ให้ความคิดเห็นละ 1 ตัวครับ
สิ่งที่ผมจะตอบ
- ความหนาแน่นของการลงทุน(นาที ชม. วัน สัปดาห์ เดือน)
- วิเคราะห์(ในระดับความละเอียดที่พอจะดูรู้เรื่อง)
- เป็นขาขึ้น ขาลง หรือแค่ขายทำกำไรรอขึ้นต่อ
- จุดที่ควรจับตามองหรือ ระวังเป็นพิเศษ
อุปกรณ์ที่ใช้
-ชาร์ท
-Bollinger Bands
-Fibonacci
-pattern นิดหน่อย แท่งเทียน นิดนึง
เริ่มเขียนช่วงบ่ายพรุ่งนี้ครับ
นิทานเรื่อง ไม้บรรทัดเอาไปวัดความสวย
หลังจากเริ่มเขียนวิเคราะห์หุ้น หลายๆคนที่เป็นกลุ่ม Technical คงส่ายหน้ากับความ
ว่างปล่าวของชาร์ทผม มันไม่มี indicator อะไรที่บ่งชี้แรงซื้อแรงขายจุดสวิงจุดตัด
เส้นอีม้า เส้นโอเวอร์โซลอะไรเลย ช่างไร้หลักการและฐานอันหนาแน่นจริงๆ
ผมก็ขอบอกตามตรงว่า ก่อนหน้านี้เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ผมก็มีเยอะแยะครับ ตัววัดแกว่ง
ตัววัดโวลุ่ม ตัวจับเทรนด์ แต่พอผมได้อ่านศึกษาหนังสือฝรั่งเรื่อยๆ และไปดูงานจริงๆ
กลับพบว่าตัวแถวหน้ามันไม่มีอะไรอยู่เลยเป็นชาร์ทโล้นๆแบบนี้ละ ผมก็เลยถามเขาไป
ว่าแล้วจะเอาอะไรวัดล่ะ เขาก็นิ่งสักพักหันมามองผม แล้วถามว่า แล้วจะวัดอะไร
ผมก็ตอบว่าวัดหาจุดเข้าซื้อไง เค้าก็ถามผมอีก ทำไมถึงจะเข้าซื้อละ? ผมก็หมั่นไส้
ละจะตอกหน้าอยู่ ว่าถามควายๆก็อยากได้เงินสิวะ แต่ก็มอบวาจาแบบสุภาพให้ไปว่า
อยากมีกำไรครับ เค้าก็ตบบ่าแล้วบอกว่า
นั่นละจุดที่ทุกคนอยากซื้อนั่นละเข้าไปตรง
นั้นหามันให้เจอแต่ต้องอยู่ก่อนคนอื่นนะไม่ใช่คิดพร้อมคนอื่นไม่งั้นก็จะเป็นไม้กระดานปูพื้นบ้านให้เขา
ผมก็เลยถามไปว่า สรุปพี่จะบอกได้ไหมว่าทำไมพี่ไม่ใช้ indi อะไรเลย เค้าก็เลยถามผมว่า
อาหารมื้อนึงที่นายคิดว่า 1 คน กินและแพงน่ะ เท่าไร ผมก็ตอบไป พี่ก็บอกของพี่เขามา
รถที่นายคิดว่าแพงนะราคาเท่าไร และรถอะไร ผมตอบพี่ตอบ ไปเรื่อยๆ เรื่อง หญิง เรื่อง
เหล้า ที่ท่องเที่ยว อื่นๆ สรุป ไม่มีอะไรเหมือนกันเลย พอเค้าถามจนพอใจ
เค้าก็บอก นั่น
ล่ะ ขนาดแค่เราสองคน ยังไม่มีอะไรเป็นจุดรวมได้เลย แล้ว ในตลาดลงทุนน่ะ นายจะ
รู้ได้อย่างไร ว่าผู้คนเป็นล้านๆนี้ใช้ indi ตัวเดียวกับนายไหม เล่นช่วง timeframe เดียว
กับนายไหม ระดับไหนที่เขาบอกว่าพอ ระดับไหนที่เขาจะใส่เพิ่ม เขาเป็นคนไหมหรือเป็นบอท
เขาคิดว่ามันคือการพนันไหม เขากำลังอารมณ์ดี หรือหงุดหงิด ในความจริงแล้ว
มนุษย์เราไขว่คว้าหาหลักประกัน และวิธีที่จะสนับสนุนความเชื่อเท่านั้นน่ะหละ และ ถ้านาย
ใช้วิธีเหมือนๆกับคนอื่น วิชาเดียวกับคนอื่น วิถีเดียวกับคนอื่น นายก็จะได้ผลลัพภ์เหมือนๆหรือ
คล้ายๆกันน่ะละ แต่ถ้านายอยากได้มากกว่านายก็ต้องมีวิธีอื่นเพิ่ม ผมก็ตื่นเต้นนะเพราะจะ
ว่าใช่มันก็ใช่ขัดใจอยู่ก็เยอะ(นะตอนนั้น) ก็เลยถามไป แล้วสรุปทำไงละพี่ พี่เขาก็เลยบอกว่า
