The boy next door วุ่นรักหนุ่มข้างห้อง Ep1-> (รับรองความจิ้น มีใครอยากได้ไปทำเป็นหนังสั้นหรือซีรีย์ติดต่อมาได้นะ55)

นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องสมมติแต่ก็มีประสบการณ์จริงของผมบ้างเล็กน้อย แอร้ย เรื่องภาษาผมไม่ซีเรียสนะครับ ผมอยากให้อ่านแล้วรู้สึกเรียลๆ ส่วนภาพประกอบผมชอบสามคนนี้ส่วนตัว ถ้าหากมันละเมิดยังไงรบกวนบอกด้วยนะครับจะได้ลบออก ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านครับ


เพื่ออรรถรสในการอ่าน กรุณาเปิดเพลงไปด้วย555
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


The boy next door Ep1-3
เรื่องสั้นจากโทรศัพท์
‪#‎The‬ boy next door ep1
ชีวิตมหาลัยปีแรกคงจะเป็นอะไรที่ตื่นเต้น และเป็นสิ่งที่ทุกคนรอคอย แต่สำหรับผมแล้ว มันกลับเป็นแค่เรื่องเล่าที่น่าเบื่อ ผมไม่ชอบการเข้าสังคม และกิจกรรมเข้าจังหวะ มันแปลกด้วยหรือ ที่วันหนึ่งถ้าผมจบไปแล้วต้องแยกย้าย โดยที่ไม่มีใครสนใจใครทั้งนั้น และนี่เปน็อีกเหตุผลที่ผมเลือกมาอยู่คนเดียวที่หอนอก ตึกสีชมพูเก่าๆที่มีคราบนำนำ้ฝนเปรอะย้อย สีซีดจากการถูดแดดเลียอย่างเห็นได้ชัด โชคดีที่มีลิฟท์เพราะห้องของผมอยู่ชั้น4 ห้อง413 สภาพภายในห้องอบอวลไปด้วยกลิ่นฟอนิเจอร์ไม้เก่าๆ กลิ่นมันหอมหวลแต่ผมได้กลิ่นแล้วขนลุกทุกที
"โทษครับ" เสียงทักทายดังมาจากหน้าประตูห้องข้างๆ ชายที่กำลังยืนจับลูกบิดอยู่ยิ้มให้ผม หน้าตาและฟันดูสะอาดสะอ้าน ผิวพรรณดูดีเหมือนลูกคุณหนู ริมฝีปากสีชมพูบางๆของเขาเป็นสิ่งแรกที่ผมสะดุดตา มันดูดึงดูดมากสำหรับผม
"ครับ" ผมตอบกลับแบบส่งๆพร้อมยิ้มมุมปากให้เขา
"นายอยู่ห้องนี้หรอครับ"
"ใช่เลย ห้องนี้"
ผมเห็นท่าทางเขายิ้มแปลกๆพร้อมทำสีหน้าเหมือนจะบอกอะไรผมสักอย่าง
"ห้องนี้เค้าว่ากันว่า.......ผีดุ"
"เห้ย " ผมเผลออุทานออกมาด้วยความตกใจ
"ล้อเล่นครับ...คิกคิก" เขาหัวเราะคิกคักอย่างพอใจ
"เพื่อนเล่นหรอ" ในตอนนั้นผมไม่ตลกกับสิ่งที่เขาพูดเท่าไรนัก บางทีนี่อาจจะเป็นการทำความรู้จักกันแบบใหม่ หรือจริงๆแล้วผมอาจจะรู้จักหมอนี่ไปแล้วด้วยซำ้
"เอ้อ เราชื่อวิน นายชื่อไร'' เขาถามผมด้วยดวงตาเป็นประกาย
"จะรู้ไปทำไมอ่ะ"
สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันทีที่ผมพูดแบบนั้น คงจะพอเดาออกตอนที่คุณโดนใครซักคนด่าว่า"เผือก"
"ล้อเล่น...ชื่อ ไฟ ครับ" ผมแสยะยิ้มอย่างร้ายกาจให้เขาทันที
"ได้ทีเอาคืนเลยนะ "
จริงๆแล้ว ผมไม่รู้ว่าผมยิ้มแบบนี้ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่. แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้ ผมกำลังยิ้มอยู่"
"เวลานายยิ้มก็ดู...เอ่อ"
"อะไร"
"อ่อเปล่า...เราเข้าห้องก่อนนะ" เขากล่าวก่อนที่จะแทรกตัวเองเข้าไปในช่องประตูที่เปิดออกอย่างแคบๆ
วินทิ้งคำถามไว้ในหัวผม เวลาผมยิ้มมันเป็นยังไงหรอ แต่ผมไม่ใส่ใจหรอก ไม่ใช่คำถามที่ต้องไปสนใจอะไร
เวลาทอดตัวลงบนที่นอนนิ่มๆ กับผ้าปูที่ไม่มีรอยย่นที่มันดีเสียจริง วันนี้ผมเหนื่อยล้ากับการขนของเต็มที ตาของผมหนักอึ้ง มันค่อยๆปิดลงอย่างช้าๆ พรุ่งนี้เป็นการเริ่มต้นสำหรับชีวิตมหาลัย หวังว่ามันคงเป็นวันที่ดีนะ

*********************************************************************************************************
Eric Loon เรื่องสั้นจากโทรศัพท์
#The boy next door ep2
เมฆครึ้มบนท้องฟ้ากำลังตั้งเค้า ผมปราถนาให้มันตกหลังจากที่ผมกลับถึงหอแล้ว แต่ละอองฝนอันเย็นฉำ่ก็โรยตัวลงมาอย่างทันทีทันใด และกลายเป็นฝนห่าใหญ่ในที่สุด อันที่จริงผมก็ไม่คิดว่าคำอธิษฐานมันจะเป็นจริงหรอก ในขณะที่ผมยืนหลบอยูที่ป้ายรถเมยํในมหาลัยเพียงลำพัง ก็มีเสียงฝีเท้าวิ่งมาจากทางเท้าข้างๆ.
