เมื่อคนในวงการบันเทิงท่านหนึ่งพาดพิงถึงเราในรายการโดยที่มันไม่เป็นความจริงเลย -..-

กระทู้สนทนา
ต้องขอออกตัวก่อนว่า จุดประสงค์ในการตั้งกระทู้นี้คือ เจ้าของกระทู้ต้องการทราบความคิดเห็นที่แตกต่างเกี่ยวกับเรื่องราวดังกล่าว ต้องการแชร์ประสบการณ์ที่พบเจอ ไม่ได้มีความต้องการที่จะทำให้ใครได้รับผลกระลบในแง่ลบหรือเสื่อมเสียชื่อเสียง โดยเจ้าของกระทู้จะพยายามให้ข้อมูลส่วนตัวให้น้อยที่สุด

อันที่จริงคนในวงการบันเทิงท่านนี้ได้ให้สัมภาษณ์พาดพิงถึงเราในรายการหนึ่งมานานแล้ว แต่เราไม่อยากคิดเองว่าเป็นเราเพราะสิ่งที่เขาพูดในรายการยังไม่ชัดเจน แต่เมื่อเขาได้ให้สัมภาษณ์ในรายการล่าสุดทำให้เรามั่นใจได้ร้อยเปอร์เซ็นต์เลยว่าเขาพาดพิงถึงเรา ซึ่งคนในวงการบันเทิงท่านนี้ เราไม่ขอเรียกเขาว่าดารา เพราะเขาไม่ได้ออกสื่อบ่อยนักและไม่ได้แสดงละครหรือภาพยนตร์เป็นหลัก แต่ก็มีผลงานด้านการร้องเพลงที่เป็นที่รู้จักกันเฉพาะกลุ่ม

เรารู้จักกับเขาอย่างเป็นทางการครั้งแรกเมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้วโดยการแอดเฟรนด์ในเฟสบุ๊ค (ซึ่งก่อนหน้านั้นเราเคยไปดูเขาร้องเพลงที่สถาบันเทิงแห่งหนึ่ง และรู้สึกชื่นชมในความสามารถของเขา) จนกระทั่งได้ส่งข้อความผ่านทางเฟสบุ๊คคุยกันในฐานะของแฟนคลับและผู้มีชื่อเสียง ซึ่งช่วงแรกลักษณะการคุยเป็นปกติ เขาก็ถามสารทุกข์สุขดิบ ประวัติ อยู่ที่ไหนอย่างไร เราก็รู้สึกดีที่คนที่เราชื่นชอบแสดงความเป็นกันเองกับเรา ซึ่งตอนนั้นเราอยู่ต่างประเทศ และเขาได้เอ่ยปากชักชวนให้ไปทานอาหารด้วยกันหลังจากกลับมาที่ประเทศไทย ซึ่งเราก็เคยไปทานอาหารกับเขาหลายครั้ง

เขาขอเบอร์โทรศัพท์และไลน์เพื่อสนทนากัน ซึ่งเราก็ยิ่งรู้สึกว่าเขาให้เกียรติเรามากๆ ในฐานะแฟนคลับคนหนึ่งมันเป็นอะไรที่เรารู้สึกพิเศษสุดๆ วันหนึ่งหลังจากที่รู้จักเขาประมาณ 2-3 เดือนเขาก็เอ่ยปากชวนไปเที่ยวพัทยาด้วยกัน 2 วัน 1 คืน เขาบอกว่าเขาอยากพักผ่อนต้องการคนไปเป็นเพื่อน เราก็ตอบตกลง และได้เดินทางไปกับเขาโดยเขาเป็นคนขับรถยนต์ส่วนตัวของเขาเอง ก็เที่ยวตามปกติและพักในที่พักแถวหาดจอมเทียนอยู่หนึ่งคืน และเดินทางกลับในวันรุ่งขึ้น หลังจากนั้นเราก็ไปเขาร้องเพลงตามปกติจนรู้สึกเหมือนเป็นพี่น้อง

แต่พักหลังเราก็ไม่ค่อยได้ไปดูเขาร้องเพลงและติดต่อเขาน้อยลง ไม่นานก็ได้ข่าวเขาทางทีวีว่าเขาเปิดตัวแฟน ซึ่งเราได้ข่าวก็ยินดีแต่สิ่งที่เขาให้สัมภาษณ์กลับทำให้เรารู้สึกหมดศรัทธาในตัวเขาไปเลย แต่ยังไม่ได้รู้สึกเดือดร้อนอะไรเท่ากับที่เขาให้สัมภาษณ์พาดพิงถึงเราในรายการล่าสุด

ตอนเปิดตัวแฟนเขาให้สัมภาษณ์ในหลายรายการว่าเขากับแฟนคนนี้คบกันมาหลายปีแล้วถึงเปิดตัว แต่ข้อมูลที่เราได้รับจากเขาก่อนหน้านี้คือ เขาโสด ไม่มีคนคุย (แต่ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดที่เขาบอกเราแบบนั้น หรือในสัมภาษณ์ไม่ตรงกัน เราก็ยังรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องของเขา )

จนกระทั่งเวลาผ่านไปเกือบปี เขาก็พาแฟนคนนี้ออกงาน กอปรกับเป็นปีสุดท้ายที่เราเรียนในมหาวิทยาลัยจึงไม่มีเวลาว่างและขาดการติดต่อกับเขาในที่สุด และมาพบเมื่อไม่นานมานี้ว่าเขาอันเฟรนด์เราบนเฟซบุ๊ค (ตรงนี้งงมากว่าด้วยเหตุผลอะไร?) จนกระทั่งเมื่อหลายวันก่อนบังเอิญได้ดูบทสัมภาษณ์ของเขาล่สุดในรายการหนึ่งซึ่งเป็นรายการเปิดใจ ฟังไปถึงพาร์ท 2 มาสะดุดตรงที่เขาให้ข้อมูลว่า (ขอแยกเป็นประเด็น ซึ่งเราฟังทุกประเด็นและรู้เลยว่าเขาหมายถึงเราแน่ๆ)

