สวัสดีค่ะ นี่เป็นการเขียนรีวิวและการตั้งกระทู้พันทิปครั้งแรกของเรา (เอามั่ง เห็นอินโทรแบบนี้กันเยอะ ฮ่าๆ)
ไปเชียงคานครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 แล้วค่ะ สองรอบแรกเที่ยวแบบมึนๆ ไม่ได้เก็บรายละเอียดอะไรมากมาย
พอรอบนี้เพื่อนส่งรีวิวที่กินมาให้ก่อนไป เลยคิดไว้แล้วว่า งั้นกลับมาชั้นจะทำรีวิวนะ 5555 ทำให้เราใส่ใจดีเทลต่างๆ ในทริปมากขึ้น (มั้ย?)
ก่อนอื่นเราก็ลิสต์สิ่งที่น่าสนใจลงในไดอารี่ก่อน
(แอบสะกดเชียงคานผิด TT) เอาจริงๆ ก็ไม่ได้ไปครบหรอก เพราะยึดเอาความรู้สึกตัวเองเป็นหลักด้วย
อย่างส้มตำด๊องแด๊งของเด็ดประจำเชียงคาน เราก็ไม่ได้ไปลอง ด้วยเหตุผลที่ว่า “not in a mood ว่ะ” แหม่.. ติสท์จริงแม่คุณ
ส่วนภูทอก กับ แก่งคุดคู้ พี่ที่อยู่แถวนั้นเค้าบอกว่า ฝนตกมันไม่น่าเที่ยวเท่าไหร่ เลยตัดออกไป
- DAY 1 -
ถึงเชียงคานประมาณเกือบๆ บ่ายสามโมง เราพักที่โรงแรมชมโขง ซอย 7 ล่าง (ซอยล่างคือเส้นถนนคนเดินค่ะ ส่วนบนก็ต้องเดินขึ้นไปอีก เป็นฝั่งที่ไม่ติดแม่น้ำโขง)
ห้องพักขนาดพอดี สีสวยน่ารักดี เหมาะกับชะนีมุ้งมิ้งแบบเราๆ (หรา) คืนละ 600 มีwifi น้ำอุ่น ทีวี ครบหมดค่ะ
อันนี้แบบถ่ายห้องข้างๆที่เค้ายังไม่เช็คอินมา เพราะลืมถ่ายห้องตัวเอง แฮะๆ
พอเช็คอิน เก็บของเรียบร้อย ที่แรกที่เรามุ่งหน้าไปคือ สุวรรณรามา ซอย 9 บน
เป็นร้านกาแฟที่แต่เดิมเป็นโรงหนังเก่า บรรยากาศก็จะวินเทจๆ ในร้านก็จะเต็มไปด้วยของวินเทจ
เรากับเพื่อนสั่งโซดากันคนละแก้ว ทานกับไอติมทอด ค่าเสียหาย 85 บาท
พอทานเสร็จ ถ่ายรูปกันจนพอใจ ก็ออกตะลุยถนนคนเดินกัน
นอกจากเซเว่น โลตัส ธนาคารที่นี่ก็ทำเป็นแบบไม้ด้วย
ถนนคนเดินวันแรก( ซึ่งเป็นวันหยุดยาววันแรก) คนยังไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ค่ะ เดินดูของกินของฝากชิวๆ
ตัวนี้แอบถ่ายมา แต่ไม่ได้ชิม
เจอร้านรับทำเสื้อ เดินเข้าไปเพราะแมวน่ารัก สรุปได้เสื้อออกมากันคนละตัว ตัวละ 200 คิดคำ คิดแบบเองได้ แถมเสื้อก็ใส่สบายมากกกกก วันต่อมาเลยมาจัดเป็นของฝากกันอีกคนละ 2-3 ตัวเลยทีเดียว
แมวกวักขี้เซา
นั่งรอเสื้อนานจนเริ่มหิว เลยตามลายแทงไปทานมื้อเย็นที่ร้าน ศรีพรรณโฮมสเตย์ อยู่ระหว่างซอย 13-14 เส้นถนนคนเดินเลย
บรรยากาศดีงาม พระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า เทเลทับบี้บอกลา (ผิด!)
