นโยบายในการอุ่นเครื่องปรีซีซั่นของลิเวอร์พูลที่เลือกมาทัวร์ในเอเชีย ซึ่งมีทั้งไทย ออสเตรเลียและมาเลเซีย
รวมถึงไปเล่นกับทีมเอชเจเค เฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ ก่อนปิดท้ายกับทีมสวินดอน...ที่สุดท้าย
หากมองในแง่การตลาด อาจถือว่าประสบความสำเร็จ...ดูได้จากปฏิกิริยาของแฟนคลับ
แต่ในแง่การเตรียมพร้อมของทีม...ถือว่าสอบตก
เพราะการมาทัวร์ในครั้งนี้ยังขาดตัวหลักสำคัญไปหลายคน โดยเฉพาะตัวใหม่ (ที่เชื่อกันว่าเป็นตัวหลักแน่ๆ )
รวมทั้งนโยบายการเลือกทีมที่มาเป็นคู่อุ่นเครื่อง
ซึ่งสโมสรลิเวอร์พูลได้ในแง่ขยายฐานลูกค้า...ได้ในเชิงธุรกิจตามเป้าหมาย
ส่วนที่ควรจะได้มา...กับทีม...กลับวัดผลอะไรไม่ได้เลย
ได้อะไรจากเกมอุ่นเครื่อง...นอกจากพละกำลังและรอยยิ้ม
เหลืออีกเพียง 2 นัด ก็จะเสร็จสิ้นการเดินทางทัวร์อุ่นเครื่องในทวีปเอเชียเสียที
สำหรับหงส์แดง ลิเวอร์พูลซึ่งผลงาน 4 นัดนั้นแบ่งออกเป็นชนะ 3 นัด และเสมอ 1 นัด โดยทำประตูได้เพียงแค่นัดละลูก-สองลูกเท่านั้น
เว้นแข่งกับออลสตาร์ไทยที่ซัด 4 ประตู
จะว่าไปแล้วมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่หงส์แดงมีปัญญาสอยประตูคู่แข่งแค่กระจุ๋มกระจิ๋ม
(ยกเว้นนัดเล่นกับออลสตาร์ไทยแลนด์) ในเมื่อทีมชุดนี้ไม่มีแกนหลักสำคัญในแนวรุกตัวหลักที่ได้รับอนุญาต
ให้พักผ่อนช่วงซัมเมอร์เพิ่ม หลังจากไปกรำศึกโคปา 2015 อย่าง คูตินโญ่ และโรแบร์โต้ เฟอร์มิโน
รวมถึงที่เพิ่งซื้อมาใหม่สดๆร้อนๆ อย่าง คริสติย็อง เบนเตเก้
สำหรับฟอร์ม 4 เกมอุ่นเครื่องที่ผ่านมา แบรนดอน รอดเจอร์ได้ตัวใหม่ที่ซื้อเข้ามาก่อนหน้าอย่าง
เจมส์ มิลเนอร์ นาธาเนียล ไคลน์ แดนนี่ อิงส์ อดัม บ็อกดาน, และโจ โกเมซ ผลัดกันลงเล่นผสมผสานกับนักเตะชุดเก่า
ทดลองใช่ระบบ 4-3-3 ที่เน้นขึ้นเกมบุกตรงกลาง การเล่นบอลเร็ว โดยมีมิลเนอร์กับเฮนโด้เป็นแกนของทีม
แต่ดูเหมือนระบบยังติดๆขัดๆ
ตำแหน่งของมิลเนอร์กับเฮนโด้ ยังสับสนในบางเวลา
แนวรับมีสเคอเทลตัวเดียวที่ไว้ใจได้ ส่วนลอฟเลนกับซาโก้ เหมือนเดิมทุกอย่าง โฉ่งฉ่าง เชื่องช้า
ส่วนกราบสองข้างทั้ง โกเมซ ไคน์ และโมเร่เน่ ก็งั้นๆ (พูดเฉพาะตัวใหม่ที่จะได้ลงเล่น)
มีสอบผ่านเพียงเจมส์ มิลเนอร์ คนเดียวเท่านั้น...ที่พอจะพึ่งพาได้
โดยเฉพาะโอริกี้ ลงมายิงนกตกปลา เจอแรงกดดันมากๆ อาจเป๋ได้ เพราะตำแหน่งหน้าเป้า...มันกดดันด้วยจำนวนประตู
หากไม่พลิกฟอร์ม...อนาคตอาจมีชิวิตไม่ต่างจากบาโลเตลลี่...
