จากที่เน้นไว้ที่หัวนะครับว่าเที่ยวแบบครอบครัว ดังนั้นทริปผมคือออกแนวขับรถเที่ยว เพราะคุณพ่อคุณแม่ไปด้วยไหนเลยจะเดินแบบวัยรุ่นไหว ดังนั้นทริปนี้จึงจัดคล้ายๆหลายๆทัวร์ที่จัด แต่เราเน้นขับเที่ยวเอง ก็ได้บรรยากาศความเป็นส่วนตัวอีกแบบครับ
แต่เหนือสิ่งอื่นใด ถ้าท่านสนใจจะขับรถเที่ยวต่างประเทศ อย่าลืมสิ่งสำคัญอย่างแรกคือ ท่านต้องไปทำใบขับขี่นานาชาติ ที่กรมการขนส่งนั่นเอง ใช้เวลาไม่นาน 10นาที กับเงิน 505 บาท ก็เสร็จเรียบร้อย
เมื่อได้ใบขับขี่มาแล้ว ถัดมาก็คือหารถเช่า ในฮอกไกโด มีบริษัทเช่ารถอยู่มาก เลือกคันที่นั่งได้5คนนะครับ (ถ้าเราไป5คน) เพราะรถญี่ปุ่นบางคันนั่งได้แค่4คน
รีวิวสำหรับเช่ารถขับที่ฮอกไกโดครับ
http://ppantip.com/topic/32765036 รายละเอียดครบมากครับก่อนไปผมก็ศึกษาจากคนนี้เหมือนกัน ดีมากๆครับ
ถัดมาก็คือที่พัก เมื่อเราวางแพลนไปฮอกไกโดช่วงหน้าร้อนของญี่ปุ่นนั้น (ช่วงเดือนกรกฎาคม) แน่นอนคับว่าตั๋วเครื่องบินจะถูก คอยเล็งไว้ให้ดี อ้อ อย่าลืมเช็คสภาพอากาศด้วยนะครับ เวบพยากรณ์อากาศของญี่ปุ่นแม่นยำมากๆๆๆๆ ดังนั้นจึงควรตรวจสอบก่อนจองตั๋วเครื่องบิน จะได้ไม่ผิดหวังครับ
เวบพยากรณ์อากาศของญี่ปุ่นครับ
http://www.accuweather.com/th/jp/minami5-jonishi/1507108/weather-forecast/1507108
ทริปนี้ของผม ได้ราคาตั๋วเครื่องบินของ Air Asia Xไป2,900บาทกลับ2,700บาท รวมเป็นค่าตั๋วไปกลับของผม 5,600บาท รวมภาษีสนามบินเรียบร้อย
หลายท่านคงตกใจกับราคาแบบนี้ ซึ่งผมก้ตกใจเหมือนกัน 555555 แต่ราคานี้นั้น ไม่รวมหลายๆอย่างนะครับ ต้องค่อยๆเจาะลงไป เช่น ท่านจะโหลดกระเป๋าไหม 750บาท ท่านจะสั่งอาหารบนเครื่องไหม 150บาท ท่านจะซื้อประกันไหม 250บาท ท่านจะจองที่นั่งไหม อานนี้ผมจองครับ และเลือกโซน quiet ด้วย 500บาท ถามว่าดียังไงโซนนี้ เงียบดีครับ ได้นอนด้วย แอร์เขาจะเปิดไฟสลัวๆและปิดม่านให้ จะต่างจากที่นั่งปกติ 400บาท ที่เปิดไฟสว่างแทบไม่ได้นอน บางทีก็เสียงคุยกัน ซึ่งเราบินนาน6ชม.บางทีถ้าได้งีบซักหน่อยจะสบายมาก ดังนั้นหัวใจหลักของทริปนั่นก็คือราคาตั๋วครับ ทริปจะถูกจะแพง เรากดงบยังไง ก็ขึ้นกับตั๋วเครื่องบินอยู่ดี ดังนั้น ราคาตั๋วถูกถือว่ามีชัยไปกว่าครึ่งครับ ตังส่วนอื่นจะได้มาเน้นกินแทน ฮ่าๆๆๆๆๆ