ถึงแม้เรื่องอารมณ์ ความรู้สึก จะไม่สามารถหาอะไรมาวัดได้ แต่ที่แน่ๆ
ธรรมชาติของมนุษย์
มีเหมือนกันแน่ๆ คือ ความโลภ กับ ความกลัว ไปหามันให้เจอ แล้วจะเข้าใจ
จุดเลิกใช้ indi แบบลาขาดและไม่ใช้บอท 1000000%
บ่าย หนึ่ง สิบกว่านาทีได้มั้งวันนั้น ด้วยสหรัฐกำลังมีข่าวดีแบบออกหน้าออกตาไม่เว้นสัปดาห์
ทำให้ค่าเงินไต่สูงขึ้นเรื่อยๆ วันนั้นผมก็กะจะมาจองตั๋วรถไฟฟ้ามหาสนุกอยู่ จัดวาง indi
พอวัดแกว่งวัดอะไรบ้าง เปิดรอข่าว สวิสเซอรแลนด์ แต่ยังไม่ลงเงิน เพราะไม่คุ้นกับรูป pattern
แบบนี้ ข่าว ของสวิส เป็นข่าวแค่ดาวเดียว ความสำคัญต่ำสุด เปิดมา ปรับอัตราดอกเบี้ย เป็น
-0.75% เราก็คิด เอาแหลวๆแบบนี้มีที่ไหนต้องจ้างฝาก เด้งแน่ พอพับจอกลับมา ร่วงไป 220 จุดย่อย
ใน 3 วิครับ(หายใจเข้าเสร็จแค่นั้นเอง)ผมก็ตื่นๆงงๆ นิ้วแข็ง อ่อ ลืมบอกไป 1 จุดย่อยที่จะขึ้นได้
ต้องใช้เงินอัดฉีดประมาณ 100000$ ครับถึงจะขึ้น แล้วผมก็เห็น กลุ่มออโต้บอท(กลุ่มEA+buy limit)
เข้าไปเด้ง แต่ไม่ถึง 5 วิ ตบลงไปอีก 1000 จุด แล้วมันก็ดิ่งๆๆๆๆๆๆๆๆๆ จนในที่สุด
เห็นในวงกลมเขียว ไหมครับ ถัดจาก 1 / นั่นละ จุดต่ำสุดของมันก่อนเด้งคืน
28436 จุด(ขาดบ้างแต่ไม่เกิน)*100000 ตบด้วย 32 บาทถ้วนแปลเป็นไทย
ก็ 90000 กว่าล้านบาท เรื่องทั้งหมดจบใน 15 นาทีครับ จากราชาเป็นยาจก
ส้มหล่นก็เยอะ มี broker เจ๊งเป็น 10 (นับเฉพาะเจ้าใหญ่)และผู้เล่น เจ๊งอีกเยอะแยะ
rsi ทะลุต่ำกว่า 30 ตั้งแต่ 200 แรก ema นี่หักแบบแทบทำมุมฉาก indi เปลี่ยนทิศแบบ
หน้ามึนมาก ใน 15 นาที นี่ละครับที่มาที่ผมไม่ใช้ indi เลย
หัดมองต่างมุมซะบ้าง อย่าใช้อารมณ์คิดเข้าข้างตัวเอง ในตลาดทุน
เพราะเงินมันไม่อยู่ข้างคุณเวลาคุณเลือกผิดหรอกนะ
ในช่วงสมัยหัดดูกราฟโดยไม่มี indi แรกๆ ผมก็งงๆ กับมันหลายๆครั้ง ว่า
จะเอาอะไรวัดล่ะ ซึ่ง
กฏตายตัวเลยนะครับ สำหรับเงื่อนไขในการเป็นขาขึ้น
คือ เมื่อมีการปรับฐาน หรือ เทขายจะต้องไม่ลงไปต่ำกว่าเดิม จึงจะเชื่อได้ว่าเป็นขาขึ้น
และหลายๆครั้ง สมัยก่อนผมก็เป็น คือการคิดเข้าข้างตัวเอง ว่าเดี๋ยวมันก็เด้ง มันก็ลง
นิดเดียวน่ะหละ เสร็จแล้วก็หมดตูด ไปหลายครั้งจนชาชิน จนเริ่มโมโห อยู่ดีๆวันนั้นเลย
กลับหัวมองกราฟ ทำหน้าแบบจะเอาไงกะตูข้าฟระ แล้วมันก็เห็นปิ๊ง กลับมามองปกติ
นั่งตัดสินใจแป๊ป จัด Cut loss ไป หมดก๊ง แล้วเท S ไป 1.00 (ก็ ถ้าถูกทาง จุดย่อยละ 1$ )
ก็ได้ไป 1253$ ครับรอบนั้น เพราะมันดิ่งจริงๆ ก็เลยได้มาเป็นทุนจนถึงทุกวันนี้(ต้องขอบใจลูกบ้าตอนนั้น)
รูปกราฟ ก็แบบนี้ครับ คล้ายมาก
และนี่คือสิ่งที่เห็นหลังจากหมุนชาร์ทแล้ว
สำคัญตรงที่ว่าคุณจะรับความจริงได้ไหม
SCC : บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด(มหาชน)
- หุ้นสูงอายุ ( 40 ปี ) ขึ้นลงตามสภาวะเศรษฐกิจ