นโยบายอุ่นเครื่องแบบ...ทัวร์ลงพุง
หันไปมองดูทีมระดับ TOP ในพรีเมียร์ลีกที่เดินทางทัวร์อุ่นเครื่องพร้อมๆ กัน แต่ละทีมที่ต่างวางโปรแกรม
เลือกเล่นทีมที่แข็งแกร่งมาเป็นคู่ต่อสู้หรือเล่นแบบทัวร์นาเมนท์ เช่น อินเตอร์เนชั่นแนล แชมเปี้ยนส์ คัพ
ที่มีทีมชั้นนำทั้งแมนยู แมนซิ เชลซี บาร์ซ่า รีล มาดริด ฯ ร่วมแข่งขัน
หรือศึกเอมิเรตคัพที่มีอาร์เซนอล เป็นเจ้าภาพ มีทั้งโวลฟ์สบวร์ก ลียง บียารีอัล มาปะทะฝีเท้า
ผลลัพธ์...มันสามารถวัดผลได้...ทั้งฝีเท้านักเตะ ทีมเวิร์คระบบการเล่นกับทีมที่แข็งแกร่ง การเล่นกับนักเตะที่มีทักษะสูง
มันช่วยยกระดับให้เกม นักเตะเกิดความฮึกเหิม จริงจังและมุ่งมั่นกับเกม
นอกจากนี้เชื่อว่า...ผู้จัดการทีมแต่ละทีม คงเริ่มมองเห็นนักเตะในใจและรูปแบบการเล่นไว้ในสมองแล้ว
...เรียกว่าไม่ใช่ก็ใกล้เคียง
อย่างเช่นทีมแมนซิ ...เราได้เห็นตัวใหม่อย่าง ราฮีม สเตอริ่งลงเล่นแล้วรู้ได้เลยว่า เปเยกิรี่ต้องทำการบ้านหนักแน่
ถ้าจะดันให้สเตอริ่งเป็นที่ยอมรับของเพื่อนๆพี่ๆ
ส่วนแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ได้เห็นชไวนี่ เดปาย และดาร์เมียน ลงเล่นพร้อมแล้ว...
ดีใจด้วยกับแฟนผีที่...ปีนี้ฟานกัลเลือกซื้อคนไม่ผิดตัว
โดยเฉพาะชไวนี่...เล่นเนียนตายังไงบอกไม่ถูก
แค่หากองหน้าตัวเป้าช่วยรูนี่ย์ อีกซักคน...ก็น่าจะจบ...ลงตัวแล้ว
ต่างจากการอุ่นเครื่องของลิเวอร์พูล แนวคิดนโยบายอุ่นเครื่องของรอดเจอร์หรือของสโมสร...ไม่ทราบได้
กลับเลือกเล่นแมทซ์กระชับมิตรกับทีมรวมดาว ที่เน้นพละกำลัง เอาตัวสำรองและเด็กๆได้มีโอกาสลงเล่น
รวมทั้งนักเตะใหม่ยังมาไม่ครบ...เลยไม่สามารถวัดผลทั้งนักเตะ ระบบการเล่นได้
คงได้แค่เพียงแค่พละกำลังและรอยยิ้มจากแฟนบอล...แค่นั้นเอง