ออกนอกเรื่องไปไกล 555555 กลับมาที่พักต่อ ครับ เมื่องเราได้วันเดินทางเป็นที่เรียบร้อยก็หาที่พักต่อเลยว่าช่วงที่เราบินไปนั้นกี่วัน ของผมพัก3คืน ดังนั้นจึงจัดที่พักแค่3คืนพอและให้สอดคล้องกับกำหนดการที่จะไปด้วยนะครับจะได้ไม่วนไปวนมา คำเตือน บางทีถ้าท่านจัดทริปเอง อาจเจอแบบผมก็เป็นได้ครับ คือคืนที่2และ3 ผมบังเอิญจัดวันได้พอดีเป๊ะสำหรับที่ทัวร์ลงพอดี ดังนั้น จะเกิดอาการ ที่พักในsapporo เต็ม!!! เต็มจริงๆครับ ทั้งเวบ agoda booking.com อะไรหลายๆอย่าง เตมหมด แทบไม่เชื่อสายตา ไอที่ไม่เต็มก็ราคาโดดไปคืนละ9000บาท หรือไม่ก็ไปพักชานเมืองไกลมาก ผมนั่งคลำหาที่พักอยู่3วัน จนเปลี่ยนแผนใหม่ ลองหาข้อมูลเกี่ยวกับโฮสดู ก็ไปเจอที่นึงครับ นอนพักกับโฮสที่คอนโด เขาเป็นคนไทยแต่งงานกับคนญี่ปุ่นและมีห้องในคอนโดทำเป็นที่พักโฮสให้กับผู้สนใจ ซึ่งเป็นสิ่งที่ช่วยผมได้ดีมากครับ ห้องมีถึง3ห้องนอนเลยครับ ดังนั้นพักได้สูงสุด6คนครับ คนละ5000เยนฟรีอาหารเช้า ฟรีออนเซ็นและซาวน่าด้วยทุกวันศุกร์-อาทิตย์ ถามว่า ณ จุดนี้จึงต้องลองดูครับ เปลี่ยนบรรยากาศดู ส่วนใหญ่ไปเที่ยวก้พักแต่โรงแรม ลองเปลี่ยนมาพักโฮส เรียนรู้วัฒนธรรมญี่ปุ่นดู เมื่อได้พักแล้วก็ถือว่าประทับใจนะครับ
เอาลิงค์ไว้เผื่อสนใจครับ
https://www.facebook.com/pages/%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B8%8D%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%9B%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%AE%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B9%84%E0%B8%81%E0%B9%82%E0%B8%94-%E0%B8%8B%E0%B8%B1%E0%B8%9B%E0%B9%82%E0%B8%9B%E0%B8%B0%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%81%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B8%AA%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7/635985536530086?fref=ts
ออกทะเลไปไกลอีกแล้ว ฮ่าๆๆๆ กลับมาๆต่อครับ ที่สำคัญของทริปนี้ที่ขาดไม่ได้นั่นก็คือ internet pocket wifi ครับ ถือว่าเป็นหัวใจหลักของทริปนี้เลยก็ว่าได้ เพราะเนตช่วยอะไรหลายๆอย่างเช่นหาข้อมูลเพิ่มจากเอกสารที่ปริ้นมา ช่วยนำทางGPS พาไปสถานที่เที่ยวต่างๆได้เป็นอย่างดีครับ ดังนั้นจึงบอกว่า สำคัญและขาดไม่ได้เลยครับ ราคาคิดเป็นวันครับ วันละ200บาท ความเร็วสูงสุด 75mb แต่ถ้าแชร์เข้าเล่นกันหลายๆเครื่องก็จะเหลือประมาน10กว่าmb สำหรับผมถือว่าไวมั่กเลยครับ แถมunlimited ด้วย ใช้ได้หลายคนอีก