- ความหนาแน่นอยู่ในระดับ ชม. - 4 ชม.(พอที่จะมอง pattern ได้)
เป็นหุ้นที่เคยสร้าง wave 1 มาแล้ว ดังนั้นตอนนี้จะอยู่ในช่วง wave 3(ของคลื่นใหญ่)
ตอนนี้ เราอยู่ในช่วง fibonacci 2.00 ซึ่งเป็นจุดขายทำกำไรของนักลงทุนต่างชาติ
จุดนี้ ขออธิบายเรื่อง อารมณ์หุ้น ในความจริงเราใช้ อารมณ์ ในการแสดงความ
ต้องการเสมอ ไม่ว่าจะอยากได้อะไรก็ตาม แล้วเราจึงหาเหตุผลบ้างข้ออ้างบ้างมา
ชักจูงตัวเอง ปลอบประโลม หรือเข้าข้างว่าการจับจ่ายหรืออะไรก็ตามนั้น
มีเหตุผล
และขอละเว้นการอธิบาย ประเภทนักลงทุน ทั้งมนุษย์และบอท ไว้นะที่นี้เพราะมันจะยาวไป
วิธีการสังเกตอารมณ์หุ้นนั้นสังเกดจากขนาดรูปร่างแท่งเทียน ดูตัวอย่างได้จากวงกลม
เขียวเล็ก กับ ส้มใหญ่ เขียวเล็กนั้นแม้จะมีการขายออกของหุ้นอยู่หลายวันแต่ก็เคลื่อนไหว
ในช่วงแคบๆ และพอผ่านไปไม่กี่วันก็มีแรงซื้อเข้ามาในระดับที่เท่ากันหรือมากกว่า
แสดงถึงความคาดหวังว่ายังขึ้นไปต่อได้ ยิ่งพอเข้าช่วงส้ม คุณจะเห็นแรงเทขาย
ทางด้านซ้ายแรกๆว่ามันเยอะและต่อเนื่อง แต่ก็ไม่ลดลงไปมากอะไร แต่พอมีการซื้อ
เพิ่มกลับเต้งขึ้นไม่หยุด ซึ่งลักษณะขาขึ้นส่วนมาก อัตราส่วนจะ
เขียวสั้นยาว5-6แท่ง : แดงสั้น 1-2แท่ง
ทีนี้พอถึงจุดที่ฝรั่งหรือนักเล่น Technical ต้องการ ( Fibo 2.00 ) ก็มีการเทขาย(สี่เหลี่ยมสีฟ้า)
ซึ่งธรรมดา ครับ เวลาขาขึ้น อารมณ์โลภบังตาแล้ว คนเห็นลงก็ซื้อสิ ใครน้อโง่ขายมาได้
หุ้นมีอนาคต ขายหมูแบบนี้ พอมันใกล้จะเท่าเดิม ก็มีการขายล็อตใหญ่มาอีก แล้วทีนี้ละ สัญญาณพักตัว
มาแล้ว(เพราะไม่สามารถทำ New High ได้)ก็มีการรินขายเกิดขึ้น เปลี่ยนอารมณ์ จาก เขียวเป็นแดง
ดูได้จากกรอบชมพู เริ่มอัตตราส่วนเขียวแดงเท่ากันหรือแดงมากกว่า
สรุป ตอนนี้อยู่ช่วงพักตัวครับ รอดูอาการไป ยังไม่มีบอกว่าจะพักไปถึงไหน หรือเปลี่ยนแปลงอะไร
แต่จุดสังเกตอยู่ที่ 482 กับ 461 แต่ไม่ใช่เร็วๆนี้หรอก(ไม่ใช่ ภายใน 1 เดือนน่ะครับ)
SET : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
อันนี้เป็นตัวเปรียบเทียบในแบบทิศทางที่ดีนะครับ เพราะในอนาคตยังขึ้น
ถ้าช่วง 1360-1365 มีการกระตุกหรือกระเตื้องขึ้น ก็เอาชาร์ทนี้เป็นฐานข้อมูลได้เลย
ยิ่งถ้าช่วง 1300 มีการสู้ตายละก็ ดีใจด้วยครับยังมีลมหายใจแห่งอนาคตอยู่
แต่ถ้าจะเอาเป๊ะๆ ตามตัวอย่างเลยก็ ราวๆ 1270-1250 น่ะครับ
และที่สำคัญ
ฝรั่งต้องมา
ผมพลาดตรงคาดการกระทู้ ที่แล้ว ตรงคาดว่าจะมีการปิด GAP แต่ผมลืมไปว่าจะเกิดการ
ปิด Gap ได้ก็ต่อเมื่อฝรั่งอยากทดสอบความเชื่อในตลาด แต่เผอิญรอบนี้ ไม่มีหลักประ
กันว่าทดสอบแล้วรอด เค้าเลยไม่มา
ITD : บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน)
-เป็นหุ้นกลุ่มที่เติบโตตามเศรษฐกิจครับ
-หุ้นอายุ รุ่นๆ (20จะ21 ปีละ)
-ความหนาแน่นอยู่ในระดับ ชม.
