>> ทริปนี้ถือว่า ฟินสุดๆ สวยงามโดยที่ไม่คิดว่า ภาคตะวันออกจะมีเกาะสวยๆแบบนี้ เกินความคาดหมายมากๆ ค่ะ ธรรมชาติยังคงสวยงามจริงๆ เงียบ สงบ อารมณ์เหมือนติดเกาะ ได้พักผ่อน ชาร์ตแบตให้กับร่างกายเต็มที่ถึงแม้เป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่มีความสุขมาก เลยจะมาเล่าให้ฟังกันค่ะ ใครมีแพลนจะไปเกาะกูด ตามมากันได้เลยค่ะ
เรื่มต้นจากการหาข้อมูลบนเกาะกันก่อน เกาะกูดอย่างที่บอกตอนแรกว่ามีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 4 รองจากเกาะช้าง หลังจากเราได้หาแผนที่มาดูแล้ว พบว่า มีพื้นที่เยอะมาก และมีอ่าวเล็กอ่าวใหญ่มากมายเลย แต่ละหาด แต่ละอ่าวมีความสวยงามแตกต่างกันไป



เราได้ทำการเลือกที่พักโดยทำการเปรียบเทียบราคาหลายที่พอสมควร เนื่องจากเราไปกันทั้งหมด 6 คน เลยอยากได้บรรยากาศแบบ
ชิลๆสบายๆ มีพื้นที่สำหรับปาตี้เล็กๆ ได้ รวมทั้ง ราคาถูก 55+  สรุปเลยมาจบที่อาณาเลย์รีสอร์ท เป็นลักษณะบ้านหลังเล็กๆ 2 หลัง
นอนหลังละ 3 คน เราและเพื่อนๆไม่ได้ซื้อแพคเกจใดๆ ( ปกติคนที่ไปเกาะกูดส่วนใหญ่มักไปแบบซื้อแพคเกจ 3 วัน 2คืน )
ตอนแรกที่แพลนไว้ว่าอยากไปดำน้ำดูประการังด้วย แต่หลังจากโทรสอบถามที่พักหลายที่แล้ว เค้าบอกว่า ถ้าจะดำน้ำดูประการัง
แนะนำว่าให้ไป 3 วัน 2 คืน เนื่องจากเกาะกูด ค่าเรือไปกลับค่อนข้างแพงอีกทั้งดำน้ำใช้เวลาเยอะค่ะ แต่เรามีเวลาจำกัดแค่ 1 คืนเท่านั้น
และอยากดำน้ำด้วย 55+  ใจนึงก็แอบเซ็ง แต่อีกใจก็ลุ้นว่าเผื่อจะไปทันดำน้ำ งั้นเรา เดินทางแต่เช้า เพื่อไปให้ทันดำน้ำในวันแรกเลย  
เพราะปกติคนที่ไปเกาะกูด เค้าจะไปดำน้ำวันที่ 2 กันค่ะ
รูปที่พักที่เราเลือกค่ะ


หลังจากตกลงกันเรียบร้อยได้ทำการจองที่พักรวมทั้งเรือด้วยเลย ให้ที่พักติดต่อจองเรือให้ด้วย เราสอบถามราคาแบบจองเองกับให้ที่พักจองแล้วไม่ต่างกัน เลยจองกับที่พักเลยค่ะ เป็น Speed boat เกาะกูดค่อนข้างไกลและค่าเรือค่อนข้างแพงเลยทีเดียว  มีทั้งเรือใหญ่และ Speed boat เราต้องไปขึ้นเรือที่ท่าเรือแหลมศอก ซึ่งห่างจากตัวเมือง จ. ตราด ประมาณ 30 กิโลเมตร  ใช้เวลาเดินทางจากท่าเรือไปเกาะกูด 60-90 นาทีดังนั้นเราเลยตกลงกันว่าจะไป Speed Boat เพื่อไม่ให้เสียเวลามากไปกับการเดินทาง
โดยราคา Speed Boat จะอยู่ที่ 500 บาท / เที่ยว /คน , เรือเฟอร์รี่ 350 /เที่ยว /คน
แต่ Speed boat จะเร็วกว่า และเรือเฟอรรี่ออกสายกว่า ทำให้เรากลัวมีเวลาอยู่บนเกาะน้อยด้วย ^^
มาถึงท่าเรือแหลมศอกพระอาทิตย์กำลังจะขึ่นพอดี 6 โมงกว่าๆ อากาศเย็นสบายๆ เราลงไปสำรวจพร้อมถ่ายรูปเล่นกันระหว่างรอเรือ