เมนูแรก สั่งตามรีวิวในพันทิป .. ยำผักกูด
ค่าเสียหาย 70 บาท ผักกูดกรุบๆ ดี แต่ยำรสไม่ค่อยจัด ให้ 3/5
เมนูต่อไป ปลาคังลวกจิ้ม
น้ำจิ้มเปรี้ยวไปหน่อย แต่เนื้อปลาสดดี ราคา 120 บาท เอาไป 3/5
เมนูสุดท้าย เห็ดหอมย่างซีอิ๊ว
(ตัวขวาสุด ลืมถ่ายรูปเดี่ยวๆมา)
เจ้านี่สั่งแบบแรนด้อม แต่ปรากฏว่าอร่อยมากกก เห็ดนุ่มมาก ไม่เหนียวเลย จิ้มกะซอสพริกที่ให้มาจัดว่าเด็ด เอาไป 5/5 เลย
รีวิวรวมๆร้านนี้: อาจจะเป็นเพราะเราชินกับอาหารรสจัดๆ มาตลอด ร้านนี้เลยอาจจะรสอ่อนไปสำหรับเรา แต่ถ้าไม่ชอบอาหารรสจัดมากก็น่ามาลองค่ะ โดยเฉพาะเห็ดหอมนี่เราชอบมากๆ
เสร็จแล้วก็เดินช็อปปิ้ง ดูของนิดหน่อย แต่อิ่มมากเลยไม่ได้กินอะไรเพิ่ม เป็นอันจบการรีวิวของกินวันแรกค่ะ ^^
- DAY 2 -
จากแพลนเดิมคือขึ้นภูทอก แต่พี่ที่ถนนคนเดินบอกว่าช่วงนี้ไม่มีหมอก เลยเปลี่ยนเป็นตักบาตรข้าวเหนียวที่หน้าโรงแรมแทน
ตื่นมา 5.30 ฝนตกปรอยๆ ลงมาดูหน้าโรงแรมก็ยังเห็นมีคนรอใส่บาตรอยู่ เลยซื้อกับข้าวใส่บาตรสองชุด พอหกโมงเช้า พระก็มาพอดี
พอสายๆ ฝนเริ่มหยุด เลยออกมาหาข้าวเปียกทานที่ถนนคนเดินค่ะ
เจอร้าน งอยโขง อยู่ซอย 10 ล่าง คนแน่นร้านเลยคาดการณ์กันเองว่าจะอร่อย 5555
เราสั่งไข่กระทะ กับข้าวเปียกเส้น ส่วนเพื่อนสั่งเกาเหลา กับไข่กระทะเหมือนกัน
- เกาเหลากับข้าวเปล่า ค่าเสียหายอยู่ที่ 45 บาท เกาเหลาเพื่อนบอกอร่อย ให้ 4/5
- ข้าวเปียกเส้น 40 บาท เส้นนุ่มดี ไม่เหนียวจนเกินไป ให้ 4/5
ทั้งเกาเหลากับข้าวเปียกใส่หมูเด้ง ที่เรากับเพื่อนเห็นพ้องต้องกันว่าเด็ด!
- ส่วนไข่กระทะ 30 บาท เครื่องเยอะดี แต่น้ำมันเยิ้มไปหน่อย เอาไป 3/5
ก่อนมาร้านข้าวเปียก เราไปร้านสังขยาคุณแม่ ตามคำรีเควสของคุณเพื่อน
ร้านน่ารักดีค่ะ แต่ไม่มีที่นั่งนะ Take home only!