อาจมีคนมองต่าง...แค่แมทซ์อุ่นเครื่อง...จะอะไรนักหนา
แต่ธุรกิจฟุตบอลยุคใหม่มันเปลี่ยนไปแล้ว...ยุคนี้ไม่มีที่ว่างให้กับผู้ลองผิดลองถูกอีกแล้ว
เพราะอีกไม่ถึง 2 อาทิตย์ก็จะเปิดฤดูกาล...แต่ละทีมมีเวลาไม่มากนัก
ใครจูนติด...หา 11 ตัวจริงเจอก่อน...ก็ได้เปรียบ
เพราะจากบทเรียนในปีที่ผ่านมา รอดเจอร์ช็อปปิ้งนักเตะอย่างเมามันกว่าครึ่งทีม...กว่าจูนติด
ผลลัพธ์ที่ออกมาคงทราบกันดี
...ไม่มีองค์...ไม่เห็นทรงกันเลย
และไม่รู้ว่าเกมเมื่อเหลืออีก 2 เกมช่วงปรีซีซั่น นักเตะอย่างเบนเทเก้ เฟอร์มิโน่ รวมถึงคูตินโญ่
...จะตามไปเฮลซิงกิด้วยหรือไม่
โดยเฉพาะคริสติย็อง เบนเตเก้ มีการตั้งข้อสังเกตจากไมเคิ่ล โอเว่น อดีตหัวหอกลิเวอร์พูล ออกมาตั้งข้อสงสัยว่า
ร็อดเจอร์ส จะวางแผนการเล่นระบบใดกับกองหน้าตัวเก่งของแอสตัน วิลล่า
รวมถึงเจมี คาร์ราเกอร์ กังวลว่า เบนเตเก้ไม่เหมาะกับสไตล์การเล่นสั้นๆ บอลบนพื้นของลิเวอร์พูล
และอาจจะช้าเกินไปสำหรับแผนของร็อดเจอร์ส...แต่เหมาะกับทีมอย่างเชลซีมากกว่า
...อ้าว
เมื่อเครื่องยนต์ยังจูนไม่ติด...แต่ต้องเจอกับโปรแกรมหฤโหด
เมื่อการอุ่นเครื่องไม่สามารถวัดผลอะได้เลย หากถึงช่วงเวลาเดินเครื่องเต็บสูบ
เครื่องจักรสีแดงจะทำงานได้ราบรื่นหรือไม่
เพราะจากโปรแกรมของพรีเมียร์ลีกปีนี้ เหมือนจงใจให้
เบรนแดน ร็อดเจอร์ส...เก้าอี้ร้อนก่อนเวลาอันควร
เพราะใน 12 นัดแรก ต้องเล่นกับบิ๊กโฟร์ทุกทีมทั้งแมนยู แมนซิ เชลซี และอาร์เซนอล แถมต้องไปเยือน เอฟเวอร์ตัน สเปอร์
และเปิดบ้านรับมือนักบุญ
ถึงเวลานั้น หากทีมยังหาจุดลงตัวไม่ได้...
...แฟนหงส์อาจต้องทำใจอีกปี
ถึงปีนี้ข้อดีที่มองเห็นจุดเดียวของสโมสรลิเวอร์พูล ก็คือ...