เราก็ได้มาเชคอินที่อาณาเลย์รีสอร์ท ฝั่งท่าเรือกันก่อน จ่ายค่าตั๋วเรือ พร้อมกับจิบชากาแฟ รอเรือมารับ โดยจะมีรถตู้ขับไปส่งขึ้นเรือ ( จิงๆ แล้วจากที่รอ ไปท่าเรือก็ไม่ไกลเท่าไหร่ สามารถเดินได้) แต่มีบริการรถตู้ก็ดีค่ะ ไม่เมื่อย 55+ ประมาณ 8 โมง ก็ได้เวลาลงเรือ



นั่งสปีดโบ้ทเลยเกาะช้าง เกาะหมาก จนถึงเกาะกูด พอใกล้ๆถึงก็รู้สึกประทับใจมากๆเลย ทำไม เกาะยังคงมีความเป็นธรรมชาตินะ
มองไปเห็นต้นมะพร้าว ต้นไม้ รีสอร์ทก็มีไม่เยอะ จากการที่เราก็ไปเที่ยวมาหลายเกาะในแถบโซนตะวันออก
รู้สึกประทับใจตั้งแต่ยังไม่ย่ำเท้าลงพื้นเกาะเลยค่ะ


ประมาณ 9.30 โมง  เราถึงที่พักที่เราจองไว้ เรือมาส่งถึงท่าหน้าที่พักเลยค่ะ มีสะพานไม้ สุดคลาสสิคเดินถึงหน้าห้องพักเลย
พอเจอที่พักถึงกับร้องว้าววอีกครั้ง ^^  บรรยากาศเหมือนติดเกาะ นี่มันเกาะส่วนตัวชัดๆ



มาถึงหลังจากวางกระเป๋าเรารีบเข้าไปทำการเจรจากับที่พักเลย พี่ๆคะ  อยากไปดำน้ำทันมั้ย ??
ตอนแรก พี่เจ้าของรีสอร์ทบอกว่าไม่ทันแล้ว เรือพึ่งออกไป อยากให้เราไปกันพรุ่งนี้ แต่เราก็ต่อรองพี่พวกเรามีเวลาแค่วันเดียวอยากไปวันนี้ค่ะ อยากไปมากๆเลย 55+ เนืองจากเราไปกัน 6 คน ด้วยมั้ง พี่เจ้าของที่พักเลยติดต่อเรือให้ เรียกว่า แทบจะไปส่วนตัวเลยทีเดียวและก็มีอีกกรุ๊ปนึง เค้ามากัน 3 คน คือวางกระเป๋าเสร็จปุ๊บเปลี่ยนชุด และไปดำน้ำกันต่อเลย  speed boat ลำใหญ่ ไปกัน 9 คน ส่วนตัวสุดๆ ปกติเค้าไปกันเต็มลำ ^^

บรรยากาศหน้าอาณาเลย์ รีสอร์ทค่ะ มุมกว้างมากกก น้ำใสกิ๊ก  ส่วนตัวสุดๆ ไม่มีรีสอร์ทข้างเคียงเลย ชอบมาก


เอาละออกเดินทางไปดำน้ำ 5 เกาะ กัน เรือพามาเกาะยักษ์เล็กก่อน เพื่อให้ลองดำน้ำ สำหรับคนที่ไม่เคยดำผิวน้ำมาก่อน
ชายหาดขาวสะอาดน้ำทะเลใสกิ๊ก ก็ดำน้ำเล่นกันไปสักพักนึง ก็พาไปที่อื่นต่อ


จากนั้นก็พาไปดำน้ำที่เกาะยักษ์ เกาะมะปริง เกาะรัง ได้ลงดำน้ำกัน2 รอบ ใต้ท้องทะเล สวยมาก
ประการังยังคงสวยงามมากจริงๆ ไม่คิดว่า ชายฝั่งทะเลตะวันออกจะมีประการังที่สมบูรณ์และสวยงามขนาดนี้
มองเห็นน้องปลานีโม่ และหอยเม่นเยอะมากกๆ



ตอนดำน้ำเรามัวแต่ห่วงดำน้ำกันสนุกสนานและตื่นตากับโลกใต้ท้องทะเล เลยมีภาพมาฝากน้อยค่ะ ไม่มีกล้องใต้น้ำด้วยเสียดายมากๆเลย
เพราะใต้น้ำสวยมากจริงๆ ต้องลองไปดูด้วยตาตัวเองค่ะ จะเห็นว่ามันคุ้มค่าที่มาจริงๆ เราพากันดำน้ำวนรอบเกาะ อยู่ 2 รอบ
หมดไปครึ่งวันได้ 55+ ขึ้นจากน้ำมาตัวดำเมี่ยมเลยค่ะ 55