"ชิ๊บหายละ เปียกหมด"
เสียงนั้นฟังดูคุ้นหู จนผมต้องหันมองเขาอย่างฉับพลัน
ชายผิวขาวเหลืองออกแทนรูปร่างสูงโปร่ง ที่เสื้อผ้าเปียกปอนจากการตากฝน กำลังสะบัดเสื้อที่เปียกแนบเนื้อจนเห็นลอนกล้ามงามๆของเขา และเขาหันมาสบตาผมอย่างไม่ตั้งใจ
"เห้ย นายคณะเดียวกะเรานิ"
"หืม" ผมมองเขาอย่างงงๆ
"นายชื่อไฟช่ะ เราจำได้"
เขาพูดพลางเดินมานั่งที่ว่างข้างๆด้วยตัวที่เปียกโชก แต่นั่นก็ไม่ทำให้ความดูดีของเขาลดลงแม้แต่น้อย ตาของเขาหวานเยิ้มและที่สำคัญเขามีลักยิ้ม
"หืม.....อ่อใช่"ผมตอบเขาสั้นๆ
ถึงแม้จะแปลกใจเล็กน้อยที่เขาอุตส่าห์จำผมได้ แต่เรื่องของเรื่องคือผมกลับจำเขาแทบไม่ได้เลยนี่สิ ก็แน่ล่ะ ผมมันพวกไม่ชอบเข้าสังคม วันแรกที่มีการแนะนำตัวในห้องผมจำใครไม่ได้ด้วยซำ้
"เรา สายน้ำ" เขาพูดพลางยิ้มหวานให้ นั่นเป็นรอยยิ้มที่สามารถฆ่าใครซักคนให้ตายตรงนั้นได้เลย
"ออ ยินดีที่รู้จักนะ สายน้ำ"
"เหมือนกัน"
ผมก้มหน้ามองตำ่โดยที่ไม่สบตาเขา ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจการกระทำของตัวเอง
"นี่นายอยู่หอไหน"
"เราอยู่หอนอกอ่ะ"
"บอกชื่อหอได้ป่ะ" เขาทำท่าทางเหมือนเด็กที่อยากรู้อยากเห็น
"หอสีชมพูอ่ะ จำชื่อไม่ได้" ผมตอบแบบส่งๆโดยพยายามมองหน้าเขาให้น้อยที่สุด และได้แต่คิดในใจว่า"คนเชี้ยอะไรวะขนาดเปียกยังดูดี"
"เห้ย.. หอเดียวกันเลย"ท่าทางเขาดูตื่นเต้นยิ่งกว่าตอนแรก
"เอ่อ....ห้องไหนอะ" เขายื่นหน้าเข้ามาใกล้ จนจมูกแทบจะชนหน้าผม
"ต้องบอกด้วยหรอ" ผมไม่รู้ว่าควรตอบดีไหม
"บอกดิ มีเพื่อนอยู่หอเดียวกันจะได้ไม่เหงาไง น่านะ" สายนำ้ยื่นมือมาจับที่แขนผมแล้วเขย่า (คนอะไรวะถึงเนื้อถึงตัวชิ๊บหาย)ผมนึก
"413"
"เห้ยจริงดิ นี่อยู่412"
"หรอ " เท่าที่ผมจำได้เป็นห้องที่อยู่ตรงข้ามเยื้องกับห้องผม แต่นั่นเป็นเรื่องที่ผมควรดีใจไหม
"งั้นก็กลับพร้อมกันนะ"
เขาพูดพลางสะบัดหัวที่เปียกอย่างแรง
"โทษที"
"อืม ไม่เป็นไร...มั้ง" ผมตอบในขณะที่กำลังปาดหยดนำ้ที่ติดอยู่ตรงแก้มออก ก่อนที่จะล้วงผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋ากางเกงออกมา ผ้าเช็ดหน้าลายตารางผืนเล็ก ขณะที่ผมกำลังจะใช้มันเช็ดหน้าของตัวเอง ผมก็เหลือบไปเห็น ผมเป็นลอนเปียกของเขา อันที่จริงก็เปียกทั้งตัว มันเหมือนกำลังมองดวงตาสีดำเป็นประกายของเด็กๆ ผมคิดว่าสายนำ้คงต้องการมันมากกว่าผม ผมกลับยื่นมันให้เขาแทน ก่อนที่จะทันรู้ตัวเสียอีก และนั่นทำให้ผมรู้สึกถึงการใส่ใจคนอื่นเป็นครั้งแรก ซึ่งมันขัดกับตัวตนผมอย่างยิ่ง แต่ผมก็ไม่ใช่คนใจดำอะไรหรอกนะ
