สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 34
นอกจากไฟซีนอนแล้ว ผมเบื่อพวกที่เปลี่ยนไฟเลี้ยวท้ายเป็นสีอื่นด้วยครับ
บางคันใช้สีแดง บางคันใช้ออกเทาๆน้ำเงินๆ... คืออยากจะถามว่า เพื่อ ?????
คือไฟเลี้ยวนี่ใช้สีที่มันตามกฎหมายมาจากโรงงานนี่มันจะกระทบอะไรส่วนไหนของร่างกายไม่รู้
ขับตามมาเงี้ย บางทีเจอพวกทำไพเบรคแบบกระพริบๆ ไอตอนแรกก็คิดว่าเบรคแล้วปล่อย
เกือบจะชนท้าย เบื่อที่ต้องมาใช้ถนนกับคนพวกนี้มาก
ตอนนี้เห็นเป็นประเด็นว่าประกาศใช้ ม.44 แล้วจะจับพวกจับรถแต่งด้วย
พวกที่แต่งสวยงามไม่ได้แต่งเพื่อแข่งก็โวยวายว่าจะมาจับทำไม อยากจะฝากไปถึงว่าแต่งสวยงามน่ะแต่งได้ครับ แต่ก็ช่วยอย่าให้มันกระทบกับคนอื่นด้วยเถอะนะ
ทั้งไฟสว่างจ้างี้ เปลี่ยนสีไฟเลี้ยวงี้ ทำไฟเบรคงี้
เบื่อครับ
บางคันใช้สีแดง บางคันใช้ออกเทาๆน้ำเงินๆ... คืออยากจะถามว่า เพื่อ ?????
คือไฟเลี้ยวนี่ใช้สีที่มันตามกฎหมายมาจากโรงงานนี่มันจะกระทบอะไรส่วนไหนของร่างกายไม่รู้
ขับตามมาเงี้ย บางทีเจอพวกทำไพเบรคแบบกระพริบๆ ไอตอนแรกก็คิดว่าเบรคแล้วปล่อย
เกือบจะชนท้าย เบื่อที่ต้องมาใช้ถนนกับคนพวกนี้มาก
ตอนนี้เห็นเป็นประเด็นว่าประกาศใช้ ม.44 แล้วจะจับพวกจับรถแต่งด้วย
พวกที่แต่งสวยงามไม่ได้แต่งเพื่อแข่งก็โวยวายว่าจะมาจับทำไม อยากจะฝากไปถึงว่าแต่งสวยงามน่ะแต่งได้ครับ แต่ก็ช่วยอย่าให้มันกระทบกับคนอื่นด้วยเถอะนะ
ทั้งไฟสว่างจ้างี้ เปลี่ยนสีไฟเลี้ยวงี้ ทำไฟเบรคงี้
เบื่อครับ
ความคิดเห็นที่ 67
ก่อนที่จะด่ากันเลยเถิดจนเป็นนักเลงคีย์บอร์ดไปมากกว่านี้ หยุดฟังข้อมูลและศึกษากันสักนิด
หลอด HID หรือ หลอดซีนอน เป็นแหล่งกำเนิดแสงเหมือนกับหลอดฮาโลเจนหรือหลอด LED แต่จะมีข้อดีกว่าโคมฮาโลเจนคือความเข้มของแสงจะเยอะกว่าฮาโลเจน ทำให้การมองเห็นชัดขึ้น หากใช้อุณหภูมิสีที่ถูกต้อง คือ เหลืองนวล ไปจนถึง ขาว (ประมาณ 4300K-6000K) ซึ่งถูกต้องตามที่ พรบ.ขนส่งกำหนดไว้
การที่แสงไฟฟุ้งแยงตา เกิดจาก 3 สาเหตุ ดังต่อไปนี้
1.การใช้หลอดที่ผิดสีไปจาก เหลืองนวล หรือ ขาว พูดง่ายๆ ว่า มากกว่า 6000K ขึ้นไป เช่น ฟ้า น้ำเงิน ม่วง เขียว เท่าที่สังเกต (สีที่นิยมกันมักจะเป็น 8000K จะขาวออกไปทางฟ้าๆ) ซึ่งการใช้สีเหล่านี้จะเกิดแสงฟุ้งไปรบกวนสายตาเพื่อนร่วมทาง ต่อให้มีโปรเจคเตอร์ก็ช่วยไม่ได้ครับ นอกจากจะแยงตาแล้วก็ไม่ได้ช่วยให้สว่างขึ้น
