สวัสดีครับพี่ ป้า น้า อา แห่งห้องคนบ้ามือหมุนที่เคารพทุกๆท่าน
มีโอกาสเดินทางไปเปลี่ยนสถานที่สำหรับการหายใจที่เมืองกาญจนบุรี
ถือโอกาสไปเยี่ยมรุ่นน้องที่เปิดร้านขายยาแผนปัจจุบันอยู่ที่นั่นมาร่วมสิบปี และยังได้พาครอบครัวไปเที่ยวเล็กน้อยๆ
ซึ่งก่อนไปก็แวะสักการะองค์พระปฐมเจดีย์ก่อน ถือเป็นการเอาเลนส์ใหม่ไปให้หลวงพ่อท่านเจิมน้ำมนต์ครับ
และยังเป็นการทดสอบเลนส์ Mir-20 Automat 3.5/20 ที่เพิ่งได้มาอีกด้วย
แต่ถ้าใช้เลนส์ 20mm เพียงตัวเดียวก็เกรงว่าจะน่าเบื่อไปหน่อย
จึงจัดแจงนำเจ้าเลนส์ที่เพิ่งได้มาไม่นานร่วมทริปไปด้วย
โดยเน้นเฉพาะเลนส์จากโรงงาน
Arsenal ซึ่งก็คือ
Kaleinar-5N 2.8/100 MC และ
Korsar 2.8/35 MC ครับ
มีโอกาสไปเที่ยวน้ำตกเอราวัณ ซึ่งผมมีความรู้สึกว่าสถานที่แห่งนี้เปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้นมาก
คือมีการห้ามนำภาชนะที่ทำด้วยโฟมและพลาสติกเข้าไปในเขตอุทยาน
และห้ามนำเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอลล์เข้าไปด้วยเช่นกัน
ซึ่งสิ่งเหล่านี้น่าจะคิดทำกันมาตั้งนานแล้ว เพราะเมื่อก่อนนั้นเวลาไปที่นั่นหรือบริเวณอุทยานแห่งชาติหลายแห่ง
ก็จะพบกับกองขยะที่เต็มไปด้วยกล่องโฟม ขวดโซดา ขวดเบียร์เต็มไปหมด
...............
...............
บริเวณข้างน้ำตกก็เต็มไปด้วยพวกขี้เมานั่งร้องเพลงเสียงดัง รวมทั้งส่งสายตาแนวหื่นกระหายต่อนักท่องเที่ยวสาวๆ
ให้เป็นที่น่ารำคาญเป็นอย่างยิ่ง แต่ภาพแบบนั้นมันกลับหายไปหมดในยุคของรัฐบาลที่มาจากทหารที่หลายคนอาจไม่ค่อยชอบนัก
สภาพอากาศในช่วงที่เดินทางไปนั้นไม่ค่อยมีแดดเท่าไรนัก มีสายฝนโปรยลงมาเป็นระยะ
ภาพที่ได้จึงไม่ค่อยสดใสนักครับ ออกจะครึ้มๆ อึมครึมพอสมควร
สะพานข้ามแม่น้ำแควก็เป็นเช่นเดียวกันครับ อากาศไม่ค่อยสดใสเท่าไรนัก ฟ้าไม่เป็นสีฟ้า แต่กลับเป็นสีขาวขุ่น
แถมยังเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวเดินกันเต็มสะพาน แต่ถือว่าเป็นผลดีต่อพ่อค้าแม่ขายที่นั่นครับ
ภาพจาก
Mir-20 Automat 3.5/20 นั้นอยู่ในเกณฑ์ดีครับ โดยเฉพาะเมื่อมีแสงแดด
ความคมบริเวณกลางภาพทำได้ดีมาก แต่ขอบภาพไม่คมนัก ทั้งนี้ผมใช้ค่ารูรับแสงประมาณ 5.6 โดยประมาณครับ
ซึ่งคาแรคเตอร์แบบนี้มันมีความใกล้เคียงกับ
Vega-7 2/20 เป็นอย่างยิ่ง แต่หากใช้ที่ F 8.0 จะดีมากยิ่งขึ้นครับ
จะเห็นได้ชัดเมื่อผมใช้ค่า F-stop ที่ 8.0 โดยประมาณในการถ่ายภาพที่องค์พระปฐมเจดีย์
ซึ่งภาพที่ได้มีความคมชัดอยู่ในเกณฑ์ดีเยี่ยม โดยเฉพาะบริเวณกลางภาพ สีสันมีความสดใสและเข้มข้นดี