จากรูป ยังเป็นหุ้นรอแรงส่งอยู่ เพราะพึ่งจบ wave 1 ไป และสะสมแรงขึ้น wave 3
(ขายาว)ถ้าเป็นผมจะถือเป็นหุ้นลงทุนนะไม่ใช่เก็งกำไรซะทีเดียว เหมาะแช่ไว้ยาวๆ
พื้นฐานดีไหมอันนี้ไม่รู้แต่อัตราซื้อขายระดับ ชม. ในหุ้นไทยผมถือว่าหนาแน่นนะ
(ตั้งแต่เปิดดูที่ผ่านมา)
แน่นอนครับตามมาตรฐาน technical ถึง fibo 2.00 ขายทำกำไร
ตอนนี้ชนเส้น Low Bollinger Band ในระดับสัปดาห์ครับ เลยมีแรงซื้อเข้ามาซึ่งถ้าระดับ
week เนี่ยกว่าจะแสดงผลว่าจะขึ้นหรือลงก็ได้เป็นเดือนครับกว่าจะแสดงผลอีกที
จะเข้าเล่นก็เล่นได้เลยครับ น่าจะมีการซื้อขายกันไปเรื่อยๆ ใน 2-3 สัปดาห์นี้ จุดสังเกตคือ
7.45 ดีอีกนิด ก็ 7.80 สูงสุดๆ ไม่เกิน 8.00 ซึ่งถ้าผ่าน 3 จุดนี้แล้วอยู่ได้เกิน 3
วันก็ถือได้นานๆเลยครับ
อยากให้ระวังนิดนึงว่าในการตัดสินใจตอนนี้ หุ้นตัวนี้กำลังเลือกว่าจะพักเท่านี้สะสมแรง
แล้วขึ้นต่อ(ใน 3 เดือนนี้) หรือย่อตัวลงไปอีก(อาจเกิดได้)ไปสะสมแรงขึ้นมาใหม่
นั้นอยู่กับปัจจัยภายนอกล้วนๆ
ARROW : บริษัท แอร์โรว์ ซินดิเคท จำกัด (มหาชน)
-หุ้นเด็ก (3 ปี) น่าจะมีชีวิตยาวอยู่นะ
-ความหนาแน่นในระดับ 2 ชม.
อย่างที่ผมบอกประจำน่ะล่ะครับ Fibo 2.00 ขายทำกำไร และจุดสูงสุดจริงๆ ในภาวะปกติ
ที่กลุ่ม Technical + ต่างชาติ จะทยอยขายหุ้นอยู่คือ Fibo 2.61 ซึ่งถ้าคุณอยู่ยอดดอย
ก็เป็นกำลังใจครับ ใจเย็นๆ พวกชาร์ทแบบนี้ ถ้า ฝรั่งยังเล่นอยู่เขาจะกลับขึ้นไปเทส
ความสูงใกล้ๆอันเดิมครับ และส่งสัญญาณไปในตัวด้วยว่าจะขายแล้ว
นี่คือจุดที่มีความเป็นไปได้ว่าจะไปถึงครับ 13.70 +-5 และ 14.10+-5 ไม่เกินนี้
ถ้าได้กำไรนิดหน่อย ก็ออกมาเถอะครับ หรือถ้าเท่าทุนก็ออกมา เพราะถ้าหลุดช่วงเหล่านี้ลง
ไปจะมีจุดรับซื้ออีก 3 จุดครับคือ 10.90+-5 ต่อมาก็ 8.50+-5 และสุดท้าย 7.00+-5 ครับ
มันเป็นกึ่งๆจะหุ้นปั่น(อาจจะเพราะเป็นหุ้นเด็กมั้ง)ถ้าไม่เข้าไปตอนขาขึ้น มาหวังเก็บตอนนี้เสี่ยงครับ
รับวิเคราะห์หุ้น วันละ 2 ตัวครับ
สิ่งที่ผมจะตอบ
- ความหนาแน่นของการลงทุน(นาที ชม. วัน สัปดาห์ เดือน)
- วิเคราะห์(ในระดับความละเอียดที่พอจะดูรู้เรื่อง)
- เป็นขาขึ้น ขาลง หรือแค่ขายทำกำไรรอขึ้นต่อ
- จุดที่ควรจับตามองหรือ ระวังเป็นพิเศษ
อุปกรณ์ที่ใช้
-ชาร์ท
-Bollinger Bands
-Fibonacci
-pattern นิดหน่อย แท่งเทียน นิดนึง
เริ่มเขียนช่วงบ่ายพรุ่งนี้ครับ
นิทานเรื่อง ไม้บรรทัดเอาไปวัดความสวย
หลังจากเริ่มเขียนวิเคราะห์หุ้น หลายๆคนที่เป็นกลุ่ม Technical คงส่ายหน้ากับความ
ว่างปล่าวของชาร์ทผม มันไม่มี indicator อะไรที่บ่งชี้แรงซื้อแรงขายจุดสวิงจุดตัด