พี่เจ้าของร้านบอกว่าถ้าจะซื้อเป็นของฝากแนะนำให้สั่งไว้เลย เพราะของจะหมดไวมาก เลยสั่งกันไว้ล่วงหน้า 5 กล่อง แล้วก็ซื้อออกมาชิมอีกกล่องนึง
มานั่งกินที่ร้านข้าวเปียกมันนี่แหละ 55555
กัดเข้าไปคำแรก หื้มมมมมม โอ้มายก็อด มันดีมากค่ะ! TT ขนมปังฟูๆ นุ่มๆ สังขยาละมุนๆ ได้กลิ่นใบเตยหอมๆ
ฟินมาก เอาไปเลย 6/5
แพ็คเกจจิ้งน่ารักด้วยนะเออ
พออิ่ม แพลนต่อไปของเราคือไปวัดภูควายเงินค่ะ ไปถวายสังฆทาน และไปเล่นกับกระต่าย
วัดภูควายเงินจะอยู่ห่างจากถนนคนเดินออกมาประมาณ 10 กม.ค่ะ ทางไปวัดส๊วยสวย เพราะวัดอยู่บนเขาด้วย
แต่ทางเข้าวัด 2 กม. สุดท้ายนี่ชันมาก เลเวลการขับรถเราอัพขึ้นมาอีกประมาณ 50 เลเวลตรงทางนี้ T T
ถึงแล้ว วัดภูควายเงิน ไม่มีควาย มีแต่กระต่าย 55555 ด้วยความที่วัดอยู่บนเขาเลยวิวสวยมาก
สักการะพระพุทธบาท และถวายสังฆทานเรียบร้อย
กระต่ายที่นี่เชื่องมากค่ะ ไม่กลัวคนด้วย เค้าเข้ามารุมเรา พอเห็นว่าเราไม่มีอาหารก็โดดดึ๋งๆ หนีไป
555
แต่อาหารกระต่ายเห็นบอกว่าซื้อได้ที่ปากทางเข้านะคะ
อิ่มบุญแล้ว แต่ท้องยังไม่อิ่ม ก็ไปตระเวนหาของกินกันต่อ.. แต่ด้วยความที่ตอนเช้าซัดโฮกกันไปเยอะ -.- ก็เลยยังไม่หิวมาก ไปหาอะไรเบาๆ ทานกันดีกว่า
มาจบที่ร้าน พิชญาคาเฟ่ อยู่ระหว่างซอย 13-14 ล่าง
ทาด๊า .. ! เมนูเบาๆ ของพวกเราสองคน
- Hokkaido Cheesecake เจ้าตัวนี้มาลองตามรีวิวอีกแล้ว ราคา 80-85 บาท จำไม่ค่อยได้
อร่อยมากกกก ไม่ผิดหวังเลย ครีมชีสหอมๆ ไม่เลี่ยน เนื้อเนียนๆ ฟินๆกันไป เอาไปเลย 5/5
- ชาเขียวเย็น อันนี้ก็ถูกใจเราอีกแล้ว ชาเขียวไม่หวานกำลังดี หอมด้วย ให้ 4/5
- ชา eyes wide (ตัวนี้มาทีหลังเลยไม่ได้ถ่ายรูป) เจ้าของร้านบอกว่าสั่งมาจากเยอรมัน เพื่อนเราที่เป็นคอชาบอกว่าหอมมากกกกกกก หอมกว่า Twinnings อีก ให้ 10/5 เลย
- Panacotta ตัวนี้เฉยๆ ข้างบนเป็นแยมส้ม ข้างล่างเละไปหน่อย แต่ทานเย็นๆ แล้วสดชื่นดี ให้ 3/5
จำราคาไม่ได้เป๊ะๆ แต่สี่ตัวรวมกันอยู่ที่ 300 บาทค่ะ
พอเจอของหวานๆ บวกลมเย็นๆ ตอนบ่ายๆ ก็ง่วงสิคะ เลยกลับไปงีบกันก่อน พอเย็นๆ ก็ออกมาหาอะไรกิน(อีกแล้ว)
มื้อเย็นวันนี้ไปที่ร้าน ลุกโภชนา ค่ะ เห็นรีวิวเยอะ แถมเป็นร้านเก่าแก่ของที่นี่ด้วย ไม่ลองได้ยังไงล่ะ