การปิดดีลนักเตะที่อยากได้อย่างรวดเร็ว
แต่ก็ข้อเสียก็ยังมีเรื่องเดิมๆ คือการเปลี่ยนแปลงทีมเยอะเกินไป
รวมถึงการวางโปรแกรมอุ่นครื่องแบบ...ทัวร์ลงพุง
เลือกเล่นแบบกระชับมิตรมากกว่าเตะแบบจริงจัง ทำให้ไม่สามารถมองหาจุดอ่อน...จุดแข็งของทีมได้ในช่วงปรีซีซั่น
ต้องไปแก้ไขกันหน้างาน...อีกปี
ถ้าดวงแตก โชคไม่ช่วย...จูนกันยังไม่ติดกับโปรแกรมหฤโหด 12 นัดแรก
...อาจสุ่มเสี่ยงหลุดวงโคจรก่อนฉลองคริสต์มาสได้
หงส์อุ่นเครื่อง…อีกซัมเมอร์ที่อาจ “สูญเปล่า”
รวมถึงไปเล่นกับทีมเอชเจเค เฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ ก่อนปิดท้ายกับทีมสวินดอน...ที่สุดท้าย
หากมองในแง่การตลาด อาจถือว่าประสบความสำเร็จ...ดูได้จากปฏิกิริยาของแฟนคลับ
แต่ในแง่การเตรียมพร้อมของทีม...ถือว่าสอบตก
เพราะการมาทัวร์ในครั้งนี้ยังขาดตัวหลักสำคัญไปหลายคน โดยเฉพาะตัวใหม่ (ที่เชื่อกันว่าเป็นตัวหลักแน่ๆ )
รวมทั้งนโยบายการเลือกทีมที่มาเป็นคู่อุ่นเครื่อง
ซึ่งสโมสรลิเวอร์พูลได้ในแง่ขยายฐานลูกค้า...ได้ในเชิงธุรกิจตามเป้าหมาย
ส่วนที่ควรจะได้มา...กับทีม...กลับวัดผลอะไรไม่ได้เลย
ได้อะไรจากเกมอุ่นเครื่อง...นอกจากพละกำลังและรอยยิ้ม
เหลืออีกเพียง 2 นัด ก็จะเสร็จสิ้นการเดินทางทัวร์อุ่นเครื่องในทวีปเอเชียเสียที
สำหรับหงส์แดง ลิเวอร์พูลซึ่งผลงาน 4 นัดนั้นแบ่งออกเป็นชนะ 3 นัด และเสมอ 1 นัด โดยทำประตูได้เพียงแค่นัดละลูก-สองลูกเท่านั้น
เว้นแข่งกับออลสตาร์ไทยที่ซัด 4 ประตู
จะว่าไปแล้วมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่หงส์แดงมีปัญญาสอยประตูคู่แข่งแค่กระจุ๋มกระจิ๋ม
(ยกเว้นนัดเล่นกับออลสตาร์ไทยแลนด์) ในเมื่อทีมชุดนี้ไม่มีแกนหลักสำคัญในแนวรุกตัวหลักที่ได้รับอนุญาต
ให้พักผ่อนช่วงซัมเมอร์เพิ่ม หลังจากไปกรำศึกโคปา 2015 อย่าง คูตินโญ่ และโรแบร์โต้ เฟอร์มิโน
รวมถึงที่เพิ่งซื้อมาใหม่สดๆร้อนๆ อย่าง คริสติย็อง เบนเตเก้
สำหรับฟอร์ม 4 เกมอุ่นเครื่องที่ผ่านมา แบรนดอน รอดเจอร์ได้ตัวใหม่ที่ซื้อเข้ามาก่อนหน้าอย่าง
เจมส์ มิลเนอร์ นาธาเนียล ไคลน์ แดนนี่ อิงส์ อดัม บ็อกดาน, และโจ โกเมซ ผลัดกันลงเล่นผสมผสานกับนักเตะชุดเก่า
ทดลองใช่ระบบ 4-3-3 ที่เน้นขึ้นเกมบุกตรงกลาง การเล่นบอลเร็ว โดยมีมิลเนอร์กับเฮนโด้เป็นแกนของทีม
แต่ดูเหมือนระบบยังติดๆขัดๆ
ตำแหน่งของมิลเนอร์กับเฮนโด้ ยังสับสนในบางเวลา
แนวรับมีสเคอเทลตัวเดียวที่ไว้ใจได้ ส่วนลอฟเลนกับซาโก้ เหมือนเดิมทุกอย่าง โฉ่งฉ่าง เชื่องช้า
ส่วนกราบสองข้างทั้ง โกเมซ ไคน์ และโมเร่เน่ ก็งั้นๆ (พูดเฉพาะตัวใหม่ที่จะได้ลงเล่น)
มีสอบผ่านเพียงเจมส์ มิลเนอร์ คนเดียวเท่านั้น...ที่พอจะพึ่งพาได้
โดยเฉพาะโอริกี้ ลงมายิงนกตกปลา เจอแรงกดดันมากๆ อาจเป๋ได้ เพราะตำแหน่งหน้าเป้า...มันกดดันด้วยจำนวนประตู
หากไม่พลิกฟอร์ม...อนาคตอาจมีชิวิตไม่ต่างจากบาโลเตลลี่...