จากภาพ เป็นการเปรียบเทียบสีของแสงที่อุณหภูมิต่างๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
2.การใส่หลอดซีนอนกับโคม Multireflex ที่ไม่ได้ออกแบบมาสำหรับหลอด HID โดยเฉพาะ หรือพูดง่ายๆ ว่า เอาซีนอนไปใส่โคมเดิม ต่อให้ใส่แค่ 4300K ก็ฟุ้งครับ เพราะแสงมันเข้มมาก สำหรับโคม Multireflex ที่ใส่ HID เช่นโคมไฟหน้าของ Mitsubishi Space Wagon / Civic FD 2.0 / Toyota Camry รุ่นเก่า จะมีการออกแบบโคมเฉพาะที่ใช้สำหรับหลอด HID ซึ่งการควบคุมแสงจะไม่เหมือนกับโคม Multireflex ที่ใช้หลอดฮาโลเจนครับ หลอดเอาหลอด HID ไปใส่โคมเดิมๆ ก็ฟุ้งแน่นอน เพราะมันคุมแสงไม่ได้
ซึ่งกรณีส่วนใหญ่ที่คนทั่วไปเจอกับซีนอน จะเป็นเคสนี้ ลองสังเกตสิครับ รถที่แยงตาพวกคุณหน่ะ จะเป็นพวกรถ B-Segment หรือ Eco Car ทั้งนั้น เพราะโคมเดิมๆ ของรถพวกนี้จะเป็นโคม Multireflex หรือโคมสะท้อนสำหรับหลอดฮาโลเจน แต่เจ้าของรถไปเอาหลอดซีนอนมาใส่ เลยทำให้แสงฟุ้งมาก สำหรับคนที่เขาลงทุนเอาไว้ใช้งานจริงๆ เขาติดโปรเจคเตอร์กันหมดละครับ
สำหรับโคมโปรเจคเตอร์ จะใช้เลนส์ลูกแก้วด้านหน้าและม่านบังแสงภายในโคม ในการควบคุมแสง ทำให้แสงที่ออกมาไม่ฟุ้ง ถ้าคิดจะใส่ซีนอน ช่วยใส่โปรเจคเตอร์ซักนิดครับ ลงทุนนิดนึง
หลักการทำงานของโคมโปรเจคเตอร์
3.การตั้งระดับไฟที่ไม่ถูกต้อง บางคันไปต้งไฟไม่ถูก สูงเกินกว่าค่ามาตรฐานที่กำหนด เพราะว่าอ้างว่ามองไม่เห็น เข้าใจครับว่าการปรับไฟให้สูงขึ้น มันทำให้ไฟส่องได้ไกลขึ้น (การปรับโคมไฟหน้าลง 1 มิลลิเมตร ระยะทางที่แสงส่องถึงหายไปประมาณหลายเมตร) แต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้แสงฟุ้งไปเข้าตาเพื่อนร่วมทาง ในกรณีนี้ โคมฮาโลเจน ก็เป็นครับ และถ้าเกิดขึ้นในโคมฮาโลเจน มันนรกยิ่งกว่าใส่ซีนอนโคมเดิมอีกครับ
หลอดมันไม่ผิดครับ มันผิดที่คนใช้ใช้แบบไม่ถูกต้อง และหลอดฮาโลเจนก็แยงตาได้ครับ ถ้าการปรับตั้งไม่ถูกตั้ง รู้แบบนี้แล้ว อย่าลืมไปเช็คไฟหน้ารถของท่านด้วยนะครับ ถึงแม้ว่าท่านจะใช้หลอดฮาโลเจน แต่ไฟหน้าของท่านก็มีสิทธิ์ที่จะไปแยงตาเพื่อนร่วมทางได้ ถ้าปรับตั้งระดับไฟไม่ถูกต้อง
หลอด HID หรือ หลอดซีนอน เป็นแหล่งกำเนิดแสงเหมือนกับหลอดฮาโลเจนหรือหลอด LED แต่จะมีข้อดีกว่าโคมฮาโลเจนคือความเข้มของแสงจะเยอะกว่าฮาโลเจน ทำให้การมองเห็นชัดขึ้น หากใช้อุณหภูมิสีที่ถูกต้อง คือ เหลืองนวล ไปจนถึง ขาว (ประมาณ 4300K-6000K) ซึ่งถูกต้องตามที่ พรบ.ขนส่งกำหนดไว้