**samuri wifi ครับ ใช้ดีมาก** ควรบอกต่อ อิอิ
ข้อควรทราบ
น้ำมันที่ญี่ปุ่น จะแบ่งเป็น3ประเภทครับ
-ไฮพาวเวอร์
-เรกูล่า
-ดีเซล
ดังนั้นถ้าเช่ารถขับเป็นรถเก๋งปกติ ก็เติมแค่เรกูล่าก็พอครับ
***ยอดงบประมาณทั้งหมด ที่ทุกคนรอคอย (ต่อคน)***
ค่าเครื่องบิน 5,600+500=6,100บาท
ค่าที่พักต่อคน คืนละ 1,500×3=4,500บาท
ค่าเช่ารถ คืนละ 1,800บาท÷5คน=360บาท×3คืน=1,080บาท
ค่าน้ำมันทั้งทริป 3,000บาท÷5=600บาท
ค่าทางด่วนhiway 7,590¥=2,125÷5=425บาท
ค่าอาหาร 4มื้อ×200บาท=800บาท
ค่าบุฟเฟต์ปูอลาสก้าร้านนันดะ 3,500¥=980บาท
ค่าตั๋วเข้าสวนเชอร์รี่ 450บาท (กินเด็ดจากต้นไม่จำกัดเวลา และสามารถนำกลับได้500กรัมด้วย อิอิ)
ค่าเข้าชมสวนสัตว์ 820¥=230บาท
ค่าขึ้นดูวิวหอคอยทีวีทาวเวอร์ 720¥=200 บาท
ค่าที่จอดรถทั้งทริป 1,000¥=280บาท
รวมทั้งสิ้น 15,645 บาทถ้วน
กำหนดการทริปนี้ครับ
เริ่มต้นจากเครื่องออกจากไทย 23.10ครับ แนะนำเลยครับ ควรจะมาถึงสนามบินก่อนเครื่องออกประมาน2.5-3ชม. เลยครับ เพราะรายละเอียดเยอะมาก
เมื่อนผ่านทุกอย่างเรียบร้อยจนกระทั่งเครื่องอยู่บนท้องฟ้าแล้ว ทางสายการบินจะทำการแจกเอกสารตม.ของญี่ปุ่นครับ
เราก็ทำการกรอกให้เรียบร้อยครับ เวลาเหลือเฟือ ไทย-ญี่ปุ่น ใช้เวลาบิน 6ชม ครับ และเวลาญี่ปุ่นจะเร็วกว่าไทยอยู่2ชม.ครับ
อย่างแรกเมื่อถึงสนามบินคือเทสเนตครับ ว้าวๆๆ 10เมกขึ้น สบายใจและ 55555 ถัดมาอย่าลืมเข้าห้องน้ำครับ ช่างสะอาดมากครับ
ออ ลืมบอกไปครับ ขั้นตอนวิธีผ่านตม.ง่ายมากครับ สแกนนิ้วมือทั้งสองข้าง และถ่ายรูป ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย เมื่อผ่าน ตม.เข้ามาเรียบร้อยแล้วก็จะถึงด่านสุดท้ายคือตรวจกระเป๋า พอเสร็จเรียบร้อย ก็ถึงจุดเริ่มของการผจญภัยครั้งนี้ครับ
อย่างแรกก็คือเมื่อออกมาโซนนอก ก็เข้าไปติดต่อรีเซบชั่นให้เขาช่วยโทรติดต่อบริษัทรถ ที่เราจองไว้แล้วครับ จากนั้นก็ไปรอเขามารับที่จุดนัดพบ เพราะทางบริษัทรถเขาจะส่งรถมารับไปทำเอกสารและคุยรายละเอียดที่บริษัทรถนิดหน่อยครับ **อย่าลืมสำเนาเอกสารมาจากไทยก่อนนะครับ ใบขับขี่ไทย และใบขับขี่นานาชาติอะครับ จะได้ไม่ต้องเสียเวลาหาที่ถ่ายสำเนา** เมื่อรับรถเป็นที่เรียบร้อย จุดหมายแรกของผมก็คือ หมู่บ้านราเม็งครับ ที่เมืองอาซาฮิกาว่า ต้องเติมพลังเข้าท้องสักหน่อย เวลาขณะนั้นก็ประมาณ 9โมงนิดๆครับ Let Go ไปกัน
อุโมงมีความยาว 1.7กม. เจาะทะลุภูเขา wow ตื่นตาตื่นใจมากครับ
