เมื่ออยากจะรู้    ก็ควรจะรู้ตามประวัติศาสตร์เป็นทางการไปเลย

อาร์เจนมีความสัมพันธ์ล้ำลึกกับเยอรมันเริ่มตั้งแต่ความสัมพันธ์ส่วนตัวของเผด็จการ Juan Domingo Peron แล้ว    เขาเคยได้รับความช่วยเหลือรอดชีวิตจากเผด็จการทหารในปี 1945    ซึ่งขณะนั้น Peron ถูกปลดจากตำแหน่งรองประธานาธิบดีและรัฐมนตรีกระทรวงสงคราม   และกำลังจะถูกกำจัด    Peron มีความสัมพันธ์อันดีกับ  Rodolfo Freude   ซึ่งเป็นนักธุรกิจใหญ่ของอาร์เจนติน่าที่มีพ่อเป็นชาวเยอรมัน    เป็นผู้เสนอความช่วยเหลือ Peron และ Evita Peron ภรรยาให้ที่หลบภัยในบ้านพักตากอากาศบนเกาะ Tigre-Delta ใกล้เมือง Buenos Aires    และให้ Peron เปลี่ยนชื่อเป็นชื่อเยอรมันว่า Otton Jawohl

เมื่อ Peron ขึ้นมาเป็นเผด็จการผู้มีอำนาจต่อมาเคยเอ่ยปากไว้ว่า   ไม่เคยลืมการช่วยขีวิตของเขาจากคนเยอรมันไว้ในครั้งนี้     ประกอบกับอีกเหตุผลสำคัญที่นาซีเยอรมันนั้นเป็นศัตรูสำคัญกับคอมมิวนิสต์  เช่นเดียวกับเผด็จการทั้งหลาย     Peron  จึงนิยมสนับสนุนนาซีเยอรมันมาโดยตลอด

Peron ยังตั้งเป้าหมายในการพัฒนาอุตสาหกรรมของประเทศ   ด้วยประทับใจความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยี่การทหารและอุตสาหกรรมรถยนต์ขยุคนาซีเยอรมัน    จึงคิดจะอาศัยพึ่งพาความรู้  ความเชี่ยวชาญ  จากผู้ลี้ภัยนาซีเช่นเดียวกับที่อเมริกาเองก็ใช้ประโยชน์จากนาซีเยอรมันอพยพซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยี่ต่างๆ ที่เข้าไปอยู่ในอเมริกาหลายคน    ตามตัวอย่างที่ คห 3  เอ่ยชื่อไว้คนหนึ่งคือ     Wernher von Braun  (เยอรมันอ่านว่า   แวนเฮ่อร์  ฟอน  บราวน์)  เป็นต้น

นั่นจึงเป็นที่มาที่อารเจนต้อนรับนาซีลี้ภัยอย่างไม่มีจำกัดหากสามารถหลบหนีการตามล่าไปจนถึงอาร์เจนตินาได้    การจัดการเส้นทางและวางแผนการออกเอกสาร  เปลี่ยนชื่อ   และ  อาศัยพำนักเป็นช่วงๆ ระหว่างการหลบหนี   ถูกจัดการจากบิชอพคาทอลิคชาวออสเตรียชื่อ Alois Hudal  โดยร่วมมือกับกรุงวาติกันในโรม     นาซีลี้ภัยใช้เส้นทางหลักๆ 3 เส้นทางในการหลบหนี  ไปยัง  อาร์เจนตินา   ปารากวัย  บราซิล  อุรุกวัย  ชิลี  และ โบลีเวีย     อีกจุดหมายปลายทางคือ   อเมริกา   อังกฤษ   แคนาดา (ซึ่งภายหลังจะถูกส่งตัวกลับ ยกเว้นคนที่เป็นประโยชน์จริงๆ)  และ  ตะวันออกกลาง

-  เส้นทางแรกผ่านออสเตรียไปยัง South Tirol และต่อไปยังอิตาลี  องค์กรกาชาดกับวาติกันออกค่าใข้จ่ายและพาสปอร์ตให้จนถึงเมืองท่าเจนัว     และขึ้นเรือต่อไปอาร์เจนตินา    เส้นทางนี้ใช้เป็นเส้นทางหลักเรียกว่า  Ratlines  (อเมริกาก็ใช้เส้นทางนี้ในภายหลังเพื่อนำสายลับตนเองออกจากออสเตรียเมื่อมีปัญหากับรัสเซีย)  

โดยรวมแล้วมีการออกพาสปอร์ตทั้งหมดราว 2000 เล่ม   และบัตรประชาชนใหม่ 8000 บัตร

-  เส้นทางที่สองผ่าน Kloster-Route   โดยการพรางตัวเป็นบาทหลวง   เส้นทางนี้ตรงไปยังสเปญแล้วต่อไปยังอาร์เจนตินา
-  เส้นทางที่สามผ่านสแกนดินาเวียซึ่งจัดการโดยสถานทูตอาร์เจนติน่าในประเทศเหล่านี้จนลงเรือไปถึงบัวโนไอเรส

อาร์เจนตินาส่งนาซีเก่าให้กระบวนการทางศาลลงโทษนะครับ    แต่เป็นภายหลังจากยุคเผด็จการแล้ว   อย่างเช่น  Eric Priebke  ถูกส่งตัวขึ้นศาลอิตาลีในปี 1998

ส่วนคนอื่นๆ นั้นขึ้นอยู่กับว่าจะหาตัวพบหรือไม่    เพราะทุกคนเปลี่ยน  identity  กันใหม่หมด    กรณีของ Adolf Eichmann  นั่นถูกหน่วยราชการลับอิสราเอล Mossad หาเจอและใช้วิธีการลักพาตัวไปลงโทษประหารชีวิตในเยรูซาเล็ม

อดึตสมาชิก SS อีกคนหนึ่งที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับ Peron  คือ  Horst Fuldner  ซึ่งมีรายชื่อที่จะต้องถูกส่งตัวกลับไปรับโทษ   รายชื่อ Fuldner นี้ถูกระบุเป็นหนึ่งอยู่ในรายชื่อทั้งหมดราว 130 คนซึ่งส่งไปยังเผด็จการของสเปญ   Francisco Franco   แต่ก็ไม่ถูกดำเนินการใดๆ    เมื่ออเมริกาทราบว่า  Fuldner มาพำนักอยู่อาร์เจนติน่าทางอเมริกายื่นเรื่องให้ Peron ส่งตัวไปอเมริกาแต่ Peron  กลับให้สัญาชาติอาร์เจนแก่ Fuldner เสียและไม่ได้ส่งตัวไปให้ตามที่ขอ

หมายเหตุ:     ตัดตอนจากบันทึกประวัติศาสน์ในภาคเยอรมันจากนิตยสาร Spiegel ฉบับที่ 17/1997