การที่แสงไฟฟุ้งแยงตา เกิดจาก 3 สาเหตุ ดังต่อไปนี้
1.การใช้หลอดที่ผิดสีไปจาก เหลืองนวล หรือ ขาว พูดง่ายๆ ว่า มากกว่า 6000K ขึ้นไป เช่น ฟ้า น้ำเงิน ม่วง เขียว เท่าที่สังเกต (สีที่นิยมกันมักจะเป็น 8000K จะขาวออกไปทางฟ้าๆ) ซึ่งการใช้สีเหล่านี้จะเกิดแสงฟุ้งไปรบกวนสายตาเพื่อนร่วมทาง ต่อให้มีโปรเจคเตอร์ก็ช่วยไม่ได้ครับ นอกจากจะแยงตาแล้วก็ไม่ได้ช่วยให้สว่างขึ้น
จากภาพ เป็นการเปรียบเทียบสีของแสงที่อุณหภูมิต่างๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
2.การใส่หลอดซีนอนกับโคม Multireflex ที่ไม่ได้ออกแบบมาสำหรับหลอด HID โดยเฉพาะ หรือพูดง่ายๆ ว่า เอาซีนอนไปใส่โคมเดิม ต่อให้ใส่แค่ 4300K ก็ฟุ้งครับ เพราะแสงมันเข้มมาก สำหรับโคม Multireflex ที่ใส่ HID เช่นโคมไฟหน้าของ Mitsubishi Space Wagon / Civic FD 2.0 / Toyota Camry รุ่นเก่า จะมีการออกแบบโคมเฉพาะที่ใช้สำหรับหลอด HID ซึ่งการควบคุมแสงจะไม่เหมือนกับโคม Multireflex ที่ใช้หลอดฮาโลเจนครับ หลอดเอาหลอด HID ไปใส่โคมเดิมๆ ก็ฟุ้งแน่นอน เพราะมันคุมแสงไม่ได้
ซึ่งกรณีส่วนใหญ่ที่คนทั่วไปเจอกับซีนอน จะเป็นเคสนี้ ลองสังเกตสิครับ รถที่แยงตาพวกคุณหน่ะ จะเป็นพวกรถ B-Segment หรือ Eco Car ทั้งนั้น เพราะโคมเดิมๆ ของรถพวกนี้จะเป็นโคม Multireflex หรือโคมสะท้อนสำหรับหลอดฮาโลเจน แต่เจ้าของรถไปเอาหลอดซีนอนมาใส่ เลยทำให้แสงฟุ้งมาก สำหรับคนที่เขาลงทุนเอาไว้ใช้งานจริงๆ เขาติดโปรเจคเตอร์กันหมดละครับ
สำหรับโคมโปรเจคเตอร์ จะใช้เลนส์ลูกแก้วด้านหน้าและม่านบังแสงภายในโคม ในการควบคุมแสง ทำให้แสงที่ออกมาไม่ฟุ้ง ถ้าคิดจะใส่ซีนอน ช่วยใส่โปรเจคเตอร์ซักนิดครับ ลงทุนนิดนึง
หลักการทำงานของโคมโปรเจคเตอร์
3.การตั้งระดับไฟที่ไม่ถูกต้อง บางคันไปต้งไฟไม่ถูก สูงเกินกว่าค่ามาตรฐานที่กำหนด เพราะว่าอ้างว่ามองไม่เห็น เข้าใจครับว่าการปรับไฟให้สูงขึ้น มันทำให้ไฟส่องได้ไกลขึ้น (การปรับโคมไฟหน้าลง 1 มิลลิเมตร ระยะทางที่แสงส่องถึงหายไปประมาณหลายเมตร) แต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้แสงฟุ้งไปเข้าตาเพื่อนร่วมทาง ในกรณีนี้ โคมฮาโลเจน ก็เป็นครับ และถ้าเกิดขึ้นในโคมฮาโลเจน มันนรกยิ่งกว่าใส่ซีนอนโคมเดิมอีกครับ