เส้นอีม้า เส้นโอเวอร์โซลอะไรเลย ช่างไร้หลักการและฐานอันหนาแน่นจริงๆ
ผมก็ขอบอกตามตรงว่า ก่อนหน้านี้เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ผมก็มีเยอะแยะครับ ตัววัดแกว่ง
ตัววัดโวลุ่ม ตัวจับเทรนด์ แต่พอผมได้อ่านศึกษาหนังสือฝรั่งเรื่อยๆ และไปดูงานจริงๆ
กลับพบว่าตัวแถวหน้ามันไม่มีอะไรอยู่เลยเป็นชาร์ทโล้นๆแบบนี้ละ ผมก็เลยถามเขาไป
ว่าแล้วจะเอาอะไรวัดล่ะ เขาก็นิ่งสักพักหันมามองผม แล้วถามว่า แล้วจะวัดอะไร
ผมก็ตอบว่าวัดหาจุดเข้าซื้อไง เค้าก็ถามผมอีก ทำไมถึงจะเข้าซื้อละ? ผมก็หมั่นไส้
ละจะตอกหน้าอยู่ ว่าถามควายๆก็อยากได้เงินสิวะ แต่ก็มอบวาจาแบบสุภาพให้ไปว่า
อยากมีกำไรครับ เค้าก็ตบบ่าแล้วบอกว่า นั่นละจุดที่ทุกคนอยากซื้อนั่นละเข้าไปตรง
นั้นหามันให้เจอแต่ต้องอยู่ก่อนคนอื่นนะไม่ใช่คิดพร้อมคนอื่นไม่งั้นก็จะเป็นไม้กระดานปูพื้นบ้านให้เขา
ผมก็เลยถามไปว่า สรุปพี่จะบอกได้ไหมว่าทำไมพี่ไม่ใช้ indi อะไรเลย เค้าก็เลยถามผมว่า
อาหารมื้อนึงที่นายคิดว่า 1 คน กินและแพงน่ะ เท่าไร ผมก็ตอบไป พี่ก็บอกของพี่เขามา
รถที่นายคิดว่าแพงนะราคาเท่าไร และรถอะไร ผมตอบพี่ตอบ ไปเรื่อยๆ เรื่อง หญิง เรื่อง
เหล้า ที่ท่องเที่ยว อื่นๆ สรุป ไม่มีอะไรเหมือนกันเลย พอเค้าถามจนพอใจ เค้าก็บอก นั่น
ล่ะ ขนาดแค่เราสองคน ยังไม่มีอะไรเป็นจุดรวมได้เลย แล้ว ในตลาดลงทุนน่ะ นายจะ
รู้ได้อย่างไร ว่าผู้คนเป็นล้านๆนี้ใช้ indi ตัวเดียวกับนายไหม เล่นช่วง timeframe เดียว
กับนายไหม ระดับไหนที่เขาบอกว่าพอ ระดับไหนที่เขาจะใส่เพิ่ม เขาเป็นคนไหมหรือเป็นบอท
เขาคิดว่ามันคือการพนันไหม เขากำลังอารมณ์ดี หรือหงุดหงิด ในความจริงแล้ว
มนุษย์เราไขว่คว้าหาหลักประกัน และวิธีที่จะสนับสนุนความเชื่อเท่านั้นน่ะหละ และ ถ้านาย
ใช้วิธีเหมือนๆกับคนอื่น วิชาเดียวกับคนอื่น วิถีเดียวกับคนอื่น นายก็จะได้ผลลัพภ์เหมือนๆหรือ
คล้ายๆกันน่ะละ แต่ถ้านายอยากได้มากกว่านายก็ต้องมีวิธีอื่นเพิ่ม ผมก็ตื่นเต้นนะเพราะจะ
ว่าใช่มันก็ใช่ขัดใจอยู่ก็เยอะ(นะตอนนั้น) ก็เลยถามไป แล้วสรุปทำไงละพี่ พี่เขาก็เลยบอกว่า
ถึงแม้เรื่องอารมณ์ ความรู้สึก จะไม่สามารถหาอะไรมาวัดได้ แต่ที่แน่ๆ ธรรมชาติของมนุษย์
มีเหมือนกันแน่ๆ คือ ความโลภ กับ ความกลัว ไปหามันให้เจอ แล้วจะเข้าใจ
จุดเลิกใช้ indi แบบลาขาดและไม่ใช้บอท 1000000%
บ่าย หนึ่ง สิบกว่านาทีได้มั้งวันนั้น ด้วยสหรัฐกำลังมีข่าวดีแบบออกหน้าออกตาไม่เว้นสัปดาห์
ทำให้ค่าเงินไต่สูงขึ้นเรื่อยๆ วันนั้นผมก็กะจะมาจองตั๋วรถไฟฟ้ามหาสนุกอยู่ จัดวาง indi
