ประสบการณ์และเกร็ดเล็ก ๆ น้อย ๆ ของการไปเยี่ยมชม Frozen Village ที่ Hong Kong Disneyland



ช่วงนี้ใครก็ตามที่มีโอกาสได้ไป Hong Kong Disneyland ในช่วงนี้ทาง Disney ได้มีการจัดเทศกาลพิเศษสำหรับคนรักการ์ตูนเรื่อง Frozen นั่นคือมีโซน Frozen Village โดยมี ราชินีเอลซ่า อันนา คริสตอฟ โอลาฟ และการแสดงซึ่งจะมีตั้งแต่วันนี้ถึง 30 ส.ค.

ผมและครอบครัวก็มาที่ Disneyland ด้วยเหตุผลนี้ น้องวิลล์ชอบดู Frozen มาก รู้จักทุกตัวละคร โดยเฉพาะโอลาฟ ดูจะชอบมากเป็นพิเศษเลย
ก่อนจะมาที่ Disneyland เราค้นหาข้อมูลมาอย่างดีว่า พอเหยียบเข้าไปที่ Disneyland เราควรจะไปที่ Frozen Village ก่อนเพื่อไปรับบัตรคิว (บัตร "Frozen" Festival Show Reservation Pass ) ของการแสดงในแต่ละรอบก่อนที่จะไปส่วนต่าง ๆ ใน Hong Kong Disneyland เพราะจะได้ไม่ต้องมารอเข้าคิวให้เสียเวลา เราคิดว่าเราพร้อมแล้ว น้องวิลล์คงได้เข้าไปใน Frozen Village สบาย ๆ แน่นอน

และเมื่อถึงวันที่เราไปที่ Hong Kong Disneyland เราไปถึงประมาณ 10.40 น. Hong Kong Disneyland เปิดเวลา 10.00 น. เราคิดว่าเวลาที่เรามาถึงไม่ช้าไม่เร็วเกินไป วันนี้ก็ตั้งใจอยู่ว่าอยู่ถึงเลิกแน่นอน วันนี้มีฝนตกแต่ไม่หนักมากพอรับได้ เราเดินเข้ามาตามทางจากที่จอดรถจนถึงหน้าทางเข้า หยิบตั๋วเข้า Disneyland ที่เราได้ทำการซื้อไว้ล่วงหน้าแล้ว ก็เดินเข้ามาเลยโดยไม่ต้องรอต่อคิวซื้อบัตรเหมือนคนอื่น ๆ ที่รอต่อแถวซื้อตั๋วเข้า Disneyland กันอยู่อย่างเนืองแน่น พวกเรามีการถ่ายรูปหน้า Disneyland เล็กน้อยตามธรรมเนียม ถ่ายรูปตรงสวนดอกไม้รูปหน้า Mickey Mouse พร้อม ๆ กับมีรถไฟวิ่งผ่านพอดี ในใจก็คิดว่า “วันนี้ฉลุยตามแผนทุกประการ”

จากนั้นเราก็เดินตรงไปที่ Frozen Village โดยทันที Frozen Village อยู่ใกล้ ๆ กับโซน Grizzly Gulch จากหน้าทางเข้า เดินตรงเข้ามาจะมีวงเวียนอยู่ มองไปข้างหน้าจะเห็นปราสาทของ Cinderella สัญลักษณ์หนึ่งของ Disneyland อยู่ข้างหน้า เราไม่ตรงเข้าปราสาทนะครับ เราไปทางด้านซ้าย ตรงไปเรื่อย ๆ ทางโซน Grizzly Gulch แล้วเราก็จะเจอพนักงาน Disneyland พร้อมกับป้าย ที่แสดงว่า รอบต่อไปของ Frozen Village จะแสดงกี่โมง ป้ายนั้นบอกว่ารอบการแสดงต่อไปเป็นเวลาบ่ายครึ่ง

เวลานั้นก็ประมาณ 10.25 น. ได้ผมก็รีบเดินเข้าไปติดต่อเพื่อขอรับบัตรคิวโดยทันที ในใจไม่คิดอยู่แล้วว่าจะได้ดูในรอบต้น ๆ แต่วันนี้เราจะอยู่ที่ Disneyland จนดึก ได้บัตรกี่โมงก็ไม่เป็นไรขอให้ได้ดู แล้วค่อยมาดูตารางการแสดงอื่น ๆ ใน Disneyland อีกที ............. นั่นคือแผนที่วางเอาไว้ แต่พอผมได้คุยกับทางพนักงานของทาง Disneyland แล้ว เรื่องมันผิดแผนไปหมดเลย ผมขอเล่าประโยคต่อประโยคที่ผมคุยกับพนักงาน Disneyland เป็นภาษาไทยนะครับ

