http://ppantip.com/topic/34001792
โปรดหาหลักฐานมาแย้งข้อเท็จจริงของผมเป็นข้อๆ
1.ทฤษฎีอะตอมมา ดั้งเดิมมาจากนักปรัชญาชาวกรีก ชื่อ เดโมเครตุส อะตอม มาจากภาษากรีกแปลว่าแบ่งแยกไม่ได้
ในเมื่อทฤษฎีนี้มาจากชาวกรีกที่ สามพันปีที่แล้ว มันจะน่าเชื่อถือได้อย่างไร สมัยนั้นวิทยาศาสตร์ยังไม่พัฒนา
นักปรัชญาชาวกรีกมีทาสเยอะ เลยมีเวลาว่างมานั่งเล่นเฟสนั่งฟุ้ง จนเป็นทฤษฎีต่างๆ สรุปคือไม่น่าเชื่อถือเลย ทฤษฎีอะตอมนี่
2. ตอนเรียนเคมี ก็มีแบบจำลองอะตอมของบุคคลต่างๆ ของดอลตัล ของรัทเทอฟอร์ด ของใครต่อใครอีกมากมาย
สรุปยังไม่ได้เลย ว่าตกลงมันเป็นยังไงกันแน่ และมันก็เป็นแค่
ทฤษฎีแบบจำลองอะตอม มันไม่ใช่ข้อเท็จจริง กฎ
เป็นเพียงแค่ ทฤษฎี
3.ทั้งเรื่องหลักการต่างๆจาก ockham's razor ,falsifiability , การตั้งทฤษฎีต่างๆจะต้องทำให้เกิด generalization สามารถอธิบายสิ่งต่างๆได้
ที่ดีคือสามารถอธิบายปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดได้ แต่ ทฤษฎีอะตอมสามารถอธิบายวัตถุต่างๆได้ แต่ไม่สามารถอธิบาย เรื่องของวิญญาณได้ นั้นแสดงว่าเป็นทฤษฎีที่ไม่ดี ไม่ครอบคลุม
4.ถ้าทุกสิ่งเกิดจากอะตอม แม้แต่มนุษย์เองด้วย เราก็เป็นแค่ star dust ไม่ได้ต่างอะไรกับใบไม้ สุนัข แมว กระรอก แต่ศาสนาพุทธบอกว่ามนุษย์เป็นสัตว์ประเสริฐ เป็นผู้ที่ฝึกได้ สูงกว่าสิ่งอื่นๆ นั้นก็สรุปได้ว่า เราไม่มีทางเกิดมาจากอะตอมเหมือนสิ่งอื่นๆ
5.ถ้ามนุษย์เกิดมาจากอะตอมจริง ตามหลักกลศาสตร์ ถ้าเรารู้ n อะตอม รู้ position และ velocity ของอะตอมแต่ละอัน เราก็จะสามารถทำนายปรากฎการณ์ต่างๆได้อย่างแม่นยำ มนุษย์ก็จะกลายเป็นแค่หุ่นยนต์ ถ้าเรารู้ initial condition ของ n อะตอมนั้น เราก็จะรู้ว่ามันทำอะไรบ้างที่เวลา t ต่างๆ มนุษย์ก็จะเป็นอะไรแค่ mechanical man ไม่ได้ทำอะไรตามใจตนเอง ทุกอย่างถูกกำหนดไว้แล้ว ตั้งแต่big bang
เราจะกลายเป็นแค่นักแสดงที่ทำอะไรตามบทบาท(initial condition) ไม่มีชีวิต จิตใจ คุณค่า ศักดิ์ศรีอะไรเลย ลองคิดดูว่าแนวคิดที่น่าขำนี้จะเป็นจริงได้อย่างไร
