สวัสดีค่ะ พบกับหนูบีเวอร์กันอีกแล้วนะคะ ช่วงนี้ยอมรับเลยว่ายุ่งสุดพลัง ใช้ชีวิตแบบโอเวอร์โหลดมากๆ
จนช่วงนี้ แทบไม่ได้มาอัพเดทสาระหรือมานั่งเม้าท์มอยกันเกี่ยวกับซีรีส์เกาหลีที่ออนแอร์ตอนนี้เลย (จะดูๆก็อย่างว่าค่ะ ร่างกายไม่สู้ หลับไปก่อนทุกที แล้วจะดูรู้เรื่องมั้ย ฮาๆๆๆๆ) พอสามารถเคลียร์ตัวเองจากงานได้จังหวะหนึ่ง เราเองก็ไม่รอช้าเลยค่ะที่จะรีบกลับบ้าน อาบน้ำ แล้วพุ่งใส่เตียงพร้อมซีรีส์เกาหลีในตารางที่อยากดู ซึ่งในตารางตอนนี้ของบี บีเลือกจับตามองละครพีเรียตแนวอิงประวัติศาสตร์ผสมแฟนตาซีของสถานีโทรทัศน์ MBC ของเกาหลี
ซึ่งจะเป็นเรื่องไหนไปไม่ได้เลยนอกจาก “จอมแวมไพร์แห่งรัตติกาล” หรือชื่อภาษาอังกฤษเท่ห์ๆอย่าง “Scholar Who Walks the Night”
แต่เรื่องที่บีจะมาคุยกันในวันนี้นั้น บีจะขอต่อยอดจากการชมละครด้วยการทำรีวิวแอพพลิเคชั่นในสมาร์ทโฟนแบบฉบับสายบันเทิงค่ะ (งงล่ะสิ!) มันจะไอทีก็ไม่ใช่ จะบันเทิงจ๋าก็ไม่เชิง
... เอาเป็นว่า แฟนๆคนไหนที่เป็นแฟนละครของนักแสดงหรือละครเรื่องนี้ ก็อยากให้ติดตามรีวิวฉบับนี้ของบีด้วยนะคะ
เกริ่นนำ ทำความรู้จักกันก่อนกับ “จอมแวมไพร์แห่งรัตติกาล”
หากเป็นแฟนตัวยงของซีรีส์เกาหลี ถ้าเรามองเทรนด์ของการทำละครในช่วงที่ผ่านมานั้น อุตสาหกรรมละครเกาหลีมีการพัฒนาแนวการเขียนหรือสร้างละครเหมือนเป็นธีมประจำปีก็ว่าได้ค่ะ ในยุคหนึ่งเมื่อสักราว 2-3 ปีก่อนนั้น ละครเกาหลีที่จ่อคิวออนแอร์จะเป็นปีของ “ละครแพทย์” ไม่ว่าจะเป็นละครพีเรียตเอย หรือแนวดราม่าหรือคอมเมดี้ก็ดี จนกระทั่งมาถึงยุคของ “ตัวละครเอกมีโรคประจำตัวแปลกๆ” และตอนนี้ ละครเกาหลีก็มาถึงจุดที่ “ตัวละครเอกไม่ใช่คนธรรมดา” ธีมนี้มีมายาวนานตั้งแต่สายมนุษย์ต่างดาวอย่าง “My Love From The Star” จนมาถึงปีนี้ที่ธีมการทำละครต้องยกให้กับ “แวมไพร์” เพราะเราๆก็ได้ดูแวมไพร์ในบทบาทต่างๆ ทั้งคุณหมอก็ดี นักสืบก็ดี หรือแม้แต่นักเรียนไฮสคูล มันเป็นยุคที่แวมไพร์จะเริ่มครองโลกละครเกาหลีไปซะแล้วล่ะค่ะ และแน่นอน “Scholar Who Walks the Night” ละครแนวพีเรียตอิงประวัติศาสตร์แฟนตาซีที่เราจะมาพูดกันในวันนี้ .. ก็ไม่พ้นสายแวมไพร์เช่นกันค่ะ
Scholar Who Walks the Night เป็นเรื่องราวในยุคสมัยโชซอนที่ผสมเรื่องความรัก การเมือง และแวมไพร์ เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างบัณฑิตหนุ่มที่ซ่อนสถานะแวมไพร์ของตัวเองเพื่อการทำภารกิจฆ่าแวมไพร์ผู้บ้าอำนาจและใช้เล่ห์เหลี่ยมบังคับข่มขู่บัลลังค์กษัตริย์ เพื่อให้บรรลุพระประสงค์ขององค์รัชทายาทในการกวาดล้างอำนาจมืดไปสู่การปกครองอย่างเป็นธรรมเพื่อประชาชน โชคชะตาทำให้ “คิมซองยอล” (อีจุงกิ) ถูกเปลี่ยนสภาพกลายเป็นแวมไพร์ผู้มีหน้าที่เป็นจอมแวมไพร์เพื่อไปต่อกรกับแวมไพร์ “ควี” และออกตามหาเบาะแสของ “ปมบันทึกของรัชทายาท”
