สวัสดีครับ ช่วงนี้ผมกำลังเห่อกล้องใหม่ อยากแบ่งปันประสบการณ์การใช้จริง และ ความคิดเห็นส่วนตัว ที่มีต่อเจ้า OMD EM10 ครับ
ปกติแล้วผมจะใช้กล้อง DSLR ของ Nikon เป็นหลักครับ แต่หลังๆชักเริ่มขี้เกียจแบก ปวดหลังครับ เริ่มรู้สึกว่าเที่ยวไม่สนุก ไม่คล่องตัวเท่าไหร่ จะให้แฟนช่วยแบกก็ยังไงอยู่ (มันบ่นว่าบ้าหอบฟางครับ)
เลยลองมองหากล้องขนาดเล็กลงมา โดยมาจบที่ Olmpus เนื่องจากรูปลักษณ์ภายนอก ขนาดและน้ำหนัก และด้วยความสงสัยล้วนๆ ว่าเซ็นเซอร์ขนาดเท่าสแตมป์มันจะไหวมั้ย
ปกติผมชอบมวยรองนะครับ
ยิ่งถ้ามันมีอะไรเซอร์ไพรส์ หรือดีเกินความคาดหมายก็จะยิ่งฟินนนครับ
ยังไงครั้งนี้ก็เป็นการเขียนครั้งแรกของผม สำนวนอาจยังจะไม่ค่อยดี ภาพไม่สวย หรือผิดพลาดไปบ้าง ขออภัยมา ณ ที่นี้ครับ
ยินดีรับฟังทุกคำติชมครับ เพื่อผมจะได้พัฒนาครับ หรือมีอะไรอยากแชร์ก็แชร์มาได้เลยครับ
อุปกรณ์ที่ใช้: Olympus OM-D EM-10, Olympus 45mm f1.8, Olympus 14-42mm f3.5-5.6, Panasonic 14mm f2.5
ตกแต่งภาพด้วย Adobe Lightroom & Photoshop (ภาพทุกใบถ่ายด้วยไฟล์ Raw และผ่านการปรับแต่งมาแล้วครับ)
ได้มาวันแรกๆ ยังไม่ได้ไปไหน เห็นเพื่อนบ้านเอาน้องหมามาเดินเล่นเลยขอถ่ายไว้ครับ
Set นี้ใช้เลนส์ 45mm f1.8 ครับ มีโฟกัสหลุดบ้าง เนื่องจากน้องหมาไวมาก ส่วนผมยังไม่ค่อยชินกับกล้องครับ
ใบนี้ผมโฟกัสหลุดเองนะครับ
มาลองถ่ายลูกชาย แมวเปอร์เซียกลายพันธุ์บ้างครับ
ลองไปเดินเล่นที่ Asiatique บ้างครับ พกเลนส์ไปสองตัวคือ Panasonic 14mm f2.5 กับ Olympus 45mm f1.8ครับ
รอบนี้เอา Joby GorillaPod ไปแทนขาตั้งกล้องด้วยครับ สะดวกมากๆ
ผ่านมาทางเสาชิงช้าบ้าง 2 ภาพนี้ใช้เลนส์ kit 14-42mm ครับ
ขับรถออกมานอกเมืองซักหน่อยครับ สูดอากาศบริสุทธ์บ้าง
คราวนี้ผมไปพักที่ค้อคีริน รีสอร์ท วิวจากที่พักเห็น พระธาตุผาซ่อนแก้วยามเช้า สวยงามจริงๆครับ
เลนส์ที่ใช้ในทริปนี้คือ Olympus 45 f1.8, Panasonic 14 f2.5 ครับ
ทริปล่าสุดที่สิงคโปร์ครับ มีเวลาน้อยมาก แค่คืนเดียว เตรียมตัวไปไม่ดีเท่าไหร่
ขาตั้งกล้องก็ไม่ได้เอาไปครับ เลยต้องพึ่งเจ้า Joby GorillaPod ครับ
เลนส์ที่ใช้ Olympus 45 f1.8, Olympus 14-42, Panasonic 14mm f2.5
มาอัพเดท เพิ่มรูปจาก Indonesia ครับ
สรุปเลยแล้วกันนะครับ
ข้อดี
1. น้ำหนักเบาครับ โอกาสได้รูปเยอะกว่ากล้องDSLR เพราะพกง่าย เรียกว่าไปไหนไปด้วยเลยครับ
2. เวลาไปถ่ายตามที่ต่างๆ ไม่ค่อยโดนไล่ ข้อนี้อาจจะแปลกนิดนึง แต่มันคือเรื่องจริงครับ เอาDSLRไปถ่ายในกรุง กางขาตั้งปั๊บ แป๊บเดียวพี่ๆรปภ.มาไล่เลย ตั้งแต่ใช้ EM-10 ยังไม่เคยโดนเลยครับ สงสัยเค้าเห็นว่าเล็ก คงทำอันตรายไม่ได้
3. โฟกัสไวมาก แสงดีๆนี่ไม่ค่อยพลาดครับ แถมเลื่อนจุดโฟกัสได้รอบกรอบเลย ไม่เหมือนเจ้า D610 ที่ใช้อยู่ครับ