“สวัสดีครับ ผมจะมารับบัตรคิวเข้า Frozen Village ครับ” ผมคุยเข้าประเด็นทันที

“ตรงนี้เป็นจุดเข้าคิวในการเข้าชมการแสดงในรอบบ่ายโมงครับ ถ้าจะมารับบัตรคิวต้องเดินไปรับที่จุดนั้นครับ” พนักงานพูดพร้อมกับชี้ไปที่หน้าตึกของ Frozen Village

“ขอบคุณครับ” ผมพูดเสร็จพร้อมกับจะเดินไปยังจุดที่พนักงานพึ่งบอก

“แต่ตอนนี้บัตรเต็มหมดแล้วนะครับ” พนักงานรีบบอก

ผมหยุดเดินพร้อมกับพูดขึ้นมาว่า “อะไรนะ”

“บัตรเต็มหมดแล้วครับ” พนักงานยืนยัน

“คุณหมายถึงบัตรคิวสำหรับรอบเวลาบ่ายโมงตรงหมดแล้วใช่ไหม ผมขอบัตรคิวรอบอื่นได้ครับ” ผมรีบบอกพนักงาน

“บัตรคิวทุกรอบเต็มหมดแล้วครับ” พนักงานยืนยันให้ผมฟังชัดเจน

“.............................................” ผมไม่ได้พูดอะไร คืองงอ่ะ

พนักงานรีบอธิบายผมต่อ “เราเริ่มเปิดรับบัตรตอนสิบโมง ตอนนี้บัตรหมดแล้ว ถ้าคุณอยากดูต้องมาเข้าคิวตรงนี้ เป็นสแตนบายคิว รอบต่อไปจะเป็นเวลาเที่ยงครึ่งครับ”

ผมมองดูนาฬิกามันเป็นเวลา 10.40 น. นั่นหมายความว่าผมต้องรออีกเกือบ ๆ สองชั่วโมง ตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป ถึงจะได้เข้าไปดู Frozen Village
ผมมองหน้าลูกของผมเองที่อยากเข้า Frozen Village เต็มที่ ผมมองหน้าภรรยาที่ชี้ขึ้นฟ้าให้ผมดูว่า ประมาณว่า “ฝนยังตกอยู่เลย เราจะยืนรอกลางแจ้งสองชั่วโมงท่ามกลางฝนตกหรือไง” ผมวางแผนมาพอสมควรตกม้าตายดื้อ ๆ เลย “เราจะรอเลยหรือ แล้วเราจะได้ดูไหม ถ้าเต็มก็ต้องเขยิบไปรอบต่อไปใช่ไหม จากเที่ยงครึ่งก็เป็นบ่ายครึ่ง เอาไงดี เอาไงดี“ ในใจผมครุ่นคิด

สุดท้ายเราตัดสินใจเดินกลับออกมาเพราะเราไม่คิดว่าเราควรมารอสองชั่วโมงหรืออาจจะสามชั่วโมงโดยที่ยังไม่ทันไปจุดไหนเลยของ Hong Kong Disneyland ผมและครอบครัวเลยตัดสินใจว่าไม่ดูก็ได้ฟะ แต่ไม่ได้บอกลูกนะครับ ลูกของผมในวัยสี่ขวบยังเฝ้ารอจะได้เจอโอลาฟอยู่

“เราน่าจะเจอ ราชินีเอลซ่า อันนา คริสตอฟ โอลาฟ ตามจุดอื่น ๆ นะ” ภรรยาผมนำเสนอ

ดังนั้นเป้าหมายใหม่คือ เราเดินไปมาถ่ายรูปไปเที่ยวเล่นไป และหาพวกตัวการ์ตูนต่าง ๆ ไปด้วย จนเรามาถึงแถว ๆ หน้าปราสาท Cinderella เห็นมีการเอาเชือกมากั้นไปมา เราเลยถามพนักงานว่าจะมีอะไรหรือเปล่า เลยได้ทราบว่าเดี๋ยว เอลซ่ากับอันนา จะออกมาจากปราสาทมาทักทายนักท่องเที่ยว เวลาประมาณเที่ยง ๆ