ชีวิตที่เปลี่ยนไปแบบฉับพลันของคิมซองยอล ทำให้รักแรกและการตายของคนรอบตัวในชีวิตของเขาที่ไม่เป็นธรรมยังคงหลอกหลอนเขามาตลอด 120 ปี จนกระทั่งได้พบกับ “โจยางซอน” (อียูบิ) เด็กหนุ่มผู้ค้าขายหนังสือทุกชนิดที่มีความสามารถ ซึ่งจริงแล้ว เธอคืออดีตลูกสาวขุนนางผู้เคยให้ความช่วยเหลือองค์รัชทายาทในสมัยก่อน เมื่อตอนเด็ก ชีวิตเธอนั้นได้เจออุบัติเหตุครั้งใหญ่จนเธอไม่สามารถจดจำเรื่องราวในวันนั้นที่เธอต้องสูญเสียพี่ชายและพ่อของเธออย่างโหดเหี้ยมที่สุดได้เลย
ชะตากรรมของบ้านเมืองเมื่อมนุษย์ต้องสู้กับแวมไพร์ชั่วร้าย จากรุ่นสู่รุ่น ... ทุกตัวละครที่ต้องมาพบกันล้วนไม่ใช่เรื่องบังเอิญและนั่นก็ไม่ใช่ครั้งแรก แต่มันคือการเริ่มต้นของการต่อสู้ด้วยความกล้าของมนุษย์เพื่อเอาชนะอำนาจมืด และรวมไปถึงความรักที่เกิดบนทางเดินไปสู่อิสรภาพของความสงบสุขของประชาชนระหว่างมนุษย์ผู้มีจิตใจดีงาม แสวงหาความสุขในโลกแห่งความหวังในอนาคตและบัณฑิตรัตติกาล ผู้มีชีวิตเดียวดายและจมกับอดีต ซึ่งต่อจากนี้ ชีวิตของพวกเขาจะเริ่มวุ่นวายขึ้น เมื่อเธอกำลังจะรู้เรื่องความทรงจำที่เธอลืมไปแล้วและชีวิตของแวมไพร์ที่หัวใจเริ่มจะเต้นแรงเหมือนมนุษย์อีกครั้ง
ละครเรื่องนี้ บีคัดเข้า Planner ตั้งแต่มีข่าวคราวของโปรเจคละคร Scholar Who Walks the Night มาสักระยะ ซึ่งมีรายชื่อของนักแสดงที่เข้าโผในการมารับบท “บัณฑิตแวมไพร์” หลายคน ทั้งปาร์คแฮจิน คิมซูฮยอน แต่ผลสุดท้าย บทนี้ก็มาลงตัวที่ “ลีจุงกิ” นักแสดงชั้นนำในวงการที่พึ่งออกจากกรมมาหมาดๆ แหงล่ะค่ะ บีเวอร์เป็นเด็กสาย Supernatural Romance ชอบอ่านนิยายหรือชอบดูละครแนวๆนี้อยู่แล้ว แถมคิดถึงหนุ่มอีจุงกิเค้าด้วยล่ะค่ะ
PHOTO CR: SOOMPI
ด้วยธีมและพล็อตน่าสนใจ ผนวกกับเป็นหนังพีเรียตที่แน่นอนว่าเราจะได้ชมบรรยากาศและธรรมชาติสวยๆ นักแสดงมีคุณภาพและเหมาะกับตัวละคร จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ตัดสินใจดูเรื่องนี้ได้ไม่ยากนัก และหลังจากผ่านพ้นมาจนถึงวันที่นั่งเขียนรีวิวฉบับนี้ ละครเรื่องนี้ออนแอร์ผ่านไปแล้ว 8 ตอนด้วยเรตติ้งอันดับสองของตารางในช่วงออกอากาศ นับได้ว่าเป็นละครที่กระแสมาดีเลยทีเดียวค่ะ อีกทั้งตอนนี้ยังถูกนำไปต่อยอดไปสร้างเป็นเกมมือถือโดยบริษัท CONTENT N ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ KEYEAST จับมือกับบริษัทเกมส์อย่าง Next Move ซึ่งมีแผนจะปล่อยออกสู่สายตาประชาชนในช่วงซัมเมอร์เกาหลีในปีนี้ นอกจากนั้นยังมีแผนที่จะนำไปสร้างต่อในเวอร์ชั่นภาพยนตร์และละครเวทีอีกด้วย
ความรู้สึกหลังได้ร่วมผจญภัยในทีม #บัณฑิตรัตติกาล