หลังจากนั่งรถเป็นเวลา 2ชม.ครึ่งแล้วนั้น
ในที่สุดก็มาถึงเมืองอาซาฮิกาว่า ที่แรกที่ไปเก็บนั่นก็คือ หมู่บ้านราเม็งครับ
จากเมนูทั้งหมดนั้น ผมแนะนำอย่างยิ่งให้ลองเลยคือราเม็งที่มีข้าวโพด โอววววว ข้าวโพดช่างหวานยิ่งนัก รวมกับน้ำซุปมิสโสะแล้ว โฮะๆ สุดยอดอย่าบอกครายเชียวครับ **ปล.ชามใหญ่เว่อร์**
พอกินเสร็จเรียบร้อย หน้าร้านมีปลูกต้นลาเวนเดอร์เป็นแนว ว้าวๆๆๆ สวยจุง ^_^
หลังจากนั้นก็ออกเดินทางต่อ จุดหมายถัดไปอยู่ไม่ไกลครับ ขับรถมาทางป้ายยอดตึกสีแดงๆเขียนว่า store drug จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าซอยตรงนั้นจะเจอร้านขาย ขนมญี่ปุ่น ไทยากิ Taiyaki (เป็นขนมรูปปลาไท ของญี่ปุ่น ข้างนอกเป็นแป้งแพนเค้ก ข้างในสอดไส้ต่างๆ) ผมแนะนำ รสชีสครับ อร่อยสุดยอด เจอโดยบังเอิญครับ ต้องลอง อิอิ
หลังจาก อิ่มกันเรียบร้อย ต้องไปเดินย่อยกันครับ ที่ถัดไปที่จะไปเก็บนั่นก็คือ สวนสัตว์อาซาฮิยามะ ครับ ไปดูสัตว์หายากนานาชนิด เช่นเพนกวิ้น หมีขั้วโลก ว้าวๆๆๆ กัน ค่าเข้า 820เยนก็ประมาณ 230บาทต่อคนครับ
อ้าวเจอเฮ็ดวิคในเรื่องharry potter ด้วย นกฮูกหิมะ ^^
มาแล้วววว หมีขั้วโลก ว้าวๆๆๆ
ต่อด้วยเพนกวิ้น วิ้วๆๆ
หลังจากได้เยี่ยมชมกันเต็มอิ่มแล้ว ก็ออกเดินทางกันต่อครับ
[CR] เที่ยวฮอกไกโด 5วัน3คืน งบ15,645+ของฝากสัก4,355 รวมทั้งสิ้นก้20,000บาทคร้าบ ขับรถเที่ยวด้วยตนเองและครอบครัว
แต่เหนือสิ่งอื่นใด ถ้าท่านสนใจจะขับรถเที่ยวต่างประเทศ อย่าลืมสิ่งสำคัญอย่างแรกคือ ท่านต้องไปทำใบขับขี่นานาชาติ ที่กรมการขนส่งนั่นเอง ใช้เวลาไม่นาน 10นาที กับเงิน 505 บาท ก็เสร็จเรียบร้อย
เมื่อได้ใบขับขี่มาแล้ว ถัดมาก็คือหารถเช่า ในฮอกไกโด มีบริษัทเช่ารถอยู่มาก เลือกคันที่นั่งได้5คนนะครับ (ถ้าเราไป5คน) เพราะรถญี่ปุ่นบางคันนั่งได้แค่4คน
รีวิวสำหรับเช่ารถขับที่ฮอกไกโดครับ
http://ppantip.com/topic/32765036 รายละเอียดครบมากครับก่อนไปผมก็ศึกษาจากคนนี้เหมือนกัน ดีมากๆครับ
ถัดมาก็คือที่พัก เมื่อเราวางแพลนไปฮอกไกโดช่วงหน้าร้อนของญี่ปุ่นนั้น (ช่วงเดือนกรกฎาคม) แน่นอนคับว่าตั๋วเครื่องบินจะถูก คอยเล็งไว้ให้ดี อ้อ อย่าลืมเช็คสภาพอากาศด้วยนะครับ เวบพยากรณ์อากาศของญี่ปุ่นแม่นยำมากๆๆๆๆ ดังนั้นจึงควรตรวจสอบก่อนจองตั๋วเครื่องบิน จะได้ไม่ผิดหวังครับ
เวบพยากรณ์อากาศของญี่ปุ่นครับ
http://www.accuweather.com/th/jp/minami5-jonishi/1507108/weather-forecast/1507108
