ต่อจาก Part 1 รีวิวทริปเที่ยวยุโรปเหนือชมฟยอร์ดและล่องเรือสำราญ Costa    http://ppantip.com/topic/33870954
         Part 2 รีวิวทริปเที่ยวยุโรปเหนือชมฟยอร์ดและล่องเรือสำราญ Costa วันที่ 2 เที่ยวกัวลาลัมเปอร์   http://ppantip.com/topic/33878708
         Part 3 รีวิวทริปเที่ยวยุโรปเหนือชมฟยอร์ดและล่องเรือสำราญ Costa วันที่ 3 ชิมลาง Copenhagen http://ppantip.com/topic/33887984
         Part 4 รีวิวทริปเที่ยวยุโรปเหนือชมฟยอร์ดและล่องเรือสำราญ Costa วันที่ 4 ชมเมืองน่ารัก Helsingor http://ppantip.com/topic/33909339
         Part 5 รีวิวทริปเที่ยวยุโรปเหนือชมฟยอร์ดและล่องเรือสำราญ Costa วันที่ 4 พาเที่ยว Helsingborg & Malmo http://ppantip.com/topic/33918582
         Part 6 รีวิวทริปเที่ยวยุโรปเหนือชมฟยอร์ดและล่องเรือสำราญ Costa วันที่ 5 ชมวังอลังการ ใน Copenhagen http://ppantip.com/topic/33936462
         Part 7 รีวิวทริปเที่ยวยุโรปเหนือชมฟยอร์ดและล่องเรือสำราญ Costa วันที่ 6 เที่ยว Stockholm ราชินีแห่งทะเลบอลติก http://ppantip.com/topic/33950029
         Part 8 รีวิวทริปเที่ยวยุโรปเหนือชมฟยอร์ดและล่องเรือสำราญ Costa วันที่ 6 เที่ยว Stockholm ชมพิพิธภัณฑ์ขึ้นหอคอยสูง http://ppantip.com/topic/33968804
         Part 9 รีวิวทริปเที่ยวยุโรปเหนือชมฟยอร์ดและล่องเรือสำราญ Costa วันที่ 7 ขึ้นเรือสำราญวันแรก http://ppantip.com/topic/33973448
         Part 10 รีวิวทริปเที่ยวยุโรปเหนือชมฟยอร์ดและล่องเรือสำราญ Costa วันที่ 8 พาชมเรือสำราญ Luminosa http://ppantip.com/topic/33981989

หลังจากวันวานที่เรือออกจากท่าเมือง Stockholm เราต้องอยู่บนเรือสำราญทั้งวัน ผมลองเข้าไปสังเกตในห้องคาสิโน พบว่ามีคนเข้ามาเล่นการพนันน้อยมาก ตย.โต๊ะไพ่มี 3 ตัว แต่มีคนเล่นแค่โต๊ะเดียว โต๊ะที่เหลือพนักงานแจกไพ่ยืนเซ็งๆ เลยแปลกใจนิดๆ เพราะทีแรกเข้าใจว่าการเที่ยวด้วยเรือสำราญ เท่าที่เห็นมาแทบทุกรูทจะต้องมีวันพักแล่นเรือฟรีเต็มวันอยู่เสมอ ทั้งที่การจัดตารางการเดินเรือนั้น สามารถจัดให้แวะจอดเทียบฝั่งได้หลายเมืองมาก พูดง่ายๆว่าไม่จำเป็นต้องมีวันล่องเรือฟรีเต็มวันเลยด้วยซ้ำไป เลยเดาเอาว่าการที่เรือสำราญแทบทุกรูทมีการล่องเรือฟรีเต็มวันแทรกอยู่อย่างน้อยขั้นต่ำรูทละ 1 วัน แสดงว่าเรือต้องการรายได้เพิ่มจากบ่อนคาสิโน หรือกิจกรรมการขายของต่างๆ ในเมื่อต้องอยู่บนเรือเต็มวัน คนบางส่วนน่าจะจับจ่ายใช้สอยบนเรือนั่นเอง

แต่จากการพูดคุยกับชายอังกฤษสูงวัยร่วมโต๊ะอาหารดินเนอร์ ทำให้ทราบว่าผมเข้าใจผิด เนื่องจากแกบ่นว่ารูทนี้เรือแวะจอดให้เที่ยวเยอะเกินไป แกเหนื่อยต้องขอพักบ้าง บางวันยอมไม่ออกจากเรือไปเที่ยวบนบก แสดงว่ากลุ่มลูกค้าหลักของเรือสำราญโดยมากเป็นคนสูงวัย ไม่สามารถเที่ยวติดต่อกันได้หลายวัน ต้องมีวันล่องเรือฟรีเต็มวันเข้ามาแทรก เพื่อให้ลูกค้าสูงวัยได้พักผ่อนบนเรือบ้าง เสียดายที่ผมยังไม่สูงวัย ยังอยากเที่ยวเต็มที่ เลยต้องพยายามหารูทเรือสำราญที่แวะจอดเที่ยวเยอะๆ ล่องเรือฟรีเต็มวันน้อยๆ ยังดีที่รูทแบบนี้ก็ยังพอหาได้ไม่ยากเกินไปนัก