ความสนุกนั้นได้เริ่มต้นตั้งแต่ตอนที่ 1 แล้วบิ๊วต์ขึ้นสู่จุดพีคมาโดยตลอด แม้ว่าละครเรื่องนี้จะเป็นละครแวมไพร์ แต่ไม่ได้น่ากลัวหรือมีชอตสะดุ้งเลย แต่สามารถทำให้ดูได้ตลอด ไม่น่าเบื่อแถมยังบีบคั้นหัวใจได้ตลอดเวลาค่ะ (ซึ่งตอนนี้มาสู่ช่วงกลางเรื่องที่เรียกได้ว่าเข้มข้นมาก เพราะจากการคาดการณ์ อีกไม่เกิน 4 ตอนต่อจากนี้ ความดราม่าในละครกำลังจะมาค่ะ จะเริ่มมีปมบางอย่างที่สำคัญเริ่มคลายออกมา ซึ่งมันจะมี effect ต่อตัวละครอย่างแน่นอน ตามสูตรละครเกาหลีเค้าล่ะ) อีกหนึ่งสิ่งที่บีชอบคือการคัดเลือกนักแสดงในแต่ละบทของทีมผู้สร้างค่ะ ช่างเลือกมาได้เหมาะสมราวกับต้นฉบับถอดรูปมาจากหนังสือเลยทีเดียว ทั้งรูปลักษณ์และภาพพจน์
คนแรกเลยที่บีไม่พูดถึงก็ไม่ได้เชียวนั่นคือพระเอกของเราค่ะ “อีจุงกิ” ถ้านำภาพลักษณ์ในแต่ละบทบาทของเขามาเทียบกัน ทั้งเรื่อง Arang and The Magistrate จาก Joseon Gunman และบทแวมไพร์ใน Scholar Who Walks The Night ลีจุงกิมีความสง่างามในบทบาทมากขึ้นและมากที่สุดในละครเรื่องนี้ บีเชื่อว่าส่วนหนึ่งมันมาจากการที่เขาได้ใช้ชีวิตในกรมด้วยล่ะค่ะ เพราะหากพิจารณาจากฉากต่อสู้ แต่ละท่วงท่าของการแสดงค่อนข้างชัดเจน มีน้ำหนัก และดูสวยงาม หรือแม้แต่การยืนมองเฉยๆ นับได้ว่าสง่างามสมบทบาทสุดๆ ยิ่งใส่ชุดฮันบกไปด้วยแล้ว ยิ่งทิ้งสายตาไปจากท่านบัณฑิตไม่ลงเลยล่ะค่ะ
จำได้ว่านั่งคุยกันกับเพื่อนแบบวิเคราะห์กันจริงจังมากว่าลีจุงกิไปทำอะไรมา ทำไมเทียบรูปในละครเรื่องนี้จึงแตกต่างจากละครเรื่องอื่น นั่งถกกันอยู่นานค่ะ จนได้ข้อสรุปกันว่าอาจเป็นเพราะด้วยบทบาทที่ต้องเข้ม คม และสงบ เลยทำให้ image โดยรวมดูขรึม ผนวกกับเสื้อผ้าและ make up เข้าไปก็ยิ่งช่วยเสริมไปอีก ถึงจะแปลกค้านานสายตาตัวเองไปหน่อย แต่แบบนี้แหละค่ะ "หล่อพังมากกกกก" *กอไก่ล้านตัว* (hashtag #ยอมแล้วทูลหัวอยากมีผัวเป็นแวมไพร์ ยังคงใช้ได้ดีค่ะ โจษจันกันทั้งพระนคร ฮาๆๆๆ)
PHOTO CR: SOOMPI
ส่วนอียูบีที่รับบทเป็นโจยางซอน ความจริงแล้ว บีไม่ค่อยจะได้ติดตามผลงานของสักเท่าไหร่ค่ะ และแรกๆก็ค่อนข้างรู้สึกขัดๆอย่างไรบอกไม่ถูก แต่พอผ่านไปสักพัก บีเริ่มจะชอบตัวละครนี้และการแสดงของเธอไปซะแล้วค่ะ เพราะสไตล์การแสดงออกของเธอนั้น บอกเลยว่าไม่เพี้ยนไปจากต้นฉบับเลยค่ะ แถมตอนแต่งตัวเป็นผู้หญิง ก็สวยเหมือนที่ต้นฉบับบทประพันธ์สร้างมาด้วย
PHOTO CR: SOOMPI
หากจะดูตัวละครอื่นๆอย่าง องค์รัชทายาทอียุน (ที่รับบทโดยชางมินแห่ง TVXQ) คนนี้บีต้องออกปากชมเลยล่ะค่ะเพราะเกินความคาดหมายตั้งแต่แรกไปมาก ชางมินแสดงได้สมบทบาท ทำให้เราเชื่อว่าเป็นองค์รัชทายาทผู้มีปณิธานอันแรงกล้าอย่างที่สุด ในบทนี้ ชางมินจะต้องเป็นผู้นำในฐานะของ “บัณฑิตจอมหื่น” ผู้ที่สร้างผลงานหนังสือลามกที่แอบเปิดโปงเรื่องการมีแวมไพร์คุมอำนาจกษัตริย์และขุนนางในวังหลวง ชางมินเล่นเก่งมาก เพราะเราสามารถสัมผัสได้ถึงความอบอุ่น ความอ้างว้าง ความกล้าหาญ ไม่เกรงกลัว และความโหดได้ในเวลาเดียวกัน (ทำไมถึงเป็นแบบนั้น อันนี้ต้องไปพิสูจน์กันเองค่ะ แล้วคุณจะหลงรักตัวละครตัวนี้เหมือนที่บีเป็น *ท่านบัณฑิตอย่ากริ้วนะเจ้าคะ ฮาๆๆ*)