พอวัดแกว่งวัดอะไรบ้าง เปิดรอข่าว สวิสเซอรแลนด์ แต่ยังไม่ลงเงิน เพราะไม่คุ้นกับรูป pattern
แบบนี้ ข่าว ของสวิส เป็นข่าวแค่ดาวเดียว ความสำคัญต่ำสุด เปิดมา ปรับอัตราดอกเบี้ย เป็น
-0.75% เราก็คิด เอาแหลวๆแบบนี้มีที่ไหนต้องจ้างฝาก เด้งแน่ พอพับจอกลับมา ร่วงไป 220 จุดย่อย
ใน 3 วิครับ(หายใจเข้าเสร็จแค่นั้นเอง)ผมก็ตื่นๆงงๆ นิ้วแข็ง อ่อ ลืมบอกไป 1 จุดย่อยที่จะขึ้นได้
ต้องใช้เงินอัดฉีดประมาณ 100000$ ครับถึงจะขึ้น แล้วผมก็เห็น กลุ่มออโต้บอท(กลุ่มEA+buy limit)
เข้าไปเด้ง แต่ไม่ถึง 5 วิ ตบลงไปอีก 1000 จุด แล้วมันก็ดิ่งๆๆๆๆๆๆๆๆๆ จนในที่สุด
เห็นในวงกลมเขียว ไหมครับ ถัดจาก 1 / นั่นละ จุดต่ำสุดของมันก่อนเด้งคืน
28436 จุด(ขาดบ้างแต่ไม่เกิน)*100000 ตบด้วย 32 บาทถ้วนแปลเป็นไทย
ก็ 90000 กว่าล้านบาท เรื่องทั้งหมดจบใน 15 นาทีครับ จากราชาเป็นยาจก
ส้มหล่นก็เยอะ มี broker เจ๊งเป็น 10 (นับเฉพาะเจ้าใหญ่)และผู้เล่น เจ๊งอีกเยอะแยะ
rsi ทะลุต่ำกว่า 30 ตั้งแต่ 200 แรก ema นี่หักแบบแทบทำมุมฉาก indi เปลี่ยนทิศแบบ
หน้ามึนมาก ใน 15 นาที นี่ละครับที่มาที่ผมไม่ใช้ indi เลย
หัดมองต่างมุมซะบ้าง อย่าใช้อารมณ์คิดเข้าข้างตัวเอง ในตลาดทุน
เพราะเงินมันไม่อยู่ข้างคุณเวลาคุณเลือกผิดหรอกนะ
ในช่วงสมัยหัดดูกราฟโดยไม่มี indi แรกๆ ผมก็งงๆ กับมันหลายๆครั้ง ว่า
จะเอาอะไรวัดล่ะ ซึ่ง กฏตายตัวเลยนะครับ สำหรับเงื่อนไขในการเป็นขาขึ้น
คือ เมื่อมีการปรับฐาน หรือ เทขายจะต้องไม่ลงไปต่ำกว่าเดิม จึงจะเชื่อได้ว่าเป็นขาขึ้น
และหลายๆครั้ง สมัยก่อนผมก็เป็น คือการคิดเข้าข้างตัวเอง ว่าเดี๋ยวมันก็เด้ง มันก็ลง
นิดเดียวน่ะหละ เสร็จแล้วก็หมดตูด ไปหลายครั้งจนชาชิน จนเริ่มโมโห อยู่ดีๆวันนั้นเลย
กลับหัวมองกราฟ ทำหน้าแบบจะเอาไงกะตูข้าฟระ แล้วมันก็เห็นปิ๊ง กลับมามองปกติ
นั่งตัดสินใจแป๊ป จัด Cut loss ไป หมดก๊ง แล้วเท S ไป 1.00 (ก็ ถ้าถูกทาง จุดย่อยละ 1$ )
ก็ได้ไป 1253$ ครับรอบนั้น เพราะมันดิ่งจริงๆ ก็เลยได้มาเป็นทุนจนถึงทุกวันนี้(ต้องขอบใจลูกบ้าตอนนั้น)
รูปกราฟ ก็แบบนี้ครับ คล้ายมาก
และนี่คือสิ่งที่เห็นหลังจากหมุนชาร์ทแล้ว
สำคัญตรงที่ว่าคุณจะรับความจริงได้ไหม
SCC : บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด(มหาชน)
- หุ้นสูงอายุ ( 40 ปี ) ขึ้นลงตามสภาวะเศรษฐกิจ
- ความหนาแน่นอยู่ในระดับ ชม. - 4 ชม.(พอที่จะมอง pattern ได้)
เป็นหุ้นที่เคยสร้าง wave 1 มาแล้ว ดังนั้นตอนนี้จะอยู่ในช่วง wave 3(ของคลื่นใหญ่)
ตอนนี้ เราอยู่ในช่วง fibonacci 2.00 ซึ่งเป็นจุดขายทำกำไรของนักลงทุนต่างชาติ