แต่ในเรื่องของความ Bright and clear นั้นยังเป็นรอง
Peleng 3.5/8A MC อย่างเห็นได้ชัดครับ
สภาพแสงขณะถ่ายภาพที่เมืองกาญจนบุรีนั้นมีความขมุกขมัวพอสมควรครับ ทำให้ภาพที่ได้ไม่สดใสนัก
จะเห็นได้ชัดว่าเลนส์ Mir-20 ตัวของผมมันชอบแดดจัดครับ จะแสดงความยอดเยี่ยมออกมาเต็มที่
แต่ในสภาพแสงน้อย มันให้ผลงานที่ไม่ดีนักครับ สีจะออกตุ่นๆนิดๆเมื่อเจอแสงน้อย
การถ่ายภาพในสถานการณ์ที่มีความเปรียบต่างของแสงสูง จะเกิดอาการฟุ้งให้เห็นบ้างในส่วนที่ over ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติที่ยอมรับได้
ระยะ minimum focus ที่น้อยมากเพียง 25cm. ถือว่าสุดยอดครับ มีประโยชน์มากๆ
ส่วน Kaleinar-5N 2.8/100 MC และ Korsar2.8/35 MC นั้นถือว่าสุดยอดแล้วครับ เนื่องจากเคยทดสอบมาแล้ว
ใช้งานง่าย หาโฟกัสได้สะดวก ความคมชัดหายห่วงจริงๆ ที่สำคัญคือขนาดที่ไม่ใหญ่และเทอะทะจนเกินไป เหมาะสำหรับการเดินทาง
และเลนส์ชุดนี้ถือว่าสามารถใช้ถ่ายภาพในการเดินทางท่องเที่ยวได้สนุกชุดหนึ่งจริงๆครับ
สุดท้ายนี้ขอให้สมาชิกทุกท่านมีความสุข เดินทางด้วยสติเสมอครับ
สวัสดี!!!
RUSSIAN lenses by ARSENAL factory on tour!!!
สวัสดีครับพี่ ป้า น้า อา แห่งห้องคนบ้ามือหมุนที่เคารพทุกๆท่าน
มีโอกาสเดินทางไปเปลี่ยนสถานที่สำหรับการหายใจที่เมืองกาญจนบุรี
ถือโอกาสไปเยี่ยมรุ่นน้องที่เปิดร้านขายยาแผนปัจจุบันอยู่ที่นั่นมาร่วมสิบปี และยังได้พาครอบครัวไปเที่ยวเล็กน้อยๆ
ซึ่งก่อนไปก็แวะสักการะองค์พระปฐมเจดีย์ก่อน ถือเป็นการเอาเลนส์ใหม่ไปให้หลวงพ่อท่านเจิมน้ำมนต์ครับ
และยังเป็นการทดสอบเลนส์ Mir-20 Automat 3.5/20 ที่เพิ่งได้มาอีกด้วย
แต่ถ้าใช้เลนส์ 20mm เพียงตัวเดียวก็เกรงว่าจะน่าเบื่อไปหน่อย
จึงจัดแจงนำเจ้าเลนส์ที่เพิ่งได้มาไม่นานร่วมทริปไปด้วย
โดยเน้นเฉพาะเลนส์จากโรงงาน Arsenal ซึ่งก็คือ Kaleinar-5N 2.8/100 MC และ Korsar 2.8/35 MC ครับ
มีโอกาสไปเที่ยวน้ำตกเอราวัณ ซึ่งผมมีความรู้สึกว่าสถานที่แห่งนี้เปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้นมาก
คือมีการห้ามนำภาชนะที่ทำด้วยโฟมและพลาสติกเข้าไปในเขตอุทยาน
และห้ามนำเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอลล์เข้าไปด้วยเช่นกัน
ซึ่งสิ่งเหล่านี้น่าจะคิดทำกันมาตั้งนานแล้ว เพราะเมื่อก่อนนั้นเวลาไปที่นั่นหรือบริเวณอุทยานแห่งชาติหลายแห่ง
ก็จะพบกับกองขยะที่เต็มไปด้วยกล่องโฟม ขวดโซดา ขวดเบียร์เต็มไปหมด
...............