อีกหนึ่งตัวละครที่เรียกว่าต้องพูดถึงอีกคนสำหรับบีคือ กีแซงผู้รับใช้ท่านบัณฑิต จริงๆตัวละครนี้ดูเหมือนจะไม่มีอะไรแต่จากนี้ไปกำลังจะมีค่ะ ทีมงานค่อนข้างเก่งมากเลยที่เลือกคุณจางฮีจินมารับบท “ซูฮยาง” เพราะการแสดงออกทางสายตาของเธอค่อนข้างชัดเจน ทั้งริษยาและออกจะอำมหิตซ่อนเงื่อนในเวลาเดียวกัน และที่สำคัญค่ะ ในต้นฉบับ นางสวยมาก และคุณจางฮีจินก็สามารถส่งต่อความงดงามในต้นฉบับมาสู่จอแก้วได้อย่างสมบูรณ์แบบมากๆเลยค่ะ
เมื่อบีเวอร์เริ่มอยากรู้อยากเห็นเรื่องราวที่มากขึ้นของ Scholar Who Walks the Night จากต้นฉบับ
วรรคที่แล้ว บีจะให้น้ำหนักเรื่องตัวละครเมื่อเทียบกับต้นฉบับซะส่วนใหญ่ เพราะบีกรุยทางมาเพื่อวรรคนี้โดยเฉพาะค่ะ บีขอสารภาพว่ามีละครเกาหลีไม่กี่เรื่องที่บีชอบและติดมากถึงขนาดต้องตามหาต้นฉบับมานั่งอ่านกัน และ Scholar Who Walks the Night ก็สามารถนำพาพฤติกรรมนั้นของบีกลับมาได้ค่ะ หลังจากที่บีได้ดูแบบเวอร์ชั่นละครไป 8 ตอน ทำให้บีอยากรู้ว่าเรื่องราวต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร เพราะคำถามนี้คำถามเดียวเลยค่ะที่ทำให้บีต้องตามล่าหาต้นฉบับของบทประพันธ์เรื่องนี้ (ประดุจภารกิจตามหาปมบันทึกกันเลยทีเดียว ฮาๆๆๆ) Scholar Who Walks the Night เรื่องนี้ เดิมทีเป็นการ์ตูนในเว็บตูน ซึ่งบีเองก็นะ Web Toon ไม่เคยอยู่ในสารระบบเลยค่ะ แต่เพื่อความอยากรู้อยากเห็นของตัวเองจึงไปเสาะหามาอ่านค่ะ และแล้วเราก็เจอใน Kakao Page ค่ะ (ฮูเร่.....)
พาร์ทปกติของบทประพันธ์ Scholar Who Walks the Night เรื่องนี้ มีให้อ่านฟรี 20 ตอนค่ะ สามารถเข้าไปอ่านได้ที่นี่เลย >>
http://page.kakao.com/home/46295274
อย่าไปเข้าใจผิดนะว่ามีแค่ 20 ตอนและจะเหมือนละครจอแก้วเพียงเพราะจำนวนตอนที่ออกอากาศกับที่อ่านฟรีดันเท่ากันเป๊ะ! คุณคิดผิดค่ะเพราะนี่เป็นแค่ Preview และมันค่อนข้างมีรายละเอียดยิบย่อยไปจากละครพอควรค่ะ แต่ดูๆแล้วก็ไม่ทิ้งไลน์จากเวอร์ชั่นละครสักเท่าไหร่ เพราะการนำเสนอของเขา เขาก็ต้องการให้ความรู้สึกแบบอ่านการ์ตูนอยู่แล้ว เพียงแต่เพิ่มความสมจริงด้วยเทคนิค CG อันเป็นงานโบว์แดงฉากสวยภาพงามแงะของฝั่ง MBC เค้าแหละค่ะ
ความรู้สึกตอนที่บีอ่านแบบฟรี 20 ตอนหรอคะ? แอบจิตตกค่ะ มันหลาย Feeling มาก ทั้งเศร้า บีบคั้น ลุ้นระทึก มาหมดเลย (แม้ว่าจะอ่านภาษาเกาหลีได้ไม่หมดก็ตาม ) แต่ทว่า ... ในเมื่อสารร่างตัวเองกลืนเข้ายุคโชซอนมาพร้อมท่านบัณฑิตถึง 1 ใน 3 ของยุคสมัยมาขนาดนี้แล้ว ทำไมไม่ไปต่อกับท่านจนสุดทางล่ะ? กรีดร้องกับตัวเองว่า “ไม่จริง ฉันไม่เชื่อ....”