วันนี้เรือสำราญแวะจอดที่เมือง Helsinki ประเทศฟินน์แลนด์ ตั้งแต่ 8.00-18.00 น. โปรดทราบว่าเวลาที่แสดงคือเวลาท้องถิ่นของเมืองที่แวะจอด ดังนั้นต้องไม่ลืมปรับนาฬิกาให้ตรงกับเวลาท้องถิ่นด้วย ผมเองเกือบพลาดตกเรือที่เมืองนี้แหละ เพราะเข้าใจผิดว่าฟินน์แลนด์กับสวีเดนมันอยู่ใกล้กันก็น่าจะใช้เวลาเดียวกัน แต่ที่ไหนได้กลายเป็นว่าเวลาของฟินน์แลนด์เร็วกว่าสวีเดน 1 ชม. เกือบซวยซะแล้ว เพราะปกติผมจะเที่ยวเต็มที่ แบบว่ากว่าจะกลับเรือสำราญก็ใกล้เส้นตายปิดประตูเรือ ซึ่งปกติประตูเรือจะปิดก่อนกำหนดเวลาเรือออกจากท่าราว 1 ชม. ตย.เรือออกจากท่าเมือง Helsinki 18.00 น. แสดงว่าประตูเรือจะปิดราว 17.00 น. ถ้าผมลืมปรับเวลา เท่ากับว่าผมมาถึงเรือตอนใกล้ๆ 18.00 น. ซึ่งประตูเรือได้ปิดแล้วนั่นเอง

ขอเตือนทุกคนว่าในห้องโถงเรือสำราญจะมีนาฬิกาแขวนอยู่ ถ้าช่างสังเกตซะหน่อย ผมควรเทียบเวลาและปรับนาฬิกาข้อมือให้ตรงกับเวลาของนาฬิกาบนผนังเรือ เพราะนาฬิกาติดผนังในห้องโถงของเรือสำราญจะต้องปรับตามเวลาท้องถิ่นของเมืองที่เรือแวะจอดเสมอ นี่คือสิ่งสำคัญที่นักท่องเที่ยวเรือสำราญไม่ควรพลาด

หลังจากเราซัดอาหารเช้าบุฟเฟ่ต์บนชั้น 9 ของเรือสำราญ กว่าที่เราจะออกจากเรือตอน 8.30 น. ทั้งที่ความจริงมันเป็นเวลา 9.30 น. (เวลาของฟินน์แลนด์) ต่างหาก แต่เราไม่ทราบเพราะเข้าใจผิดว่าเวลาของฟินน์แลนด์มันเหมือนกับเวลาของสวีเดน ทีนี้เราไม่ได้ทำการบ้านมาก่อน ว่าจากท่าเรือสำราญมันมีรถบัสท้องถิ่นวิ่งเข้าใจกลางเมือง Helsinki หรือไม่ ถ้ามีราคาน่าจะถูกกว่าขึ้นรถบัสของเรือสำราญแน่นอน แต่เพราะไม่รู้ข้อมูลก็ต้องยอมจ่ายแพงขึ้นรถบัสของเรือสำราญตกคนละ 10 กว่ายูโร รับส่งทั้งขาไปและขากลับ เช้านี้อากาศไม่ดี ฝนตกพรำๆ ลางไม่ค่อยดีเลยแฮะ

นั่งรถบัสเข้าเมืองใช้เวลาไม่นาน รถบัสก็มาจอดบริเวณท่าเรืออีกด้านของเมือง Helsinki พอลงจากรถบัส ผมรีบถ่ายภาพสถานที่นี้เป็นจุดสังเกต ว่าขากลับเราต้องมาคอยรถบัสบริเวณนี้



กางร่มเดินลุยฝนตามกลุ่มคนที่ลงจากรถบัสมาพร้อมเรา ฝนตกหนักขึ้นท่าทางไม่ค่อยดี เจออาคารหลังนี้รีบเข้าไปหลบฝนข้างในก่อนดีกว่า



เปิดประตูเดินเข้าไปได้ฟรีซะด้วย อ้อ ที่แท้มันคือตลาดสดขายอาหาร,ขนม และเครื่องดื่มของกินต่างๆนั่นเอง









จากนั้นฝนเริ่มซา เราก็ถามทางจากคนในตลาดสดเพื่อเดินไปจุดบริการข้อมูลนักท่องเที่ยว (Tourist Information) ของเมืองนี้ ตั้งใจจะสอบถามแหล่งท่องเที่ยวและร้าน AD ของนาฬิกา Rolex (อ่านรายละเอียดจากกระทู้นี้ รีวิวการซื้อ Rolex in Sweden http://ppantip.com/topic/33883164) เดินไปไม่ไกลนักเราก็หาเจอจนได้ จุดบริการนักท่องเที่ยว หลังจากสอบถามข้อมูลต่างๆเรียบร้อย เราก็เดินกางร่มลุยเที่ยวกันเลย

จุดแรกที่เดินไปชมคือที่นี่ Helsinki Lutheran Cathedral เป็นแลนด์มาร์คเด่นอันดับต้นๆของเมืองนี้เลยครับ







เข้าไปชมภายในวิหารกันครับ ชมฟรีดีจัง แต่การตกแต่งภายในของที่นี่ไม่อลังการเท่าไหร่ สวยสู้โบสถ์วิหารขนาดใหญ่หลายแห่งในยุโรปไม่ได้เลย













เดินออกมาชมบริเวณด้านนอกจัตุรัสอนุสาวรีย์ของจักรพรรดิ Alexander ที่ 2 ผู้ยิ่งใหญ่