...............
บริเวณข้างน้ำตกก็เต็มไปด้วยพวกขี้เมานั่งร้องเพลงเสียงดัง รวมทั้งส่งสายตาแนวหื่นกระหายต่อนักท่องเที่ยวสาวๆ
ให้เป็นที่น่ารำคาญเป็นอย่างยิ่ง แต่ภาพแบบนั้นมันกลับหายไปหมดในยุคของรัฐบาลที่มาจากทหารที่หลายคนอาจไม่ค่อยชอบนัก
สภาพอากาศในช่วงที่เดินทางไปนั้นไม่ค่อยมีแดดเท่าไรนัก มีสายฝนโปรยลงมาเป็นระยะ
ภาพที่ได้จึงไม่ค่อยสดใสนักครับ ออกจะครึ้มๆ อึมครึมพอสมควร
สะพานข้ามแม่น้ำแควก็เป็นเช่นเดียวกันครับ อากาศไม่ค่อยสดใสเท่าไรนัก ฟ้าไม่เป็นสีฟ้า แต่กลับเป็นสีขาวขุ่น
แถมยังเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวเดินกันเต็มสะพาน แต่ถือว่าเป็นผลดีต่อพ่อค้าแม่ขายที่นั่นครับ
ภาพจาก Mir-20 Automat 3.5/20 นั้นอยู่ในเกณฑ์ดีครับ โดยเฉพาะเมื่อมีแสงแดด
ความคมบริเวณกลางภาพทำได้ดีมาก แต่ขอบภาพไม่คมนัก ทั้งนี้ผมใช้ค่ารูรับแสงประมาณ 5.6 โดยประมาณครับ
ซึ่งคาแรคเตอร์แบบนี้มันมีความใกล้เคียงกับ Vega-7 2/20 เป็นอย่างยิ่ง แต่หากใช้ที่ F 8.0 จะดีมากยิ่งขึ้นครับ
จะเห็นได้ชัดเมื่อผมใช้ค่า F-stop ที่ 8.0 โดยประมาณในการถ่ายภาพที่องค์พระปฐมเจดีย์
ซึ่งภาพที่ได้มีความคมชัดอยู่ในเกณฑ์ดีเยี่ยม โดยเฉพาะบริเวณกลางภาพ สีสันมีความสดใสและเข้มข้นดี
แต่ในเรื่องของความ Bright and clear นั้นยังเป็นรอง Peleng 3.5/8A MC อย่างเห็นได้ชัดครับ
สภาพแสงขณะถ่ายภาพที่เมืองกาญจนบุรีนั้นมีความขมุกขมัวพอสมควรครับ ทำให้ภาพที่ได้ไม่สดใสนัก
จะเห็นได้ชัดว่าเลนส์ Mir-20 ตัวของผมมันชอบแดดจัดครับ จะแสดงความยอดเยี่ยมออกมาเต็มที่
แต่ในสภาพแสงน้อย มันให้ผลงานที่ไม่ดีนักครับ สีจะออกตุ่นๆนิดๆเมื่อเจอแสงน้อย
การถ่ายภาพในสถานการณ์ที่มีความเปรียบต่างของแสงสูง จะเกิดอาการฟุ้งให้เห็นบ้างในส่วนที่ over ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติที่ยอมรับได้
ระยะ minimum focus ที่น้อยมากเพียง 25cm. ถือว่าสุดยอดครับ มีประโยชน์มากๆ
ส่วน Kaleinar-5N 2.8/100 MC และ Korsar2.8/35 MC นั้นถือว่าสุดยอดแล้วครับ เนื่องจากเคยทดสอบมาแล้ว
ใช้งานง่าย หาโฟกัสได้สะดวก ความคมชัดหายห่วงจริงๆ ที่สำคัญคือขนาดที่ไม่ใหญ่และเทอะทะจนเกินไป เหมาะสำหรับการเดินทาง
และเลนส์ชุดนี้ถือว่าสามารถใช้ถ่ายภาพในการเดินทางท่องเที่ยวได้สนุกชุดหนึ่งจริงๆครับ
สุดท้ายนี้ขอให้สมาชิกทุกท่านมีความสุข เดินทางด้วยสติเสมอครับ
สวัสดี!!!