สวัสดีเพื่อนๆ พันทิปทุกคนค่ะ
ขอออกตัวตามธรรมเนียมนะคะ ว่าอันนี้เป็นกระทู้แรก ผิดถูกอย่างไง แนะนำด้วยนะคะ
ปกติ จขกท. เป็นคนชอบไปเที่ยวอยู่แล้วค่ะ ก็จะหาโอกาสไปเที่ยวกับครอบครัวบ้าง เพื่อนๆ บ้าง เป็นทริปเล็กๆ ใกล้ๆ ค่ะ เรียกว่าสะดวกทริป คือหาวันว่าง นัดเพื่อน หาสถานที่ แล้วก็เตรียมตัวเดินทาง..
ล่าสุดก็ได้ฤกษ์งามยามดี นัดแนะกับเพื่อนสาวไปเที่ยวกัน ตอนแรกก็ถามในกลุ่มเพื่อนๆ ว่าใครว่างบ้าง อะไรยังไง สรุปว่าคนอื่นๆ ช่วงนี้ยังไม่สะดวก เหลือแค่ จขกท. กับเพื่อนสาวคนสนิท ก็ตกลงกันว่าไปกันสองคนก็ได้ และไปวันไหนดี? เพื่อนคนสวยก็เลยบอกว่าไปวันพฤหัสบดีก็แล้วกัน ค้างหนึ่งคืน ไม่ต้องไกลมาก [คือคุยกันวันอังคาร แต่จะไปวันพฤหัสบดี
] โอเคค่ะ ไม่เป็นไร ยังเหลือเวลาอีกหนึ่งวันสวยๆ.. จริงๆ แล้ว เราก็คิดสถานที่ท่องเที่ยวอยู่หลายที่เหมือนกัน ทั้งกาญจนบุรี โคราช เขาค้อ ฯลฯ แต่เอาจริงๆป่ะ จขกท. แอบอยากไปทะเลเบาๆ เป็นผู้หญิงมโน ชอบทะเลค่ะ อิอิ
แต่ในที่สุดก็หยุดความมโนแล้วถามเพื่อนว่า.. อยากไปเที่ยวแบบสงบหรือเน้นครึกครื้น ก็ได้คำตอบจากเพื่อนคนสวยว่าขอแบบสงบๆ แล้วกัน ก็เลยตกลงใจไป สวนผึ้ง จ.ราชบุรีค๊าาา
ยังค่ะ ยังไม่ครบกระบวนท่าก่อนออกเดินทาง เหลืออีกหนึ่งอย่าง คือ พักที่ไหนดีน๊าา?? เลือกไปเลือกมา ดูรีวิวจากจากเว็บไซต์จองที่พักชื่อดังที่มั่นใจว่าเกือบทุกคนรู้จักดี พร้อมราคาโปรโมชั่น Weekday สุดพิเศษ เราเลยเลือกพักที่ "พริบพันดาว" ค่ะ
ป.ล.
1* : จขกท. ไม่ใช่ช่างภาพนะคะ แค่มีกล้องแล้วก็ถ่ายรูปตามปกติค๊าา รูปไม่ได้สวยเหมือนกระทู้ท่องเที่ยวอื่นๆ นะคะ
2* : ภาพที่ลงในกระทู้ มีทั้งจากกล้อง DSLR และกล้องมือถือนะคะ คุณภาพแตกต่างกันไปตามจังหวะ และแสง ^^"
3* : การเขียนถึงสถานที่ต่างๆ เกิดจากความรู้สึกส่วนตัวของ จขกท. และเพื่อนสาวบ้างเล็กน้อย เวลาเม้าส์มอยกัน :p
Let's go!!!
ตกลงกับเพื่อนว่าจะออกเดินทางตอน 9 โมง คือฤกษ์สะดวกอีกนั่นแหละค่ะ ก็ขับรถแบบสบายๆ เม้าส์มอยตามประสาผู้หญิง
ก็มีแวะกินกาแฟบ้าง แถมแวะเม้าส์และอัพเฟสบุ๊คอวดชาวบ้านอีกต่างหาก ฮ่าๆ ขอบอกว่าน่าตบมาก เพราะพวกเราหนีเที่ยว ในขณะที่ทุกคนต้องทำงาน.. พวกเราก็ขับรถมาตามเส้นทางไปนครปฐม และตามป้ายสวนผึ้งไปเลยค่ะ มองนาฬิกาอีกทีก็ใกล้เที่ยงมากแล้ว จึงหาข้อมูลว่าจะแวะพักทานอะไรกันดี ก็มีรีวิวร้านอาหารหลายที่ แต่ที่เห็นแล้วน้ำลายไหลคือ "ก๋วยเตี๋ยวไข่ต้มยำ สูตรคุณยาย" ดูจากเส้นทางแล้วก็อยู่เส้นทางเดียวกับที่ จขกท. จะไปอยู่แล้ว ไปกินมื้อกลางวันที่นี่แหละ!!
