ชีวิตคู่....ที่มีพ่อสามีไร้จิตสำนึกและเป็นตัวถ่วง

สวัสดีค่ะ กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกของเรา  ถ้าผิดพลาดประการใด ขออภัยมานะที่นี้ด้วยนะคะ ยิ้ม

        เรื่องต่อไปนี้คือเรื่องที่เราต้องทนไปตลอดชีวิตคู่ค่ะ เราก็ไม่รู้ว่าจะทนได้นานแค่ไหน บางทีเราอยากจะระเบิดมันออกมา แต่สงสารสามีค่ะ ไม่อยากให้เค้าลำบากใจ เราจึงต้องอดทน สามีเราเป็นคนดีมาก

        ขอเริ่มเลยแล้วกันนะคะ ที่จะเล่าต่อไปนี้คือเรื่องราวของสามีนะคะ คือ (เล่าเท่าที่รู้มานะคะ) สามีเราเกิดมาในครอบครัวที่เหมือนจะดี พ่อแม่มีอาชีพค้าขาย มีแม่ที่ขยันทำมาหากิน มีพ่อช่วยทำงานหาเงิน  ทั้งสองคนช่วยกันทำงานหาเงินเลี้ยงลูก(ลูก2คน สามีเราเป็นลูกคนที่สอง) ส่งลูกเรียน ชีวิตลูกเกือบจะสบาย แต่มาติดตรงที่ "พ่อเค้าติดการพนัน" ติดแบบถ้าไม่มีเงินกินข้าว ก็ไม่เป็นไร แต่ขอให้มีเงินเล่น เวลาเล่นก็เล่นจนกว่าเงินจะหมด ถ้าเงินไม่หมดเค้าก็ไม่เลิก.....
     และนี่คือที่มา ที่ทำให้ชีวิตครอบครัวเค้าลำบากมาตั้งแต่เด็ก เค้าเคยเล่าให้ฟังว่า แม่เคยหนีพ่อไปแล้วหลายครั้ง มีครั้งนึงแม่หนีไปอยู่ต่างจังหวัดกับญาติ ยึดอาชีพค้าขายจนพอจะมีเงินเก็บอยู่บ้าง จนวันนึงพ่อก็ตามไปง้อตามไปอยู่ด้วย ช่วยขายของได้ซักพัก พอพ่อรู้จักคนเยอะก็ทำให้รู้ลู่ทางกลับไปเล่นการพนันอีกครั้ง จนแม่ทนไม่ไหว ก็เลยหนีกลับมาอยู่บ้านอีกครั้ง พ่อก็ยังคงตามกลับมาง้ออีก .....
    สามีบอกว่า แม่พยายามหนี พยายามเลิกกับพ่อหลายครั้ง พยายามไล่พ่อไป แต่พ่อเค้าไม่ยอมไป(พูดง่ายๆว่าเป็นคนที่มึนมาก) ไม่ยอมไป แต่ก็ไม่เลิกนิสัยเดิม จนวันนึงทะเลาะกันหนักมาก แม่ไล่ให้เค้าไปอยู่ที่อื่น แต่ด้วยความเห็นแก่ตัวของเค้า เค้าขนของทุกอย่างในบ้านไปจนหมด ด้วยความที่แม่เป็นคนที่ยอมคน (แม่เป็นคนใจดีมาก จนบางทีก็ดีเกินไป) แม่ก็ยอมให้ของเค้าไป เค้าอยากได้อะไรให้เค้าเอาไปแล้วก็ไม่ต้องกลับมาอีก! สรุปเค้าขนไปหมดบ้านเลยจ้า สามีบอกว่าตอนนั้นสามีอยากเก็บเครื่องเล่นเพลงหรือวิทยุอะไรซักอย่างนี่แหล่ะ สามีอยากเก็บไว้เลยแอบเอาไปซ่อน แต่พ่อเค้ารู้เค้าเลยบอกสามีว่า "เอาออกมาให้หมด กูไม่ให้" (ประมาณนี้) แล้วเค้าก็ขนของทุกอย่างไป....