"เห้ย ขอบคุณนะ"
เขากล่าวก่อนจะละเลงผ้าบนศีรษะที่เปียกชุ่ม
"ฮัดชิ่ว" เสียงจามดังขึ้นก่อนที่ผมจะพบว่าผ้าเช็ดหน้าของผมกำลังกลายเป็นกระดาษทิชชู่
"เดี๋ยวซักมาคืนนะ แหะๆ" เขายิ้มแหยะๆกับจมูกที่แดงกำ่และเสียงฟึดฟัด
"นายเอาไปเหอะ เราให้"

**********************************************************************************************************
เรื่องสั้นจากโทรศัพท์
#The boy next door ep3
"เราว่าเราคุยเรื่องนี้กันจบละนะ"
เสียงตะโกนของชายหนุ่มห้องติดกับผมกำลังดังทะลุผ่านกำแพงเข้ามา ในขณะที่ผมพึ่งแยกกับสายนำ้ตรงหน้าห้องเมื่อสักครู่ ผมเงี่ยหูฟังเหมือนคนอยากรู้อยากเห็น แต่มันคงจะไม่ใช่เรื่องที่ทำให้ผมสนใจถ้าหากมันไม่ได้ดังมาจากห้องของ วิน
ให้ตายสิ ผมไม่รู้ว่าผมกลายเป็นพวกชอบเผือกเรื่องชาวบ้านตั้งแต่เมื่อไหร่
"้เชี้ย กูบอกว่าจบก็คือจบดิ..."
ผมได้ยินเขาไม่คค่อยชัดเท่าไรนัก จับใจความไม่ได้หลายประโยค แต่นี่ดูเหมือนจะไม่ได้เป็นเรื่องดีสำหรับเขา
ก่อนที่เสียงโวยวายของเขาจะค่อยๆหายไป
"ก๊อกๆ" ...
เสียงเคาะประตูดังขึ้นมาแทน
"คร้าบบบบ" ผมขานรับเสียงนั้น ก่อนที่จะเดินไปเปิดมันออก
"ไฟ เราขอเข้าไปได้ป่ะ"
วินยืนอยู่ด้วยสีหน้าไม่ดีนัก ดูเหมือนตาของเขาจะแดงเหมือนกับคนที่กำลังจะร้องไห้หรืออะไรทำนองนั้น
"เป็นอะไรหลอวิน" ผมถามเขาแต่ก็ยังสองจิตสองใจที่จะให้เขาเข้ามา
"เดี๋ยวเล่าได้ปะ เราขอเข้าไปก่อน นะ ช่วยหน่อย"
ผมตัดสินใจให้เขาเข้ามาเพราะทนเห็นหน้าตาน่าสงสารของเขาไม่ไหว นั่นเป็นการให้คนแปลกหน้าเข้ามาในห้องเป็นครั้งแรก
วินนั่งลงตรงพื้น เขาเอาแขนวางทับกันบนที่นอนแล้วซุกหน้าลง
"นายโอเคเปล่า "
ท่าทางของเขาเหมือนกำลังจะร้องไห้ แต่เขาโกหกผมด้วยการยกนิ้วบอกผมว่าโอเค นั่นเป็นการโกหกที่ไม่เนียนเอาเสียเลย
"เอ่อ ใจเย็นนะ" ผมไปนั่งที่เตียงข้างๆเขา ผมก้มมองวินที่นั่งอยู่ที่พื้น ในตอนนั้นผมทำอะไรไม่ถูก ผมไม่รู้ว่าควรพูดยังไง บอกตรงๆนี่เป็นเคสแรกที่ผมต้องให้การปลอบ ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่ผมถนัดเท่าไรนัก การเข้าไปยุ่งเรื่องคนอื่น
ผมนั่งประสานมือและถูไปมา ผมกำลังคิดถึงวิธีที่จะช่วย.....