ร้าน "ก๋วยเตี๋ยวไข่ต้มยำ สูตรคุณยาย" อยู่ทางขวามือ [มุ่งหน้าไปสวนผึ้ง] มีป้ายใหญ่ๆ บอกอยู่ข้างทาง แต่ก็ต้องสังเกตุกันด้วยนะคะ
ด้านหน้าของร้านค่ะ
ส่วนเมนูที่สั่งก็มีก๋วยเตี๋ยวไข่ต้มยำ, ลูกชิ้นปิ้ง และน้ำผึ้งป่าผสมมะนาว [พยายามสั่งเมนูเด็ดของร้านค่ะ] สำหรับรสชาติก็อร่อยทุกอย่างค่ะ ไม่ผิดหวัง ส่วนราคาก็มาตรฐานทั่วๆ ไป สรุปว่ามื้อนี้ดีงามนะคะ..
พอออกจากร้านก๋วยเตี๋ยวได้นิดหนึ่ง ก็จะผ่านสถานที่ท่องเที่ยวอีกทีหนึ่ง คือ บ้านหอมเทียนค่ะ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ตกแต่งด้วยของเก่าหายาก และเทียนรูปแบบต่างๆ รวมถึงมีกิจกรรมเรียนรู้เรื่องการทำเทียนด้วย (จขกท.และเพื่อนไม่ได้ลองทำนะคะ แค่เดินเล่นและถ่ายรูปค่ะ)
ด้านหน้า
เสียค่าเข้าชมคนละ 60 บาท จะได้คูปองสีส้มนำไปแลกเทียนของที่ระลึกได้ และคูปองสีดำใช้เป็นส่วนลดในการซื้อสินค้ามูลค่าใบละ 10 บาท
มีไอติมกะเหรี่ยงด้วยนะจ๊ะ (เข้าใจว่าเป็นไอติมโฮมเมดของที่นี่ค่ะ) ราคา scope ละ 50 บาท แต่ใช้คูปองสีดำเป็นส่วนลดได้นะคะ ใช้ไปสองใบเลยเหลือ 30 บาท/scope
จริงๆ เท่าที่เดินสำรวจ ที่นี่มีกิจกรรมอื่นๆ ให้ทำอีกหลายอย่างนะคะ แต่เราไปเที่ยววันธรรมดา ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวเท่าไหร่ และไม่ใช่ช่วง High season ด้วย ส่วนที่เป็นกิจกรรมอื่นๆ เลยไม่ได้เปิดให้บริการค่ะ..
Next Station >> มาถึงสวนผึ้งก็ต้องไปดูแกะสิคะ จะรออะไร ฟาร์มที่ จขกท. กับเพื่อนเลือกไป คือ The scenery vintage farm คือส่วนตัวชอบที่นี่อยู่แล้ว เพราะมีกิจกรรมให้ทำหลายอย่าง มีน้องแกะเยอะ และน้องแกะก็ร่าเริง เป็นแกะที่ดูสุขภาพดี แข็งแรง และที่สำคัญเป็นฟาร์มเปิด คือไม่จำเป็นต้องพักที่นี่ก็เข้าไปเล่นกับแกะได้ (ถ้าเพื่อนๆ มีฟาร์มอื่นแนะนำ ก็บอกได้นะคะ) คือ จขกท. เคยไปที่นี่มาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อ 3-4 ปีก่อน และชอบ ก็เลยกลับไปอีกจ้า
เสียค่าเข้าชมคนละ 100 บาท (บัตรเข้าชมสามารถแลกหญ้าให้น้องแกะได้ 1 กำ/ใบ) และได้คูปองส่วนลดในการซื้อไอติม แถมน้ำแร่ด้วย!!
น้องแกะที่นี่ร่าเริงจนแอบน่ากลัวเบาๆ เห็นถือหญ้าแล้ววิ่งเข้าใส่เชียว!!