วันนี้สั่งมา 3 เมนูค่ะ มี ต้มแจ่วปลา, ลาบปลาคัง และไข่ตุ๋น
เมนูแรก ต้มแจ่วปลา – ไม่แน่ใจว่าปลาอะไร แต่ชิ้นใหญ่มากกกก ปลาเนื้อแน่น ส่วนน้ำซุปก็แซ่บๆ ถูกปากคนชอบอาหารรสจัดแบบเรา เมนูนี้ให้ 4/5 เลยค่ะ
ต่อมา ลาบปลาคัง – อันนี้อร่อยมากกกก ชอบมาก รสชาติเข้มข้น หอมมะนาว ปลาบปลื้มกันไป เอาไป 5/5 เลย
เมนูสุดท้าย ไข่ตุ๋นทรงเครื่อง – ไข่ตุ๋นเนื้อแน่นๆ หอมๆ กลมกล่อม เด็กๆ น่าจะชอบ ให้ 3/5
ค่าเสียหายรวมๆ ประมาณ 400 นิดๆ ค่ะ
รีวิวรวมๆ ร้านนี้: ค่อนข้างถูกจริตเราเลยค่ะ รสชาติจะจัดๆ แซ่บกว่าร้านเมื่อวาน เพราะเป็นร้านท้องถิ่นด้วยเนอะ เปิดมานาน รสชาติเลยอาจจะถูกปากชาวอีสานมากกว่าหน่อย
ทานเสร็จแล้วก็ไปหาอะไรหวานๆ ล้างปาก
วันนี้ถนนคนเดินคนเริ่มหนาแน่นแล้ว เลยหลบฝูงชนไปนั่งจิบโซดาเย็นๆ ในร้านสองผัวเมียเกสต์เฮ้าส์ ร้านนี้มีมุมถ่ายรูปสวยๆ ด้วย
เห็นมีโต๊ะว่าง พอเดินเข้าไป อ้าว มีเจ้าที่นอนเฝ้าอยู่ 55555 ต้องนั่งแอบๆ เดี๋ยวเจ้าที่จะตื่น
สั่งโซดามาคนละแก้ว แต่นั่งแช่เป็นชั่วโมง ต่อ wifi ร้านเค้าดูหนังเฉยเลย
ลืมถ่ายรูปโซดามา มัวแต่เซลฟี่กะฉาก
ปล. ร้านนี้ไม่มีเมนูขนมนะคะ มีแต่เมนูเครื่องดื่ม
พอสองทุ่ม คนเริ่มบางลงแล้ว เลยกลับไปเดินเล่นที่ถนนคนเดิน ได้เจ้านี่มา
ปาท่องโก๋ยัดไส้ สูตรลุงมุข – อันนี้แอบชิมของเพื่อนนิดเดียว 555 แต่อร่อยดีค่ะ แป้งไม่แข็งเหมือนปาท่องไก๋ทั่วไปที่เคยทาน เข้ากะไส้สังขยาข้างใน
แต่มันร้อน ต้องค่อยๆทาน ไม่งั้นลวกปาก ให้ 4/5 ค่ะ
ค่าเสียหาย 30 บาท
เดินได้แป๊บบบเดียว ฝนก็เริ่มลงเม็ด เลยกลับไปพักผ่อนตามอัธยาศัยที่โรงแรมค่ะ
- วันสุดท้ายเดี๋ยวมาต่อนะคะ ตัวอักษรเกินแล้ว
[CR] - - Live slowly but eat so fast in Chiang Khan - - รีวิวเที่ยวกรุบกริบ แต่กินจัดหนัก ตามแบบฉบับเด็กฮิป(โป)
สวัสดีค่ะ นี่เป็นการเขียนรีวิวและการตั้งกระทู้พันทิปครั้งแรกของเรา (เอามั่ง เห็นอินโทรแบบนี้กันเยอะ ฮ่าๆ)
ไปเชียงคานครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 แล้วค่ะ สองรอบแรกเที่ยวแบบมึนๆ ไม่ได้เก็บรายละเอียดอะไรมากมาย
พอรอบนี้เพื่อนส่งรีวิวที่กินมาให้ก่อนไป เลยคิดไว้แล้วว่า งั้นกลับมาชั้นจะทำรีวิวนะ 5555 ทำให้เราใส่ใจดีเทลต่างๆ ในทริปมากขึ้น (มั้ย?)