การเดินทางก็ต้องไปต่อสิคะ ในเมื่อพาร์ทฟรีมันหมดแล้ว มันก็ต้องถึงเวลาที่คุณจะต้องควักเงินหยางมาจ่ายเพื่อให้คุณได้เดินทางกันต่อซะแล้วล่ะค่ะ (ก็ต้องพูดให้เข้าธีมละครหน่อยมั้ยละ อิอิ)
ไปเจ๊อะกันต่อกับรีวิว PART 2 กระทู้หน้านะคะ
[CR] [Nubeever’s World] Review "Scholar Who Walks the Night & Kakao Page" Part 1 : แรกพบกับบัณฑิตรัตติกาล
สวัสดีค่ะ พบกับหนูบีเวอร์กันอีกแล้วนะคะ ช่วงนี้ยอมรับเลยว่ายุ่งสุดพลัง ใช้ชีวิตแบบโอเวอร์โหลดมากๆ
จนช่วงนี้ แทบไม่ได้มาอัพเดทสาระหรือมานั่งเม้าท์มอยกันเกี่ยวกับซีรีส์เกาหลีที่ออนแอร์ตอนนี้เลย (จะดูๆก็อย่างว่าค่ะ ร่างกายไม่สู้ หลับไปก่อนทุกที แล้วจะดูรู้เรื่องมั้ย ฮาๆๆๆๆ) พอสามารถเคลียร์ตัวเองจากงานได้จังหวะหนึ่ง เราเองก็ไม่รอช้าเลยค่ะที่จะรีบกลับบ้าน อาบน้ำ แล้วพุ่งใส่เตียงพร้อมซีรีส์เกาหลีในตารางที่อยากดู ซึ่งในตารางตอนนี้ของบี บีเลือกจับตามองละครพีเรียตแนวอิงประวัติศาสตร์ผสมแฟนตาซีของสถานีโทรทัศน์ MBC ของเกาหลี
ซึ่งจะเป็นเรื่องไหนไปไม่ได้เลยนอกจาก “จอมแวมไพร์แห่งรัตติกาล” หรือชื่อภาษาอังกฤษเท่ห์ๆอย่าง “Scholar Who Walks the Night”
แต่เรื่องที่บีจะมาคุยกันในวันนี้นั้น บีจะขอต่อยอดจากการชมละครด้วยการทำรีวิวแอพพลิเคชั่นในสมาร์ทโฟนแบบฉบับสายบันเทิงค่ะ (งงล่ะสิ!) มันจะไอทีก็ไม่ใช่ จะบันเทิงจ๋าก็ไม่เชิง
... เอาเป็นว่า แฟนๆคนไหนที่เป็นแฟนละครของนักแสดงหรือละครเรื่องนี้ ก็อยากให้ติดตามรีวิวฉบับนี้ของบีด้วยนะคะ
เกริ่นนำ ทำความรู้จักกันก่อนกับ “จอมแวมไพร์แห่งรัตติกาล”
หากเป็นแฟนตัวยงของซีรีส์เกาหลี ถ้าเรามองเทรนด์ของการทำละครในช่วงที่ผ่านมานั้น อุตสาหกรรมละครเกาหลีมีการพัฒนาแนวการเขียนหรือสร้างละครเหมือนเป็นธีมประจำปีก็ว่าได้ค่ะ ในยุคหนึ่งเมื่อสักราว 2-3 ปีก่อนนั้น ละครเกาหลีที่จ่อคิวออนแอร์จะเป็นปีของ “ละครแพทย์” ไม่ว่าจะเป็นละครพีเรียตเอย หรือแนวดราม่าหรือคอมเมดี้ก็ดี จนกระทั่งมาถึงยุคของ “ตัวละครเอกมีโรคประจำตัวแปลกๆ” และตอนนี้ ละครเกาหลีก็มาถึงจุดที่ “ตัวละครเอกไม่ใช่คนธรรมดา” ธีมนี้มีมายาวนานตั้งแต่สายมนุษย์ต่างดาวอย่าง “My Love From The Star” จนมาถึงปีนี้ที่ธีมการทำละครต้องยกให้กับ “แวมไพร์” เพราะเราๆก็ได้ดูแวมไพร์ในบทบาทต่างๆ ทั้งคุณหมอก็ดี นักสืบก็ดี หรือแม้แต่นักเรียนไฮสคูล มันเป็นยุคที่แวมไพร์จะเริ่มครองโลกละครเกาหลีไปซะแล้วล่ะค่ะ และแน่นอน “Scholar Who Walks the Night” ละครแนวพีเรียตอิงประวัติศาสตร์แฟนตาซีที่เราจะมาพูดกันในวันนี้ .. ก็ไม่พ้นสายแวมไพร์เช่นกันค่ะ
Scholar Who Walks the Night เป็นเรื่องราวในยุคสมัยโชซอนที่ผสมเรื่องความรัก การเมือง และแวมไพร์ เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างบัณฑิตหนุ่มที่ซ่อนสถานะแวมไพร์ของตัวเองเพื่อการทำภารกิจฆ่าแวมไพร์ผู้บ้าอำนาจและใช้เล่ห์เหลี่ยมบังคับข่มขู่บัลลังค์กษัตริย์ เพื่อให้บรรลุพระประสงค์ขององค์รัชทายาทในการกวาดล้างอำนาจมืดไปสู่การปกครองอย่างเป็นธรรมเพื่อประชาชน โชคชะตาทำให้ “คิมซองยอล” (อีจุงกิ) ถูกเปลี่ยนสภาพกลายเป็นแวมไพร์ผู้มีหน้าที่เป็นจอมแวมไพร์เพื่อไปต่อกรกับแวมไพร์ “ควี” และออกตามหาเบาะแสของ “ปมบันทึกของรัชทายาท”