หลังจากเที่ยวเล่นอยู่พอสมควรก็ได้เวลาเข้าที่พักกันแล้วว Let's go!! ขับรถไปอีกไม่ไกลก็ถึงที่พักแล้วววววว
ที่พักเป็นรีสอร์ทที่ไม่ใหญ่มากนัก ณ วันที่ จขกท.ไปพัก มี 4 ห้องนอน คือห้องใหญ่แบบ 4 คน 2 ห้อง และห้องธรรมดาแบบ 2 คน 2 ห้อง แต่ทางรีสอร์ทกำลังทำเพิ่มอีก 3 ห้อง (จริงๆ เสร็จแล้ว แต่วันที่ไปยังมีกลิ่นสีอยู่นิดหน่อยค่ะ คาดว่าจะเปิดให้บริการเร็วๆ นี้)
ห้องที่พักค่ะ ด้านในมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบนะคะ ห้องน้ำก็ใหญ่ดีค่ะ มีห้องแต่งตัวแยกเป็นสัดส่วนด้วย
อันนี้เป็นส่วนกลางของรีสอร์ทค่ะ คล้ายๆ Lobby และเป็นที่ทานอาหารเช้าด้วยค่ะ
ด้านในของรีสอร์ทติดกับลำธารด้วยนะคะ เห็นพี่เค้าบอกว่ารับตั้งแคมป์ด้วย แต่เห็นว่าให้เช่าสถานที่เฉยๆ ต้องนำอุปกรณ์ไปเอง ถ้าสนใจก็ลองติดต่อที่รีสอร์ทดูนะคะ
จริงๆ รีสอร์ทนี้อยู่ใกล้บ่อนำพุร้อนด้วยนะคะ พี่เค้าแนะนำให้ไปแช่ค่ะ แต่ จขกท.ไม่ได้ไปเพราะตอนนั้นเย็นแล้ว ประมาณห้าโมง (บ่อน้ำพุปิดห้าโมงครึ่ง คำนวณแล้วไม่น่าจะทัน ไว้โอกาสหน้าดีกว่า อิอิ) ### ใกล้เย็นแล้ว หาข้อมูลกันดีกว่าว่าจะฝากท้องที่ไหนดีน๊าา? จากการสอบถามพี่เจ้าของรีสอร์ท (ถามอีกแล้วค่ะคุณณณณ) ก็เลยตกลงกับเพื่อนสาวคนสวยว่าเย็นนี้เราจะฝากท้องที่ "ครัวม่อนไข่" ซึ่งอยู่ห่างจากที่พักไปประมาณ 20 กิโลเมตร ไปพิสูจน์กันดีกว่า..
ด้วยความตั้งใจว่าทริปนี้ เราจะพยายามทานเมนูแนะนำของแต่ละร้าน และด้วยความที่ไปกันสองคน เลยสั่งเยอะมากไม่ได้ เพราะทานไม่หมดค๊าาา มื้อนี้ที่ครัวม่อนไข่เลยสั่งอาหารมาสามอย่าง ข้าวเปล่าหนึ่งจาน และได้ของแถมเป็นขนมหวานอีกหนึ่งจานเล็ก ซึ่งอิ่มมากกกกกก กราบขอบพระคุณในความน่ารักของทางร้าน (ตอนแรกตั้งใจว่าจะสั่งของหวานมาทานด้วย.. แต่ ณ จุดนั้น ศรีทนไม่ไหวแล้วจริงๆ ศรีอิ่มมากกกกก)
จานแรก ต้มยำรวมมิตรน้ำใส สำหรับใครที่ชอบสมุนไพร จัดไปเลยค่ะ เครื่องเยอะมากกกกกก
จานที่สอง ยำผักกูดน้ำข้น จานนี้รสชาติคล้ายยำถั่วพลูกุ้งสดค่ะ ใครชอบสไตล์นี้ลองชิมดูนะคะ
จานที่สาม หมี่ยำแซ่บ รสชาติหวานเผ็ดค่ะ แต่ออกไปทางเผ็ดมากกว่า ใครชอบรสจัด ต้องลองค่ะ!