ครอบครัวเราเลยตัดสินใจปักหลักเลย อีกครึ่งชั่วโมงเอง รอเลยดีกว่า หาตำแหน่งยืนที่เหมาะ ๆ ให้เห็นได้ชัด ๆ มีเชือกกั้นโดยแบ่งเป็นข้าง ๆ และตรงกลาง และแน่นอนผมก็เลือกทำเลตรงกลางเพื่อจะได้เห็นเอสซ่าชัด ๆ ไหน ๆ ก็รอแล้ว แต่เราก็ถูกห้ามไปยืนตรงกลาง ทางเจ้าหน้าที่บอก จองไว้สำหรับเด็ก ๆ ที่แต่งตัวเป็น เอลซ่ากับอันนา มา Disneyland จะได้สิทธิ์ใกล้ชิดกับเอลซ่ากับอันนามากกว่าใคร ๆ เรียกได้ว่ามีบัตรผ่านพิเศษให้เด็ก ๆ ได้ใกล้ชิดกับตัวละครได้เต็มที่ ทาง Disney ก็เข้าใจคิดดีนะ ขอชื่นชม ก็ไม่เป็นไรเราอยู่ด้านข้างก็ได้ เป็นตำแหน่งที่ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้ว

พวกเรารอจนเอลซ่ากับอันนาออกมาพร้อมกับเด็ก ๆ ในชุดเอลซ่ากับอันนาอีกประมาณ 20 คนได้ ก็เป็นเด็ก ๆ ที่มาเที่ยว Disneyland นี่ละ ส่วนเด็ก ๆ ที่ไม่ได้ยืนอยู่ข้าง ๆ เอลซ่ากับอันนาก็ได้สิทธิ์ยืนอยู่หน้าเชือกกั้นตรงกลางสุดเลย ได้สิทธิ์พิเศษจริง ๆ ^^

เอลซ่ากับอันนาออกมายืนได้ไม่เกินห้านาทีก็กลับเข้าไปในปราสาท

“That’s it?” ผมถามเจ้าหน้าที่และเจ้าหน้าที่ก็ยิ้มให้ผมและผงกหัวเป็นนัยยะว่า “มีแค่นี้หละ”

เฮ้อ มายืนรอครึ่งชั่วโมง มาดูเอลซ่ากับอันนามายืนโบกมือไม่ถึงห้านาที คุ้มจริง ๆ (ประชดนะ)

หลังจากนั้นเราก็เที่ยวไปตามจุดต่าง     ๆ ของ Disneyland จนคุณลูกของเราเริ่มแสดงอาการง่วง อาการที่เห็นได้ชัดคือ พร้อมขึ้นรถเข็นโดยไม่เกี่ยงงอน ปกติเด็กคนนี้จะบ้าพลังมากวิ่งเที่ยวเล่นไม่หยุด ครอบครัวเราเลยถือโอกาสนี้ไปเข้าคิว Frozen Village ซะเลย ไหน ๆ ก็ไหน ๆ ถ้าจะต้องให้ลูกหลับก็ให้หลับซะในแถวนั่นหละ เวลานั้นประมาณบ่ายสองสี่สิบได้ พวกเราก็เดินกลับไปที่จุดเดิมที่ไปมาแล้วเมื่อเช้า ป้ายบอกว่ารอบต่อไปคือรอบ 16.30 น.
มองไปที่คุณลูก หลับคารถเข็นไปแล้ว พวกเราจึงตัดสินใจเข้าคิวไปเลย ซึ่งจริง ๆ แล้วก็ไม่ถึงเลวร้ายอะไร เพราะฝนหยุดตกแล้ว อากาศไม่ร้อน แถมมีนักมายากลของทาง Disneyland เดินมาแสดงมายากลให้นักท่องเที่ยวที่ต่อคิวกันอยู่ให้ได้สนุกสนานกันเป็นระยะ ๆ บางคนก็ยืนรอ บางคนก็นั่งพื้นรอไปเลย รอไปรอมาจนคุณลูกตื่นเราก็ยังรออยู่ ต้องใช้ความสามารถพิเศษคุยกับคุณลูกไปเรื่อย เพื่อไม่ให้เค้าเบื่อ จนเวลาผ่านไปหนึ่งชั่วโมงก็ถึงคิวเราได้เข้าไปแล้ว ซึ่งมันเป็นรอบ 15.30 น. ไม่ใช่ 16.30 น. อย่างที่เข้าใจ เร็วกว่าเดิมหนึ่งชั่วโมงโชคดีจริง ๆ