"เห้ย"
ทันใดนั้นเองวินก็เอาแขนเข้ามาโอบเอวผม และซุกหน้าลงที่ตัก ผมรู้สึกอุ่นที่ต้นขาเพราะใบหน้าของเขา ใบหูของวินแดงกำ่ แต่ไม่มีนำ้ตาซึมออกมาแม้แต่หยดเดียว
ในตอนนี้เองที่ผมเก้ๆกังๆไปไม่ถูก ผมไม่รู้จะวางมือไว้ตรงไหน วางบนผมนุ่มๆของเขาและลูบเบาๆน่าจะเป็นการกระทำที่ดีที่สุดในเวลาแบบบนี้ แม้ว่าผมจะเขินอยู่เล็กน้อย
"เห้ยไม่เป็นไรนะ"
คำปลอบใจของผมอาจไม่ใช่สิ่งที่สำคัญสำหรับเขาในตอนนี้ แต่ผมแค่ต้องพูดมัน ลูบหัวและปล่อยให้เขาอยู่แบบนั้นสักพัก
"ขอบคุณนะไฟ"
"อ่า ไม่เป็นไร ว่าแต่โอเคยัง"
"ดีขึ้น"
"อีกนิดนะ."เขากอดผมแน่นกว่าเดิมจนรู้สึกอึดอัด
"พอแล้วๆ" ผมตอบพลางดันตัวเขาออกมาจากตัก
" ขอโทษนะไฟ เมื่อกี้วินรู้สึกว่าวินไม่ไหวว่ะ วินแค่ต้องการกอดใครซักคน" เขากล่าวขณะก้มหน้า
"เราเนี่ยนะ"
"อืม ก็นายอยู่ใกล้สุด"
"ซะงั้น"
"วินขอบคุณไฟมากเลยนะ"
วินจับที่ตักของผมอีกครั้ง เขามองหน้าผมพลางยิ้มมุมปาก เขาดูเป็นผู้ชายที่ดูน่ารักกว่าปกติเวลายิ้มแบบนี้
"เห้ย ไม่เป็นไร เพื่อนกัน"
ผมยิ้มให้เขาแล้วเอามือตบตรงบ่าเขาเบาๆ
"ไฟอยากรู้มั้ย ว่าวินเป็นอะไร"
เขาถามผมด้วยแววตาเศร้า
"ถ้านายอยากเล่าก็ได้นะ แต่ถ้าไม่ก็เก็บไว้ เราเป็นพวกไม่ชอบยุ่งเรื่องคนอื่น"
"เราเลิกกะแฟน"
"เห้ย! " วินทำผมอึ้งไปชั่วขณะ ผมพึ่งรู้ว่าเขามีแฟน นั่นเป็นเรื่องใหม่สำหรับผม แต่ที่ใหม่กว่าคือพวกเขาพึ่งเลิกกัน
"แฟนเราเค้ามีคนอื่น"
ผมมองดูหน้าเขาที่กำลังกลับไปโหมดเดิม
"พอๆ ไม่ต้องเล่าละ ...ยิ่งเล่ายิ่งเศร้า"
"โอเค" วินยิ้มให้ผม เขาทำเหมือนไม่เป็นไร ก่อนที่จะลุกขึ้น ยืน
"ป่ะ"
"ไปไหน"ผมตอบด้วยสีหน้างงงวย
"ไปหาหนมกิน เดี๋ยวเลี้ยงเอง"
"เลี้ยงทำไม"
"ค่า..เอ่อ ค่ากอด" วินเอามือลูบที่หลังคอแล้วมองไปทางอื่น
"ก็วินไม่เคยกอดผู้ชาย"
"อ่าวววว"
ผมอุทานออกมาอย่างไม่ตั้งใจโดยไม่รู้สีหน้าของตัวเอง
เขาไม่ใช่อย่างที่คิด ผมไม่ได้แอบผิดหวัง หรือเสียใจ แต่ผมดีใจ ที่ผมกำลังจะกลายเป็นพวกชอบยุ่งเรื่องของคนอื่น ไม่ใช่สิ เป็นที่พึ่งพาต่างหากล่ะ
เรื่องสั้นจากโทรศัพท์
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่