คืออยากบอกว่า มื้อนี้อิ่มมากกกก อิ่มนาน อิ่มจนอยากร้องไห้ ไม่น่าโลภสั่งสามอย่างเลย บอกต่งงงง อดหม่ำของหวานเลยค่ะ.. ถ้าใครไปสวนผึ้งแนะนำร้านนี้นะคะ รสชาติอร่อย ราคาเป็นมิตรกับกระเป๋ามากค่ะ คอนเฟิร์ม!! หรือถ้าใครมีร้านอื่น แนะนำ แบ่งปันข้อมูลกันได้นะคะ
สำหรับครัวม่อนไข่ เปิดบริการตั้งแต่ 9.00-20.00 น. ค่ะ
หลังจากทานข้าวเสร็จ จขกท. ก็ขับรถกลับรีสอร์ท มานั่งเม้าส์มอยหอยสังข์กับเพื่อนที่ห้องต่อ ตามสไตล์ผู้หญิงค่ะ อิอิ.. และก็หลับไปด้วยความอ่อนเพลีย @@@ และก็เริ่มต้นเช้าวันใหม่ด้วยอาหารเช้าจากทางรีสอร์ท มีไข่กระทะ กาแฟ ขนมปังปิ้ง แถมด้วยข้าวต้มมัด และแก้วมังกร อิ่มอร่อยไปอีกหนึ่งมื้อ
ก่อนกลับตัดสินใจลองไปเที่ยวที่ "Veneto ตลาดน้ำสวนผึ้ง" ก่อนนนน.. ตอนแรกก็ไม่แน่ใจกลัวว่าจะไม่เปิด.. แต่ก็เปิดค่ะ อิอิ
เสียค่าเข้าชมคนละ 50 บาท
ด้านในตกแต่งสำหรับให้ถ่ายรูปมากกว่า.. ไม่ค่อยได้อารมณ์ตลาดน้ำเท่าไหร่ นอกจากนี้ก็มีร้านขายของที่ระลึก และอาหาร แต่ไม่ค่อยเปิด.. เพราะ จขกท. ไปวันธรรมดา และอาจจะเช้าอยู่เล็กน้อย (จริงๆ ไปถึงประมาณ 11 โมง) สรุปว่าสวยดีนะคะ.. ถ้าใครชอบถ่ายรูปก็แนะนำค่ะ แต่ถ้าอยากไปเที่ยวตลาดน้ำ อาจจะผิดหวังเล็กน้อย แฮ่ๆ อ้อ! ที่นี่มีกระต่ายให้เล่นด้วยนะคะ เป็นกระต่ายสายพันธุ์ตัวโตๆ หน่อย สามารถอุ้มถ่ายรูปได้ แต่ จขกท. ไม่ได้ไปเยี่ยมชมกระต่ายค่ะ.. อยากทานกาแฟจะแย่แล้วววววว
เส้นสวนผึ้งมีร้านกาแฟอยู่หลายร้าน.. โดยแต่ละร้านก็จะมีความน่ารัก และเอกลักษณ์แตกต่างกันไป.. เอาล่ะสิ!! แวะที่ไหนดีน๊าา? ลองให้เพื่อนหาข้อมูลดู ก็เลยตกลงกันว่าจะไปแวะที่ "Moai Coffee" เห็นหลายๆ คนชอบแวะ เราก็เลยต้องแวะบ้าง.. Moai Coffee เป็นร้านกาแฟที่โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรม (ฟังดูเว่อร์วังอลังการมาก อิอิ) ร้านน่ารักดีค่ะ กาแฟก็อร่อยดี แต่ไม่เข้มข้นเท่าไหร่ ดื่มแล้วตายังไม่สว่างเท่าที่ควร ฮี่ๆ
แวะทานแกแฟ และถ่ายรูปอย่างจุใจแล้ว.. ได้เวลากลับแล้วค่ะ แต่เอ๊ะ!! ลืมอะไรไปหรือเปล่าน๊าา? ของฝากไง!! จะกลับบ้านแล้วไม่มีของฝากได้ไงเนี่ย.. ก็ลองหาข้อมูลดู นอกจากโอ่งแล้ว ของฝากที่ทานได้ คือ เค้กมะพร้าวอ่อน.. ได้ข้อมูลจากพันทิป (ต้องขอบคุณพันทิปมา ณที่นี้ด้วย) ว่า เค้กมะพร้าวอ่อน ราชบุรี ต้อง "ติ๋ม เค้กมะพร้าวอ่อน" วันนี้มาขอคอนเฟิร์มอีกเสียง อร่อยจริง อะไรจริงค่ะ เพราะ จขกท. แวะซื้อของเจ้าอื่นชิมด้วย ไม่ปลื้มเท่าติ๋ม เค้กมะพร้าวอ่อนนะคะ มีอยู่ 3 สาขานะคะ สาขาที่ จขกท. แวะคือสาขาเจ็ดเสมียน เพราะเป็นทางผ่านขากลับพอดีค่ะ
ขากลับ จขกท. กับเพื่อนตกลงกันว่าจะไปแวะทานมื้อกลางวัน (บ่าย) ที่นครปฐม เพราะยังอิ่มมื้อเช้า บวกกับแวะชิมเค้กมะพร้าวอ่อนด้วย เลยได้ทานข้าวประมาณบ่ายสอง ที่ร้าน "กุ้งอบภูเขาไฟ" ก็อร่อยสมคำร่ำรือ ราคาก็มาตรฐานทั่วไป มื้อนี้ดีงามอีกแล้วค่ะ
ขอปิดทริปสวนผึ้งไว้เท่านี้นะคะ ใครมีที่เที่ยวอื่นๆ ก็แนะนำได้นะคะ
[CR] [สวนผึ้ง:ราชบุรี] ## ไปเที่ยวกันเถอะ! คืนเดียวก็เปรี้ยวได้ ##
ขอออกตัวตามธรรมเนียมนะคะ ว่าอันนี้เป็นกระทู้แรก ผิดถูกอย่างไง แนะนำด้วยนะคะ
ปกติ จขกท. เป็นคนชอบไปเที่ยวอยู่แล้วค่ะ ก็จะหาโอกาสไปเที่ยวกับครอบครัวบ้าง เพื่อนๆ บ้าง เป็นทริปเล็กๆ ใกล้ๆ ค่ะ เรียกว่าสะดวกทริป คือหาวันว่าง นัดเพื่อน หาสถานที่ แล้วก็เตรียมตัวเดินทาง..