ชีวิตที่เปลี่ยนไปแบบฉับพลันของคิมซองยอล ทำให้รักแรกและการตายของคนรอบตัวในชีวิตของเขาที่ไม่เป็นธรรมยังคงหลอกหลอนเขามาตลอด 120 ปี จนกระทั่งได้พบกับ “โจยางซอน” (อียูบิ) เด็กหนุ่มผู้ค้าขายหนังสือทุกชนิดที่มีความสามารถ ซึ่งจริงแล้ว เธอคืออดีตลูกสาวขุนนางผู้เคยให้ความช่วยเหลือองค์รัชทายาทในสมัยก่อน เมื่อตอนเด็ก ชีวิตเธอนั้นได้เจออุบัติเหตุครั้งใหญ่จนเธอไม่สามารถจดจำเรื่องราวในวันนั้นที่เธอต้องสูญเสียพี่ชายและพ่อของเธออย่างโหดเหี้ยมที่สุดได้เลย
ชะตากรรมของบ้านเมืองเมื่อมนุษย์ต้องสู้กับแวมไพร์ชั่วร้าย จากรุ่นสู่รุ่น ... ทุกตัวละครที่ต้องมาพบกันล้วนไม่ใช่เรื่องบังเอิญและนั่นก็ไม่ใช่ครั้งแรก แต่มันคือการเริ่มต้นของการต่อสู้ด้วยความกล้าของมนุษย์เพื่อเอาชนะอำนาจมืด และรวมไปถึงความรักที่เกิดบนทางเดินไปสู่อิสรภาพของความสงบสุขของประชาชนระหว่างมนุษย์ผู้มีจิตใจดีงาม แสวงหาความสุขในโลกแห่งความหวังในอนาคตและบัณฑิตรัตติกาล ผู้มีชีวิตเดียวดายและจมกับอดีต ซึ่งต่อจากนี้ ชีวิตของพวกเขาจะเริ่มวุ่นวายขึ้น เมื่อเธอกำลังจะรู้เรื่องความทรงจำที่เธอลืมไปแล้วและชีวิตของแวมไพร์ที่หัวใจเริ่มจะเต้นแรงเหมือนมนุษย์อีกครั้ง
ละครเรื่องนี้ บีคัดเข้า Planner ตั้งแต่มีข่าวคราวของโปรเจคละคร Scholar Who Walks the Night มาสักระยะ ซึ่งมีรายชื่อของนักแสดงที่เข้าโผในการมารับบท “บัณฑิตแวมไพร์” หลายคน ทั้งปาร์คแฮจิน คิมซูฮยอน แต่ผลสุดท้าย บทนี้ก็มาลงตัวที่ “ลีจุงกิ” นักแสดงชั้นนำในวงการที่พึ่งออกจากกรมมาหมาดๆ แหงล่ะค่ะ บีเวอร์เป็นเด็กสาย Supernatural Romance ชอบอ่านนิยายหรือชอบดูละครแนวๆนี้อยู่แล้ว แถมคิดถึงหนุ่มอีจุงกิเค้าด้วยล่ะค่ะ
PHOTO CR: SOOMPI
ด้วยธีมและพล็อตน่าสนใจ ผนวกกับเป็นหนังพีเรียตที่แน่นอนว่าเราจะได้ชมบรรยากาศและธรรมชาติสวยๆ นักแสดงมีคุณภาพและเหมาะกับตัวละคร จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ตัดสินใจดูเรื่องนี้ได้ไม่ยากนัก และหลังจากผ่านพ้นมาจนถึงวันที่นั่งเขียนรีวิวฉบับนี้ ละครเรื่องนี้ออนแอร์ผ่านไปแล้ว 8 ตอนด้วยเรตติ้งอันดับสองของตารางในช่วงออกอากาศ นับได้ว่าเป็นละครที่กระแสมาดีเลยทีเดียวค่ะ อีกทั้งตอนนี้ยังถูกนำไปต่อยอดไปสร้างเป็นเกมมือถือโดยบริษัท CONTENT N ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ KEYEAST จับมือกับบริษัทเกมส์อย่าง Next Move ซึ่งมีแผนจะปล่อยออกสู่สายตาประชาชนในช่วงซัมเมอร์เกาหลีในปีนี้ นอกจากนั้นยังมีแผนที่จะนำไปสร้างต่อในเวอร์ชั่นภาพยนตร์และละครเวทีอีกด้วย
ความรู้สึกหลังได้ร่วมผจญภัยในทีม #บัณฑิตรัตติกาล