ทริปนี้ของผม ได้ราคาตั๋วเครื่องบินของ Air Asia Xไป2,900บาทกลับ2,700บาท รวมเป็นค่าตั๋วไปกลับของผม 5,600บาท รวมภาษีสนามบินเรียบร้อย
หลายท่านคงตกใจกับราคาแบบนี้ ซึ่งผมก้ตกใจเหมือนกัน 555555 แต่ราคานี้นั้น ไม่รวมหลายๆอย่างนะครับ ต้องค่อยๆเจาะลงไป เช่น ท่านจะโหลดกระเป๋าไหม 750บาท ท่านจะสั่งอาหารบนเครื่องไหม 150บาท ท่านจะซื้อประกันไหม 250บาท ท่านจะจองที่นั่งไหม อานนี้ผมจองครับ และเลือกโซน quiet ด้วย 500บาท ถามว่าดียังไงโซนนี้ เงียบดีครับ ได้นอนด้วย แอร์เขาจะเปิดไฟสลัวๆและปิดม่านให้ จะต่างจากที่นั่งปกติ 400บาท ที่เปิดไฟสว่างแทบไม่ได้นอน บางทีก็เสียงคุยกัน ซึ่งเราบินนาน6ชม.บางทีถ้าได้งีบซักหน่อยจะสบายมาก ดังนั้นหัวใจหลักของทริปนั่นก็คือราคาตั๋วครับ ทริปจะถูกจะแพง เรากดงบยังไง ก็ขึ้นกับตั๋วเครื่องบินอยู่ดี ดังนั้น ราคาตั๋วถูกถือว่ามีชัยไปกว่าครึ่งครับ ตังส่วนอื่นจะได้มาเน้นกินแทน ฮ่าๆๆๆๆๆ
ออกนอกเรื่องไปไกล 555555 กลับมาที่พักต่อ ครับ เมื่องเราได้วันเดินทางเป็นที่เรียบร้อยก็หาที่พักต่อเลยว่าช่วงที่เราบินไปนั้นกี่วัน ของผมพัก3คืน ดังนั้นจึงจัดที่พักแค่3คืนพอและให้สอดคล้องกับกำหนดการที่จะไปด้วยนะครับจะได้ไม่วนไปวนมา คำเตือน บางทีถ้าท่านจัดทริปเอง อาจเจอแบบผมก็เป็นได้ครับ คือคืนที่2และ3 ผมบังเอิญจัดวันได้พอดีเป๊ะสำหรับที่ทัวร์ลงพอดี ดังนั้น จะเกิดอาการ ที่พักในsapporo เต็ม!!! เต็มจริงๆครับ ทั้งเวบ agoda booking.com อะไรหลายๆอย่าง เตมหมด แทบไม่เชื่อสายตา ไอที่ไม่เต็มก็ราคาโดดไปคืนละ9000บาท หรือไม่ก็ไปพักชานเมืองไกลมาก ผมนั่งคลำหาที่พักอยู่3วัน จนเปลี่ยนแผนใหม่ ลองหาข้อมูลเกี่ยวกับโฮสดู ก็ไปเจอที่นึงครับ นอนพักกับโฮสที่คอนโด เขาเป็นคนไทยแต่งงานกับคนญี่ปุ่นและมีห้องในคอนโดทำเป็นที่พักโฮสให้กับผู้สนใจ ซึ่งเป็นสิ่งที่ช่วยผมได้ดีมากครับ ห้องมีถึง3ห้องนอนเลยครับ ดังนั้นพักได้สูงสุด6คนครับ คนละ5000เยนฟรีอาหารเช้า ฟรีออนเซ็นและซาวน่าด้วยทุกวันศุกร์-อาทิตย์ ถามว่า ณ จุดนี้จึงต้องลองดูครับ เปลี่ยนบรรยากาศดู ส่วนใหญ่ไปเที่ยวก้พักแต่โรงแรม ลองเปลี่ยนมาพักโฮส เรียนรู้วัฒนธรรมญี่ปุ่นดู เมื่อได้พักแล้วก็ถือว่าประทับใจนะครับ
เอาลิงค์ไว้เผื่อสนใจครับ