ล่าสุดก็ได้ฤกษ์งามยามดี นัดแนะกับเพื่อนสาวไปเที่ยวกัน ตอนแรกก็ถามในกลุ่มเพื่อนๆ ว่าใครว่างบ้าง อะไรยังไง สรุปว่าคนอื่นๆ ช่วงนี้ยังไม่สะดวก เหลือแค่ จขกท. กับเพื่อนสาวคนสนิท ก็ตกลงกันว่าไปกันสองคนก็ได้ และไปวันไหนดี? เพื่อนคนสวยก็เลยบอกว่าไปวันพฤหัสบดีก็แล้วกัน ค้างหนึ่งคืน ไม่ต้องไกลมาก [คือคุยกันวันอังคาร แต่จะไปวันพฤหัสบดี ] โอเคค่ะ ไม่เป็นไร ยังเหลือเวลาอีกหนึ่งวันสวยๆ.. จริงๆ แล้ว เราก็คิดสถานที่ท่องเที่ยวอยู่หลายที่เหมือนกัน ทั้งกาญจนบุรี โคราช เขาค้อ ฯลฯ แต่เอาจริงๆป่ะ จขกท. แอบอยากไปทะเลเบาๆ เป็นผู้หญิงมโน ชอบทะเลค่ะ อิอิ แต่ในที่สุดก็หยุดความมโนแล้วถามเพื่อนว่า.. อยากไปเที่ยวแบบสงบหรือเน้นครึกครื้น ก็ได้คำตอบจากเพื่อนคนสวยว่าขอแบบสงบๆ แล้วกัน ก็เลยตกลงใจไป สวนผึ้ง จ.ราชบุรีค๊าาา
ยังค่ะ ยังไม่ครบกระบวนท่าก่อนออกเดินทาง เหลืออีกหนึ่งอย่าง คือ พักที่ไหนดีน๊าา?? เลือกไปเลือกมา ดูรีวิวจากจากเว็บไซต์จองที่พักชื่อดังที่มั่นใจว่าเกือบทุกคนรู้จักดี พร้อมราคาโปรโมชั่น Weekday สุดพิเศษ เราเลยเลือกพักที่ "พริบพันดาว" ค่ะ
ป.ล.
1* : จขกท. ไม่ใช่ช่างภาพนะคะ แค่มีกล้องแล้วก็ถ่ายรูปตามปกติค๊าา รูปไม่ได้สวยเหมือนกระทู้ท่องเที่ยวอื่นๆ นะคะ
2* : ภาพที่ลงในกระทู้ มีทั้งจากกล้อง DSLR และกล้องมือถือนะคะ คุณภาพแตกต่างกันไปตามจังหวะ และแสง ^^"
3* : การเขียนถึงสถานที่ต่างๆ เกิดจากความรู้สึกส่วนตัวของ จขกท. และเพื่อนสาวบ้างเล็กน้อย เวลาเม้าส์มอยกัน :p
Let's go!!!
ตกลงกับเพื่อนว่าจะออกเดินทางตอน 9 โมง คือฤกษ์สะดวกอีกนั่นแหละค่ะ ก็ขับรถแบบสบายๆ เม้าส์มอยตามประสาผู้หญิง ก็มีแวะกินกาแฟบ้าง แถมแวะเม้าส์และอัพเฟสบุ๊คอวดชาวบ้านอีกต่างหาก ฮ่าๆ ขอบอกว่าน่าตบมาก เพราะพวกเราหนีเที่ยว ในขณะที่ทุกคนต้องทำงาน.. พวกเราก็ขับรถมาตามเส้นทางไปนครปฐม และตามป้ายสวนผึ้งไปเลยค่ะ มองนาฬิกาอีกทีก็ใกล้เที่ยงมากแล้ว จึงหาข้อมูลว่าจะแวะพักทานอะไรกันดี ก็มีรีวิวร้านอาหารหลายที่ แต่ที่เห็นแล้วน้ำลายไหลคือ "ก๋วยเตี๋ยวไข่ต้มยำ สูตรคุณยาย" ดูจากเส้นทางแล้วก็อยู่เส้นทางเดียวกับที่ จขกท. จะไปอยู่แล้ว ไปกินมื้อกลางวันที่นี่แหละ!!
