ซื้อเพื่อลงทุน ให้ซื้อเป็นทองแท่ง ส่วนทองรูปพรรณอยู่ในหมวดหมู่ของเครื่องประดับที่ซื้อเพื่อการใช้งานและสวมใส่ จริงอยู่ว่าอาจจะเป็นเครื่องประดับที่ขาดทุนน้อยกว่าเครื่องประดับชนิดอื่น(หากคิดเป็น%) แต่ยังไงก็ต้องมากกว่าทองแท่งที่เป็นสินทรัพย์เพื่อการลงทุน

การหาราคาทอง ปกติจะเอาราคาทองแท่งต่อบาทเป็นหลัก

แต่การจะคิดราคาทองรูปพรรณหรือทองแท่งที่ต่ำกว่าบาท จะเอาราคาทองแท่งหรือราคาทองรูปพรรณ1บาทมาหารตรงๆไม่ได้ เพราะค่ากำเหน็จจะถูกแยกคิดเป็นชิ้นๆ

เช่น ราคาทองแท่งวันนี้ 18200 ถ้าร้านทองที่เราซื้อคิดกำเหน็จบาทละ900(ซึ่งแต่ละลายหรือแต่ละร้านอาจจะคิดกำหน็จไม่เท่ากัน อาจจะมีถูกกว่าหรือแพงกว่าก็ได้ ส่วนใหญ่ร้านบนห้างจะแพงกว่าเพราะเรื่องของค่าเช่า)

ราคาทองรูปพรรณ1บาทที่คุณต้องจ่ายคือ = 18200+900  = 19100

ทีนี้หากคุณต้องการซื้อทอง1สลึงในร้านเดียวกัน คุณจะเอา19100 มาหารสองเป็น 4775 ไม่ได้

ราคาที่ร้านทองจะคิดคือ

18200(ราคาทองแท่งณ.วันนั้น) หาร 4 = 4550(ราคาเนื้อทองแท่ง1สลึง)  + ค่ากำเหน็จ(แล้วแต่ลาย แล้วแต่ร้าน)สมมุติว่าร้านนี้คิดกำเหน็จ1สลึง600

ดังนั้น ราคาทองรูปพรรณ1สลึงที่เค้าจะขายคุณคือ  4550+600 = 5150

หากคุณซื้อสร้อย1สลึง4เส้นคุณต้องจ่าย5150x4 = 20600 สำหรับทอง1บาท  ในขณะที่คุณซื้อสร้อย1บาทเส้นเดียวจะมีราคาเพียง 19100

ทำไมถึงซื้อแพงกว่า? สาเหตุคือค่าแรงจะคิดเป็นชิ้น  ยกตัวอย่าง คุณมีผ้ายาว4เมตรให้ช่างตัดเสื้อตัวเดียว  กับคุณมีผ้ายาว4เมตรให้ช่างแบ่งไปตัดเสื้อ4ตัว ใช้เนื้อผ้าจำนวนเท่ากัน แต่ค่าแรงย่อมไม่เท่ากัน

ดังนั้นถ้าคุณซื้อสร้อย1สลึง4ชิ้น  ย่อมจ่ายแพงกว่าซื้อสร้อย1บาทเส้นเดียว(แต่คุณจะได้สร้อยไป4เส้น4ลายแบ่งใส่ได้4คน)

ป.ล.ส่วนเรื่องประมูลทอง หรือ ซื้อขายทองผ่านทางเนตขอไม่ออกความเห็น