ก่อนอื่นเราก็ลิสต์สิ่งที่น่าสนใจลงในไดอารี่ก่อน
(แอบสะกดเชียงคานผิด TT) เอาจริงๆ ก็ไม่ได้ไปครบหรอก เพราะยึดเอาความรู้สึกตัวเองเป็นหลักด้วย
อย่างส้มตำด๊องแด๊งของเด็ดประจำเชียงคาน เราก็ไม่ได้ไปลอง ด้วยเหตุผลที่ว่า “not in a mood ว่ะ” แหม่.. ติสท์จริงแม่คุณ
ส่วนภูทอก กับ แก่งคุดคู้ พี่ที่อยู่แถวนั้นเค้าบอกว่า ฝนตกมันไม่น่าเที่ยวเท่าไหร่ เลยตัดออกไป
- DAY 1 -
ถึงเชียงคานประมาณเกือบๆ บ่ายสามโมง เราพักที่โรงแรมชมโขง ซอย 7 ล่าง (ซอยล่างคือเส้นถนนคนเดินค่ะ ส่วนบนก็ต้องเดินขึ้นไปอีก เป็นฝั่งที่ไม่ติดแม่น้ำโขง)
ห้องพักขนาดพอดี สีสวยน่ารักดี เหมาะกับชะนีมุ้งมิ้งแบบเราๆ (หรา) คืนละ 600 มีwifi น้ำอุ่น ทีวี ครบหมดค่ะ
อันนี้แบบถ่ายห้องข้างๆที่เค้ายังไม่เช็คอินมา เพราะลืมถ่ายห้องตัวเอง แฮะๆ
พอเช็คอิน เก็บของเรียบร้อย ที่แรกที่เรามุ่งหน้าไปคือ สุวรรณรามา ซอย 9 บน
เป็นร้านกาแฟที่แต่เดิมเป็นโรงหนังเก่า บรรยากาศก็จะวินเทจๆ ในร้านก็จะเต็มไปด้วยของวินเทจ
เรากับเพื่อนสั่งโซดากันคนละแก้ว ทานกับไอติมทอด ค่าเสียหาย 85 บาท
พอทานเสร็จ ถ่ายรูปกันจนพอใจ ก็ออกตะลุยถนนคนเดินกัน
นอกจากเซเว่น โลตัส ธนาคารที่นี่ก็ทำเป็นแบบไม้ด้วย
ถนนคนเดินวันแรก( ซึ่งเป็นวันหยุดยาววันแรก) คนยังไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ค่ะ เดินดูของกินของฝากชิวๆ
ตัวนี้แอบถ่ายมา แต่ไม่ได้ชิม
เจอร้านรับทำเสื้อ เดินเข้าไปเพราะแมวน่ารัก สรุปได้เสื้อออกมากันคนละตัว ตัวละ 200 คิดคำ คิดแบบเองได้ แถมเสื้อก็ใส่สบายมากกกกก วันต่อมาเลยมาจัดเป็นของฝากกันอีกคนละ 2-3 ตัวเลยทีเดียว
แมวกวักขี้เซา
นั่งรอเสื้อนานจนเริ่มหิว เลยตามลายแทงไปทานมื้อเย็นที่ร้าน ศรีพรรณโฮมสเตย์ อยู่ระหว่างซอย 13-14 เส้นถนนคนเดินเลย
บรรยากาศดีงาม พระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า เทเลทับบี้บอกลา (ผิด!)