นโยบายอุ่นเครื่องแบบ...ทัวร์ลงพุง
หันไปมองดูทีมระดับ TOP ในพรีเมียร์ลีกที่เดินทางทัวร์อุ่นเครื่องพร้อมๆ กัน แต่ละทีมที่ต่างวางโปรแกรม
เลือกเล่นทีมที่แข็งแกร่งมาเป็นคู่ต่อสู้หรือเล่นแบบทัวร์นาเมนท์ เช่น อินเตอร์เนชั่นแนล แชมเปี้ยนส์ คัพ
ที่มีทีมชั้นนำทั้งแมนยู แมนซิ เชลซี บาร์ซ่า รีล มาดริด ฯ ร่วมแข่งขัน
หรือศึกเอมิเรตคัพที่มีอาร์เซนอล เป็นเจ้าภาพ มีทั้งโวลฟ์สบวร์ก ลียง บียารีอัล มาปะทะฝีเท้า
ผลลัพธ์...มันสามารถวัดผลได้...ทั้งฝีเท้านักเตะ ทีมเวิร์คระบบการเล่นกับทีมที่แข็งแกร่ง การเล่นกับนักเตะที่มีทักษะสูง
มันช่วยยกระดับให้เกม นักเตะเกิดความฮึกเหิม จริงจังและมุ่งมั่นกับเกม
นอกจากนี้เชื่อว่า...ผู้จัดการทีมแต่ละทีม คงเริ่มมองเห็นนักเตะในใจและรูปแบบการเล่นไว้ในสมองแล้ว
...เรียกว่าไม่ใช่ก็ใกล้เคียง
อย่างเช่นทีมแมนซิ ...เราได้เห็นตัวใหม่อย่าง ราฮีม สเตอริ่งลงเล่นแล้วรู้ได้เลยว่า เปเยกิรี่ต้องทำการบ้านหนักแน่
ถ้าจะดันให้สเตอริ่งเป็นที่ยอมรับของเพื่อนๆพี่ๆ
ส่วนแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ได้เห็นชไวนี่ เดปาย และดาร์เมียน ลงเล่นพร้อมแล้ว...
ดีใจด้วยกับแฟนผีที่...ปีนี้ฟานกัลเลือกซื้อคนไม่ผิดตัว
โดยเฉพาะชไวนี่...เล่นเนียนตายังไงบอกไม่ถูก
แค่หากองหน้าตัวเป้าช่วยรูนี่ย์ อีกซักคน...ก็น่าจะจบ...ลงตัวแล้ว
ต่างจากการอุ่นเครื่องของลิเวอร์พูล แนวคิดนโยบายอุ่นเครื่องของรอดเจอร์หรือของสโมสร...ไม่ทราบได้
กลับเลือกเล่นแมทซ์กระชับมิตรกับทีมรวมดาว ที่เน้นพละกำลัง เอาตัวสำรองและเด็กๆได้มีโอกาสลงเล่น
รวมทั้งนักเตะใหม่ยังมาไม่ครบ...เลยไม่สามารถวัดผลทั้งนักเตะ ระบบการเล่นได้
คงได้แค่เพียงแค่พละกำลังและรอยยิ้มจากแฟนบอล...แค่นั้นเอง
อาจมีคนมองต่าง...แค่แมทซ์อุ่นเครื่อง...จะอะไรนักหนา
แต่ธุรกิจฟุตบอลยุคใหม่มันเปลี่ยนไปแล้ว...ยุคนี้ไม่มีที่ว่างให้กับผู้ลองผิดลองถูกอีกแล้ว
