มีเรื่องจะเล่าให้อ่านกันค่ะ
เมื่อประมาณกลางเดือน พ.ค. 58 เพื่อนเราไปตรวจอาการปวดท้อง ท้องอืด ประจำเดือนมามากผิดปกติที่ รพ. ป... แถวๆ โชคชัย 4 โดยใช้สิทธิ์ประกันสังคม คุณหมอวินิจฉัยว่าเป็นเนื้องอกในมดลูก และคุณหมอให้ไปตัดสินใจว่าจะผ่าออกหรือไม่
จากนั้น 1 อาทิตย์เพื่อนก็เข้าไปเซ็นยินยอมผ่าตัดและคุณหมอได้แจ้งว่า อีกประมาณ 1 อาทิตย์ จนท. จะนัดเข้าไปตรวจเลือดเพื่อตรวจความพร้อมของร่างกายก่อนผ่าตัด
แต่ผ่านไป 1 อาทิตย์ - 2 อาทิตย์ - 1 เดือน...ก็ไร้วี่แววการติดต่อกลับ
กลางเดือน มิย. 58 เพื่อนโทรไปถามทางโรงพยาบาล (ย้ำว่าโทรไปที่โรงพยาบาลนะคะ) ว่า.....
เรา: ไม่ทราบว่าเคสนี้...ได้คิวผ่าตัดหรือยังค่ะ
จนท: ทางโรงพยาบาลให้คิวผ่าตัดสำหรับสิทธิ์ประกันสังคมเดือนละ 2 เคส ต้องรอก่อนค่ะ ถ้าได้คิวจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งนะคะ แต่เราส่งเรื่องไปยังแผนกสิทธิประโยชน์ให้แล้วค่ะ
เรา: อ่อ....ค่ะ
จนกระทั่งผ่านไป 1 เดือน ก็ยังไร้วี่แววติดต่อกลับ
ประมาณวันที่ 27 กค. 58 (จำวันที่ชัดเจนไม่ได้) - เราโทรเข้าไปที่ รพ. ก็โอนสายกันไปกันมา จนสุดท้ายไปติดที่สายแผนกสิทธิประโยชน์
เรา: ขอโทษนะคะ ไม่ทราบว่าเคสนี้...ได้คิวผ่าตัดหรือยังคะ
จนท.: ยังค่ะ ตอนนี้ยังไม่ได้คิวผ่าตัดค่ะ ต้องรอนะคะ เพราะคนไข้ใช้สิทธิ์ประกันสังคมอย่างเดียว ถ้าใช้สิทธิ์อื่นร่วมด้วยก็จะได้คิวก่อนค่ะ
เรา: ตอนนี้คนไข้ก็มีอาการปวดท้องท้องอยู่ ถึงเจ็บยังไงก็ต้องรอหรอคะ
จนท.: ค่ะ... (ตอบแบบตัดรำคาญ)
เรา: งั้นถ้าให้ทาง รพ. ส่งตัวไปผ่าตัดที่อื่นได้ไหมคะ เพราะคนไข้ไม่อยากรอแล้วค่ะ
จนท.: ส่งตัวได้ค่ะ แต่ค่าใช้จ่ายฝ่ายคนไข้ต้องออกเองทั้งหมดนะคะ
เรา: อ่อ....ค่ะ งั้นไม่เป็นไรคะ (แล้วก็วางสายไป)
หลังจากที่วางสายจากเจ้าหน้าที่ รพ. เราก็โทรไปหาคอลเซ็นเตอร์ประกันสังคมค่ะ เล่าเรื่องที่เกิดและคำตอบจาก รพ. ให้ฟัง ทาง ปกส. จึงแจ้งว่าจะติดตามเรื่องให้