        สามีบอกว่า ผ่านไปไม่ถึงเดือน เค้าก็กลับเข้ามาในบ้าน มาอยู่มานอนหน้าตาเฉยทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น(ดู ดูความมึน) แม่ไล่ก็ไม่ไป ญาติแม่ไล่ก็ไม่ไป เลยต้องทนอยู่กันต่อไปอีก (ไม่รู้เวรกรรมอะไร) จนวันนึงมีเหตุที่ทำให้ต้องเลิกกันจริงๆ คือ พ่อไปมีอะไรกับเพื่อนแม่จ้าาาาา(ง่ายๆก็คือ โดนเพื่อนแย่งสามีจ้า) แม่ก็เสียอกเสียใจอยู่แปบนึง (คนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสามีอ่ะเนาะ ยังไงก็รัก) เหตุการณ์นี้ก็เลยทำให้พ่อกับแม่เลิกตัดขาดกันไปเลยจริงๆ แม่ก็อยู่บ้านหลังเดิม ส่วนพ่อก็ไปอยู่บ้านเมียใหม่.... แต่ก็ยังคงวนเวียนมาที่บ้านบ้าง พอรู้ว่าลูกมีงานมีการทำก็วนเวียนมาขอเงินใช้บ้าง(ไม่เคยถามซักคำว่าลูกจะมีมั้ย) แต่ด้วยคำว่าลูกอ่ะเนาะ พ่อขอก็ต้องให้
      ส่วนสามีก็ลำบากมาตั้งแต่เด็ก ดีที่เป็นเด็กขยัน ก็ช่วยแม่ทำมาหากินมาตั้งแต่เด็กๆ ปั่นจักรยานเอาของแม่ไปช่วยเลาะขายตามบ้านกับพี่ชาย2คนแบบไม่อายใคร พอโตมาเรื่อยๆก็หานู่นหานี่ทำช่วยเหลือตัวเองมาตั้งแต่เด็กๆ จนเรียนจบปวช. ด้วยฐานะทางบ้านไม่ค่อยดีนัก เลยไม่ได้เรียนต่อ ก็ออกมาหางานทำ ทำนู่นทำนี่อยู่หลายอย่าง จนวันนึงได้เปิดร้านเหล้าร้านเล็กๆในตัวเมือง และเห็นว่าพ่อทำกับข้าวอร่อยบวกกับพ่อไม่มีงานทำ เลยชวนให้มาทำงานที่ร้านในตำแหน่งพ่อครัวและให้เงินเดือน และให้เป็นคนจ่ายตลาดเอง และในแต่ละวันพ่อจะต้องกินเหล้าวันละหนึ่งแบน และในทุกๆวันพ่อจะต้องชวนลูกค้าที่ชอบการพนันเหมือนพ่อ ชวนมาแทงพลู(ในร้านมีโต๊ะพลูที่คล้ายๆโต๊ะสนุ๊ก) แต่ลูกค้าบางคนเค้าก็อยากมาแค่กินเหล้านั่งคุยกับเพื่อน แต่พ่อด้วยความที่อยากเล่นมากก็ต้องทำถึงขนาดไปจูงมือลูกค้าไปเซ้าซี้เค้ามาเล่น(เป็นไง หนักไหมล่ะคะ) ลูกค้าบางคนเค้าก็ทำท่าทางรำคาญ แต่เค้าก็ไม่กล้าพูด เพราะเห็นเป็นพ่อเจ้าของร้านเค้าก็เกรงใจ บางวันปิดร้านแล้วแกก็ยังชวนลูกค้าตั้งวงเล่นไพ่ยันเช้าก็ยังมี จนวันนึงร้านไปไม่ไหว ด้วยหลายๆสาเหตุ และอาจจะถึงจุดอิ่มตัวด้วย ก็เลยเซ้งร้าน แล้วเงินที่ได้มาจากการเซ้งร้านก็เอามาใช้หนี้จนหมด......(ช่วงนี้แหล่ะค่ะ เหมือนเป็นช่วงดวงตกของสามี)