6.จากข้อ 5 ผมสามารถเลือกเขียนกระทู้นี้ได้ คุณสามารถอ่าน ตอบหรือไม่ตอบกระทู้นี้ได้ หรือจะตอบกระทู้อย่างไร นั่นเป็นการยืนยันว่าท่านๆ สามารถคิดตัดสินใจได้ นั้นคิดย้อนกลับไป ท่านก็ไม่ใช่ mechanical man ในเมื่อไม่ใช่ ทฤษฎีอะตอมก็ไม่เป็นจริง
-------------------------------
การจำคำฝรั่งมา เรียกว่า อโยนิโสมนสิการ คือ การทำในใจโดยไม่แยบคาย
ส่วนถ้ามนุษย์ไม่ได้เกิดมาจากอะตอม แล้วเกิดมาจากอะไร มนุษย์นั้นเกิดมาจากอะไร ประกอบมจากอะไร ขอเชิญท่านหาคำตอบจากพระไตรปิฎกครับ
ผมจะไม่เฉลย เพื่อให้ท่านฝึกหาคำตอบเอาเอง เพราะพวกท่านคุ้นชินกับการจำคำของฝรั่งมากเกินไปแล้ว
สิ่งที่ท่านได้จำมา มันใช่หรอ ลองย้อนคิดทบทวนดีๆครับ คนเราผิดพลาดกันได้ แต่อยู่ที่ว่าจะกลับมาแก้ไขหรือเปล่า อย่าลืมนะครับมา มิจฉาทิฏฐิ นั้นมีโทษมาก ไม่มีคุณเลย
ปัจจัยให้เกิดมิจฉาทิฏฐิ
ปัจจัยให้เกิดมิจฉาทิฏฐิ มี 2 อย่างได้แก่
ปรโตโฆสะ คือ การโฆษณาแต่บุคคลอื่น เสียงจากผู้อื่น ฟังคำบอกเล่าชักจูงของผู้อื่น
อโยนิโสมนสิการ คือ การทำในใจโดยไม่แยบคาย การไม่ใช้ปัญญาพิจารณา ความไม่รู้จักคิด การปล่อยให้อวิชาครอบงำ ตรงกันข้ามกับคำว่า โยนิโสมนสิการ
เนื่องจากกระทู้เก่า ผมไม่เชื่อว่าร่างกายผมเกิดมาจากอะตอม ผมมั่นใจว่าผมมีวิญญาณ มีชีวิตจิตใจ ใครสงสัยแย้งได้
โปรดหาหลักฐานมาแย้งข้อเท็จจริงของผมเป็นข้อๆ
1.ทฤษฎีอะตอมมา ดั้งเดิมมาจากนักปรัชญาชาวกรีก ชื่อ เดโมเครตุส อะตอม มาจากภาษากรีกแปลว่าแบ่งแยกไม่ได้
ในเมื่อทฤษฎีนี้มาจากชาวกรีกที่ สามพันปีที่แล้ว มันจะน่าเชื่อถือได้อย่างไร สมัยนั้นวิทยาศาสตร์ยังไม่พัฒนา
นักปรัชญาชาวกรีกมีทาสเยอะ เลยมีเวลาว่างมานั่งเล่นเฟสนั่งฟุ้ง จนเป็นทฤษฎีต่างๆ สรุปคือไม่น่าเชื่อถือเลย ทฤษฎีอะตอมนี่
2. ตอนเรียนเคมี ก็มีแบบจำลองอะตอมของบุคคลต่างๆ ของดอลตัล ของรัทเทอฟอร์ด ของใครต่อใครอีกมากมาย
สรุปยังไม่ได้เลย ว่าตกลงมันเป็นยังไงกันแน่ และมันก็เป็นแค่ทฤษฎีแบบจำลองอะตอม มันไม่ใช่ข้อเท็จจริง กฎ
เป็นเพียงแค่ ทฤษฎี
3.ทั้งเรื่องหลักการต่างๆจาก ockham's razor ,falsifiability , การตั้งทฤษฎีต่างๆจะต้องทำให้เกิด generalization สามารถอธิบายสิ่งต่างๆได้
ที่ดีคือสามารถอธิบายปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดได้ แต่ ทฤษฎีอะตอมสามารถอธิบายวัตถุต่างๆได้ แต่ไม่สามารถอธิบาย เรื่องของวิญญาณได้ นั้นแสดงว่าเป็นทฤษฎีที่ไม่ดี ไม่ครอบคลุม