ทะเลสวย น้ำใส และปลาเยอะมากๆ

หลังจากดำน้ำ พี่คนขับเรือก็พาไปเกาะแรกที่เรามากันเพื่อแวะกินข้าว เป็นข้าวผัดกระเพราปลาหมึกที่อร่อยมากกๆ เลยค่ะ
หรือพวกเราหิวมากกันก็ไม่รู้ กินเสร็จก็ไปว่ายน้ำเล่นกันบนเกาะอีกนิดนึง ยังมีพลังเหลืออยู่


เห็นสีน้ำทะเลแล้วอดใจไม่ไหวค่ะ ^^  อีกสักรูป ก่อนพากันกลับที่พักแบบหมดแรงเลย
[img]http://f.ptcdn.info/003/034/000/1438429768-10JPG-o.jpg[/img

มาถึงที่พักบรรยากาศยามเย็น นี่เป็นสะพานทางเข้าที่พักพวกเราค่ะ ทั้งหมดในภาพคือหน้าที่พักเลย บรรยากาศดีสุดๆเลย
มีร้านอาหาร เคาเตอร์บาร์เล็กๆ มุมอ่านหนังสือ สระว่ายน้ำ วิวสวนมะพร้าว น้ำทะเลใสกิ๊ก เรียกว่าครบ เหมาะกับการมาพักผ่อนแบบอารมณ์ติดเกาะจริงๆ

อาบน้ำแต่งตัวมาถ่ายภาพบรรยากาศยามเย็นสักนิด
[img]http://f.ptcdn.info/003/034/000/1438429841-14JPG-o.jpg[/img



บ้างมาเป็นครอบครัว บ้างมาเป็นคู่ บรรยากาศโรแมนติกจริงๆค่ะ แอบอิจฉาฝรั่งคู่นี้ สวีท เข้ากับบรรยากาศทำให้พวกเราเหงาเลยทีเดียว^^

เราก็เลย ขอเก็บความประทับใจกับบรรยากาศเหงาๆ สัก 1 รูป ก่อนพระอาทิตย์จะลาลับขอบฟ้าในวันนั้น

หลังจากอาบน้ำแต่งตัวสักพักก็ได้เวลาอาหารเย็นเราไม่ต้องเดินทางไปไหนก็ก็อยู่ที่นี่แหล่ะค่ะบรรยากาศร้านอาหารก็ดีมากสั่งซีฟูดมาแบบจัดเต็ม
หารกันแล้วไม่ถึง 300 ต่อคน เยี่ยมมากเลยระหว่างอาหารค่ำมีโชว์กระบองไฟมาถึงที่นี่เลยค่ะ ไม่ต้องเหนื่อยไปหาที่อื่น


หลังจากอิ่มหนำสำราญกับอาหารซีฟูดพร้อมโชว์กระบองไฟ เราก็มีปาร์ตี้กันเล็กๆ บริเวณหน้าห้องพัก สักพักก็นอนเนื่องจากเหนื่อยล้า
จากการท่องเที่ยวดำน้ำดูประการังแบบจัดเต็มค่ะ
มาดูบรรยากาศยามเช้ากันอักสิกนิด


ธรรมชาติสวยงามเสมอ แม้กระทั่งดอกไม้เล็กๆ รอแค่เราไปสัมผัสความสวยงาม และช่วยกันรักษาเพื่อให้คงอยู่ต่อไป

เจอน้องหมาเจ้าถื่นเดินเตร็ดเตร่ กินลมชมทะเล สบายใจมากๆเลยค่ะ

ทิวแถวต้นมะพร้าวยาวสุดตา มองแล้วสบายใจสุดๆ

โต๊ะพูลเก๋ๆ บรรยากาศดีสุดๆ มองไปเห็นวิวทะเล 180 องศา อยากติดเกาะแบบนี้สัก 3 เดือนเลยค่ะ ^^

เราต้องบ้ายบายเกาะกูดแล้ว ไว้มีโอกาศจะมาใหม่ และมานานกว่านี้แน่นอนค่ะ เนื่องจากมีเวลาน้อยไปหน่อย แต่ประทับใจมากๆ
น้ำใส ขนาดนี้ ธรรมชาติสวยงามขนาดนี้ต้องมาอีกแน่นอน


สุดท้ายขอขอบคุณเพื่อนๆที่อ่านจนจบ หากผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยค่ะ นี่ถือว่าเป็นการรีวิวครั้งแรกของเราเลยค่ะ