https://www.facebook.com/pages/%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B8%8D%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%9B%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%AE%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B9%84%E0%B8%81%E0%B9%82%E0%B8%94-%E0%B8%8B%E0%B8%B1%E0%B8%9B%E0%B9%82%E0%B8%9B%E0%B8%B0%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%81%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B8%AA%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7/635985536530086?fref=ts
ออกทะเลไปไกลอีกแล้ว ฮ่าๆๆๆ กลับมาๆต่อครับ ที่สำคัญของทริปนี้ที่ขาดไม่ได้นั่นก็คือ internet pocket wifi ครับ ถือว่าเป็นหัวใจหลักของทริปนี้เลยก็ว่าได้ เพราะเนตช่วยอะไรหลายๆอย่างเช่นหาข้อมูลเพิ่มจากเอกสารที่ปริ้นมา ช่วยนำทางGPS พาไปสถานที่เที่ยวต่างๆได้เป็นอย่างดีครับ ดังนั้นจึงบอกว่า สำคัญและขาดไม่ได้เลยครับ ราคาคิดเป็นวันครับ วันละ200บาท ความเร็วสูงสุด 75mb แต่ถ้าแชร์เข้าเล่นกันหลายๆเครื่องก็จะเหลือประมาน10กว่าmb สำหรับผมถือว่าไวมั่กเลยครับ แถมunlimited ด้วย ใช้ได้หลายคนอีก
**samuri wifi ครับ ใช้ดีมาก** ควรบอกต่อ อิอิ
ข้อควรทราบ
น้ำมันที่ญี่ปุ่น จะแบ่งเป็น3ประเภทครับ
-ไฮพาวเวอร์
-เรกูล่า
-ดีเซล
ดังนั้นถ้าเช่ารถขับเป็นรถเก๋งปกติ ก็เติมแค่เรกูล่าก็พอครับ
***ยอดงบประมาณทั้งหมด ที่ทุกคนรอคอย (ต่อคน)***
ค่าเครื่องบิน 5,600+500=6,100บาท
ค่าที่พักต่อคน คืนละ 1,500×3=4,500บาท
ค่าเช่ารถ คืนละ 1,800บาท÷5คน=360บาท×3คืน=1,080บาท
ค่าน้ำมันทั้งทริป 3,000บาท÷5=600บาท
ค่าทางด่วนhiway 7,590¥=2,125÷5=425บาท
ค่าอาหาร 4มื้อ×200บาท=800บาท
ค่าบุฟเฟต์ปูอลาสก้าร้านนันดะ 3,500¥=980บาท
ค่าตั๋วเข้าสวนเชอร์รี่ 450บาท (กินเด็ดจากต้นไม่จำกัดเวลา และสามารถนำกลับได้500กรัมด้วย อิอิ)
ค่าเข้าชมสวนสัตว์ 820¥=230บาท
ค่าขึ้นดูวิวหอคอยทีวีทาวเวอร์ 720¥=200 บาท
ค่าที่จอดรถทั้งทริป 1,000¥=280บาท
รวมทั้งสิ้น 15,645 บาทถ้วน
กำหนดการทริปนี้ครับ
เริ่มต้นจากเครื่องออกจากไทย 23.10ครับ แนะนำเลยครับ ควรจะมาถึงสนามบินก่อนเครื่องออกประมาน2.5-3ชม. เลยครับ เพราะรายละเอียดเยอะมาก
เมื่อนผ่านทุกอย่างเรียบร้อยจนกระทั่งเครื่องอยู่บนท้องฟ้าแล้ว ทางสายการบินจะทำการแจกเอกสารตม.ของญี่ปุ่นครับ
เราก็ทำการกรอกให้เรียบร้อยครับ เวลาเหลือเฟือ ไทย-ญี่ปุ่น ใช้เวลาบิน 6ชม ครับ และเวลาญี่ปุ่นจะเร็วกว่าไทยอยู่2ชม.ครับ