4. ราคามือสองตกมาก ทั้งบอดี้ ทั้งเลนส์ รอสอยได้เลย อันนี้อาจจะอยู่ในข้อเสียก็ได้นะครับ แต่ผมชอบบบบบ
5. ฟังชั่นเยอะมาก แต่เมนูเข้าใจง่ายและใช้งานได้จริง ส่วนตัวผมไม่ค่อยใช้ Live Composite ครับ เพราะกินแบท แถมผมชอบรวมภาพด้วยPhotoshopมากกว่า เพราะมันควบคุมได้ดีกว่าครับ แต่จะชอบถ่าย Timelapse กับ Bracketing เพื่อเก็บช่วงแสงให้ครบ แล้วมาทำต่อในภายหลังครับ
6. เลนส์มีให้ใช้ครบทุกช่วง ตัวเลือกเยอะมาก
7. กันสั่นทำงานได้ดีมากแถมถ่ายรัวได้ไวมาก ทำให้โอกาสได้ภาพคมชัด เยอะขึ้น
ข้อเสีย
1. แบทหมดค่อนข้างเร็ว เวลาเปิดหน้ากล้องนานๆ แต่พกแบทสำรองไว้ เลยอุ่นใจขึ้นหน่อย ผมทำได้ 350-400 shots ต่อแบทหนึ่งก้อน
2. Noise จากการดัน ISO สูงๆ จริงมันมาตั้งแต่ ISO 500-600 แล้วครับ ข้อนี้แก้ได้ด้วยการวัดแสงให้แม่นจะได้ไม่ต้องมาปรับทีหลังในคอม ภาพ landscape ส่วนใหญ่ เนื่องจากเจ้า EM10 ยังมี Dynamic Range ที่สู้Full Frame จากค่าย Nikonไม่ได้ ผมจึงพยายามจะเก็บให้ครบทุกช่วงแสงด้วยฟังชั่น Auto Exposure Bracketing เพื่อที่จะมารวมกันในคอมด้วย Lightroom หรือ Photoshop แบบนี้ก็จะทำให้เราได้ภาพที่เนียนขึ้นครับ
3. เล็กไป ดูไม่โปร ไม่น่าเชื่อถือ อันนี้แล้วแต่ความคิด มันห้ามกันไม่ได้ครับ อิๆ
จบแล้วครับ สุดท้ายอยากบอกว่าเจ้า EM10มันเป็นกล้องที่ใช้งานง่าย สนุก และดีมากตัวนึง ถ้ามือใหม่ถามหากล้องตัวแรก หรือมือเก่ากำลังมองหากล้องตัวที่สอง ผมคงเสนอให้มันเป็นหนึ่งในตัวเลือกอย่างไม่ต้องสงสัย แม้ว่าไฟล์มันจะไม่อลังการงานสร้างเท่าfull frame ด้วยข้อจำกัดของขนาด แต่มันก็ทำให้ผมได้เรียนรู้จากและพัฒนาตัวเองจากข้อจำกัดของมันนี่แหละครับ ขอบคุณครับ
พูดคุยและติชมได้ที่
www.facebook.com/art31photo
https://500px.com/ArtTawonatiwasna
[CR] Olympus OM-D EM-10 กับ 2 เดือนที่อยู่กันมา (กำลังเห่อครับ)
ยิ่งถ้ามันมีอะไรเซอร์ไพรส์ หรือดีเกินความคาดหมายก็จะยิ่งฟินนนครับ
ยังไงครั้งนี้ก็เป็นการเขียนครั้งแรกของผม สำนวนอาจยังจะไม่ค่อยดี ภาพไม่สวย หรือผิดพลาดไปบ้าง ขออภัยมา ณ ที่นี้ครับ
ยินดีรับฟังทุกคำติชมครับ เพื่อผมจะได้พัฒนาครับ หรือมีอะไรอยากแชร์ก็แชร์มาได้เลยครับ
อุปกรณ์ที่ใช้: Olympus OM-D EM-10, Olympus 45mm f1.8, Olympus 14-42mm f3.5-5.6, Panasonic 14mm f2.5
ตกแต่งภาพด้วย Adobe Lightroom & Photoshop (ภาพทุกใบถ่ายด้วยไฟล์ Raw และผ่านการปรับแต่งมาแล้วครับ)
Set นี้ใช้เลนส์ 45mm f1.8 ครับ มีโฟกัสหลุดบ้าง เนื่องจากน้องหมาไวมาก ส่วนผมยังไม่ค่อยชินกับกล้องครับ
รอบนี้เอา Joby GorillaPod ไปแทนขาตั้งกล้องด้วยครับ สะดวกมากๆ
ผ่านมาทางเสาชิงช้าบ้าง 2 ภาพนี้ใช้เลนส์ kit 14-42mm ครับ