ร้าน "ก๋วยเตี๋ยวไข่ต้มยำ สูตรคุณยาย" อยู่ทางขวามือ [มุ่งหน้าไปสวนผึ้ง] มีป้ายใหญ่ๆ บอกอยู่ข้างทาง แต่ก็ต้องสังเกตุกันด้วยนะคะ
ด้านหน้าของร้านค่ะ
ส่วนเมนูที่สั่งก็มีก๋วยเตี๋ยวไข่ต้มยำ, ลูกชิ้นปิ้ง และน้ำผึ้งป่าผสมมะนาว [พยายามสั่งเมนูเด็ดของร้านค่ะ] สำหรับรสชาติก็อร่อยทุกอย่างค่ะ ไม่ผิดหวัง ส่วนราคาก็มาตรฐานทั่วๆ ไป สรุปว่ามื้อนี้ดีงามนะคะ..
พอออกจากร้านก๋วยเตี๋ยวได้นิดหนึ่ง ก็จะผ่านสถานที่ท่องเที่ยวอีกทีหนึ่ง คือ บ้านหอมเทียนค่ะ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ตกแต่งด้วยของเก่าหายาก และเทียนรูปแบบต่างๆ รวมถึงมีกิจกรรมเรียนรู้เรื่องการทำเทียนด้วย (จขกท.และเพื่อนไม่ได้ลองทำนะคะ แค่เดินเล่นและถ่ายรูปค่ะ)
ด้านหน้า
เสียค่าเข้าชมคนละ 60 บาท จะได้คูปองสีส้มนำไปแลกเทียนของที่ระลึกได้ และคูปองสีดำใช้เป็นส่วนลดในการซื้อสินค้ามูลค่าใบละ 10 บาท
มีไอติมกะเหรี่ยงด้วยนะจ๊ะ (เข้าใจว่าเป็นไอติมโฮมเมดของที่นี่ค่ะ) ราคา scope ละ 50 บาท แต่ใช้คูปองสีดำเป็นส่วนลดได้นะคะ ใช้ไปสองใบเลยเหลือ 30 บาท/scope
จริงๆ เท่าที่เดินสำรวจ ที่นี่มีกิจกรรมอื่นๆ ให้ทำอีกหลายอย่างนะคะ แต่เราไปเที่ยววันธรรมดา ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวเท่าไหร่ และไม่ใช่ช่วง High season ด้วย ส่วนที่เป็นกิจกรรมอื่นๆ เลยไม่ได้เปิดให้บริการค่ะ..
Next Station >> มาถึงสวนผึ้งก็ต้องไปดูแกะสิคะ จะรออะไร ฟาร์มที่ จขกท. กับเพื่อนเลือกไป คือ The scenery vintage farm คือส่วนตัวชอบที่นี่อยู่แล้ว เพราะมีกิจกรรมให้ทำหลายอย่าง มีน้องแกะเยอะ และน้องแกะก็ร่าเริง เป็นแกะที่ดูสุขภาพดี แข็งแรง และที่สำคัญเป็นฟาร์มเปิด คือไม่จำเป็นต้องพักที่นี่ก็เข้าไปเล่นกับแกะได้ (ถ้าเพื่อนๆ มีฟาร์มอื่นแนะนำ ก็บอกได้นะคะ) คือ จขกท. เคยไปที่นี่มาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อ 3-4 ปีก่อน และชอบ ก็เลยกลับไปอีกจ้า
เสียค่าเข้าชมคนละ 100 บาท (บัตรเข้าชมสามารถแลกหญ้าให้น้องแกะได้ 1 กำ/ใบ) และได้คูปองส่วนลดในการซื้อไอติม แถมน้ำแร่ด้วย!!
น้องแกะที่นี่ร่าเริงจนแอบน่ากลัวเบาๆ เห็นถือหญ้าแล้ววิ่งเข้าใส่เชียว!!