ช่วงบ่าย - คุณหมอจาก รพ. โทรมาหาเพื่อนเรา แล้วสอบถามอาการและนัดเข้าไปเจาะเลือดเพื่อตรวจความพร้อมก่อนผ่าตัด และบอกว่าต้องขอโทษเพราะเคสตกค้างอยู่ที่คุณหมอ.....(แล้วคุณหมอก็นัดวันเวลาเพื่อเข้าตรวจเรียบร้อยค่ะ)
ด้วยความรู้สึกคือเราไม่ได้ตำหนิอะไรคุณหมอนะคะ และคุณหมอไม่จำเป็นต้องแก้ตัวแทน จนท. ของโรงพยาบาลค่ะ เพราะคนไข้ของคุณหมอแต่ละวันจำนวนก็ไม่น้อย คุณหมอคงไม่มาตามเรื่องเอกสารหรือการส่งเรื่องต่อไปยังแผนกอื่นทั้งหมด
หลังจากนั้น 1 วัน – เจ้าหน้าที่ รพ. โทรมาถามมีใครติดต่อมาหรือยังคะ เรื่องตรวจความพร้อมก่อนผ่าตัดค่ะ บลาๆๆ.....เราก็บอกไปว่าคุณหมอโทรมานัดแล้วค่ะ แล้วท้ายที่สุด จนท. รพ. ถามว่าเราโทรไปแจ้งกับ ปกส. ตอนไหน ทาง รพ. จะได้แจ้งกลับไปยัง ปกส. เกี่ยวกับการติดตามเคสให้แล้ว
.... ไม่อยากจะบอกว่า “ก็หลังจากที่ จนท. รพ. แจ้งคนไข้ว่า เจ็บยังไงก็ต้องรอ” นั่นแหล่ะค่ะ....
ที่จริงโมโหมากและอยากจะระบายมากกว่านี้ว่าการให้บริการกับศีลธรรมในการเลือกรักษาทำไมถึงเป็นแบบนี้ แต่เดี๋ยวจะมีปัญหาทีหลัง...เอาเป็นว่า ไม่พูดดีกว่านะคะ
แต่ที่เราอยากรู้คือ การให้บริการของแต่ละโรงพยาบาลสำหรับคนไข้ที่ใช้สิทธิ์ประกันสังคมใช้มาตรฐานของโรงพยาบาลเอง หรือใช้มาตรฐานของประกันสังคมคะ
ประสบการณ์การใช้บริการของโรงพยาบาลโดยใช้สิทธิ์ประกันสังคม
เมื่อประมาณกลางเดือน พ.ค. 58 เพื่อนเราไปตรวจอาการปวดท้อง ท้องอืด ประจำเดือนมามากผิดปกติที่ รพ. ป... แถวๆ โชคชัย 4 โดยใช้สิทธิ์ประกันสังคม คุณหมอวินิจฉัยว่าเป็นเนื้องอกในมดลูก และคุณหมอให้ไปตัดสินใจว่าจะผ่าออกหรือไม่
จากนั้น 1 อาทิตย์เพื่อนก็เข้าไปเซ็นยินยอมผ่าตัดและคุณหมอได้แจ้งว่า อีกประมาณ 1 อาทิตย์ จนท. จะนัดเข้าไปตรวจเลือดเพื่อตรวจความพร้อมของร่างกายก่อนผ่าตัด
แต่ผ่านไป 1 อาทิตย์ - 2 อาทิตย์ - 1 เดือน...ก็ไร้วี่แววการติดต่อกลับ
กลางเดือน มิย. 58 เพื่อนโทรไปถามทางโรงพยาบาล (ย้ำว่าโทรไปที่โรงพยาบาลนะคะ) ว่า.....
