดูก่อนแปบนะครับคนรับคนแรกก็เดินไป ไม่ทันไรคนที่สองก็มาถามอีก ธรมมดา/พิเศษ เออบริการเค้าดีจริงๆวุ้ยย สรุปเลยได้ธรรมดา 2 / หมูยอเอ็นลวกจิ้ม 1 โค้ก 1 จ่ายค่าเสียหายไป 124 บาท ท้องอิ่มเท้าเดินต่อไปยังสถานที่สุดท้าย " ท่ามหาราช "
มารอเรือที่เดิมเพิ่มเติมคือเรือมาพอดีสบายล่ะไปขึ้นสิรอไรล่ะคราบบบ ถึงฝั่งจ่ายค่าเรือ คนล่ะ 3 บาท เท่าเดิม
ก็เดินมาเพื่อที่จะถ่ายมุมที่หลังคาเป็นคันร่ม แต่ถึงกับนอยเพราะร่มมันเปื่อยหมดแล้วแถมขาดอีกตั้งหาก น้ำตาไหลซิกๆ ก็เดินเก็บบรรยากาศกันไปคนเยอะมากมาย เดินไปถ่ายรูปที่มุมต้นหญ้าที่ชั้น 2 ป๊าดติโถ่!!!! ไม่มีดอกมีแต่ต้นชีวิตช้านไหง๊เป็นงี้
ซักพักฟ้าเริ่มครึ้มลมเริ่มมา คงหมดเวลาสนุกและสิ ถึงเวลาที่ต้องเรากลับแล้ว เราก็เดินทางกลับไปที่จุดเดิมตรงสนามหลวงรอรถเมย์ 59 , 503 ในใจก็คิดคงนานแน่เลย ทันใดนั้นก็มีพี่ผู้หญิง 2 คน ถามคนพี่ที่ป้อม ขสมก. ว่าไปเสาวรีย์ตรงนี้ใช่ไหม เราเลยชวนพี่เค้าแชร์ไปแท๊กซี่กัน 4 คน ก็คงไม่เกินคนล่ะ 25-30 บาท พี่เค้าก็คิดแปบนึงแล้วก็ตกลงเพราะฝนจะตก เฉลี่ยก็คนล่ะ 20 บาท เป็นอันถึงที่หมายอย่างปลอดภัย
สรุปค่าเสียหายตลอดทริป ( 2คน ) เท่ากับ 498 บาท [ คราวนี้หนักค่ารถไปหน่อย ]
สมุดบันทึกทริปการเดินทาง >> [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้