เขาเคยเกือบเลิกกับแฟนคนนี้มาแล้วครั้งเพราะ
1. วันหนึ่งเขาต้องไปโชว์ตัวที่สัตหีบและพักที่พัทยา (ตอนที่เขาชวนเรา เขาชวนว่าไปพักร้อนที่พัทยาด้วยกัน แต่ในวันที่เดินทางเขากลับอัพรูปลงบนเฟสบุ๊คและข้อความว่าเขาไปทำงานโชว์ตัวร้อเพลงที่สัตหีบ ซึ่งจริงๆแล้วเขาไม่ได้ทำงานเลย และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาไปเที่ยวแต่ลงรูปว่าไปโชว์ตัว)

2. คืนก่อนหน้านั้นแฟนเขาเห็นข้อความเด้งขึ้นมาว่า "ตกลงพรุ่งนี้เราไปพัทยาด้วยกันใช่ไหม" (เรานี่แหละเป็นคนส่งข้อความนี้ไปถามเขาเอง เพื่อคอนเฟิร์มว่าเขาจะเดินทางวันรุ่งขึ้น แต่เขาก็โทรกลับมาบอกว่า ให้พิมพ์ไลน์ไปบอกเขาใหม่ว่าไม่ไปแล้ว แต่ยังไปกันเหมือนเดิมนะ เพราะคนที่ตามจีบเขามานาน คนนี้คอยช่วยเหลือเขาเรื่องเงิน เรื่องค่ารักษาพยาบาล คนนี้เห็นข้อความของเราแล้วไม่พอใจมากๆ ให้เราแกล้งพิมพ์ว่าไม่ไปแล้ว เพื่อที่เขาจะได้ไม่มีเรื่องผิดใจกับคนนี้)

3. คนที่ส่งข้อความมาเป็นคนที่จีบเขามาก่อนแฟนประมาณ 2 ปี ตอนนี้อยู่อเมริกา ได้ทุนของxxx เขากลับมาเมืองไทยมาเรียนต่อ (ตรงนี้แหละที่ทำให้เรามั่นใจว่าเป็นเราร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะตอนแรกที่รู้จักกับเขา ที่แอดเฟสบุ๊คเขาไป เราอยู่อเมริกา และไม่ได้ทุนของxxx ที่เรียนอยู่ด้วย ไปด้วยทุนของตัวเอง แต่เขาเข้าใจว่าเราไปเรียน ซึ่งเราก็อธิบายและบอกเขาแล้วตอนนั้นว่าเราไม่ได้ไปเรียนนะ เราไปเที่ยวและไปทำงาน และจะกลับมาเรียนต่อเพราะไปช่วงซัมเมอร์)

4. อีนั่น ติดตามเฟสบุ๊ค รู้ด้วยว่าเขามีแฟนแล้ว (นี่เป็นอีกจุดหนึ่งที่ทำให้เรารู้สึกขึ้น เพราะมีคำถามว่าในรายการสัมภาษณ์พูดว่า " อีนั่น " เขาเองแหละที่เป็นคนเปิดเฟสบุ๊คแฟนเขาให้ดู โดยตอนนั้นเขาบอกว่าคนนี้เป็นน้องชายของเขา เป็นญาติกัน ไปเที่ยวที่โน้นที่นี่มา สนิทกันเลยถ่ายรุปลงเฟสบุ๊คด้วยกัน)

จากบทสัมภาษณ์ในรายการล่าสุด และจากที่เขาบล็อคเราบนเฟสบุ๊คทำให้เราเชื่อว่าเขาพาดพิงถึงเรา เพราะสิ่งที่เราได้รู้ได้เห็นตอนที่อยู่กับเขากับสิ่งที่เขาให้สัมภาษณ์ออกสื่อมันคนละเรื่องกันเลยทีเดียว น่าเสียดายที่ไม่สามารถเห็นข้อความที่เขาส่งมาทางเฟสบุ๊คมาได้เพราะเขาบล็อคไปแล้ว ข้อความทางไลน์เราก็ลบแชทไป เพราะไม่นึกว่าเขาจะเป็นคนแบบนี้

เราไม่ได้ต้องการให้สืบเสาะหาความจริงว่าคนในวงการบันเทิงท่านนี้เป็นใคร ไม่อยากให้เขาต้องได้รับผลกระทบในแง่ลบหรือเสื่อมเสียชื่อเสียงหรืออย่างไร แต่เราอยากแชร์ประสบการณ์ที่พบเจอ และอยากทราบความคิดเห็นที่แตกต่างเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า ดารานักแสดง หรือคนในวงการบันเทิง (บางคน) ต้องสร้างภาพอัพรูปว่าไปทำงานที่โน้นนี่ทำตัวว่ายุ่ง แต่จริงๆแล้วไม่มีงานเลย ต้องให้สัมภาษณ์แบบเกินจริงเพื่อให้ตนเองดูดี หรือที่สำคัญคือต้องบิดเบือนความจริงกันถึงขนาดนี้เลยหรือ?

รู้สึกเสียความรู้สึกมากๆ ทั้งๆที่เราก็นับถือและชื่นชมเขาในฐานะของแฟนคลับ-ผู้มีชื่อเสียง และในฐานะของพี่-น้อง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่