อย่างแรกเมื่อถึงสนามบินคือเทสเนตครับ ว้าวๆๆ 10เมกขึ้น สบายใจและ 55555 ถัดมาอย่าลืมเข้าห้องน้ำครับ ช่างสะอาดมากครับ
ออ ลืมบอกไปครับ ขั้นตอนวิธีผ่านตม.ง่ายมากครับ สแกนนิ้วมือทั้งสองข้าง และถ่ายรูป ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย เมื่อผ่าน ตม.เข้ามาเรียบร้อยแล้วก็จะถึงด่านสุดท้ายคือตรวจกระเป๋า พอเสร็จเรียบร้อย ก็ถึงจุดเริ่มของการผจญภัยครั้งนี้ครับ
อย่างแรกก็คือเมื่อออกมาโซนนอก ก็เข้าไปติดต่อรีเซบชั่นให้เขาช่วยโทรติดต่อบริษัทรถ ที่เราจองไว้แล้วครับ จากนั้นก็ไปรอเขามารับที่จุดนัดพบ เพราะทางบริษัทรถเขาจะส่งรถมารับไปทำเอกสารและคุยรายละเอียดที่บริษัทรถนิดหน่อยครับ **อย่าลืมสำเนาเอกสารมาจากไทยก่อนนะครับ ใบขับขี่ไทย และใบขับขี่นานาชาติอะครับ จะได้ไม่ต้องเสียเวลาหาที่ถ่ายสำเนา** เมื่อรับรถเป็นที่เรียบร้อย จุดหมายแรกของผมก็คือ หมู่บ้านราเม็งครับ ที่เมืองอาซาฮิกาว่า ต้องเติมพลังเข้าท้องสักหน่อย เวลาขณะนั้นก็ประมาณ 9โมงนิดๆครับ Let Go ไปกัน
อุโมงมีความยาว 1.7กม. เจาะทะลุภูเขา wow ตื่นตาตื่นใจมากครับ
หลังจากนั่งรถเป็นเวลา 2ชม.ครึ่งแล้วนั้น
ในที่สุดก็มาถึงเมืองอาซาฮิกาว่า ที่แรกที่ไปเก็บนั่นก็คือ หมู่บ้านราเม็งครับ
จากเมนูทั้งหมดนั้น ผมแนะนำอย่างยิ่งให้ลองเลยคือราเม็งที่มีข้าวโพด โอววววว ข้าวโพดช่างหวานยิ่งนัก รวมกับน้ำซุปมิสโสะแล้ว โฮะๆ สุดยอดอย่าบอกครายเชียวครับ **ปล.ชามใหญ่เว่อร์**
พอกินเสร็จเรียบร้อย หน้าร้านมีปลูกต้นลาเวนเดอร์เป็นแนว ว้าวๆๆๆ สวยจุง ^_^
หลังจากนั้นก็ออกเดินทางต่อ จุดหมายถัดไปอยู่ไม่ไกลครับ ขับรถมาทางป้ายยอดตึกสีแดงๆเขียนว่า store drug จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าซอยตรงนั้นจะเจอร้านขาย ขนมญี่ปุ่น ไทยากิ Taiyaki (เป็นขนมรูปปลาไท ของญี่ปุ่น ข้างนอกเป็นแป้งแพนเค้ก ข้างในสอดไส้ต่างๆ) ผมแนะนำ รสชีสครับ อร่อยสุดยอด เจอโดยบังเอิญครับ ต้องลอง อิอิ
หลังจาก อิ่มกันเรียบร้อย ต้องไปเดินย่อยกันครับ ที่ถัดไปที่จะไปเก็บนั่นก็คือ สวนสัตว์อาซาฮิยามะ ครับ ไปดูสัตว์หายากนานาชนิด เช่นเพนกวิ้น หมีขั้วโลก ว้าวๆๆๆ กัน ค่าเข้า 820เยนก็ประมาณ 230บาทต่อคนครับ
อ้าวเจอเฮ็ดวิคในเรื่องharry potter ด้วย นกฮูกหิมะ ^^
มาแล้วววว หมีขั้วโลก ว้าวๆๆๆ
ต่อด้วยเพนกวิ้น วิ้วๆๆ
หลังจากได้เยี่ยมชมกันเต็มอิ่มแล้ว ก็ออกเดินทางกันต่อครับ