เราคบกับสามีตอนที่สามียังเปิดร้านเหล้าอยู่ค่ะ แต่ไม่ได้เจอกันที่ร้านเหล้านะคะ อิอิ พอดีเราก็มีธุรกิจส่วนตัวอยู่ สามีมาใช้บริการ แล้วก็มาปิ๊งเราแล้วก็มาตามจีบค่ะ คุยกันได้ซักพักเค้าก็พาเราไปทานข้าวที่ร้านเค้าค่ะ (ซึ่งห่างจากร้านเรานิดเดียว) หลังจากนั้นเราก็ไปนั่งเล่นที่ร้านเค้าอยู่ตลอด แล้วหลังๆก็ได้ช่วยดูช่วยอะไรที่ร้านเค้าบ้าง ก็ได้เห็นพฤติกรรมพ่อเค้าบ้าง แต่เราก็ไม่เคยพูดไม่เคยว่าพ่อเค้าให้เค้าฟังนะคะ (แต่ในใจนี่แบบ ทำไมพ่อเป็นคนแบบนี้ ก่อนหน้านี้เค้าก็ไม่เคยเล่าเรื่องไม่ดีของพ่อเค้าให้เราฟังหรอกค่ะ แต่เราเห็นเอง) เราคบกับเค้าประมาณ2-3ปีค่ะก่อนจะเซ้งร้าน ช่วงระหว่างนี้เราก็มีเงินก้อนนึงเอาไปซื้อรถโฟล์คตู้ค่ะ เอามาไว้ขายของ ทำของที่ระลึกขายช่วงหน้าหนาว จนวันนึงที่มีเหตุให้เซ้งร้านเหล้านั่นแหล่ะค่ะ ตอนเซ้งร้านก็เอาเงินไปใช้หนี้จนหมด (ช่วงนั้นเค้าย้ายเข้ามาอยู่กับเราแล้วค่ะ) ช่วงนั้นเป็นช่วงชีวิตที่ล้มลุกคลุกคลานมากๆค่ะ ปัญหารุมเร้า เค้าไม่เหลือแม้แต่เงิน แต่เราก็ไม่เคยทิ้งเขาค่ะ อยู่กับเขา ให้กำลังใจเขา ช่วยเหลือเค้าบ้างนิดๆหน่อยๆเท่าที่พอช่วยได้ ....
         แต่ช่วงลำบากก็อยู่ได้ไม่นานค่ะ ประมาณเดือนนึง มีรุ่นพี่ให้ไปช่วยออกแบบร้านกาแฟให้เฮียเจ้าของโรงแรมโรงแรมนึงในจังหวัดค่ะ (สามีจบปวช. ก่อสร้างค่ะ แต่ก่อนหน้านี้ไม่ได้ทำงานด้านนี้ แต่รุ่นพี่เค้าเห็นออกแบบร้านเหล้าของตัวเองแล้วเค้าชอบ เค้าเลยให้ไปช่วยออกแบบร้านกาแฟค่ะ) สามีเราก็ไปออกแบบให้ค่ะ พอเฮียแกเห็นความสามารถเห็นความตั้งใจของสามี แกชอบค่ะ แกเลยบอกว่าไม่ให้ทำร้านกาแฟแล้ว ตอนนี้แกกำลังจะจัดสรรที่ดินขายพร้อมสร้างบ้าน แกเลยให้สามีเราเป็นคนดีแลโครงการและเป็นคนออกแบบคุมงานทั้งหมด (โอ้ งานใหญ่มากกกก) ตอนแรกสามีเราไม่กล้ารับค่ะ เพราะกลัวจะทำไม่ได้ แต่เฮียแกเชื่อใจ แกบอกให้ลุยเลย สามีเราเลยตกลงค่ะ และด้วยความที่เค้าเป็นคนขยัน เป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน และมีความคิดที่ไม่ค่อยเหมือนใคร เฮียแกคงชอบ ก็ป้อนงานให้ตลอดค่ะ .....

    

#มาต่อกันข้างล่างนะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่