คราวนี้ผมไปพักที่ค้อคีริน รีสอร์ท วิวจากที่พักเห็น พระธาตุผาซ่อนแก้วยามเช้า สวยงามจริงๆครับ
เลนส์ที่ใช้ในทริปนี้คือ Olympus 45 f1.8, Panasonic 14 f2.5 ครับ
ขาตั้งกล้องก็ไม่ได้เอาไปครับ เลยต้องพึ่งเจ้า Joby GorillaPod ครับ
เลนส์ที่ใช้ Olympus 45 f1.8, Olympus 14-42, Panasonic 14mm f2.5
มาอัพเดท เพิ่มรูปจาก Indonesia ครับ
ข้อดี
1. น้ำหนักเบาครับ โอกาสได้รูปเยอะกว่ากล้องDSLR เพราะพกง่าย เรียกว่าไปไหนไปด้วยเลยครับ
2. เวลาไปถ่ายตามที่ต่างๆ ไม่ค่อยโดนไล่ ข้อนี้อาจจะแปลกนิดนึง แต่มันคือเรื่องจริงครับ เอาDSLRไปถ่ายในกรุง กางขาตั้งปั๊บ แป๊บเดียวพี่ๆรปภ.มาไล่เลย ตั้งแต่ใช้ EM-10 ยังไม่เคยโดนเลยครับ สงสัยเค้าเห็นว่าเล็ก คงทำอันตรายไม่ได้
3. โฟกัสไวมาก แสงดีๆนี่ไม่ค่อยพลาดครับ แถมเลื่อนจุดโฟกัสได้รอบกรอบเลย ไม่เหมือนเจ้า D610 ที่ใช้อยู่ครับ
4. ราคามือสองตกมาก ทั้งบอดี้ ทั้งเลนส์ รอสอยได้เลย อันนี้อาจจะอยู่ในข้อเสียก็ได้นะครับ แต่ผมชอบบบบบ
5. ฟังชั่นเยอะมาก แต่เมนูเข้าใจง่ายและใช้งานได้จริง ส่วนตัวผมไม่ค่อยใช้ Live Composite ครับ เพราะกินแบท แถมผมชอบรวมภาพด้วยPhotoshopมากกว่า เพราะมันควบคุมได้ดีกว่าครับ แต่จะชอบถ่าย Timelapse กับ Bracketing เพื่อเก็บช่วงแสงให้ครบ แล้วมาทำต่อในภายหลังครับ
6. เลนส์มีให้ใช้ครบทุกช่วง ตัวเลือกเยอะมาก
7. กันสั่นทำงานได้ดีมากแถมถ่ายรัวได้ไวมาก ทำให้โอกาสได้ภาพคมชัด เยอะขึ้น
ข้อเสีย
1. แบทหมดค่อนข้างเร็ว เวลาเปิดหน้ากล้องนานๆ แต่พกแบทสำรองไว้ เลยอุ่นใจขึ้นหน่อย ผมทำได้ 350-400 shots ต่อแบทหนึ่งก้อน
2. Noise จากการดัน ISO สูงๆ จริงมันมาตั้งแต่ ISO 500-600 แล้วครับ ข้อนี้แก้ได้ด้วยการวัดแสงให้แม่นจะได้ไม่ต้องมาปรับทีหลังในคอม ภาพ landscape ส่วนใหญ่ เนื่องจากเจ้า EM10 ยังมี Dynamic Range ที่สู้Full Frame จากค่าย Nikonไม่ได้ ผมจึงพยายามจะเก็บให้ครบทุกช่วงแสงด้วยฟังชั่น Auto Exposure Bracketing เพื่อที่จะมารวมกันในคอมด้วย Lightroom หรือ Photoshop แบบนี้ก็จะทำให้เราได้ภาพที่เนียนขึ้นครับ
3. เล็กไป ดูไม่โปร ไม่น่าเชื่อถือ อันนี้แล้วแต่ความคิด มันห้ามกันไม่ได้ครับ อิๆ
จบแล้วครับ สุดท้ายอยากบอกว่าเจ้า EM10มันเป็นกล้องที่ใช้งานง่าย สนุก และดีมากตัวนึง ถ้ามือใหม่ถามหากล้องตัวแรก หรือมือเก่ากำลังมองหากล้องตัวที่สอง ผมคงเสนอให้มันเป็นหนึ่งในตัวเลือกอย่างไม่ต้องสงสัย แม้ว่าไฟล์มันจะไม่อลังการงานสร้างเท่าfull frame ด้วยข้อจำกัดของขนาด แต่มันก็ทำให้ผมได้เรียนรู้จากและพัฒนาตัวเองจากข้อจำกัดของมันนี่แหละครับ ขอบคุณครับ
พูดคุยและติชมได้ที่
www.facebook.com/art31photo
https://500px.com/ArtTawonatiwasna