ความสนุกนั้นได้เริ่มต้นตั้งแต่ตอนที่ 1 แล้วบิ๊วต์ขึ้นสู่จุดพีคมาโดยตลอด แม้ว่าละครเรื่องนี้จะเป็นละครแวมไพร์ แต่ไม่ได้น่ากลัวหรือมีชอตสะดุ้งเลย แต่สามารถทำให้ดูได้ตลอด ไม่น่าเบื่อแถมยังบีบคั้นหัวใจได้ตลอดเวลาค่ะ (ซึ่งตอนนี้มาสู่ช่วงกลางเรื่องที่เรียกได้ว่าเข้มข้นมาก เพราะจากการคาดการณ์ อีกไม่เกิน 4 ตอนต่อจากนี้ ความดราม่าในละครกำลังจะมาค่ะ จะเริ่มมีปมบางอย่างที่สำคัญเริ่มคลายออกมา ซึ่งมันจะมี effect ต่อตัวละครอย่างแน่นอน ตามสูตรละครเกาหลีเค้าล่ะ) อีกหนึ่งสิ่งที่บีชอบคือการคัดเลือกนักแสดงในแต่ละบทของทีมผู้สร้างค่ะ ช่างเลือกมาได้เหมาะสมราวกับต้นฉบับถอดรูปมาจากหนังสือเลยทีเดียว ทั้งรูปลักษณ์และภาพพจน์
คนแรกเลยที่บีไม่พูดถึงก็ไม่ได้เชียวนั่นคือพระเอกของเราค่ะ “อีจุงกิ” ถ้านำภาพลักษณ์ในแต่ละบทบาทของเขามาเทียบกัน ทั้งเรื่อง Arang and The Magistrate จาก Joseon Gunman และบทแวมไพร์ใน Scholar Who Walks The Night ลีจุงกิมีความสง่างามในบทบาทมากขึ้นและมากที่สุดในละครเรื่องนี้ บีเชื่อว่าส่วนหนึ่งมันมาจากการที่เขาได้ใช้ชีวิตในกรมด้วยล่ะค่ะ เพราะหากพิจารณาจากฉากต่อสู้ แต่ละท่วงท่าของการแสดงค่อนข้างชัดเจน มีน้ำหนัก และดูสวยงาม หรือแม้แต่การยืนมองเฉยๆ นับได้ว่าสง่างามสมบทบาทสุดๆ ยิ่งใส่ชุดฮันบกไปด้วยแล้ว ยิ่งทิ้งสายตาไปจากท่านบัณฑิตไม่ลงเลยล่ะค่ะ
จำได้ว่านั่งคุยกันกับเพื่อนแบบวิเคราะห์กันจริงจังมากว่าลีจุงกิไปทำอะไรมา ทำไมเทียบรูปในละครเรื่องนี้จึงแตกต่างจากละครเรื่องอื่น นั่งถกกันอยู่นานค่ะ จนได้ข้อสรุปกันว่าอาจเป็นเพราะด้วยบทบาทที่ต้องเข้ม คม และสงบ เลยทำให้ image โดยรวมดูขรึม ผนวกกับเสื้อผ้าและ make up เข้าไปก็ยิ่งช่วยเสริมไปอีก ถึงจะแปลกค้านานสายตาตัวเองไปหน่อย แต่แบบนี้แหละค่ะ "หล่อพังมากกกกก" *กอไก่ล้านตัว* (hashtag #ยอมแล้วทูลหัวอยากมีผัวเป็นแวมไพร์ ยังคงใช้ได้ดีค่ะ โจษจันกันทั้งพระนคร ฮาๆๆๆ)
PHOTO CR: SOOMPI
ส่วนอียูบีที่รับบทเป็นโจยางซอน ความจริงแล้ว บีไม่ค่อยจะได้ติดตามผลงานของสักเท่าไหร่ค่ะ และแรกๆก็ค่อนข้างรู้สึกขัดๆอย่างไรบอกไม่ถูก แต่พอผ่านไปสักพัก บีเริ่มจะชอบตัวละครนี้และการแสดงของเธอไปซะแล้วค่ะ เพราะสไตล์การแสดงออกของเธอนั้น บอกเลยว่าไม่เพี้ยนไปจากต้นฉบับเลยค่ะ แถมตอนแต่งตัวเป็นผู้หญิง ก็สวยเหมือนที่ต้นฉบับบทประพันธ์สร้างมาด้วย
PHOTO CR: SOOMPI
หากจะดูตัวละครอื่นๆอย่าง องค์รัชทายาทอียุน (ที่รับบทโดยชางมินแห่ง TVXQ) คนนี้บีต้องออกปากชมเลยล่ะค่ะเพราะเกินความคาดหมายตั้งแต่แรกไปมาก ชางมินแสดงได้สมบทบาท ทำให้เราเชื่อว่าเป็นองค์รัชทายาทผู้มีปณิธานอันแรงกล้าอย่างที่สุด ในบทนี้ ชางมินจะต้องเป็นผู้นำในฐานะของ “บัณฑิตจอมหื่น” ผู้ที่สร้างผลงานหนังสือลามกที่แอบเปิดโปงเรื่องการมีแวมไพร์คุมอำนาจกษัตริย์และขุนนางในวังหลวง ชางมินเล่นเก่งมาก เพราะเราสามารถสัมผัสได้ถึงความอบอุ่น ความอ้างว้าง ความกล้าหาญ ไม่เกรงกลัว และความโหดได้ในเวลาเดียวกัน (ทำไมถึงเป็นแบบนั้น อันนี้ต้องไปพิสูจน์กันเองค่ะ แล้วคุณจะหลงรักตัวละครตัวนี้เหมือนที่บีเป็น *ท่านบัณฑิตอย่ากริ้วนะเจ้าคะ ฮาๆๆ*)