จุดนี้ ขออธิบายเรื่อง อารมณ์หุ้น ในความจริงเราใช้ อารมณ์ ในการแสดงความ
ต้องการเสมอ ไม่ว่าจะอยากได้อะไรก็ตาม แล้วเราจึงหาเหตุผลบ้างข้ออ้างบ้างมา
ชักจูงตัวเอง ปลอบประโลม หรือเข้าข้างว่าการจับจ่ายหรืออะไรก็ตามนั้น มีเหตุผล
และขอละเว้นการอธิบาย ประเภทนักลงทุน ทั้งมนุษย์และบอท ไว้นะที่นี้เพราะมันจะยาวไป
วิธีการสังเกตอารมณ์หุ้นนั้นสังเกดจากขนาดรูปร่างแท่งเทียน ดูตัวอย่างได้จากวงกลม
เขียวเล็ก กับ ส้มใหญ่ เขียวเล็กนั้นแม้จะมีการขายออกของหุ้นอยู่หลายวันแต่ก็เคลื่อนไหว
ในช่วงแคบๆ และพอผ่านไปไม่กี่วันก็มีแรงซื้อเข้ามาในระดับที่เท่ากันหรือมากกว่า
แสดงถึงความคาดหวังว่ายังขึ้นไปต่อได้ ยิ่งพอเข้าช่วงส้ม คุณจะเห็นแรงเทขาย
ทางด้านซ้ายแรกๆว่ามันเยอะและต่อเนื่อง แต่ก็ไม่ลดลงไปมากอะไร แต่พอมีการซื้อ
เพิ่มกลับเต้งขึ้นไม่หยุด ซึ่งลักษณะขาขึ้นส่วนมาก อัตราส่วนจะ เขียวสั้นยาว5-6แท่ง : แดงสั้น 1-2แท่ง
ทีนี้พอถึงจุดที่ฝรั่งหรือนักเล่น Technical ต้องการ ( Fibo 2.00 ) ก็มีการเทขาย(สี่เหลี่ยมสีฟ้า)
ซึ่งธรรมดา ครับ เวลาขาขึ้น อารมณ์โลภบังตาแล้ว คนเห็นลงก็ซื้อสิ ใครน้อโง่ขายมาได้
หุ้นมีอนาคต ขายหมูแบบนี้ พอมันใกล้จะเท่าเดิม ก็มีการขายล็อตใหญ่มาอีก แล้วทีนี้ละ สัญญาณพักตัว
มาแล้ว(เพราะไม่สามารถทำ New High ได้)ก็มีการรินขายเกิดขึ้น เปลี่ยนอารมณ์ จาก เขียวเป็นแดง
ดูได้จากกรอบชมพู เริ่มอัตตราส่วนเขียวแดงเท่ากันหรือแดงมากกว่า
สรุป ตอนนี้อยู่ช่วงพักตัวครับ รอดูอาการไป ยังไม่มีบอกว่าจะพักไปถึงไหน หรือเปลี่ยนแปลงอะไร
แต่จุดสังเกตอยู่ที่ 482 กับ 461 แต่ไม่ใช่เร็วๆนี้หรอก(ไม่ใช่ ภายใน 1 เดือนน่ะครับ)
SET : ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
อันนี้เป็นตัวเปรียบเทียบในแบบทิศทางที่ดีนะครับ เพราะในอนาคตยังขึ้น
ถ้าช่วง 1360-1365 มีการกระตุกหรือกระเตื้องขึ้น ก็เอาชาร์ทนี้เป็นฐานข้อมูลได้เลย
ยิ่งถ้าช่วง 1300 มีการสู้ตายละก็ ดีใจด้วยครับยังมีลมหายใจแห่งอนาคตอยู่
แต่ถ้าจะเอาเป๊ะๆ ตามตัวอย่างเลยก็ ราวๆ 1270-1250 น่ะครับ
และที่สำคัญ ฝรั่งต้องมา
ผมพลาดตรงคาดการกระทู้ ที่แล้ว ตรงคาดว่าจะมีการปิด GAP แต่ผมลืมไปว่าจะเกิดการ
ปิด Gap ได้ก็ต่อเมื่อฝรั่งอยากทดสอบความเชื่อในตลาด แต่เผอิญรอบนี้ ไม่มีหลักประ
กันว่าทดสอบแล้วรอด เค้าเลยไม่มา
ITD : บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน)
-เป็นหุ้นกลุ่มที่เติบโตตามเศรษฐกิจครับ
-หุ้นอายุ รุ่นๆ (20จะ21 ปีละ)
-ความหนาแน่นอยู่ในระดับ ชม.