หลังจากเที่ยวเล่นอยู่พอสมควรก็ได้เวลาเข้าที่พักกันแล้วว Let's go!! ขับรถไปอีกไม่ไกลก็ถึงที่พักแล้วววววว
ที่พักเป็นรีสอร์ทที่ไม่ใหญ่มากนัก ณ วันที่ จขกท.ไปพัก มี 4 ห้องนอน คือห้องใหญ่แบบ 4 คน 2 ห้อง และห้องธรรมดาแบบ 2 คน 2 ห้อง แต่ทางรีสอร์ทกำลังทำเพิ่มอีก 3 ห้อง (จริงๆ เสร็จแล้ว แต่วันที่ไปยังมีกลิ่นสีอยู่นิดหน่อยค่ะ คาดว่าจะเปิดให้บริการเร็วๆ นี้)
ห้องที่พักค่ะ ด้านในมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบนะคะ ห้องน้ำก็ใหญ่ดีค่ะ มีห้องแต่งตัวแยกเป็นสัดส่วนด้วย
อันนี้เป็นส่วนกลางของรีสอร์ทค่ะ คล้ายๆ Lobby และเป็นที่ทานอาหารเช้าด้วยค่ะ
ด้านในของรีสอร์ทติดกับลำธารด้วยนะคะ เห็นพี่เค้าบอกว่ารับตั้งแคมป์ด้วย แต่เห็นว่าให้เช่าสถานที่เฉยๆ ต้องนำอุปกรณ์ไปเอง ถ้าสนใจก็ลองติดต่อที่รีสอร์ทดูนะคะ
จริงๆ รีสอร์ทนี้อยู่ใกล้บ่อนำพุร้อนด้วยนะคะ พี่เค้าแนะนำให้ไปแช่ค่ะ แต่ จขกท.ไม่ได้ไปเพราะตอนนั้นเย็นแล้ว ประมาณห้าโมง (บ่อน้ำพุปิดห้าโมงครึ่ง คำนวณแล้วไม่น่าจะทัน ไว้โอกาสหน้าดีกว่า อิอิ) ### ใกล้เย็นแล้ว หาข้อมูลกันดีกว่าว่าจะฝากท้องที่ไหนดีน๊าา? จากการสอบถามพี่เจ้าของรีสอร์ท (ถามอีกแล้วค่ะคุณณณณ) ก็เลยตกลงกับเพื่อนสาวคนสวยว่าเย็นนี้เราจะฝากท้องที่ "ครัวม่อนไข่" ซึ่งอยู่ห่างจากที่พักไปประมาณ 20 กิโลเมตร ไปพิสูจน์กันดีกว่า..
ด้วยความตั้งใจว่าทริปนี้ เราจะพยายามทานเมนูแนะนำของแต่ละร้าน และด้วยความที่ไปกันสองคน เลยสั่งเยอะมากไม่ได้ เพราะทานไม่หมดค๊าาา มื้อนี้ที่ครัวม่อนไข่เลยสั่งอาหารมาสามอย่าง ข้าวเปล่าหนึ่งจาน และได้ของแถมเป็นขนมหวานอีกหนึ่งจานเล็ก ซึ่งอิ่มมากกกกกก กราบขอบพระคุณในความน่ารักของทางร้าน (ตอนแรกตั้งใจว่าจะสั่งของหวานมาทานด้วย.. แต่ ณ จุดนั้น ศรีทนไม่ไหวแล้วจริงๆ ศรีอิ่มมากกกกก)
จานแรก ต้มยำรวมมิตรน้ำใส สำหรับใครที่ชอบสมุนไพร จัดไปเลยค่ะ เครื่องเยอะมากกกกกก
จานที่สอง ยำผักกูดน้ำข้น จานนี้รสชาติคล้ายยำถั่วพลูกุ้งสดค่ะ ใครชอบสไตล์นี้ลองชิมดูนะคะ
จานที่สาม หมี่ยำแซ่บ รสชาติหวานเผ็ดค่ะ แต่ออกไปทางเผ็ดมากกว่า ใครชอบรสจัด ต้องลองค่ะ!