เรา: ไม่ทราบว่าเคสนี้...ได้คิวผ่าตัดหรือยังค่ะ
จนท: ทางโรงพยาบาลให้คิวผ่าตัดสำหรับสิทธิ์ประกันสังคมเดือนละ 2 เคส ต้องรอก่อนค่ะ ถ้าได้คิวจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งนะคะ แต่เราส่งเรื่องไปยังแผนกสิทธิประโยชน์ให้แล้วค่ะ
เรา: อ่อ....ค่ะ
จนกระทั่งผ่านไป 1 เดือน ก็ยังไร้วี่แววติดต่อกลับ
ประมาณวันที่ 27 กค. 58 (จำวันที่ชัดเจนไม่ได้) - เราโทรเข้าไปที่ รพ. ก็โอนสายกันไปกันมา จนสุดท้ายไปติดที่สายแผนกสิทธิประโยชน์
เรา: ขอโทษนะคะ ไม่ทราบว่าเคสนี้...ได้คิวผ่าตัดหรือยังคะ
จนท.: ยังค่ะ ตอนนี้ยังไม่ได้คิวผ่าตัดค่ะ ต้องรอนะคะ เพราะคนไข้ใช้สิทธิ์ประกันสังคมอย่างเดียว ถ้าใช้สิทธิ์อื่นร่วมด้วยก็จะได้คิวก่อนค่ะ
เรา: ตอนนี้คนไข้ก็มีอาการปวดท้องท้องอยู่ ถึงเจ็บยังไงก็ต้องรอหรอคะ
จนท.: ค่ะ... (ตอบแบบตัดรำคาญ)
เรา: งั้นถ้าให้ทาง รพ. ส่งตัวไปผ่าตัดที่อื่นได้ไหมคะ เพราะคนไข้ไม่อยากรอแล้วค่ะ
จนท.: ส่งตัวได้ค่ะ แต่ค่าใช้จ่ายฝ่ายคนไข้ต้องออกเองทั้งหมดนะคะ
เรา: อ่อ....ค่ะ งั้นไม่เป็นไรคะ (แล้วก็วางสายไป)
หลังจากที่วางสายจากเจ้าหน้าที่ รพ. เราก็โทรไปหาคอลเซ็นเตอร์ประกันสังคมค่ะ เล่าเรื่องที่เกิดและคำตอบจาก รพ. ให้ฟัง ทาง ปกส. จึงแจ้งว่าจะติดตามเรื่องให้
ช่วงบ่าย - คุณหมอจาก รพ. โทรมาหาเพื่อนเรา แล้วสอบถามอาการและนัดเข้าไปเจาะเลือดเพื่อตรวจความพร้อมก่อนผ่าตัด และบอกว่าต้องขอโทษเพราะเคสตกค้างอยู่ที่คุณหมอ.....(แล้วคุณหมอก็นัดวันเวลาเพื่อเข้าตรวจเรียบร้อยค่ะ)
ด้วยความรู้สึกคือเราไม่ได้ตำหนิอะไรคุณหมอนะคะ และคุณหมอไม่จำเป็นต้องแก้ตัวแทน จนท. ของโรงพยาบาลค่ะ เพราะคนไข้ของคุณหมอแต่ละวันจำนวนก็ไม่น้อย คุณหมอคงไม่มาตามเรื่องเอกสารหรือการส่งเรื่องต่อไปยังแผนกอื่นทั้งหมด
หลังจากนั้น 1 วัน – เจ้าหน้าที่ รพ. โทรมาถามมีใครติดต่อมาหรือยังคะ เรื่องตรวจความพร้อมก่อนผ่าตัดค่ะ บลาๆๆ.....เราก็บอกไปว่าคุณหมอโทรมานัดแล้วค่ะ แล้วท้ายที่สุด จนท. รพ. ถามว่าเราโทรไปแจ้งกับ ปกส. ตอนไหน ทาง รพ. จะได้แจ้งกลับไปยัง ปกส. เกี่ยวกับการติดตามเคสให้แล้ว
.... ไม่อยากจะบอกว่า “ก็หลังจากที่ จนท. รพ. แจ้งคนไข้ว่า เจ็บยังไงก็ต้องรอ” นั่นแหล่ะค่ะ....
ที่จริงโมโหมากและอยากจะระบายมากกว่านี้ว่าการให้บริการกับศีลธรรมในการเลือกรักษาทำไมถึงเป็นแบบนี้ แต่เดี๋ยวจะมีปัญหาทีหลัง...เอาเป็นว่า ไม่พูดดีกว่านะคะ
แต่ที่เราอยากรู้คือ การให้บริการของแต่ละโรงพยาบาลสำหรับคนไข้ที่ใช้สิทธิ์ประกันสังคมใช้มาตรฐานของโรงพยาบาลเอง หรือใช้มาตรฐานของประกันสังคมคะ