พอเราได้เข้าไปสัมผัสได้ถึงบรรยากาศเย็น ๆ ของปราสาทท่ามกลางหิมะทันที เรียกได้ว่าเด็ก ๆ คงชอบและอินสุด ๆ กับบรรยากาศใน Frozen Village นี้ ทางเดินใน Frozen Village พาเราเข้ามาที่ห้อง Crown Jewel Theater เพื่อเข้าไปชม "Frozen" Festival Show นักท่องเที่ยวแต่ละคนก็สามารถเลือกที่นั่งได้ตามใจชอบ มีพิธีกรเป็นคนฮ่องกงสองคนชายหนึ่งหญิงหนึ่ง ขึ้นมาพูดภาษากวางตุ้งล้วนพร้อมกับเชิญอันนาออกมาทักทายกับผู้ชม อันนาพูดภาษาอังกฤษส่วนพิธีกรพูดกวางตุ้งตอบโต้กันไปมา มันน่าอัศจรรย์จริง ๆ ที่ทั้งสองฝ่ายคุยกันรู้เรื่องด้วย ส่วนผมและภรรยาแสนจะไม่รู้เรื่อง เข้าใจแต่ภาษาอังกฤษเลยไม่เข้าใจ 100% ว่าคุยอะไรกัน จากนั้นคริสตอฟก็ออกมา คุยอะไรกันไม่รู้เช่นเคย แต่ที่แน่ ๆ เด็ก ๆ ที่มาชมยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ โดยเฉพาะลูกผมเอง ยิ่งตอนเพลงในหนัง Frozen ขึ้นละก็ ไม่ว่าเพลงไหนก็ตามร้องตามกันทั้งโรง และจบลงด้วยการปรากฎตัวของราชินีเอลซ่า พร้อมกับเพลง “Let it Go” ส่งท้าย ซึ่งดูแล้วเด็ก ๆ สนุกกันมาก ส่วนผู้ใหญ่ ถ้าเด็ก ๆ สนุก เราก็สนุกไปด้วย

จบการแสดงเราก็ถูกพาเข้ามาในดินแดนหิมะซึ่งจำลองมาให้เหมือนกับในหนังนั่นเอง ซึ่งมีหิมะเทียมให้เหยียบเล่น ลื่นจริงเย็นจริง น้องวิลล์สนุกมาก เล่นใหญ่เลยพร้อมทั้งกับได้ถ่ายรูปกับโอลาฟ ตัวละครที่น้องวิลล์ชื่นชอบมากเป็นพิเศษ ตบท้ายด้วยเล่น Slider ที่เรียกว่า Olaf's Ice Slide ให้เล่นซึ่งขอบอกเลยว่าสนุกมากมาย แต่คิวยาวมากเล่นได้แค่รอบเดียวเอง

ก่อนออกจาก Frozen Village ก็มีของที่ระลึกให้จับจ่าย ซึ่งเห็นแล้วน่าซื้อจริง ๆ ผมก็ซื้อไปนิดหน่อยโดยเฉพาะแก้วน้ำโอลาฟ น้องวิลล์เห็นปุ๊บขอให้ซื้อโดยทันที

โดยรวมแล้วคุ้มค่ากับการรอคอยได้สัมผัสบรรยากาศ Frozen เต็มอิ่ม แต่ก็ถือว่าโชคดีที่ไม่ต้องรอคิวนานอย่างที่ทำใจไว้ก่อนหน้า ถ้ามีโอกาสมา ผมแนะนำว่าควรมาสัมผัสบรรยากาศแบบ Frozen สักครั้ง แม้จะฟังภาษากวางตุ้งของคุณพิธีกรไม่ออกเลยก็ตาม 5555

ข้อแนะนำสำหรับผู้จะเข้าไปที่ Frozen Village
    1.    ขอให้ไปตั้งแต่เวลาประตูเปิด และเป้าหมายแรกต้องไปที่ Frozen Village เลยเพราะใบจองหมดเร็วมากกกกกก
    2.    ในกรณีที่คนเยอะมาก ขอแนะนำอย่ามาชิว ๆ ค่อย ๆ เดินไป ผมแนะนำ ควร “วิ่ง” เลยดีกว่าครับ คุ้มค่ากว่าการมาต่อแถวรอคิวสองชั่วโมงแน่นอน
    3.    ควรให้บุตรหลาน (สาว) ของท่านใส่ชุดเจ้าหญิงไปเลย ไม่ว่าจะเป็น Elsa หรือ Anna เพราะทาง Disney จะให้สิทธิ์พิเศษกับคนเหล่านี้
    4.    ราว ๆ เที่ยง ถ้าอยากเจอ Elsa หรือ Anna ขอให้รออยู่แถวหน้าปราสาท เดี๋ยวทั้งคู่จะเดินออกมาพบประชาชนคนธรรมดาอย่างเรา พร้อมกับเด็ก ๆ ที่ใส่ชุดเจ้าหญิงไป
    5.    ถ้าจำเป็นต้องต่อแถวเข้าคิว สามารถทำได้ครับ ปกติป้ายจะบอกว่าต้องรอสองชั่วโมง แต่มันไม่ได้รอขนาดนั้นครับ ดังนั้นถ้าพร้อมต่อแถว ไม่ต้องคิดมาก ไปต่อแถวเลย มันเร็วกว่าสองชั่วโมงแน่นอน

ขอให้มีความสุขในการไปเที่ยว Hong Kong Disneyland นะครับ












แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่