คืออยากบอกว่า มื้อนี้อิ่มมากกกก อิ่มนาน อิ่มจนอยากร้องไห้ ไม่น่าโลภสั่งสามอย่างเลย บอกต่งงงง อดหม่ำของหวานเลยค่ะ.. ถ้าใครไปสวนผึ้งแนะนำร้านนี้นะคะ รสชาติอร่อย ราคาเป็นมิตรกับกระเป๋ามากค่ะ คอนเฟิร์ม!! หรือถ้าใครมีร้านอื่น แนะนำ แบ่งปันข้อมูลกันได้นะคะ สำหรับครัวม่อนไข่ เปิดบริการตั้งแต่ 9.00-20.00 น. ค่ะ
หลังจากทานข้าวเสร็จ จขกท. ก็ขับรถกลับรีสอร์ท มานั่งเม้าส์มอยหอยสังข์กับเพื่อนที่ห้องต่อ ตามสไตล์ผู้หญิงค่ะ อิอิ.. และก็หลับไปด้วยความอ่อนเพลีย @@@ และก็เริ่มต้นเช้าวันใหม่ด้วยอาหารเช้าจากทางรีสอร์ท มีไข่กระทะ กาแฟ ขนมปังปิ้ง แถมด้วยข้าวต้มมัด และแก้วมังกร อิ่มอร่อยไปอีกหนึ่งมื้อ
ก่อนกลับตัดสินใจลองไปเที่ยวที่ "Veneto ตลาดน้ำสวนผึ้ง" ก่อนนนน.. ตอนแรกก็ไม่แน่ใจกลัวว่าจะไม่เปิด.. แต่ก็เปิดค่ะ อิอิ
เสียค่าเข้าชมคนละ 50 บาท
ด้านในตกแต่งสำหรับให้ถ่ายรูปมากกว่า.. ไม่ค่อยได้อารมณ์ตลาดน้ำเท่าไหร่ นอกจากนี้ก็มีร้านขายของที่ระลึก และอาหาร แต่ไม่ค่อยเปิด.. เพราะ จขกท. ไปวันธรรมดา และอาจจะเช้าอยู่เล็กน้อย (จริงๆ ไปถึงประมาณ 11 โมง) สรุปว่าสวยดีนะคะ.. ถ้าใครชอบถ่ายรูปก็แนะนำค่ะ แต่ถ้าอยากไปเที่ยวตลาดน้ำ อาจจะผิดหวังเล็กน้อย แฮ่ๆ อ้อ! ที่นี่มีกระต่ายให้เล่นด้วยนะคะ เป็นกระต่ายสายพันธุ์ตัวโตๆ หน่อย สามารถอุ้มถ่ายรูปได้ แต่ จขกท. ไม่ได้ไปเยี่ยมชมกระต่ายค่ะ.. อยากทานกาแฟจะแย่แล้วววววว
เส้นสวนผึ้งมีร้านกาแฟอยู่หลายร้าน.. โดยแต่ละร้านก็จะมีความน่ารัก และเอกลักษณ์แตกต่างกันไป.. เอาล่ะสิ!! แวะที่ไหนดีน๊าา? ลองให้เพื่อนหาข้อมูลดู ก็เลยตกลงกันว่าจะไปแวะที่ "Moai Coffee" เห็นหลายๆ คนชอบแวะ เราก็เลยต้องแวะบ้าง.. Moai Coffee เป็นร้านกาแฟที่โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรม (ฟังดูเว่อร์วังอลังการมาก อิอิ) ร้านน่ารักดีค่ะ กาแฟก็อร่อยดี แต่ไม่เข้มข้นเท่าไหร่ ดื่มแล้วตายังไม่สว่างเท่าที่ควร ฮี่ๆ
แวะทานแกแฟ และถ่ายรูปอย่างจุใจแล้ว.. ได้เวลากลับแล้วค่ะ แต่เอ๊ะ!! ลืมอะไรไปหรือเปล่าน๊าา? ของฝากไง!! จะกลับบ้านแล้วไม่มีของฝากได้ไงเนี่ย.. ก็ลองหาข้อมูลดู นอกจากโอ่งแล้ว ของฝากที่ทานได้ คือ เค้กมะพร้าวอ่อน.. ได้ข้อมูลจากพันทิป (ต้องขอบคุณพันทิปมา ณที่นี้ด้วย) ว่า เค้กมะพร้าวอ่อน ราชบุรี ต้อง "ติ๋ม เค้กมะพร้าวอ่อน" วันนี้มาขอคอนเฟิร์มอีกเสียง อร่อยจริง อะไรจริงค่ะ เพราะ จขกท. แวะซื้อของเจ้าอื่นชิมด้วย ไม่ปลื้มเท่าติ๋ม เค้กมะพร้าวอ่อนนะคะ มีอยู่ 3 สาขานะคะ สาขาที่ จขกท. แวะคือสาขาเจ็ดเสมียน เพราะเป็นทางผ่านขากลับพอดีค่ะ
ขากลับ จขกท. กับเพื่อนตกลงกันว่าจะไปแวะทานมื้อกลางวัน (บ่าย) ที่นครปฐม เพราะยังอิ่มมื้อเช้า บวกกับแวะชิมเค้กมะพร้าวอ่อนด้วย เลยได้ทานข้าวประมาณบ่ายสอง ที่ร้าน "กุ้งอบภูเขาไฟ" ก็อร่อยสมคำร่ำรือ ราคาก็มาตรฐานทั่วไป มื้อนี้ดีงามอีกแล้วค่ะ
ขอปิดทริปสวนผึ้งไว้เท่านี้นะคะ ใครมีที่เที่ยวอื่นๆ ก็แนะนำได้นะคะ