เมนูแรก สั่งตามรีวิวในพันทิป .. ยำผักกูด
ค่าเสียหาย 70 บาท ผักกูดกรุบๆ ดี แต่ยำรสไม่ค่อยจัด ให้ 3/5
เมนูต่อไป ปลาคังลวกจิ้ม
น้ำจิ้มเปรี้ยวไปหน่อย แต่เนื้อปลาสดดี ราคา 120 บาท เอาไป 3/5
เมนูสุดท้าย เห็ดหอมย่างซีอิ๊ว
(ตัวขวาสุด ลืมถ่ายรูปเดี่ยวๆมา)
เจ้านี่สั่งแบบแรนด้อม แต่ปรากฏว่าอร่อยมากกก เห็ดนุ่มมาก ไม่เหนียวเลย จิ้มกะซอสพริกที่ให้มาจัดว่าเด็ด เอาไป 5/5 เลย
รีวิวรวมๆร้านนี้: อาจจะเป็นเพราะเราชินกับอาหารรสจัดๆ มาตลอด ร้านนี้เลยอาจจะรสอ่อนไปสำหรับเรา แต่ถ้าไม่ชอบอาหารรสจัดมากก็น่ามาลองค่ะ โดยเฉพาะเห็ดหอมนี่เราชอบมากๆ
เสร็จแล้วก็เดินช็อปปิ้ง ดูของนิดหน่อย แต่อิ่มมากเลยไม่ได้กินอะไรเพิ่ม เป็นอันจบการรีวิวของกินวันแรกค่ะ ^^
- DAY 2 -
จากแพลนเดิมคือขึ้นภูทอก แต่พี่ที่ถนนคนเดินบอกว่าช่วงนี้ไม่มีหมอก เลยเปลี่ยนเป็นตักบาตรข้าวเหนียวที่หน้าโรงแรมแทน
ตื่นมา 5.30 ฝนตกปรอยๆ ลงมาดูหน้าโรงแรมก็ยังเห็นมีคนรอใส่บาตรอยู่ เลยซื้อกับข้าวใส่บาตรสองชุด พอหกโมงเช้า พระก็มาพอดี
พอสายๆ ฝนเริ่มหยุด เลยออกมาหาข้าวเปียกทานที่ถนนคนเดินค่ะ
เจอร้าน งอยโขง อยู่ซอย 10 ล่าง คนแน่นร้านเลยคาดการณ์กันเองว่าจะอร่อย 5555
เราสั่งไข่กระทะ กับข้าวเปียกเส้น ส่วนเพื่อนสั่งเกาเหลา กับไข่กระทะเหมือนกัน
- เกาเหลากับข้าวเปล่า ค่าเสียหายอยู่ที่ 45 บาท เกาเหลาเพื่อนบอกอร่อย ให้ 4/5
- ข้าวเปียกเส้น 40 บาท เส้นนุ่มดี ไม่เหนียวจนเกินไป ให้ 4/5
ทั้งเกาเหลากับข้าวเปียกใส่หมูเด้ง ที่เรากับเพื่อนเห็นพ้องต้องกันว่าเด็ด!
- ส่วนไข่กระทะ 30 บาท เครื่องเยอะดี แต่น้ำมันเยิ้มไปหน่อย เอาไป 3/5
ก่อนมาร้านข้าวเปียก เราไปร้านสังขยาคุณแม่ ตามคำรีเควสของคุณเพื่อน
ร้านน่ารักดีค่ะ แต่ไม่มีที่นั่งนะ Take home only!