เพราะอีกไม่ถึง 2 อาทิตย์ก็จะเปิดฤดูกาล...แต่ละทีมมีเวลาไม่มากนัก
ใครจูนติด...หา 11 ตัวจริงเจอก่อน...ก็ได้เปรียบ
เพราะจากบทเรียนในปีที่ผ่านมา รอดเจอร์ช็อปปิ้งนักเตะอย่างเมามันกว่าครึ่งทีม...กว่าจูนติด
ผลลัพธ์ที่ออกมาคงทราบกันดี
...ไม่มีองค์...ไม่เห็นทรงกันเลย
และไม่รู้ว่าเกมเมื่อเหลืออีก 2 เกมช่วงปรีซีซั่น นักเตะอย่างเบนเทเก้ เฟอร์มิโน่ รวมถึงคูตินโญ่
...จะตามไปเฮลซิงกิด้วยหรือไม่
โดยเฉพาะคริสติย็อง เบนเตเก้ มีการตั้งข้อสังเกตจากไมเคิ่ล โอเว่น อดีตหัวหอกลิเวอร์พูล ออกมาตั้งข้อสงสัยว่า
ร็อดเจอร์ส จะวางแผนการเล่นระบบใดกับกองหน้าตัวเก่งของแอสตัน วิลล่า
รวมถึงเจมี คาร์ราเกอร์ กังวลว่า เบนเตเก้ไม่เหมาะกับสไตล์การเล่นสั้นๆ บอลบนพื้นของลิเวอร์พูล
และอาจจะช้าเกินไปสำหรับแผนของร็อดเจอร์ส...แต่เหมาะกับทีมอย่างเชลซีมากกว่า
...อ้าว
เมื่อเครื่องยนต์ยังจูนไม่ติด...แต่ต้องเจอกับโปรแกรมหฤโหด
เมื่อการอุ่นเครื่องไม่สามารถวัดผลอะได้เลย หากถึงช่วงเวลาเดินเครื่องเต็บสูบ
เครื่องจักรสีแดงจะทำงานได้ราบรื่นหรือไม่
เพราะจากโปรแกรมของพรีเมียร์ลีกปีนี้ เหมือนจงใจให้
เบรนแดน ร็อดเจอร์ส...เก้าอี้ร้อนก่อนเวลาอันควร
เพราะใน 12 นัดแรก ต้องเล่นกับบิ๊กโฟร์ทุกทีมทั้งแมนยู แมนซิ เชลซี และอาร์เซนอล แถมต้องไปเยือน เอฟเวอร์ตัน สเปอร์
และเปิดบ้านรับมือนักบุญ
ถึงเวลานั้น หากทีมยังหาจุดลงตัวไม่ได้...
...แฟนหงส์อาจต้องทำใจอีกปี
ถึงปีนี้ข้อดีที่มองเห็นจุดเดียวของสโมสรลิเวอร์พูล ก็คือ...
การปิดดีลนักเตะที่อยากได้อย่างรวดเร็ว
แต่ก็ข้อเสียก็ยังมีเรื่องเดิมๆ คือการเปลี่ยนแปลงทีมเยอะเกินไป
รวมถึงการวางโปรแกรมอุ่นครื่องแบบ...ทัวร์ลงพุง
เลือกเล่นแบบกระชับมิตรมากกว่าเตะแบบจริงจัง ทำให้ไม่สามารถมองหาจุดอ่อน...จุดแข็งของทีมได้ในช่วงปรีซีซั่น
ต้องไปแก้ไขกันหน้างาน...อีกปี
ถ้าดวงแตก โชคไม่ช่วย...จูนกันยังไม่ติดกับโปรแกรมหฤโหด 12 นัดแรก
...อาจสุ่มเสี่ยงหลุดวงโคจรก่อนฉลองคริสต์มาสได้