4.ถ้าทุกสิ่งเกิดจากอะตอม แม้แต่มนุษย์เองด้วย เราก็เป็นแค่ star dust ไม่ได้ต่างอะไรกับใบไม้ สุนัข แมว กระรอก แต่ศาสนาพุทธบอกว่ามนุษย์เป็นสัตว์ประเสริฐ เป็นผู้ที่ฝึกได้ สูงกว่าสิ่งอื่นๆ นั้นก็สรุปได้ว่า เราไม่มีทางเกิดมาจากอะตอมเหมือนสิ่งอื่นๆ
5.ถ้ามนุษย์เกิดมาจากอะตอมจริง ตามหลักกลศาสตร์ ถ้าเรารู้ n อะตอม รู้ position และ velocity ของอะตอมแต่ละอัน เราก็จะสามารถทำนายปรากฎการณ์ต่างๆได้อย่างแม่นยำ มนุษย์ก็จะกลายเป็นแค่หุ่นยนต์ ถ้าเรารู้ initial condition ของ n อะตอมนั้น เราก็จะรู้ว่ามันทำอะไรบ้างที่เวลา t ต่างๆ มนุษย์ก็จะเป็นอะไรแค่ mechanical man ไม่ได้ทำอะไรตามใจตนเอง ทุกอย่างถูกกำหนดไว้แล้ว ตั้งแต่big bang เราจะกลายเป็นแค่นักแสดงที่ทำอะไรตามบทบาท(initial condition) ไม่มีชีวิต จิตใจ คุณค่า ศักดิ์ศรีอะไรเลย ลองคิดดูว่าแนวคิดที่น่าขำนี้จะเป็นจริงได้อย่างไร
6.จากข้อ 5 ผมสามารถเลือกเขียนกระทู้นี้ได้ คุณสามารถอ่าน ตอบหรือไม่ตอบกระทู้นี้ได้ หรือจะตอบกระทู้อย่างไร นั่นเป็นการยืนยันว่าท่านๆ สามารถคิดตัดสินใจได้ นั้นคิดย้อนกลับไป ท่านก็ไม่ใช่ mechanical man ในเมื่อไม่ใช่ ทฤษฎีอะตอมก็ไม่เป็นจริง
-------------------------------
การจำคำฝรั่งมา เรียกว่า อโยนิโสมนสิการ คือ การทำในใจโดยไม่แยบคาย
ส่วนถ้ามนุษย์ไม่ได้เกิดมาจากอะตอม แล้วเกิดมาจากอะไร มนุษย์นั้นเกิดมาจากอะไร ประกอบมจากอะไร ขอเชิญท่านหาคำตอบจากพระไตรปิฎกครับ
ผมจะไม่เฉลย เพื่อให้ท่านฝึกหาคำตอบเอาเอง เพราะพวกท่านคุ้นชินกับการจำคำของฝรั่งมากเกินไปแล้ว
สิ่งที่ท่านได้จำมา มันใช่หรอ ลองย้อนคิดทบทวนดีๆครับ คนเราผิดพลาดกันได้ แต่อยู่ที่ว่าจะกลับมาแก้ไขหรือเปล่า อย่าลืมนะครับมา มิจฉาทิฏฐิ นั้นมีโทษมาก ไม่มีคุณเลย
ปัจจัยให้เกิดมิจฉาทิฏฐิ
ปัจจัยให้เกิดมิจฉาทิฏฐิ มี 2 อย่างได้แก่
ปรโตโฆสะ คือ การโฆษณาแต่บุคคลอื่น เสียงจากผู้อื่น ฟังคำบอกเล่าชักจูงของผู้อื่น
อโยนิโสมนสิการ คือ การทำในใจโดยไม่แยบคาย การไม่ใช้ปัญญาพิจารณา ความไม่รู้จักคิด การปล่อยให้อวิชาครอบงำ ตรงกันข้ามกับคำว่า โยนิโสมนสิการ