พี่เจ้าของร้านบอกว่าถ้าจะซื้อเป็นของฝากแนะนำให้สั่งไว้เลย เพราะของจะหมดไวมาก เลยสั่งกันไว้ล่วงหน้า 5 กล่อง แล้วก็ซื้อออกมาชิมอีกกล่องนึง
มานั่งกินที่ร้านข้าวเปียกมันนี่แหละ 55555
กัดเข้าไปคำแรก หื้มมมมมม โอ้มายก็อด มันดีมากค่ะ! TT ขนมปังฟูๆ นุ่มๆ สังขยาละมุนๆ ได้กลิ่นใบเตยหอมๆ
ฟินมาก เอาไปเลย 6/5
แพ็คเกจจิ้งน่ารักด้วยนะเออ
พออิ่ม แพลนต่อไปของเราคือไปวัดภูควายเงินค่ะ ไปถวายสังฆทาน และไปเล่นกับกระต่าย
วัดภูควายเงินจะอยู่ห่างจากถนนคนเดินออกมาประมาณ 10 กม.ค่ะ ทางไปวัดส๊วยสวย เพราะวัดอยู่บนเขาด้วย
แต่ทางเข้าวัด 2 กม. สุดท้ายนี่ชันมาก เลเวลการขับรถเราอัพขึ้นมาอีกประมาณ 50 เลเวลตรงทางนี้ T T
ถึงแล้ว วัดภูควายเงิน ไม่มีควาย มีแต่กระต่าย 55555 ด้วยความที่วัดอยู่บนเขาเลยวิวสวยมาก
สักการะพระพุทธบาท และถวายสังฆทานเรียบร้อย
กระต่ายที่นี่เชื่องมากค่ะ ไม่กลัวคนด้วย เค้าเข้ามารุมเรา พอเห็นว่าเราไม่มีอาหารก็โดดดึ๋งๆ หนีไป 555
แต่อาหารกระต่ายเห็นบอกว่าซื้อได้ที่ปากทางเข้านะคะ
อิ่มบุญแล้ว แต่ท้องยังไม่อิ่ม ก็ไปตระเวนหาของกินกันต่อ.. แต่ด้วยความที่ตอนเช้าซัดโฮกกันไปเยอะ -.- ก็เลยยังไม่หิวมาก ไปหาอะไรเบาๆ ทานกันดีกว่า
มาจบที่ร้าน พิชญาคาเฟ่ อยู่ระหว่างซอย 13-14 ล่าง
ทาด๊า .. ! เมนูเบาๆ ของพวกเราสองคน
- Hokkaido Cheesecake เจ้าตัวนี้มาลองตามรีวิวอีกแล้ว ราคา 80-85 บาท จำไม่ค่อยได้
อร่อยมากกกก ไม่ผิดหวังเลย ครีมชีสหอมๆ ไม่เลี่ยน เนื้อเนียนๆ ฟินๆกันไป เอาไปเลย 5/5
- ชาเขียวเย็น อันนี้ก็ถูกใจเราอีกแล้ว ชาเขียวไม่หวานกำลังดี หอมด้วย ให้ 4/5
- ชา eyes wide (ตัวนี้มาทีหลังเลยไม่ได้ถ่ายรูป) เจ้าของร้านบอกว่าสั่งมาจากเยอรมัน เพื่อนเราที่เป็นคอชาบอกว่าหอมมากกกกกกก หอมกว่า Twinnings อีก ให้ 10/5 เลย
- Panacotta ตัวนี้เฉยๆ ข้างบนเป็นแยมส้ม ข้างล่างเละไปหน่อย แต่ทานเย็นๆ แล้วสดชื่นดี ให้ 3/5