จากรูป ยังเป็นหุ้นรอแรงส่งอยู่ เพราะพึ่งจบ wave 1 ไป และสะสมแรงขึ้น wave 3
(ขายาว)ถ้าเป็นผมจะถือเป็นหุ้นลงทุนนะไม่ใช่เก็งกำไรซะทีเดียว เหมาะแช่ไว้ยาวๆ
พื้นฐานดีไหมอันนี้ไม่รู้แต่อัตราซื้อขายระดับ ชม. ในหุ้นไทยผมถือว่าหนาแน่นนะ
(ตั้งแต่เปิดดูที่ผ่านมา)
แน่นอนครับตามมาตรฐาน technical ถึง fibo 2.00 ขายทำกำไร
ตอนนี้ชนเส้น Low Bollinger Band ในระดับสัปดาห์ครับ เลยมีแรงซื้อเข้ามาซึ่งถ้าระดับ
week เนี่ยกว่าจะแสดงผลว่าจะขึ้นหรือลงก็ได้เป็นเดือนครับกว่าจะแสดงผลอีกที
จะเข้าเล่นก็เล่นได้เลยครับ น่าจะมีการซื้อขายกันไปเรื่อยๆ ใน 2-3 สัปดาห์นี้ จุดสังเกตคือ
7.45 ดีอีกนิด ก็ 7.80 สูงสุดๆ ไม่เกิน 8.00 ซึ่งถ้าผ่าน 3 จุดนี้แล้วอยู่ได้เกิน 3
วันก็ถือได้นานๆเลยครับ
อยากให้ระวังนิดนึงว่าในการตัดสินใจตอนนี้ หุ้นตัวนี้กำลังเลือกว่าจะพักเท่านี้สะสมแรง
แล้วขึ้นต่อ(ใน 3 เดือนนี้) หรือย่อตัวลงไปอีก(อาจเกิดได้)ไปสะสมแรงขึ้นมาใหม่
นั้นอยู่กับปัจจัยภายนอกล้วนๆ
ARROW : บริษัท แอร์โรว์ ซินดิเคท จำกัด (มหาชน)
-หุ้นเด็ก (3 ปี) น่าจะมีชีวิตยาวอยู่นะ
-ความหนาแน่นในระดับ 2 ชม.
อย่างที่ผมบอกประจำน่ะล่ะครับ Fibo 2.00 ขายทำกำไร และจุดสูงสุดจริงๆ ในภาวะปกติ
ที่กลุ่ม Technical + ต่างชาติ จะทยอยขายหุ้นอยู่คือ Fibo 2.61 ซึ่งถ้าคุณอยู่ยอดดอย
ก็เป็นกำลังใจครับ ใจเย็นๆ พวกชาร์ทแบบนี้ ถ้า ฝรั่งยังเล่นอยู่เขาจะกลับขึ้นไปเทส
ความสูงใกล้ๆอันเดิมครับ และส่งสัญญาณไปในตัวด้วยว่าจะขายแล้ว
นี่คือจุดที่มีความเป็นไปได้ว่าจะไปถึงครับ 13.70 +-5 และ 14.10+-5 ไม่เกินนี้
ถ้าได้กำไรนิดหน่อย ก็ออกมาเถอะครับ หรือถ้าเท่าทุนก็ออกมา เพราะถ้าหลุดช่วงเหล่านี้ลง
ไปจะมีจุดรับซื้ออีก 3 จุดครับคือ 10.90+-5 ต่อมาก็ 8.50+-5 และสุดท้าย 7.00+-5 ครับ
มันเป็นกึ่งๆจะหุ้นปั่น(อาจจะเพราะเป็นหุ้นเด็กมั้ง)ถ้าไม่เข้าไปตอนขาขึ้น มาหวังเก็บตอนนี้เสี่ยงครับ