อีกหนึ่งตัวละครที่เรียกว่าต้องพูดถึงอีกคนสำหรับบีคือ กีแซงผู้รับใช้ท่านบัณฑิต จริงๆตัวละครนี้ดูเหมือนจะไม่มีอะไรแต่จากนี้ไปกำลังจะมีค่ะ ทีมงานค่อนข้างเก่งมากเลยที่เลือกคุณจางฮีจินมารับบท “ซูฮยาง” เพราะการแสดงออกทางสายตาของเธอค่อนข้างชัดเจน ทั้งริษยาและออกจะอำมหิตซ่อนเงื่อนในเวลาเดียวกัน และที่สำคัญค่ะ ในต้นฉบับ นางสวยมาก และคุณจางฮีจินก็สามารถส่งต่อความงดงามในต้นฉบับมาสู่จอแก้วได้อย่างสมบูรณ์แบบมากๆเลยค่ะ
เมื่อบีเวอร์เริ่มอยากรู้อยากเห็นเรื่องราวที่มากขึ้นของ Scholar Who Walks the Night จากต้นฉบับ
วรรคที่แล้ว บีจะให้น้ำหนักเรื่องตัวละครเมื่อเทียบกับต้นฉบับซะส่วนใหญ่ เพราะบีกรุยทางมาเพื่อวรรคนี้โดยเฉพาะค่ะ บีขอสารภาพว่ามีละครเกาหลีไม่กี่เรื่องที่บีชอบและติดมากถึงขนาดต้องตามหาต้นฉบับมานั่งอ่านกัน และ Scholar Who Walks the Night ก็สามารถนำพาพฤติกรรมนั้นของบีกลับมาได้ค่ะ หลังจากที่บีได้ดูแบบเวอร์ชั่นละครไป 8 ตอน ทำให้บีอยากรู้ว่าเรื่องราวต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร เพราะคำถามนี้คำถามเดียวเลยค่ะที่ทำให้บีต้องตามล่าหาต้นฉบับของบทประพันธ์เรื่องนี้ (ประดุจภารกิจตามหาปมบันทึกกันเลยทีเดียว ฮาๆๆๆ) Scholar Who Walks the Night เรื่องนี้ เดิมทีเป็นการ์ตูนในเว็บตูน ซึ่งบีเองก็นะ Web Toon ไม่เคยอยู่ในสารระบบเลยค่ะ แต่เพื่อความอยากรู้อยากเห็นของตัวเองจึงไปเสาะหามาอ่านค่ะ และแล้วเราก็เจอใน Kakao Page ค่ะ (ฮูเร่.....)
พาร์ทปกติของบทประพันธ์ Scholar Who Walks the Night เรื่องนี้ มีให้อ่านฟรี 20 ตอนค่ะ สามารถเข้าไปอ่านได้ที่นี่เลย >> http://page.kakao.com/home/46295274
อย่าไปเข้าใจผิดนะว่ามีแค่ 20 ตอนและจะเหมือนละครจอแก้วเพียงเพราะจำนวนตอนที่ออกอากาศกับที่อ่านฟรีดันเท่ากันเป๊ะ! คุณคิดผิดค่ะเพราะนี่เป็นแค่ Preview และมันค่อนข้างมีรายละเอียดยิบย่อยไปจากละครพอควรค่ะ แต่ดูๆแล้วก็ไม่ทิ้งไลน์จากเวอร์ชั่นละครสักเท่าไหร่ เพราะการนำเสนอของเขา เขาก็ต้องการให้ความรู้สึกแบบอ่านการ์ตูนอยู่แล้ว เพียงแต่เพิ่มความสมจริงด้วยเทคนิค CG อันเป็นงานโบว์แดงฉากสวยภาพงามแงะของฝั่ง MBC เค้าแหละค่ะ
ความรู้สึกตอนที่บีอ่านแบบฟรี 20 ตอนหรอคะ? แอบจิตตกค่ะ มันหลาย Feeling มาก ทั้งเศร้า บีบคั้น ลุ้นระทึก มาหมดเลย (แม้ว่าจะอ่านภาษาเกาหลีได้ไม่หมดก็ตาม ) แต่ทว่า ... ในเมื่อสารร่างตัวเองกลืนเข้ายุคโชซอนมาพร้อมท่านบัณฑิตถึง 1 ใน 3 ของยุคสมัยมาขนาดนี้แล้ว ทำไมไม่ไปต่อกับท่านจนสุดทางล่ะ? กรีดร้องกับตัวเองว่า “ไม่จริง ฉันไม่เชื่อ....”
การเดินทางก็ต้องไปต่อสิคะ ในเมื่อพาร์ทฟรีมันหมดแล้ว มันก็ต้องถึงเวลาที่คุณจะต้องควักเงินหยางมาจ่ายเพื่อให้คุณได้เดินทางกันต่อซะแล้วล่ะค่ะ (ก็ต้องพูดให้เข้าธีมละครหน่อยมั้ยละ อิอิ)
ไปเจ๊อะกันต่อกับรีวิว PART 2 กระทู้หน้านะคะ