จำราคาไม่ได้เป๊ะๆ แต่สี่ตัวรวมกันอยู่ที่ 300 บาทค่ะ
พอเจอของหวานๆ บวกลมเย็นๆ ตอนบ่ายๆ ก็ง่วงสิคะ เลยกลับไปงีบกันก่อน พอเย็นๆ ก็ออกมาหาอะไรกิน(อีกแล้ว)
มื้อเย็นวันนี้ไปที่ร้าน ลุกโภชนา ค่ะ เห็นรีวิวเยอะ แถมเป็นร้านเก่าแก่ของที่นี่ด้วย ไม่ลองได้ยังไงล่ะ
วันนี้สั่งมา 3 เมนูค่ะ มี ต้มแจ่วปลา, ลาบปลาคัง และไข่ตุ๋น
เมนูแรก ต้มแจ่วปลา – ไม่แน่ใจว่าปลาอะไร แต่ชิ้นใหญ่มากกกก ปลาเนื้อแน่น ส่วนน้ำซุปก็แซ่บๆ ถูกปากคนชอบอาหารรสจัดแบบเรา เมนูนี้ให้ 4/5 เลยค่ะ
ต่อมา ลาบปลาคัง – อันนี้อร่อยมากกกก ชอบมาก รสชาติเข้มข้น หอมมะนาว ปลาบปลื้มกันไป เอาไป 5/5 เลย
เมนูสุดท้าย ไข่ตุ๋นทรงเครื่อง – ไข่ตุ๋นเนื้อแน่นๆ หอมๆ กลมกล่อม เด็กๆ น่าจะชอบ ให้ 3/5
ค่าเสียหายรวมๆ ประมาณ 400 นิดๆ ค่ะ
รีวิวรวมๆ ร้านนี้: ค่อนข้างถูกจริตเราเลยค่ะ รสชาติจะจัดๆ แซ่บกว่าร้านเมื่อวาน เพราะเป็นร้านท้องถิ่นด้วยเนอะ เปิดมานาน รสชาติเลยอาจจะถูกปากชาวอีสานมากกว่าหน่อย
ทานเสร็จแล้วก็ไปหาอะไรหวานๆ ล้างปาก
วันนี้ถนนคนเดินคนเริ่มหนาแน่นแล้ว เลยหลบฝูงชนไปนั่งจิบโซดาเย็นๆ ในร้านสองผัวเมียเกสต์เฮ้าส์ ร้านนี้มีมุมถ่ายรูปสวยๆ ด้วย
เห็นมีโต๊ะว่าง พอเดินเข้าไป อ้าว มีเจ้าที่นอนเฝ้าอยู่ 55555 ต้องนั่งแอบๆ เดี๋ยวเจ้าที่จะตื่น
สั่งโซดามาคนละแก้ว แต่นั่งแช่เป็นชั่วโมง ต่อ wifi ร้านเค้าดูหนังเฉยเลย
ลืมถ่ายรูปโซดามา มัวแต่เซลฟี่กะฉาก
ปล. ร้านนี้ไม่มีเมนูขนมนะคะ มีแต่เมนูเครื่องดื่ม
พอสองทุ่ม คนเริ่มบางลงแล้ว เลยกลับไปเดินเล่นที่ถนนคนเดิน ได้เจ้านี่มา
ปาท่องโก๋ยัดไส้ สูตรลุงมุข – อันนี้แอบชิมของเพื่อนนิดเดียว 555 แต่อร่อยดีค่ะ แป้งไม่แข็งเหมือนปาท่องไก๋ทั่วไปที่เคยทาน เข้ากะไส้สังขยาข้างใน
แต่มันร้อน ต้องค่อยๆทาน ไม่งั้นลวกปาก ให้ 4/5 ค่ะ
ค่าเสียหาย 30 บาท
เดินได้แป๊บบบเดียว ฝนก็เริ่มลงเม็ด เลยกลับไปพักผ่อนตามอัธยาศัยที่โรงแรมค่ะ
- วันสุดท้ายเดี๋ยวมาต่อนะคะ ตัวอักษรเกินแล้ว