หลอดมันไม่ผิดครับ มันผิดที่คนใช้ใช้แบบไม่ถูกต้อง และหลอดฮาโลเจนก็แยงตาได้ครับ ถ้าการปรับตั้งไม่ถูกตั้ง รู้แบบนี้แล้ว อย่าลืมไปเช็คไฟหน้ารถของท่านด้วยนะครับ ถึงแม้ว่าท่านจะใช้หลอดฮาโลเจน แต่ไฟหน้าของท่านก็มีสิทธิ์ที่จะไปแยงตาเพื่อนร่วมทางได้ ถ้าปรับตั้งระดับไฟไม่ถูกต้อง
ความคิดเห็นที่ 5
ผมอยู่ต่างจังหวัดจะเจอค่อนข้างเยอะ และอันตรายจะมาก เพราะส่วนใหญ่ก็ใช้ความเร็วค่อนข้างสูงกัน
คนพวกนี้ เขาไม่มีความคิด ความรับผิดชอบอะไรหรอกครับ ถ้ามีมันก็คงไม่ทำ
แต่เขาไม่รู้หรอกว่า มันก็อันตรายกับตัวเขาด้วยเช่นกัน ที่เขารบกวนคนอื่น เช่น
ถ้าเขาสวนกับรถผม แสงไฟเขามันก็กัดตาผมมาแต่ไกล ผมก็รอจังหวะที่เข้ามาใกล้ ระยะกำลังเหมาะ
ผมก็อัดไฟสูงใส่ ไฟสูงรถผมซึ่งผมไม่ค่อยได้ใช้ เพราะมันสว่างมากกกกก จากอาการที่สังเกตุ คือมันจะตกใจสุดขีด
มีอาการเบรคตัวโก่ง ผสมแถหน่อยๆ ผมสะใจนะ ในเมื่อเขาก่อความรำคาญ ความลำบากให้คนร่วมทาง เขาก็ต้องยอมรับ
ความเสี่ยง ที่อาจแถลงข้างทางได้
คนพวกนี้ เขาไม่มีความคิด ความรับผิดชอบอะไรหรอกครับ ถ้ามีมันก็คงไม่ทำ
แต่เขาไม่รู้หรอกว่า มันก็อันตรายกับตัวเขาด้วยเช่นกัน ที่เขารบกวนคนอื่น เช่น
ถ้าเขาสวนกับรถผม แสงไฟเขามันก็กัดตาผมมาแต่ไกล ผมก็รอจังหวะที่เข้ามาใกล้ ระยะกำลังเหมาะ
ผมก็อัดไฟสูงใส่ ไฟสูงรถผมซึ่งผมไม่ค่อยได้ใช้ เพราะมันสว่างมากกกกก จากอาการที่สังเกตุ คือมันจะตกใจสุดขีด
มีอาการเบรคตัวโก่ง ผสมแถหน่อยๆ ผมสะใจนะ ในเมื่อเขาก่อความรำคาญ ความลำบากให้คนร่วมทาง เขาก็ต้องยอมรับ
ความเสี่ยง ที่อาจแถลงข้างทางได้
แสดงความคิดเห็น
คนที่ติดไฟซีนอนให้รถตัวเอง เขารู้สึกเกรงใจเพื่อนร่วมถนนบ้างไหม ?
(ในที่นี้ ไม่ได้หมายรวมถึงไฟซีนอนทุกคันนะครับ เพราะมีบางคันที่ติดในกำลังแสงที่ต่ำ ใช้สำหรับส่องทางธรรมดา ก็ไม่เป็นปัญหากับเพื่อนร่วมทาง แต่ผมหมายถึงพวกที่ติดไฟแสงสูงๆ ส่องแสงแยงตาชาวบ้าน)
แม้เวลาติดไฟพวกนี้ จะดูสวยงามก็ตาม แต่มันไม่สวยงามในสายตาของคนที่ขับรถสวนทางมาหรอก
ทั้งแสบตา ทั้งอะไรต่ออะไร แถมบางทีก็มองทางข้างหน้าไม่เห็น เกือบขับรถชนคนอื่นแล้ว
บางทีต้องขับรถหนีคุณ ทั้งๆมันไม่ใช่หน้าที่ของเพื่อนร่วมทางอะไรเลย
อยากรณรงค์ให้คนที่ติดไฟสูงๆ เดือดร้อนชาวบ้าน เห็นใจคนอื่นบ้างเถอะครับ!
ถ้าอยากรู้ว่าคนอื่นเดือดร้อนยังไง ตอนกลางคืนลองเปิดไฟซีนอนของรถ แล้วให้ยืนจ้องซัก 30 วิดูสิครับ
แล้วคุณจะรู้ว่าคนอื่นรู้สึกยังไง